รัสเซียประกาศ ‘หยุดยิงชั่วคราว’ เปิดเส้นทางอพยพพลเรือนจาก ‘มารียูปอล-โวลโนวาคา’
เผยแพร่: 5 มี.ค. 2565 14:58 ปรับปรุง: 5 มี.ค. 2565 14:58
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศ “หยุดยิง” บางส่วน เพื่อเปิดเส้นทางให้ประชาชนสามารถอพยพออกจากเมืองท่ามารียูปอล (Mariupol) และเมืองโวลโนวาคา (Volnovakha) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน
ถ้อยแถลงจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า “วันที่ 5 มี.ค. ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไปตามเวลากรุงมอสโก รัสเซียขอประกาศหยุดยิง และจะเปิดเส้นทางมนุษยธรรมเพื่อให้พลเรือนสามารถอพยพออกจากมารียูปอลและโวลโนวาคา”
กระทรวงฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า พื้นที่ซึ่งจะเปิดเป็นเส้นทางอพยพและทางออกนั้นได้มีการตกลงกับฝ่ายบริหารท้องถิ่นของยูเครนเรียบร้อยแล้ว
ประกาศหยุดยิงมีขึ้น หลังจากที่ วาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารียูปอล ออกมาระบุวันนี้ (5) ว่า เมืองท่าสำคัญของยูเครนกำลังถูก “ปิดล้อม” โดยกองกำลังของรัสเซีย ซึ่งระดมยิงถล่ม “อย่างไร้ความปรานี” ตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ระหว่างที่ปิดล้อมมารียูปอลอยู่หลายวัน กองทัพรัสเซียได้ทำการตัดไฟฟ้า, น้ำประปา, ระบบทำความร้อน, การคมนาคมขนส่ง รวมไปถึงเสบียงอาหารท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บในช่วงกลางฤดูหนาว จนทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าไม่ต่างอะไรกับตอนที่กองทัพนาซีปิดล้อมเลนินกราด (Leningrad) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“เรากำลังหาทางแก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ และมองหาลู่ทางต่างๆ ที่พอจะเป็นไปได้ เพื่อยุติการปิดล้อมมารียูปอล” บอยเชนโก ระบุ พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิง และเปิดทางให้มีการขนส่งอาหารและยารักษาโรคเข้ามาในเมืองแห่งนี้
ล่าสุด นายกเทศมนตรีประกาศจะเริ่มอพยพพลเรือนออกจากมารียูปอล ในเวลา 9.00 GMT หรือ 16.00 น. ตามเวลาในไทย ขณะที่สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานว่า การเปิดเส้นทางอพยพจะมีระยะเวลาเพียง 5 ชั่วโมง ระหว่าง 12.00-17.00 น. ตามเวลามอสโก (16.00-21.00 น. ในไทย)
มารียูปอลซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลอาซอฟ และมีประชากรราว 450,000 คน และถือเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของยูเครน ซึ่งหากมอสโกสามารถยึดเมืองแห่งนี้ได้ก็จะช่วยให้ทหารรัสเซียจากคาบสมุทรไครเมียสามารถขึ้นมาสมทบกับกองกำลังของกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ดอนบาสส์
สำหรับโวลโนวาคานั้นมีประชากรราว 20,000 คน ตั้งอยู่ใกล้กับแนวปะทะเดิมระหว่างกองทัพยูเครนกับกบฏในภาคตะวันออก และอยู่ห่างจากเมืองโดเนตสก์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารของฝ่ายกบฏประมาณ 60 กิโลเมตร
ที่มา: เอเอฟพี
https://mgronline.com/around/detail/9650000022033
