รับมือปุ๋ยแพง!กระสอบ 1,360 บ.รุนแรงถึงขั้นขาดแคลน
https://www.nationtv.tv/news/378866022
เกษตรกรเตรียมรับมือปุ๋ยพาเหรดขึ้นราคา ยูเรียสูตร 46-0-0 จากราคา 600 บาทพุ่งทะลุ 1,360 บาท คาดผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน บริษัทผู้นำเข้าปุ๋ยปิดการขายหลัง“ปูติน”ห้ามจำหน่ายหวั่นกระทบหนักถึงขั้นขาดแคลน
ผลกระทบสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน เริ่มกระทบต่อนานาประเทศ ล่าสุดพบว่าปุ๋ยเคมีทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นแล้ว หลังจากที่ ปูติน” สั่งห้ามจำหน่ายปุ๋ยเคมีทั่วโลกทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจำหน่ายปุ๋ยภายในประเทศแล้ว
8 มีนาคม 2565 นาย
วีระ ตระกูลรัมย์ เจ้าของบริษัท ตรัง - มาเลเซีย อะโกรเทค จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยรายใหญ่ในจ.ตรัง เปิดเผยว่า การสู้รบดังกล่าวส่งผลให้ปุ๋ยปรับขึ้นราคาเดือดร้อนทั้งเกษตรกรและผู้ค้า ในส่วนของผู้ค้าจากเดิมเคยซื้อและขายเอากำไรกระสอบละ 10-20 บาท แต่ขณะนี้ปุ๋ยทุกชนิดราคาปรับสูงขึ้น 100% เช่น ปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0 เดิมราคา 500-600 บาท ปัจจุบันราคากว่า 1,360 บาท ส่วนสูตร 18-46-0 ตัวกลางสูง จากกระสอบละ 700 บาท ปรับเป็น 1,800 บาท ,สูตร 10-10-30 จากเดิมราคากระสอบละ 800 บาท ล่าสุดปรับเป็นราคา 1,420 บาท บางชนิดเดิมกระสอบละ 280 บาท ขึ้นมาเป็น 850 บาท , 380 เป็น 900 บาท เป็นต้น โดยราคานี้ผู้ค้าเอากำไรกระสอบละ 10-20 บาทเท่าเดิม
นาย
วีระ กล่าวอีกว่า สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ล่าสุด ที่ “
ปูติน” สั่งห้ามจำหน่ายปุ๋ยเคมีทั่วโลกนั้น ขณะนี้เริ่มส่งผลต่อการจำหน่ายปุ๋ยภายในประเทศแล้ว โดยแม่ปุ๋ยส่วนใหญ่ที่นำเข้าจากประเทศรัสเซียและเบรารุสจะเป็นกลุ่มโพแทสเซียม ( สูตรตัวท้าย) ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีความจำเป็นสำหรับปาล์มน้ำมัน และพืชทุกชนิด และขณะนี้บริษัทนำเข้าและจำหน่ายปุ๋ยในประเทศบางบริษัทก็มีการประกาศปิดการขายแล้ว เพื่อเตรียมที่จะประกาศราคาใหม่ คาดว่าราคาใหม่น่าจะถูกประกาศขึ้นภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้
ตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยรายใหญ่ บอกอีกว่า ขณะนี้ร้านค้าซึ่งเป็นผู้จำหน่ายปุ๋ยก็ไม่สามารถจะสั่งปุ๋ยนำเข้ามาจำหน่ายที่ร้านได้แล้วเพราะมีการปิดการขาย ซึ่งไม่ได้เป็นการกักตุนแต่อย่างใดและเชื่อว่าหลังจากนี้ราคาปุ๋ยจะมีการปรับราคาขึ้นอีกโดยไม่สามารถจะคาดการณ์ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และในอนาคตอาจนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนปุ๋ยได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วงที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ปุ๋ยบางชนิดได้ปรับราคาลดลงประมาณกระสอบละ 50-100 บาท แต่พอเกิดสงครามราคากลับเพิ่มขึ้นมา และหลังจากนี้สิ่งที่ร้านค้า และเกษตรกรจะต้องเผชิญกับปัญหาก็คือ. ปุ๋ยจะขาดแคลน ร้านค้าจะไม่มีปุ๋ยจำหน่าย เพราะเชื่อว่าบริษัทผู้นำเข้าจะไม่สามารถนำเข้าปุ๋ยได้ โดยเฉพาะแม่ปุ๋ยที่จำเป็นซึ่งจะต้องนำเข้าจากประเทศรัสเซียและเบรารุสโดยเฉพาะตัว 0-0-60 และ 18-46-0 คาดว่าทางบริษัทนำเข้า คงจะหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน ซึ่งประเทศอื่นหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ก็เชื่อว่าจะต้องฉวยโอกาส ในการปรับราคาขึ้นแน่นอน
ด่วน! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้นแรง 1 บาท
https://www.matichon.co.th/economy/news_3222424
ด่วน! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้นแรง 1 บาท
PTT Station และ บางจาก ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 1.00 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิด คงเดิม มีผล 9 มี.ค.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG(เฉพาะ
PTT Station) = 46.76, GSH95 = 39.35, E20 = 38.24, GSH91 = 39.08, E85 = 31.54, HSD- B7= 29.94, HSD-B10 = 29.94, HSD-B20=29.94,ดีเซลพรีเมี่ยม B7 = 35.96 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
จับตาน้ำมัน200เหรียญ! สภาอุตฯชี้มีโอกาสแตะ150เหรียญเร็วๆ นี้ - กบน.ชดเชยดีเซลเพิ่มอีก 70 ส.ต.
