แม้จะมีการสำรวจเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา แต่เรายังคงรู้เพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับ "ก้น" มหาสมุทรลึกที่มีสัตว์แปลก ๆ อาศัยอยู่มากมาย และยังมีอีกมากที่ยังไม่ได้ค้นพบ ทั้งที่ในอวกาศ เราได้ทำแผนที่ของพื้นผิวของดาวอังคารและดวงจันทร์ทั้งหมดแล้ว (ดาวศุกร์ประมาณ 98%) แต่กับมหาสมุทรที่เป็น "เส้นเลือดใหญ่" ของโลกนั้นไม่ใช่
  
มากกว่าร้อยละ 80 ของโลกใต้ท้องทะเลของเราไม่มีแผนที่ ไม่มีการสังเกตและยังไม่ได้สำรวจ ด้วยความยากลำบากบวกกับค่าใช้จ่ายสูงมากในการสำรวจใต้น้ำโดยเฉพาะถ้าใช้ยานพาหนะ นักวิจัยจึงอาศัยเทคโนโลยีเช่นโซนาร์ มาเป็นเวลานาน ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการสำรวจโดยมนุษย์เพียง 4 ครั้ง โดยครั้งแรกคือนักสำรวจ Don Walsh และ Jacques Piccard ซึ่งเป็นคนแรกที่ไปถึงจุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรโลก(Mariana Trench)ได้สำเร็จ ขณะที่มากกว่า 4,000 คนไปถึง Mount Everest จุดสูงสุดของโลก และกว่า 553 คนจากหลายสิบประเทศได้เข้าสู่อวกาศ
  
ทั้งนี้ การทำความเข้าใจมหาสมุทรให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นมีความสำคัญต่อทุกสิ่ง ตั้งแต่ความพยายามบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศไปจนถึงความมั่นคงด้านอาหาร รวมถึงการวิจัยทางชีวภาพไปจนถึงเศรษฐกิจโลกที่ยั่งยืนและมีสุขภาพดี และสิ่งที่พบใต้มหาสมุทรอาจสามารถช่วยโลกได้ แม้การสำรวจที่มียังห่างไกลจากเหตุผลที่สำคัญดังกล่าว
  
เพื่อเปลี่ยนสถานการณ์นี้ Fabien Cousteau นักสำรวจและนักอนุรักษ์ที่มีชื่อเสียง หลานชายของ Jacques-Yves Cousteau นักสำรวจสมุทรศาสตร์ชาวฝรั่งเศส วางแผนที่จะสร้างสถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) เวอร์ชั่นใต้น้ำ ให้เป็นสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์ใต้น้ำที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก
 
 
สำหรับ Fabien ที่คุ้นเคยกับทะเลโดยสายเลือด วัยเด็กของเขาเกิดขึ้นบนเรือในตำนานของ Jacques-Yves ปู่ของเขา โดยเริ่มดำน้ำในวันเกิดปีที่สี่ ตั้งแต่นั้นมา เขาก็มีส่วนอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม สมุทรศาสตร์และการสำรวจของเขาเอง นอกจาก Fabien จะเป็นผู้สร้างภาพยนตร์สารคดีที่มีชื่อเสียงระดับโลกในโครงการหลายพันล้านแล้ว เขายังทำหน้าที่เป็นนักสำรวจ Explorer-at-Large  (XAL) ของ National Geographic ด้วย
  
โดยในปี 2016 เขาได้ก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ทางทะเล Fabien Cousteau Ocean Learning จนได้กลายเป็นรากฐานการศึกษาอันทรงพลังและเป็นศูนย์
บ่มเพาะสำหรับความพยายามในการทำความสะอาด -การอนุรักษ์ทางทะเลทั่วโลก และขั้นตอนต่อไปสู่อนาคตของเขาคือ "Proteus" สถานที่ที่มนุษยชาติ สามารถอาศัยและทำงานใต้น้ำได้ ในจินตนาการของเขา การอยู่ใต้คลื่นเป็นเวลานานสามารถทำได้โดยการสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยใต้น้ำที่มีลักษณะและรู้สึกเหมือนบ้าน ตรงข้ามกันเพียงเป็นฟองอากาศที่ปิดสนิทคล้ายเรือดำน้ำเท่านั้น 
 