เริ่มยัวะ! ผู้นำยูเครนจวกนาโต้ ‘อ่อนแอ’ หลังไม่ยอมประกาศ ‘เขตห้ามบิน’ ปล่อยรัสเซียทิ้งบอมบ์
เผยแพร่: 5 มี.ค. 2565 11:45 ปรับปรุง: 5 มี.ค. 2565 11:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมาตำหนิองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ที่ไม่ยอมประกาศ “เขตห้ามบิน” (no-fly zone) เหนือยูเครน ชี้เท่ากับปล่อยให้รัสเซียทิ้งระเบิดโจมตีและเข่นฆ่าชาวยูเครนได้ต่อไป
เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) นาโต้ได้ปฏิเสธคำขอของรัฐบาลเคียฟเรื่องการประกาศเขตห้ามบินเพื่อหยุดการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย แต่ได้เตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไปแล้วว่ารัสเซียจะเผชิญบทลงโทษทางเศรษฐกิจหนักหน่วงยิ่งกว่านี้ หากยังไม่รีบยุติสงคราม
“รู้ทั้งรู้ว่าการโจมตีทางอากาศและการบาดเจ็บล้มตายจะต้องเกิดขึ้น นาโต้กลับตัดสินใจไม่ปิดน่านฟ้าเหนือยูเครน” เซเลนสกี กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยทำเนียบประธานาธิบดี
“เราเชื่อว่ามีรัฐสมาชิกนาโต้ที่พยายามใช้ข้ออ้างว่า การประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครนอาจไปกระตุ้นให้รัสเซียเปิดศึกกับนาโต้โดยตรง”
เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ประกาศชัดเจนว่ากลุ่มพันธมิตร “ไม่ขอแทรกแซง” สงครามครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการปะทะกับมอสโกโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามเป็นวงกว้าง
“วิธีเดียวที่จะประกาศเขตห้ามบินได้ก็คือ ต้องส่งฝูงบินขับไล่ของนาโต้เข้าไปในน่านฟ้ายูเครน จากนั้นก็ยิงเครื่องบินรัสเซียให้ตก” สโตลเตนเบิร์ก อธิบาย “แต่หากเราทำเช่นนั้น สถานการณ์อาจจะบานปลายจนกลายเป็นสงครามเต็มขั้นทั่วยุโรป ซึ่งพัวพันถึงหลายประเทศ และจะมีประชากรที่ได้รับความทุกข์ทรมานอีกมากมายหลายเท่า”
อย่างไรก็ดี เซเลนสกี ยังคงไม่สบอารมณ์กับจุดยืนของพันธมิตร และวิจารณ์การประชุมของนาโต้ว่าเป็น “ซัมมิตที่อ่อนแอและสับสน”
“นับจากวันนี้ ประชาชนที่เสียชีวิตก็เพราะพวกคุณเป็นต้นเหตุด้วย เพราะพวกคุณอ่อนแอ และไม่ร่วมมือร่วมใจกัน...วันนี้ผู้นำนาโต้กำลังเปิดไฟเขียวให้มีการทิ้งบอมบ์ใส่เมืองและหมู่บ้านต่างๆ ของยูเครนด้วยการปฏิเสธที่จะบังคับใช้เขตห้ามบิน”
ที่มา : เอเอฟพี
https://mgronline.com/around/detail/9650000021990
ผู้นำยูเครนคงไม่เคยทำอะไรด้วยตนเอง เอาแต่ร้องขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่น ถึงได้ยอมเป็นสมาชิกนาโต้ แล้วก็ยังไม่ได้เป็นคงไม่รู้จักสุภาษิตไทย...."ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
ส่วยรัสเชียนั้นก็ยอมรับในการเจรจาเพื่อให้ประชาชนได้อพยพหนีสงคราม สันติภาพกำลังมา ได้คืบแล้วจะเอาศอกก็น่าจะได้ตามมานะคะ การขอให้เจรจาย่อมดีกว่าการประนาม
ปูตินอยากสยบผู้นำยูเครนมากกว่าที่จะทำให้ประชาชนยูเครนประสบภัยจากการสู้รบ
ประเทศไทยจะได้ไม่กระทบเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว
ขอให้สันติภาพจงบังเกิดค่ะ.....