https://www.khaosod.co.th/economics/news_6929963
จับตาน้ำมัน200เหรียญ! สภาอุตฯชี้มีโอกาสแตะ150เหรียญเร็วๆ นี้ – กบน.ชดเชยดีเซลเพิ่มอีก 70 สตางค์ต่อลิตร
จับตาน้ำมัน200เหรียญ – รายงานข่าวแจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ตั้งแต่ปี 2551 หลังสหรัฐและยุโรปพิจารณาสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยราคาน้ำมันดิบปิดตลาด ณ วีนที่ 7 มี.ค. 2565 ตลาดเวสต์เท็กซัสอยู่ที่ 119.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตลาดเบรนท์อยู่ที่ 123.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และตลาดดูไบอยู่ที่ 125.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากการส่งออกน้ำมันดิบจากรัสเซียถูกตัดออกไป จะมีการขาดแคลนน้ำมันสูงถึง 5 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงถึง 200 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลได้ เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ที่มีปริมาณการส่งออกคิดเป็น 7% ของอุปทานทั่วโลก ขณะที่หลายประเทศในยุโรปมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะเยอรมนี”
นาย
เกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยอมรับราคาน้ำมันดิบที่เคลื่อนไหวแตะระดับสูงถึง 130 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบจะเตลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 100-125 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และมีโอกาสที่จะได้เห็นราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นไปแตะที่ระดับ 150 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเร็วๆ นี้ ทำให้โลกต้องเผชิญภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation) รวมถึงไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากไทยเป็นประเทศนำเข้ามากกว่า 90%
นอกจากนี้ รัสเซียและยูเครนยังเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลี และข้าวโพดรายใหญ่ของโลก ทำให้ขณะนี้ราคาปรับตัวสูงมากและกระทบต่อราคาอาหารสัตว์ให้ปรับสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ สุดท้ายจะกระทบห่วงโซ่ปศุสัตว์ทั่วโลก รวมถึงไทย โดยเฉพาะกรณีปุ๋ยที่รัสเซียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดก็จะมีปัญหาด้วย
ดังนั้น ต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด ว่ารัสเซีย จะมีมาตรการโต้กลับสหรัฐและชาติพันธมิตร และสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไร หลังสหรัฐและยุโรปห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลต่อระดับราคาพลังงานของโลกให้ขยับขึ้นสูง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นว่าคนไทยทุกคนทำได้คือการประหยัดการใช้หรือใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภาครัฐควรต้องเร่งออกมาตรการส่งเสริมการประหยัดการใช้ในทุกภาคส่วน
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนาย
สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้พิจารณาปรับอัตราการชดเชยดีเซลเพิ่มขึ้น 70 สตางค์/ลิตร เป็น 6.50 บาท/ลิตร จากเดิมที่อุดหนุนดีเซลอยู่ 5.80 บาท/ลิตร
