🛑 การจากไปของ “แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์” ดาราสาวชื่อดัง
ด้วยสาเหตุการพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
🛑 หลังเกิดเหตุได้พบความผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย ทั้งจากพฤติกรรมและการให้สัมภาษณ์ของผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คน
🛑 หลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นชาวเน็ต เพื่อนและบุคคลใกล้ชิดของแตงโม
เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ที่เคยทำงานบนเรือสปีดโบ๊ต ผู้สื่อข่าว อดีตนายตำรวจ รวมถึงนักวิชาการด้านอาชญวิทยา
🛑 หลักสากลในการสืบสวนสอบสวนคือ อะไรก็ตามที่แตกต่างจากความเป็นปกติ นั่นคือพิรุธ!!
“คดีแตงโม” พิรุธเพียบ พบทั้ง แตงโม-จ๊อบ-แซน-ปอ ล้วนมีรอยฟกช้ำ
ตั้งข้อสังเกตแชตและภาพถ่ายสุดท้ายของแตงโม อาจเป็นการสร้างหลักฐานเรื่องเวลา
ขณะที่แก้วไวน์หายไป 4 ใบ หวั่นทำลายหลักฐาน ชาวเน็ตจับโป๊ะ “กระติก” ว่ายน้ำเป็น
ด้าน “บิ๊กแจ๊ส” ระบุผลชันสูตรเจอดินและทรายในปอด แสดงว่าจุดที่ตกลึกไม่เกิน 5 เมตร
แย้งกับที่อ้างว่าตกเพราะเรือแล่นเร็ว ขณะที่ “นักอาชญวิทยา” ชี้คำให้การขัดกันไปหมด
สังคมเกรงคำสั่ง “ผู้มีอำนาจ” ทำคดีพลิก!
การจากไปของ “แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์” ดาราสาวชื่อดัง ด้วยสาเหตุการพลัดตกเรือสปีดโบ๊ต
กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.40 น.
โดยมีคนที่อยู่ในเรือลำเดียวกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์จำนวน 5 คน ได้แก่
กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม
แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ สาวประเภทสองที่ไปล่องเรือด้วย
โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ นักธุรกิจด้านการสื่อสารออนไลน์
ปอ- ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือ เป็นสามีของนักร้องหญิง “เบนซ์ พริกไทย”
จ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หนึ่งในหุ้นส่วนร้าน BlackAmber ร้านตัดผมสุดหรูย่านทองหล่อ
ซึ่งหลังเกิดเหตุได้พบความผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย ทั้งจากพฤติกรรมและการให้สัมภาษณ์
ของผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คน โดยหลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นชาวเน็ต
เพื่อนและบุคคลใกล้ชิดของแตงโม เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ที่เคยทำงานบนเรือสปีดโบ๊ต ผู้สื่อข่าว
อดีตนายตำรวจ รวมถึงนักวิชาการด้านอาชญวิทยา
เราเริ่มกันที่ตรงนี้เลยคะ วันเกิดเหตุ แตงโมบอกแม่ (นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน) ว่าจะไปถ่ายแบบ...
แต่กระติกบอกแตงโมนัดกินข้าวกับเพื่อน แตงโมรีบบินกลับจากภูเก็ตมากรุงเทพฯ ...
ซึ่งถ้านัดกินข้าวกับกระติกที่เจอกันแทบทุกวันคงไม่น่าลงทุนขนาดนั้น
แม่บอกรู้มาว่าเป็นการ “รับงานกินข้าว” ซึ่งเรื่องนี้แตงโมคงไม่รู้มาก่อน และหลังจากแตงโมตกเรือ
เพื่อนวนหาเองครึ่งชั่วโมง ก่อนแจ้งกู้ภัย ... ทั้งที่ระหว่างวนหาก็สามารถโทร.แจ้งกู้ภัยได้
พอกู้ภัยมาเพื่อนไม่ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ตอนตกเป็นอย่างไร พอถามว่าตกตรงไหน
เพื่อน 3 คน ชี้กันไปคนละทิศละทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมา เพื่อนๆ ก็ไม่ให้ข้อมูล
แค่เขียนชื่อของแตงโมใส่กระดาษยื่นให้ตำรวจเท่านั้น
ต่อมาเพื่อนให้สัมภาษณ์ว่ากู้ภัยมาช้า จึงช่วยไม่ทัน...ทั้งที่จริงๆ ที่การตามหาล่าช้า
เพราะเพื่อนแจ้งกู้ภัยช้า และไม่ให้ข้อมูล พอกู้ภัยและตำรวจมา ทั้ง 5 คนก็พากันหายไปหมด ...