💜มาลาริน/สันติภาพมาแล้วค่ะ...รัสเซียประกาศ ‘หยุดยิงชั่วคราว’ เปิดเส้นทางอพยพพลเรือน/รำคาญผู้นำยูเครน เอาแต่จะพึ่งนาโต้
เผยแพร่: 5 มี.ค. 2565 14:58 ปรับปรุง: 5 มี.ค. 2565 14:58
โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศ “หยุดยิง” บางส่วน เพื่อเปิดเส้นทางให้ประชาชนสามารถอพยพออกจากเมืองท่ามารียูปอล (Mariupol) และเมืองโวลโนวาคา (Volnovakha) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน
ถ้อยแถลงจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า “วันที่ 5 มี.ค. ตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไปตามเวลากรุงมอสโก รัสเซียขอประกาศหยุดยิง และจะเปิดเส้นทางมนุษยธรรมเพื่อให้พลเรือนสามารถอพยพออกจากมารียูปอลและโวลโนวาคา”
กระทรวงฯ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า พื้นที่ซึ่งจะเปิดเป็นเส้นทางอพยพและทางออกนั้นได้มีการตกลงกับฝ่ายบริหารท้องถิ่นของยูเครนเรียบร้อยแล้ว
ประกาศหยุดยิงมีขึ้น หลังจากที่ วาดิม บอยเชนโก นายกเทศมนตรีเมืองมารียูปอล ออกมาระบุวันนี้ (5) ว่า เมืองท่าสำคัญของยูเครนกำลังถูก “ปิดล้อม” โดยกองกำลังของรัสเซีย ซึ่งระดมยิงถล่ม “อย่างไร้ความปรานี” ตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ระหว่างที่ปิดล้อมมารียูปอลอยู่หลายวัน กองทัพรัสเซียได้ทำการตัดไฟฟ้า, น้ำประปา, ระบบทำความร้อน, การคมนาคมขนส่ง รวมไปถึงเสบียงอาหารท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บในช่วงกลางฤดูหนาว จนทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าไม่ต่างอะไรกับตอนที่กองทัพนาซีปิดล้อมเลนินกราด (Leningrad) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
“เรากำลังหาทางแก้ไขวิกฤตด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ และมองหาลู่ทางต่างๆ ที่พอจะเป็นไปได้ เพื่อยุติการปิดล้อมมารียูปอล” บอยเชนโก ระบุ พร้อมเรียกร้องให้รัสเซียหยุดยิง และเปิดทางให้มีการขนส่งอาหารและยารักษาโรคเข้ามาในเมืองแห่งนี้
ล่าสุด นายกเทศมนตรีประกาศจะเริ่มอพยพพลเรือนออกจากมารียูปอล ในเวลา 9.00 GMT หรือ 16.00 น. ตามเวลาในไทย ขณะที่สำนักข่าว RIA ของรัสเซียรายงานว่า การเปิดเส้นทางอพยพจะมีระยะเวลาเพียง 5 ชั่วโมง ระหว่าง 12.00-17.00 น. ตามเวลามอสโก (16.00-21.00 น. ในไทย)
มารียูปอลซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลอาซอฟ และมีประชากรราว 450,000 คน และถือเป็นเมืองยุทธศาสตร์สำคัญของยูเครน ซึ่งหากมอสโกสามารถยึดเมืองแห่งนี้ได้ก็จะช่วยให้ทหารรัสเซียจากคาบสมุทรไครเมียสามารถขึ้นมาสมทบกับกองกำลังของกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ดอนบาสส์
สำหรับโวลโนวาคานั้นมีประชากรราว 20,000 คน ตั้งอยู่ใกล้กับแนวปะทะเดิมระหว่างกองทัพยูเครนกับกบฏในภาคตะวันออก และอยู่ห่างจากเมืองโดเนตสก์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารของฝ่ายกบฏประมาณ 60 กิโลเมตร
ที่มา: เอเอฟพี
https://mgronline.com/around/detail/9650000022033