รัสเซียช็อก แม่ทัพคนเก่งของปูติน ถูกลอบสังหารรายที่ 2 ในสงครามยูเครน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2336001
ปธน.ปูติน ต้องสูญเสีย 'แม่ทัพ' ผู้บัญชาการทหารคนเก่งในสมรภูมิรบยูเครน เป็นรายที่ 2 เนื่องจากถูกลอบสังหาร
เมื่อ 8 มี.ค. 65
เดอะซัน รายงาน ประธานาธิบดี
วลาดิเมียร์ ปูติน ต้องสูญเสียนายพลทหารระดับสูงในสมรภูมิยูเครน เป็นรายที่ 2 จากการถูกลอบสังหาร นับตั้งแต่ตัดสินใจส่งทหารรัสเซียบุกยูเครน ตั้งแต่เมื่อ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อพลตรี
วิตาลี กีราซิมอฟ ได้ถูกลอบสังหารในระหว่างการสู้รบกับทหารยูเครน นอกเมืองคาร์คีฟ
พลตรี
กีราซิมอฟ ผู้บัญชาการทหารกองทัพที่ 41 นับเป็นนายพลทหารระดับสูงของกองทัพรัสเซียรายที่สองที่สิ้นชีพ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อจาก พลตรี
อันเดร ซูโคเวตสกี ซึ่งได้ถูกพลซุ่มยิง หรือสไนเปอร์ ยิงเสียชีวิต ระหว่างการสู้รบที่สมรภูมิฮอสโตเมล ห่างจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ราว 30 ไมล์
เดอะ ซันระบุว่า ข่าวการเสียชีวิต เนื่องจากถูกลอบสังหารของ พลตรี
กีราซิมอฟ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการทหารระดับสูงของประธานาธิบดีปูติน ทำให้เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลรัสเซียตกอยู่ในความเสียใจและเคร่งเครียดอย่างมาก
ขณะที่ กระทรวงกลาโหมยูเครน แจ้งว่า พลตรี
กีราซิมอฟ ถูกสังหารพร้อมกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกนายหนึ่ง ทางตะวันออกของเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน
ทั้งนี้ พลตรี
กีราซิมอฟ เคยได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ จากการปฏิบัติภารกิจบุกยึดแหลมไครเมียในปี 2557 นอกจากนั้น พลตรี
กีราซิมอฟ ยังเคยได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติอื่นๆ มาแล้วมากมาย รวมทั้งการเป็นผู้บัญชาการรบในสงครามเชชเนียครั้งที่สอง
JJNY : 5in1 รับมือปุ๋ยแพง!│พรุ่งนี้กลุ่มเบนซินขึ้น1บ.│จับตาน้ำมัน200$!│แม่ทัพปูตินถูกลอบสังหาร│วงคุยพท.หนุนผ้าอนามัยฟรี
https://www.nationtv.tv/news/378866022
เกษตรกรเตรียมรับมือปุ๋ยพาเหรดขึ้นราคา ยูเรียสูตร 46-0-0 จากราคา 600 บาทพุ่งทะลุ 1,360 บาท คาดผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน บริษัทผู้นำเข้าปุ๋ยปิดการขายหลัง“ปูติน”ห้ามจำหน่ายหวั่นกระทบหนักถึงขั้นขาดแคลน
ผลกระทบสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน เริ่มกระทบต่อนานาประเทศ ล่าสุดพบว่าปุ๋ยเคมีทางการเกษตรปรับตัวสูงขึ้นแล้ว หลังจากที่ ปูติน” สั่งห้ามจำหน่ายปุ๋ยเคมีทั่วโลกทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการจำหน่ายปุ๋ยภายในประเทศแล้ว
8 มีนาคม 2565 นายวีระ ตระกูลรัมย์ เจ้าของบริษัท ตรัง - มาเลเซีย อะโกรเทค จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยรายใหญ่ในจ.ตรัง เปิดเผยว่า การสู้รบดังกล่าวส่งผลให้ปุ๋ยปรับขึ้นราคาเดือดร้อนทั้งเกษตรกรและผู้ค้า ในส่วนของผู้ค้าจากเดิมเคยซื้อและขายเอากำไรกระสอบละ 10-20 บาท แต่ขณะนี้ปุ๋ยทุกชนิดราคาปรับสูงขึ้น 100% เช่น ปุ๋ยยูเรียสูตร 46-0-0 เดิมราคา 500-600 บาท ปัจจุบันราคากว่า 1,360 บาท ส่วนสูตร 18-46-0 ตัวกลางสูง จากกระสอบละ 700 บาท ปรับเป็น 1,800 บาท ,สูตร 10-10-30 จากเดิมราคากระสอบละ 800 บาท ล่าสุดปรับเป็นราคา 1,420 บาท บางชนิดเดิมกระสอบละ 280 บาท ขึ้นมาเป็น 850 บาท , 380 เป็น 900 บาท เป็นต้น โดยราคานี้ผู้ค้าเอากำไรกระสอบละ 10-20 บาทเท่าเดิม