ทั้งที่ปกติถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คนบนเรือจะอยู่รอและช่วยค้นหาผู้สูญหาย
กระติกบอกว่า รีบกลับออกไปเพราะคิดถึงลูก รีบกลับไปหาลูก... แต่ภาพในกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือ
พบว่า ฮิปโปและโบว์ (ไทรอัมส์คิงดอม) ซึ่งเป็นพี่น้องกับ เบนซ์ พริกไทย แฟนของไฮโซปอ
หนึ่งในผู้ชายที่นั่งเรือไปด้วยมารับออกไป ...ไม่รู้ไปไหน แต่กล้องวงจรปิดตามถนนน่าจะตามได้
กระติกบอกคิดว่ากลับไปบ้านแล้วอาจเจอแตงโม ซึ่งขึ้นเรือคนอื่นได้และกลับมาที่บ้าน...
แตงโมตกน้ำตอน 4 ทุ่มกว่า ดึกขนาดนั้นไม่น่าจะมีเรือผ่านมาช่วยแตงโม
กระติก ไม่โทร.บอกแม่ของแตงโมว่าโมตกน้ำ โดยอ้างว่าเพราะไม่สนิทกับแม่
และแม่ไม่มีชุดประดาน้ำคงช่วยอะไรไม่ได้ …แต่แม่ของแตงโมบอกว่าหลังพ่อโมเสียชีวิต
แม่ไปทำงานกับแตงโมตลอด ซึ่งต้องเจอกระติกอยู่ แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่กระติกจะไม่สนิทกับแม่
และถึงแม้จะทำอะไรไม่ได้แต่ในฐานะที่เป็นแม่ของแตงโมก็ควรต้องบอก
กระติบอกว่าเพื่อนตายยังไม่มีเวลาร้องไห้ เพราะต้องเตรียมข้อมูลมาตอบคำถาม...
ทำให้สังคมเคลือบแคลงว่าทำไมต้องเตรียมข้อมูล ก็แค่เล่าไปตามความจริง
หลังจากแตงโมเสียชีวิต IG ของเธอก็ยังมีการเคลื่อนไหว โดยมีรูปใน IG ถูกลบไป 7 รูป ...
จึงเกิดคำถามว่าใครเป็นคนลบ ซึ่งคนที่ลบต้องรู้พาสเวิร์ดของแตงโม และโดยปกติแล้ว
ผู้จัดการดารามักจะรู้พาสเวิร์ด IG และ facebook ของดาราที่ตนเองดูแล
เพราะต้องช่วยดูแลภาพลักษณ์ในการสื่อสาร ช่วยอัปรูป ช่วยตอบคอมเมนต์แฟนคลับแทนดารา
รวมถึงหากมีคอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสมเข้ามาก็จะได้ช่วยคัดกรองได้
แต่กระติกปฏิเสธว่าเธอไม่รู้พาสเวิร์ดของแตงโม..
แซนบอกว่าตอนเกิดเหตุตัวเองนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ท้ายเรือ แต่พอนักข่าวถามว่าหลังเกิดเหตุทำไมหายไป
แซนบอกว่าตนไม่เล่นโซเชียล เลยไม่รู้ข่าว... ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิดปกติมาก เพราะตอนอยู่บนเรือ
แซนยังเล่นโซเชียลอยู่ อีกทั้งเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เป็นไปได้หรือที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่ตามข่าว
ทั้ง 5 คนที่อยู่ในเหตุการณ์การเสียชีวิตของแตงโมไม่ไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามนัด
แต่กลับนัดพบทนาย คือ “นายษิทรา เบี้ยบังเกิด” เพื่อหารือถึงการให้ปากคำหรือตอบคำถามในคดีดังกล่าว
แต่ “ทนายตั้ม” ปฏิเสธไม่รับเป็นที่ปรึกษา ... ทำให้สังคมอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็แค่ให้ปากคำไปตามความจริง ทำไมต้องปรึกษาทนาย
ตอนแรกกลุ่มนี้บอกว่าแตงโมพลัดตกเรือ แต่ไม่รู้แตงโมตกเรือตอนไหน ไม่มีใครเห็น
แต่ภายหลังกลับบอกว่าแซนเห็นแตงโมไปปัสสาวะที่ท้ายเรือและพลัดตกลงไป...ทำไมจึงพูดไม่ตรงกัน
หลังจากแตงโมตกน้ำผู้ที่เห็นเหตุการณ์และคนที่อยู่บนเรือทำไมไม่โยนชูชีพให้แตงโมใช้พยุงตัว
จึงดูเหมือนว่าไม่มีใครพยายามให้ความช่วยเหลือ
หลังมีข่าวว่าแตงโมตกเรือ คืนนั้น “แอนนา ทีวีพูล” เพื่อนสนิทของแตงโม โทร.ถามกระติก
ซึ่งกระติกบอกว่าเรื่องจริง แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลอะไร พร้อมทั้งบอกกับแอนนา ว่าไม่ต้องเดินทางไปที่เกิดเหตุ...
ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน
คนที่อยู่บนเรือให้สัมภาษณ์ว่าที่ปิดข่าวเพราะแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ถ้าข่าวออกไปจะเสียภาพลักษณ์ ...
ทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตว่าในสถานการณ์ความเป็นความตายเช่นนั้นชีวิตคนกับภาพลักษณ์อะไรสำคัญกว่า
แซนให้สัมภาษณ์ว่าแตงโมบอกแซนว่า “กูจะไปฉี่” ...แต่แตงโม่ได้รู้จักแซนมาก่อน จะกล้าพูดพูดกูหรือ??
ต่อมาแซนบอกว่าตอนนั่งฉี่ท้ายเรือแตงโมจับขา 2 ข้างของตนเองไว้... ตอนพบศพแตงโมใส่บอดี้สูท
นุ่งกระโปรงทับ แล้วพันทับด้วยเสื้อคลุมอีกที ถามว่าถ้าตอนฉี่แตงโมเอา 2 มือจับขาแซน
แล้วแตงโมเอามือที่ไหนถลกกระโปรง เอามือมือที่ไหนแหวกกางเกงบอดี้สูท
และเป็นไปไม่ได้ที่มือหนึ่งจะจับขาแซน และอีกมือแหวกกางเกง เพราะต้องถลกกระโปรงไปด้วย
ต่อมา “คุณแยม-ฐปณีย์ เอียดศรีไชย” ผู้สื่อข่าวและผู้ก่อตั้งสำนักข่าวเดอะรีพอร์ตเตอร์
ได้ทดลองนั่งเรือสปีดโบ๊ตที่ขับเร็ว (ตามที่คนในเรือบอกว่าแตงโมตกน้ำเพราะแล่นเร็ว)
และพยายามจะไปนั่งยองๆ ท้ายเรือ ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้เพราะเรือโคลงมาก แถมลมแรงอีกด้วย
แค่นั่งที่ขอบเรือเฉยๆ ยังทรงตัวยาก... ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่แตงโมจะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ
และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ดาราห่วงสวยแบบแตงโมจะนั่งปัสสาวะ
ขณะที่มีผู้ชายแปลกหน้า 3 คนอยู่ด้วยกันในเรือลำเล็กๆ
ตอนแรกเจ้าของเรือบอกแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือเพราะห้องน้ำเสีย
แต่ที่มาออกโหนกระแสบอกเพราะมีของอยู่ในห้องน้ำ ... ทำให้มีคนตั้งข้อสังเกตว่า
ห้องน้ำเสียคืออาการที่กดชักโครกไม่ลง ทำไมจะปัสสาวะไม่ได้ แค่ขับถ่ายแล้วไม่ต้องกดชักโครก
ขณะที่บางคนบอกว่าห้องน้ำในเรือคือการขับถ่ายลงน้ำ ไม่ต้องกดชักโครกเหมือนห้องน้ำปกติ
หรือถ้ามีของในห้องน้ำก็แค่เอาของออก จะไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือให้อายผู้คนทำไม
และถ้าแตงโมจะปัสสาวะจริงๆ โดยไม่ใช้ห้องน้ำของเรือก็สามารถให้เรือเทียบฝั่ง
ขอเข้าห้องน้ำตามร้านอาหารสองข้างทางก็ได้
เพื่อนๆ บอกว่า ไม่ได้ยินเสียงตอนแตงโมตกน้ำ เพราะเครื่องเรือเสียงดัง ...
แต่ก่อนหน้านี้ "เบนซ์ พริกไทย" แฟนของไฮโซปอ เคยขับเรือลำนี้เพื่อสาธิตถึงสมรรถภาพของเรือ
ว่าเครื่องยนต์เสียงเบามาก ใครพูดอะไรในเรือก็ได้ยินหมด ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คนตกน้ำ
ซึ่งต้องร้องขอความช่วยเหลือ แล้วคนในเรือจะไม่ได้ยิน
ต่อมาได้มีภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณท่าเรือแห่งหนึ่งพบว่ามีการรินไวน์ในคนที่อยู่ในเรือรวม 5 แก้ว
แต่หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับพบว่าบนเรือมีแก้วไวน์เหลือเพียงใบเดียวเท่านั้น ...