Proteus ได้รับการขนานนามว่า "สถานีอวกาศนานาชาติในมหาสมุทร" ได้รับการออกแบบให้เป็นแพลตฟอร์มการวิจัยใต้พื้นผิวที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก ที่มี
ที่อยู่อาศัยของศูนย์กลางการศึกษาและห้องปฏิบัติการ Fabien อธิบายว่า ที่อยู่อาศัยนี้จะมีพื้นที่ทำงาน ห้องครัว ห้องนอน และแน่นอนว่าจะต้องมีหน้าต่างหรือช่องที่จะมองออกไปสู่โลกภายนอก ส่วนประตูหน้าจะอยู่ด้านล่างของบ้านในรูปแบบของ moon pool ซึ่งจะช่วยให้เข้า - ออกจากที่อยู่อาศัยนี้ได้ง่าย โดย Proteus สามารถแยกส่วนและอัพเกรดได้ และจะสามารถให้นักวิจัยถึง 12 คนอาศัยอยู่บนพื้นมหาสมุทรได้เป็นระยะเวลานาน
 
 
 
Fabien กล่าวว่า Proteus จะเป็นโครงการทางทะเลที่คล้ายคลึงกับสถานีอวกาศนานาชาติ ส่วนใหญ่จะรองรับนักดำน้ำ ซึ่งเทียบเท่ากับนักบินอวกาศในมหาสมุทร และอาจเป็นรูปเป็นร่างในไม่ช้า ที่ผ่านมา มีการดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่นวิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง และการก่อสร้าง(EPC) กับบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการสร้างเรือความดันสูงในสภาพแวดล้อมของมหาสมุทร หากเปรียบเทียบกัน สิ่งที่ Proteus กำลังทำในแง่ของเทคโนโลยีสำรวจนั้นคล้าย คลึงกับเทคโนโลยีอวกาศ  
  
แม้การรวบรวมข้อมูลไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ในช่วงโควิด แต่ตอนนี้เขาและทีมได้ทำแผนที่ 3 มิติของพื้นทะเลรอบๆ บริเวณทั่วไปของพื้นที่คุ้มครองทางทะเล
นอกชายฝั่ง Curaçao เกาะทางเหนือของเวเนซุเอลา ที่จะเป็นที่ตั้งของ Proteus เรียบร้อยแล้ว โดยหน่วยแรกของ Proteus จะได้รับการติดตั้งที่ความลึกประมาณ 60 ฟุตในพื้นที่นี้ ในเวลาเดียวกัน ทีมงานกำลังมองหาสถานที่เพิ่มเติมทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกาสำหรับสถานีในอนาคต เพื่อสร้างเครือข่ายของสถานีดังกล่าว
  
จากนั้น Fabien จะเริ่มขั้นตอนการออกแบบทางวิศวกรรมส่วนหน้าในเดือนเมษายนที่จะถึง รวมทั้งสร้างชิ้นส่วนล่วงหน้าในปลายปี 2022 หรือต้นปี 2023 
หากทุกอย่างเป็นไปตามกำหนด คาดว่า Proteus พร้อมด้วยสถานีดาวเทียมน้ำลึกที่เชื่อมต่อกันจะติดตั้งใต้น้ำได้ภายในสิ้นปี 2025 โดยสถานีควบคุมภารกิจบนบกจะถูกสร้างขึ้นในแบบคู่ขนาน
 
 
ในการออกแบบ Proteus จะเป็นโครงสร้างทรงกลม 2 ชั้นยึดกับพื้นมหาสมุทรโดยใช้ขาซึ่งออกแบบมาเพื่อปรับให้เข้ากับภูมิประเทศที่ผันผวน โครงสร้างประกอบด้วยชุด modular pods แบบแยกส่วนที่ติดอยู่กับตัวโครงสร้างสำหรับรองรับการใช้งานที่หลากหลาย pod เหล่านี้สามารถติดตั้งหรือถอดออกเพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา โดย pod ที่ใหญ่ที่สุดคือประตูหน้ารูปแบบ moon pool เพื่อให้เรือดำน้ำสามารถเทียบท่าได้ 
 
ศูนย์วิจัยนี้จะใช้พลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีเรือนกระจกใต้น้ำแห่งแรกของโลกที่จะใช้ปลูกอาหารจากพืชสดสำหรับผู้ที่ทำงานที่นั่น ตามการออกแบบ โครงการจะใช้เวลา 3 ปีในการติดตั้ง แม้ว่าการระบาดของโคโรนาไวรัสจะทำให้โครงการล่าช้าออกไป แต่นี่จะเป็นเวทีระดับโลกของการทำงานร่วมกันระหว่างนักวิจัยชั้นนำของโลก นักวิชาการ หน่วยงานราชการ และองค์กรต่างๆ เพื่อพัฒนาวิทยาศาสตร์ให้ก้าวหน้าเพื่อประโยชน์ในอนาคตของโลก