นายวีระ กล่าวอีกว่า สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ล่าสุด ที่ “ ปูติน” สั่งห้ามจำหน่ายปุ๋ยเคมีทั่วโลกนั้น ขณะนี้เริ่มส่งผลต่อการจำหน่ายปุ๋ยภายในประเทศแล้ว โดยแม่ปุ๋ยส่วนใหญ่ที่นำเข้าจากประเทศรัสเซียและเบรารุสจะเป็นกลุ่มโพแทสเซียม ( สูตรตัวท้าย) ซึ่งเป็นปุ๋ยที่มีความจำเป็นสำหรับปาล์มน้ำมัน และพืชทุกชนิด และขณะนี้บริษัทนำเข้าและจำหน่ายปุ๋ยในประเทศบางบริษัทก็มีการประกาศปิดการขายแล้ว เพื่อเตรียมที่จะประกาศราคาใหม่ คาดว่าราคาใหม่น่าจะถูกประกาศขึ้นภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้
ตัวแทนจำหน่ายปุ๋ยรายใหญ่ บอกอีกว่า ขณะนี้ร้านค้าซึ่งเป็นผู้จำหน่ายปุ๋ยก็ไม่สามารถจะสั่งปุ๋ยนำเข้ามาจำหน่ายที่ร้านได้แล้วเพราะมีการปิดการขาย ซึ่งไม่ได้เป็นการกักตุนแต่อย่างใดและเชื่อว่าหลังจากนี้ราคาปุ๋ยจะมีการปรับราคาขึ้นอีกโดยไม่สามารถจะคาดการณ์ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และในอนาคตอาจนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนปุ๋ยได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วงที่สถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลาย ปุ๋ยบางชนิดได้ปรับราคาลดลงประมาณกระสอบละ 50-100 บาท แต่พอเกิดสงครามราคากลับเพิ่มขึ้นมา และหลังจากนี้สิ่งที่ร้านค้า และเกษตรกรจะต้องเผชิญกับปัญหาก็คือ. ปุ๋ยจะขาดแคลน ร้านค้าจะไม่มีปุ๋ยจำหน่าย เพราะเชื่อว่าบริษัทผู้นำเข้าจะไม่สามารถนำเข้าปุ๋ยได้ โดยเฉพาะแม่ปุ๋ยที่จำเป็นซึ่งจะต้องนำเข้าจากประเทศรัสเซียและเบรารุสโดยเฉพาะตัว 0-0-60 และ 18-46-0 คาดว่าทางบริษัทนำเข้า คงจะหันไปนำเข้าจากประเทศอื่นแทน ซึ่งประเทศอื่นหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ก็เชื่อว่าจะต้องฉวยโอกาส ในการปรับราคาขึ้นแน่นอน
ด่วน! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้นแรง 1 บาท
https://www.matichon.co.th/economy/news_3222424
ด่วน! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้นแรง 1 บาท
PTT Station และ บางจาก ปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดขึ้น 1.00 บาทต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลทุกชนิด คงเดิม มีผล 9 มี.ค.65 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป โดยราคาขายปลีกจะเป็นดังนี้
ULG(เฉพาะ
PTT Station) = 46.76, GSH95 = 39.35, E20 = 38.24, GSH91 = 39.08, E85 = 31.54, HSD- B7= 29.94, HSD-B10 = 29.94, HSD-B20=29.94,ดีเซลพรีเมี่ยม B7 = 35.96 บาทต่อลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้นยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
จับตาน้ำมัน200เหรียญ! สภาอุตฯชี้มีโอกาสแตะ150เหรียญเร็วๆ นี้ - กบน.ชดเชยดีเซลเพิ่มอีก 70 ส.ต.