ถามว่า แก้วที่เหลือหายไปไหน เป็นไปได้หรือไม่ที่มีการโยนแก้วไวน์ทิ้งน้ำเพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง
และตอนเจอร่างของแตงโม พบว่ามีบาดแผลยาวและลึกถึงกระดูก
ซึ่งตำรวจคาดว่าน่าจะถูกใบพัดเรือบาดตอนตกเรือ... แต่มีคนที่เคยทำงานบนเรือสปีดโบ๊ตออกมาบอกว่า
ถ้าเรือแล่นเร็วตามที่คนบนเรือบอก ใบพัดเรือจะไม่มีทางฟันขาคนที่ตกเพราะเรือแล่นออกไปข้างหน้า
และขาของคนที่ตกน้ำจะลอยขึ้นซึ่งเป็นคนละทิศกับใบเรือ อีกทั้งหากเรือแล่นเร็วแล้วมีคนถูกใบพัดฟัน
ใบพัดที่หมุนจะทำให้แผลเป็นริ้ว เหวอะหวะ เนื้อเละ ไม่ต่างจากหมูบด
ซึ่งบาดแผลของแตงโมเกิดจากใบพัดเรือก็จะเกิดได้เฉพาะตอนที่เรือแล่นช้าๆ เท่านั้น
คนขับบอกไม่รู้ว่าใบพัดไปฟันแตงโมบาดเจ็บ... ซึ่งคนที่เคยขับเรือสปีดโบ๊ตบอกว่า
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ เพราะหากใบพัดเรือไปฟันอะไร ระบบของเรือจะหยุดทันที
ต่อมา "บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" นายก อบจ.ปทุมธานี ในฐานะอดีตมือปราบชื่อดัง
ระบุว่า ผลการชันสูตรพลิกศพร่างของแตงโมพบว่า ในปอดมีทรายและดิน
ซึ่งแสดงว่าจุดที่แตงโมตกเรือต้องไม่ใช่จุดที่น้ำลึก ระยะผิวน้ำถึงพื้นดินไม่ถึง 5 เมตรแน่นอน
เพราะหลังจากตกเรือแตงโมคงไม่มีโอกาสกลั้นหายใจก่อน อยู่ๆ ก็ตกและจมลงน้ำจนไปถึงดินเลย
เมื่อสูดหายใจเจอทรายเจอดินจึงเข้าไปถึงปอดจนสิ้นใจ ซึ่งขัดกับคำบอกเล่าของคนบนเรือ
ที่ชี้จุดที่แตงโมตกแล้วขับเรือวนหา ซึ่งเป็นจุดที่น้ำลึก
คนที่อยู่บนเรือบอกว่าพอรู้ว่าแตงโมตกน้ำก็ขับเรือหาทันที ...แต่เด็กตกปลาซึ่งถ่ายคลิปของเรือลำนี้ไว้
บอกว่าเรือแล่นด้วยความเร็ว แล้วหักศอก แล่นหายไปเกือบ 10 นาที จึงวนเรือกลับมาวนหาแถวนั้น
ซึ่งการที่เรือหายไปเกือบ 10 นาที แสดงว่าขับออกไปไกลมาก จึงไม่ใช่รู้ว่าแตงโมตกน้ำแล้วค้นหาทันที
แซนให้สัมภาษณ์ว่าตอนตกเรือแตงโมเกาะข้างเรือ ...ซึ่ง "พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล”
ประธานบริหารหลักสูตรอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต
ชี้ว่าเป็นสิ่งที่ขัดกับคำให้การที่บอกว่าตอนแตงโมตกน้ำเรือแล่นเร็ว
เพราะหากเรือแล่นเร็วแตงโมจะไม่สามารถเกาะเรือได้
แตงโมตกน้ำ คดีนี้พิรุธเพียบ l บันทึกลึกลับ
ด้วยสาเหตุการพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
🛑 หลังเกิดเหตุได้พบความผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย ทั้งจากพฤติกรรมและการให้สัมภาษณ์ของผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คน
🛑 หลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นชาวเน็ต เพื่อนและบุคคลใกล้ชิดของแตงโม
เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ที่เคยทำงานบนเรือสปีดโบ๊ต ผู้สื่อข่าว อดีตนายตำรวจ รวมถึงนักวิชาการด้านอาชญวิทยา
🛑 หลักสากลในการสืบสวนสอบสวนคือ อะไรก็ตามที่แตกต่างจากความเป็นปกติ นั่นคือพิรุธ!!