ที่จริง สิ่งที่ Proteus นำเสนอไม่ใช่แนวคิดใหม่ คุณปู่ของ Fabien เองเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแหล่งที่อยู่อาศัยใต้น้ำในยุคแรกๆ โดยพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การดำน้ำประมาณการว่าตั้งแต่ในปี 1960 มีการสร้างที่อยู่อาศัยใต้ทะเลมากกว่า 60 แห่ง แม้ส่วนใหญ่จะถูกทิ้งร้างหรือทรุดโทรม แต่แห่งสุดท้ายที่ยังอยู่คือ Aquarius ใน Florida Keys ที่ความลึก 63 ฟุต ยังคงใช้ในการฝึกอบรมนักบินอวกาศและเป็นเจ้าภาพภารกิจการวิจัย ซึ่งในปี 2014 Fabien และทีมนักประดาน้ำของเขา ได้ลงมือปฏิบัติ "Mission 31" ซึ่งเป็นการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ที่ใช้เวลานานที่สุดอยู่ที่สถานีนี้เป็นเวลา 31 วัน 

Fabien เลือก Curaçao เพราะพื้นที่นี้ไม่เหมือนกับหมู่เกาะแคริบเบียนอื่น ๆ มันตั้งอยู่บนภูเขา ภูมิประเทศใต้น้ำจึงมีความลาดชันเฉลี่ย 45° หากสถานที่
ตั้งเหมาะสม Proteus จะสามารถเข้าถึงระบบนิเวศที่หลากหลายและครอบคลุมตั้งแต่แนวปะการังไปจนถึงส่วนบนสุดของเขต twilight ในขณะที่บนเกาะปกคลุมไปด้วยไม้พุ่มหนาม xeric กระบองเพชร และไม้ยืนต้นนานาชนิด นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ต่างๆ เช่น กวางหางขาว ค้างคาวถ้ำ อีกัวน่าและนกหลายชนิดที่พบได้ในบริเวณชายฝั่งของเกาะ ส่วนช่องน้ำต่างๆ ของเกาะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญของเต่าทะเล
 
และสำหรับก้นมหาสมุทรนั้น มีบทบาทสำคัญอย่างมากในระบบนิเวศของเรา กล่าวคือ ยอดและหุบเขาใต้น้ำมีผลกระทบต่อกระแสน้ำในมหาสมุทรและรูปแบบสภาพอากาศ โดยเฉพาะหุบเขาและสันดอนบนพื้นทะเลสามารถมีอิทธิพลต่อทิศทางของคลื่นยักษ์สึนามิได้ หากทราบภูมิประเทศที่แน่นอน อาจคาดเดาได้ดีขึ้นว่าสึนามิจะสร้างความเสียหายที่ใดมากที่สุด ซึ่งแผนที่ 3 มิติของ Fabien ไม่เพียงเพื่อจะสร้าง Proteus ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังจะทำหน้าที่เป็นการศึกษาทางวิศวกรรมสำหรับห้องปฏิบัติการ ซึ่งเป็นก้าวหนึ่งของการเคลื่อนไหวที่ยาวนานหลายทศวรรษ เพื่อสร้างแผนที่พื้นผิวทั้งหมดของพื้นมหาสมุทรด้วย

 
 
 
 
 
 
Cr.https://www.popsci.com/technology/fabien-cousteau-proteus-underwater-international-space-station/ CHARLOTTE HU , 2022
Cr.https://paidforarticles.com/what-underwater-research-station-601908/ Dhatchanamoorthy, 2022
Cr.https://www.techexplorist.com/fabien-cousteau-proteus-underwater-research-station-habitat/34009/ AMIT MALEWAR, 2020 
Cr.https://www.fastcompany.com/90684327/this-250000-map-could-do-everything-from-predict-natural-disasters-to-aid-in-rescue-missions 
Cr.https://fla-keys.com/news/article/8833/ 
Cr.https://www.nasa.gov/mission_pages/NEEMO/facilities.html
Cr.https://www.worldatlas.com/islands/curacao.html

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)