เริ่มยัวะ! ผู้นำยูเครนจวกนาโต้ ‘อ่อนแอ’ หลังไม่ยอมประกาศ ‘เขตห้ามบิน’ ปล่อยรัสเซียทิ้งบอมบ์
เผยแพร่: 5 มี.ค. 2565 11:45 ปรับปรุง: 5 มี.ค. 2565 11:45 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนออกมาตำหนิองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ที่ไม่ยอมประกาศ “เขตห้ามบิน” (no-fly zone) เหนือยูเครน ชี้เท่ากับปล่อยให้รัสเซียทิ้งระเบิดโจมตีและเข่นฆ่าชาวยูเครนได้ต่อไป
เมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) นาโต้ได้ปฏิเสธคำขอของรัฐบาลเคียฟเรื่องการประกาศเขตห้ามบินเพื่อหยุดการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย แต่ได้เตือนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ไปแล้วว่ารัสเซียจะเผชิญบทลงโทษทางเศรษฐกิจหนักหน่วงยิ่งกว่านี้ หากยังไม่รีบยุติสงคราม
“รู้ทั้งรู้ว่าการโจมตีทางอากาศและการบาดเจ็บล้มตายจะต้องเกิดขึ้น นาโต้กลับตัดสินใจไม่ปิดน่านฟ้าเหนือยูเครน” เซเลนสกี กล่าวผ่านคลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยทำเนียบประธานาธิบดี
“เราเชื่อว่ามีรัฐสมาชิกนาโต้ที่พยายามใช้ข้ออ้างว่า การประกาศเขตห้ามบินเหนือยูเครนอาจไปกระตุ้นให้รัสเซียเปิดศึกกับนาโต้โดยตรง”
เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้ ประกาศชัดเจนว่ากลุ่มพันธมิตร “ไม่ขอแทรกแซง” สงครามครั้งนี้ เพราะไม่ต้องการปะทะกับมอสโกโดยตรง ซึ่งอาจจะทำให้ความขัดแย้งลุกลามเป็นวงกว้าง
“วิธีเดียวที่จะประกาศเขตห้ามบินได้ก็คือ ต้องส่งฝูงบินขับไล่ของนาโต้เข้าไปในน่านฟ้ายูเครน จากนั้นก็ยิงเครื่องบินรัสเซียให้ตก” สโตลเตนเบิร์ก อธิบาย “แต่หากเราทำเช่นนั้น สถานการณ์อาจจะบานปลายจนกลายเป็นสงครามเต็มขั้นทั่วยุโรป ซึ่งพัวพันถึงหลายประเทศ และจะมีประชากรที่ได้รับความทุกข์ทรมานอีกมากมายหลายเท่า”
อย่างไรก็ดี เซเลนสกี ยังคงไม่สบอารมณ์กับจุดยืนของพันธมิตร และวิจารณ์การประชุมของนาโต้ว่าเป็น “ซัมมิตที่อ่อนแอและสับสน”
“นับจากวันนี้ ประชาชนที่เสียชีวิตก็เพราะพวกคุณเป็นต้นเหตุด้วย เพราะพวกคุณอ่อนแอ และไม่ร่วมมือร่วมใจกัน...วันนี้ผู้นำนาโต้กำลังเปิดไฟเขียวให้มีการทิ้งบอมบ์ใส่เมืองและหมู่บ้านต่างๆ ของยูเครนด้วยการปฏิเสธที่จะบังคับใช้เขตห้ามบิน”
ที่มา : เอเอฟพี
https://mgronline.com/around/detail/9650000021990
ผู้นำยูเครนคงไม่เคยทำอะไรด้วยตนเอง เอาแต่ร้องขอความช่วยเหลือจากประเทศอื่น ถึงได้ยอมเป็นสมาชิกนาโต้ แล้วก็ยังไม่ได้เป็นคงไม่รู้จักสุภาษิตไทย...."ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
ส่วยรัสเชียนั้นก็ยอมรับในการเจรจาเพื่อให้ประชาชนได้อพยพหนีสงคราม สันติภาพกำลังมา ได้คืบแล้วจะเอาศอกก็น่าจะได้ตามมานะคะ การขอให้เจรจาย่อมดีกว่าการประนาม
ปูตินอยากสยบผู้นำยูเครนมากกว่าที่จะทำให้ประชาชนยูเครนประสบภัยจากการสู้รบ
ประเทศไทยจะได้ไม่กระทบเรื่องเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว
ขอให้สันติภาพจงบังเกิดค่ะ.....