“คดีแตงโม” พิรุธเพียบ พบทั้ง แตงโม-จ๊อบ-แซน-ปอ ล้วนมีรอยฟกช้ำ
ตั้งข้อสังเกตแชตและภาพถ่ายสุดท้ายของแตงโม อาจเป็นการสร้างหลักฐานเรื่องเวลา
ขณะที่แก้วไวน์หายไป 4 ใบ หวั่นทำลายหลักฐาน ชาวเน็ตจับโป๊ะ “กระติก” ว่ายน้ำเป็น
ด้าน “บิ๊กแจ๊ส” ระบุผลชันสูตรเจอดินและทรายในปอด แสดงว่าจุดที่ตกลึกไม่เกิน 5 เมตร
แย้งกับที่อ้างว่าตกเพราะเรือแล่นเร็ว ขณะที่ “นักอาชญวิทยา” ชี้คำให้การขัดกันไปหมด
สังคมเกรงคำสั่ง “ผู้มีอำนาจ” ทำคดีพลิก!
การจากไปของ “แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์” ดาราสาวชื่อดัง ด้วยสาเหตุการพลัดตกเรือสปีดโบ๊ต
กลางแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อคืนวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 22.40 น.
โดยมีคนที่อยู่ในเรือลำเดียวกัน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์จำนวน 5 คน ได้แก่
กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม
แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ สาวประเภทสองที่ไปล่องเรือด้วย
โรเบิร์ต-ไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ นักธุรกิจด้านการสื่อสารออนไลน์
ปอ- ตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ เจ้าของเรือ เป็นสามีของนักร้องหญิง “เบนซ์ พริกไทย”
จ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หนึ่งในหุ้นส่วนร้าน BlackAmber ร้านตัดผมสุดหรูย่านทองหล่อ
ซึ่งหลังเกิดเหตุได้พบความผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย ทั้งจากพฤติกรรมและการให้สัมภาษณ์
ของผู้ที่อยู่บนเรือทั้ง 5 คน โดยหลายฝ่ายได้ตั้งข้อสังเกตถึงความผิดปกติดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นชาวเน็ต
เพื่อนและบุคคลใกล้ชิดของแตงโม เจ้าหน้าที่กู้ภัย ผู้ที่เคยทำงานบนเรือสปีดโบ๊ต ผู้สื่อข่าว
อดีตนายตำรวจ รวมถึงนักวิชาการด้านอาชญวิทยา
เราเริ่มกันที่ตรงนี้เลยคะ วันเกิดเหตุ แตงโมบอกแม่ (นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน) ว่าจะไปถ่ายแบบ...
แต่กระติกบอกแตงโมนัดกินข้าวกับเพื่อน แตงโมรีบบินกลับจากภูเก็ตมากรุงเทพฯ ...
ซึ่งถ้านัดกินข้าวกับกระติกที่เจอกันแทบทุกวันคงไม่น่าลงทุนขนาดนั้น
แม่บอกรู้มาว่าเป็นการ “รับงานกินข้าว” ซึ่งเรื่องนี้แตงโมคงไม่รู้มาก่อน และหลังจากแตงโมตกเรือ
เพื่อนวนหาเองครึ่งชั่วโมง ก่อนแจ้งกู้ภัย ... ทั้งที่ระหว่างวนหาก็สามารถโทร.แจ้งกู้ภัยได้
พอกู้ภัยมาเพื่อนไม่ให้ข้อมูลว่าเหตุการณ์ตอนตกเป็นอย่างไร พอถามว่าตกตรงไหน
เพื่อน 3 คน ชี้กันไปคนละทิศละทาง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมา เพื่อนๆ ก็ไม่ให้ข้อมูล
แค่เขียนชื่อของแตงโมใส่กระดาษยื่นให้ตำรวจเท่านั้น
ต่อมาเพื่อนให้สัมภาษณ์ว่ากู้ภัยมาช้า จึงช่วยไม่ทัน...ทั้งที่จริงๆ ที่การตามหาล่าช้า
เพราะเพื่อนแจ้งกู้ภัยช้า และไม่ให้ข้อมูล พอกู้ภัยและตำรวจมา ทั้ง 5 คนก็พากันหายไปหมด ...