https://www.khaosod.co.th/economics/news_6929963
จับตาน้ำมัน200เหรียญ! สภาอุตฯชี้มีโอกาสแตะ150เหรียญเร็วๆ นี้ – กบน.ชดเชยดีเซลเพิ่มอีก 70 สตางค์ต่อลิตร
จับตาน้ำมัน200เหรียญ – รายงานข่าวแจ้งว่า ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ตั้งแต่ปี 2551 หลังสหรัฐและยุโรปพิจารณาสั่งห้ามการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย โดยราคาน้ำมันดิบปิดตลาด ณ วีนที่ 7 มี.ค. 2565 ตลาดเวสต์เท็กซัสอยู่ที่ 119.40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตลาดเบรนท์อยู่ที่ 123.21 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และตลาดดูไบอยู่ที่ 125.30 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
“นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า หากการส่งออกน้ำมันดิบจากรัสเซียถูกตัดออกไป จะมีการขาดแคลนน้ำมันสูงถึง 5 ล้านบาร์เรล/วัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงถึง 200 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลได้ เนื่องจากรัสเซียเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก ที่มีปริมาณการส่งออกคิดเป็น 7% ของอุปทานทั่วโลก ขณะที่หลายประเทศในยุโรปมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว โดยเฉพาะเยอรมนี”
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ยอมรับราคาน้ำมันดิบที่เคลื่อนไหวแตะระดับสูงถึง 130 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าสัปดาห์นี้ราคาน้ำมันดิบจะเตลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 100-125 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และมีโอกาสที่จะได้เห็นราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นไปแตะที่ระดับ 150 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลเร็วๆ นี้ ทำให้โลกต้องเผชิญภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง (Hyperinflation) รวมถึงไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากไทยเป็นประเทศนำเข้ามากกว่า 90%
นอกจากนี้ รัสเซียและยูเครนยังเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวสาลี และข้าวโพดรายใหญ่ของโลก ทำให้ขณะนี้ราคาปรับตัวสูงมากและกระทบต่อราคาอาหารสัตว์ให้ปรับสูงขึ้นตามไปด้วย เพราะเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์ สุดท้ายจะกระทบห่วงโซ่ปศุสัตว์ทั่วโลก รวมถึงไทย โดยเฉพาะกรณีปุ๋ยที่รัสเซียเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่สุดก็จะมีปัญหาด้วย
ดังนั้น ต้องติดตามสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครน-รัสเซียอย่างใกล้ชิด ว่ารัสเซีย จะมีมาตรการโต้กลับสหรัฐและชาติพันธมิตร และสหภาพยุโรป (อียู) อย่างไร หลังสหรัฐและยุโรปห้ามนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งจะส่งผลต่อระดับราคาพลังงานของโลกให้ขยับขึ้นสูง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เห็นว่าคนไทยทุกคนทำได้คือการประหยัดการใช้หรือใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยภาครัฐควรต้องเร่งออกมาตรการส่งเสริมการประหยัดการใช้ในทุกภาคส่วน
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธาน ได้พิจารณาปรับอัตราการชดเชยดีเซลเพิ่มขึ้น 70 สตางค์/ลิตร เป็น 6.50 บาท/ลิตร จากเดิมที่อุดหนุนดีเซลอยู่ 5.80 บาท/ลิตร
รัสเซียช็อก แม่ทัพคนเก่งของปูติน ถูกลอบสังหารรายที่ 2 ในสงครามยูเครน
https://www.thairath.co.th/news/foreign/2336001
ปธน.ปูติน ต้องสูญเสีย 'แม่ทัพ' ผู้บัญชาการทหารคนเก่งในสมรภูมิรบยูเครน เป็นรายที่ 2 เนื่องจากถูกลอบสังหาร
เมื่อ 8 มี.ค. 65 เดอะซัน รายงาน ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต้องสูญเสียนายพลทหารระดับสูงในสมรภูมิยูเครน เป็นรายที่ 2 จากการถูกลอบสังหาร นับตั้งแต่ตัดสินใจส่งทหารรัสเซียบุกยูเครน ตั้งแต่เมื่อ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อพลตรี วิตาลี กีราซิมอฟ ได้ถูกลอบสังหารในระหว่างการสู้รบกับทหารยูเครน นอกเมืองคาร์คีฟ
พลตรี กีราซิมอฟ ผู้บัญชาการทหารกองทัพที่ 41 นับเป็นนายพลทหารระดับสูงของกองทัพรัสเซียรายที่สองที่สิ้นชีพ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต่อจาก พลตรีอันเดร ซูโคเวตสกี ซึ่งได้ถูกพลซุ่มยิง หรือสไนเปอร์ ยิงเสียชีวิต ระหว่างการสู้รบที่สมรภูมิฮอสโตเมล ห่างจากกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ราว 30 ไมล์
เดอะ ซันระบุว่า ข่าวการเสียชีวิต เนื่องจากถูกลอบสังหารของ พลตรีกีราซิมอฟ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการทหารระดับสูงของประธานาธิบดีปูติน ทำให้เจ้าหน้าที่ในรัฐบาลรัสเซียตกอยู่ในความเสียใจและเคร่งเครียดอย่างมาก
ขณะที่ กระทรวงกลาโหมยูเครน แจ้งว่า พลตรีกีราซิมอฟ ถูกสังหารพร้อมกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกนายหนึ่ง ทางตะวันออกของเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครน
ทั้งนี้ พลตรีกีราซิมอฟ เคยได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ จากการปฏิบัติภารกิจบุกยึดแหลมไครเมียในปี 2557 นอกจากนั้น พลตรีกีราซิมอฟ ยังเคยได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติอื่นๆ มาแล้วมากมาย รวมทั้งการเป็นผู้บัญชาการรบในสงครามเชชเนียครั้งที่สอง