ทั้งที่ปกติถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คนบนเรือจะอยู่รอและช่วยค้นหาผู้สูญหาย
กระติกบอกว่า รีบกลับออกไปเพราะคิดถึงลูก รีบกลับไปหาลูก... แต่ภาพในกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือ
พบว่า ฮิปโปและโบว์ (ไทรอัมส์คิงดอม) ซึ่งเป็นพี่น้องกับ เบนซ์ พริกไทย แฟนของไฮโซปอ
หนึ่งในผู้ชายที่นั่งเรือไปด้วยมารับออกไป ...ไม่รู้ไปไหน แต่กล้องวงจรปิดตามถนนน่าจะตามได้
กระติกบอกคิดว่ากลับไปบ้านแล้วอาจเจอแตงโม ซึ่งขึ้นเรือคนอื่นได้และกลับมาที่บ้าน...
แตงโมตกน้ำตอน 4 ทุ่มกว่า ดึกขนาดนั้นไม่น่าจะมีเรือผ่านมาช่วยแตงโม
กระติก ไม่โทร.บอกแม่ของแตงโมว่าโมตกน้ำ โดยอ้างว่าเพราะไม่สนิทกับแม่
และแม่ไม่มีชุดประดาน้ำคงช่วยอะไรไม่ได้ …แต่แม่ของแตงโมบอกว่าหลังพ่อโมเสียชีวิต
แม่ไปทำงานกับแตงโมตลอด ซึ่งต้องเจอกระติกอยู่ แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่กระติกจะไม่สนิทกับแม่
และถึงแม้จะทำอะไรไม่ได้แต่ในฐานะที่เป็นแม่ของแตงโมก็ควรต้องบอก
กระติบอกว่าเพื่อนตายยังไม่มีเวลาร้องไห้ เพราะต้องเตรียมข้อมูลมาตอบคำถาม...
ทำให้สังคมเคลือบแคลงว่าทำไมต้องเตรียมข้อมูล ก็แค่เล่าไปตามความจริง
หลังจากแตงโมเสียชีวิต IG ของเธอก็ยังมีการเคลื่อนไหว โดยมีรูปใน IG ถูกลบไป 7 รูป ...
จึงเกิดคำถามว่าใครเป็นคนลบ ซึ่งคนที่ลบต้องรู้พาสเวิร์ดของแตงโม และโดยปกติแล้ว
ผู้จัดการดารามักจะรู้พาสเวิร์ด IG และ facebook ของดาราที่ตนเองดูแล
เพราะต้องช่วยดูแลภาพลักษณ์ในการสื่อสาร ช่วยอัปรูป ช่วยตอบคอมเมนต์แฟนคลับแทนดารา
รวมถึงหากมีคอมเมนต์ที่ไม่เหมาะสมเข้ามาก็จะได้ช่วยคัดกรองได้
แต่กระติกปฏิเสธว่าเธอไม่รู้พาสเวิร์ดของแตงโม..
แซนบอกว่าตอนเกิดเหตุตัวเองนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ท้ายเรือ แต่พอนักข่าวถามว่าหลังเกิดเหตุทำไมหายไป
แซนบอกว่าตนไม่เล่นโซเชียล เลยไม่รู้ข่าว... ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิดปกติมาก เพราะตอนอยู่บนเรือ
แซนยังเล่นโซเชียลอยู่ อีกทั้งเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เป็นไปได้หรือที่คนที่อยู่ในเหตุการณ์จะไม่ตามข่าว
ทั้ง 5 คนที่อยู่ในเหตุการณ์การเสียชีวิตของแตงโมไม่ไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตามนัด
แต่กลับนัดพบทนาย คือ “นายษิทรา เบี้ยบังเกิด” เพื่อหารือถึงการให้ปากคำหรือตอบคำถามในคดีดังกล่าว
แต่ “ทนายตั้ม” ปฏิเสธไม่รับเป็นที่ปรึกษา ... ทำให้สังคมอดสงสัยไม่ได้ว่าถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็แค่ให้ปากคำไปตามความจริง ทำไมต้องปรึกษาทนาย
ตอนแรกกลุ่มนี้บอกว่าแตงโมพลัดตกเรือ แต่ไม่รู้แตงโมตกเรือตอนไหน ไม่มีใครเห็น
แต่ภายหลังกลับบอกว่าแซนเห็นแตงโมไปปัสสาวะที่ท้ายเรือและพลัดตกลงไป...ทำไมจึงพูดไม่ตรงกัน
หลังจากแตงโมตกน้ำผู้ที่เห็นเหตุการณ์และคนที่อยู่บนเรือทำไมไม่โยนชูชีพให้แตงโมใช้พยุงตัว
จึงดูเหมือนว่าไม่มีใครพยายามให้ความช่วยเหลือ
หลังมีข่าวว่าแตงโมตกเรือ คืนนั้น “แอนนา ทีวีพูล” เพื่อนสนิทของแตงโม โทร.ถามกระติก
ซึ่งกระติกบอกว่าเรื่องจริง แต่ไม่ยอมให้ข้อมูลอะไร พร้อมทั้งบอกกับแอนนา ว่าไม่ต้องเดินทางไปที่เกิดเหตุ...
ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติสำหรับคนที่เป็นเพื่อนสนิทกัน
คนที่อยู่บนเรือให้สัมภาษณ์ว่าที่ปิดข่าวเพราะแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือ ถ้าข่าวออกไปจะเสียภาพลักษณ์ ...
ทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตว่าในสถานการณ์ความเป็นความตายเช่นนั้นชีวิตคนกับภาพลักษณ์อะไรสำคัญกว่า
แซนให้สัมภาษณ์ว่าแตงโมบอกแซนว่า “กูจะไปฉี่” ...แต่แตงโม่ได้รู้จักแซนมาก่อน จะกล้าพูดพูดกูหรือ??
ต่อมาแซนบอกว่าตอนนั่งฉี่ท้ายเรือแตงโมจับขา 2 ข้างของตนเองไว้... ตอนพบศพแตงโมใส่บอดี้สูท
นุ่งกระโปรงทับ แล้วพันทับด้วยเสื้อคลุมอีกที ถามว่าถ้าตอนฉี่แตงโมเอา 2 มือจับขาแซน
แล้วแตงโมเอามือที่ไหนถลกกระโปรง เอามือมือที่ไหนแหวกกางเกงบอดี้สูท
และเป็นไปไม่ได้ที่มือหนึ่งจะจับขาแซน และอีกมือแหวกกางเกง เพราะต้องถลกกระโปรงไปด้วย
ต่อมา “คุณแยม-ฐปณีย์ เอียดศรีไชย” ผู้สื่อข่าวและผู้ก่อตั้งสำนักข่าวเดอะรีพอร์ตเตอร์
ได้ทดลองนั่งเรือสปีดโบ๊ตที่ขับเร็ว (ตามที่คนในเรือบอกว่าแตงโมตกน้ำเพราะแล่นเร็ว)
และพยายามจะไปนั่งยองๆ ท้ายเรือ ปรากฏว่าไม่สามารถทำได้เพราะเรือโคลงมาก แถมลมแรงอีกด้วย
แค่นั่งที่ขอบเรือเฉยๆ ยังทรงตัวยาก... ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่แตงโมจะนั่งปัสสาวะท้ายเรือ
และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่ดาราห่วงสวยแบบแตงโมจะนั่งปัสสาวะ
ขณะที่มีผู้ชายแปลกหน้า 3 คนอยู่ด้วยกันในเรือลำเล็กๆ
ตอนแรกเจ้าของเรือบอกแตงโมไปปัสสาวะท้ายเรือเพราะห้องน้ำเสีย
แต่ที่มาออกโหนกระแสบอกเพราะมีของอยู่ในห้องน้ำ ... ทำให้มีคนตั้งข้อสังเกตว่า
ห้องน้ำเสียคืออาการที่กดชักโครกไม่ลง ทำไมจะปัสสาวะไม่ได้ แค่ขับถ่ายแล้วไม่ต้องกดชักโครก
ขณะที่บางคนบอกว่าห้องน้ำในเรือคือการขับถ่ายลงน้ำ ไม่ต้องกดชักโครกเหมือนห้องน้ำปกติ
หรือถ้ามีของในห้องน้ำก็แค่เอาของออก จะไปนั่งปัสสาวะท้ายเรือให้อายผู้คนทำไม
และถ้าแตงโมจะปัสสาวะจริงๆ โดยไม่ใช้ห้องน้ำของเรือก็สามารถให้เรือเทียบฝั่ง
ขอเข้าห้องน้ำตามร้านอาหารสองข้างทางก็ได้
เพื่อนๆ บอกว่า ไม่ได้ยินเสียงตอนแตงโมตกน้ำ เพราะเครื่องเรือเสียงดัง ...
แต่ก่อนหน้านี้ "เบนซ์ พริกไทย" แฟนของไฮโซปอ เคยขับเรือลำนี้เพื่อสาธิตถึงสมรรถภาพของเรือ
ว่าเครื่องยนต์เสียงเบามาก ใครพูดอะไรในเรือก็ได้ยินหมด ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คนตกน้ำ
ซึ่งต้องร้องขอความช่วยเหลือ แล้วคนในเรือจะไม่ได้ยิน
ต่อมาได้มีภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณท่าเรือแห่งหนึ่งพบว่ามีการรินไวน์ในคนที่อยู่ในเรือรวม 5 แก้ว
แต่หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับพบว่าบนเรือมีแก้วไวน์เหลือเพียงใบเดียวเท่านั้น ...
ถามว่า แก้วที่เหลือหายไปไหน เป็นไปได้หรือไม่ที่มีการโยนแก้วไวน์ทิ้งน้ำเพื่อทำลายหลักฐานบางอย่าง
และตอนเจอร่างของแตงโม พบว่ามีบาดแผลยาวและลึกถึงกระดูก
ซึ่งตำรวจคาดว่าน่าจะถูกใบพัดเรือบาดตอนตกเรือ... แต่มีคนที่เคยทำงานบนเรือสปีดโบ๊ตออกมาบอกว่า
ถ้าเรือแล่นเร็วตามที่คนบนเรือบอก ใบพัดเรือจะไม่มีทางฟันขาคนที่ตกเพราะเรือแล่นออกไปข้างหน้า
และขาของคนที่ตกน้ำจะลอยขึ้นซึ่งเป็นคนละทิศกับใบเรือ อีกทั้งหากเรือแล่นเร็วแล้วมีคนถูกใบพัดฟัน
ใบพัดที่หมุนจะทำให้แผลเป็นริ้ว เหวอะหวะ เนื้อเละ ไม่ต่างจากหมูบด
ซึ่งบาดแผลของแตงโมเกิดจากใบพัดเรือก็จะเกิดได้เฉพาะตอนที่เรือแล่นช้าๆ เท่านั้น
คนขับบอกไม่รู้ว่าใบพัดไปฟันแตงโมบาดเจ็บ... ซึ่งคนที่เคยขับเรือสปีดโบ๊ตบอกว่า
เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้ เพราะหากใบพัดเรือไปฟันอะไร ระบบของเรือจะหยุดทันที
ต่อมา "บิ๊กแจ๊ส-พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง" นายก อบจ.ปทุมธานี ในฐานะอดีตมือปราบชื่อดัง
ระบุว่า ผลการชันสูตรพลิกศพร่างของแตงโมพบว่า ในปอดมีทรายและดิน
ซึ่งแสดงว่าจุดที่แตงโมตกเรือต้องไม่ใช่จุดที่น้ำลึก ระยะผิวน้ำถึงพื้นดินไม่ถึง 5 เมตรแน่นอน
เพราะหลังจากตกเรือแตงโมคงไม่มีโอกาสกลั้นหายใจก่อน อยู่ๆ ก็ตกและจมลงน้ำจนไปถึงดินเลย
เมื่อสูดหายใจเจอทรายเจอดินจึงเข้าไปถึงปอดจนสิ้นใจ ซึ่งขัดกับคำบอกเล่าของคนบนเรือ
ที่ชี้จุดที่แตงโมตกแล้วขับเรือวนหา ซึ่งเป็นจุดที่น้ำลึก
คนที่อยู่บนเรือบอกว่าพอรู้ว่าแตงโมตกน้ำก็ขับเรือหาทันที ...แต่เด็กตกปลาซึ่งถ่ายคลิปของเรือลำนี้ไว้
บอกว่าเรือแล่นด้วยความเร็ว แล้วหักศอก แล่นหายไปเกือบ 10 นาที จึงวนเรือกลับมาวนหาแถวนั้น
ซึ่งการที่เรือหายไปเกือบ 10 นาที แสดงว่าขับออกไปไกลมาก จึงไม่ใช่รู้ว่าแตงโมตกน้ำแล้วค้นหาทันที
แซนให้สัมภาษณ์ว่าตอนตกเรือแตงโมเกาะข้างเรือ ...ซึ่ง "พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล”
ประธานบริหารหลักสูตรอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยรังสิต
ชี้ว่าเป็นสิ่งที่ขัดกับคำให้การที่บอกว่าตอนแตงโมตกน้ำเรือแล่นเร็ว
เพราะหากเรือแล่นเร็วแตงโมจะไม่สามารถเกาะเรือได้