คุณคิดว่า รัสเซียหลงกลอเมริกาและนาโต้หรือไม่ กรณีบุกยูเครน ?



https://www.thairath.co.th/news/foreign/2305224?

เชื่อสหรัฐฯ ลวงรัสเซียทำสงครามหวังคว่ำบาตร (thairath.co.th)
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ลวงอะไรที่ไหน. ก็เป็นฝ่ายไปเปิดสงครามก่อนเอง.  ถ้าคิดว่าลวงก็ถอยซิครับ. คืนดินแดยทั้งหมดรวมทั้งไครเมียให้ยูเครน.  แค่นี้ก็จบละ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
รัสเซียไม่ได้หลงกล แต่รัสเซียตัดสินใจผิดพลาดในการเปิดบุกยูเครนก่อนครับ เนื่องจากปูตินคงมองว่าลำพังเจรจาบนโต๊ะไม่มีน้ำหนักเพียงพอจะให้ยูเครนยินยอมตามข้อเรียกร้องของรัสเซียได้ ทว่าปัญหาคือปูตินประเมินศัตรูกับมาตรการตอบโต้ต่างๆของข้าศึกต่ำเกินไป โดยรัสเซียคาดอยู่แล้วว่า สหรัฐและนาโต้จะไม่ออกหน้าช่วยยูเครนด้วยกำลังทางทหาร ซึ่งอันนี้รัสเซียคิดถูก และอาจจะเป็นเรื่องเดียวที่ปูตินคิดถูก

แต่สิ่งที่คิดผิดหรือประเมินต่ำเกินไปคือ

1) รัสเซียคาดว่าบีบยูเครนจนหน้าเขียวแล้ว แค่ลงมือส่งกองทัพบุกยูเครนก็จะพังทลายโดยง่าย ทำให้การบุกในสองวันแรกรัสเซียเน้นทำลายระบบสื่อสาร ใช้พลเคลื่อนที่เร็วเข้ายึดพื้นที่สำคัญ หวังจะกดดันให้รัฐบาลของเซเลนสกี้ละทิ้งหน้าที่หนีหายไปเอง แล้วรัสเซียค่อยส่งกองกำลังระลอกที่สองเข้ามาควบคุมพื้นที่

ทว่ารัฐบาลของเซเลนสกี้ไม่ยอมแพ้ แต่กลับปลุกระดมให้ชาวยูเครนออกมาต่อต้าน ทำให้แผนการยึดสายฟ้าแลบของรัสเซียผิดพลาด กองกำลังส่วนแรกที่ส่งเข้าไปได้รับความเสียหาย ปฏิบัติการไม่ได้ตามที่ตั้งใจ

2) รัสเซียคิดว่า เมื่อรัฐบาลเซเลนสกี้หนีหรืออาจจะแค่ออกไปจากกรุงเคียฟ ชาวยูเครนที่นิยมรัสเซียจะออกมายึดอำนาจและยอมให้รัสเซียเข้ายึดพื้นที่สำคัญโดยสะดวก แต่ปรากฏว่าฝ่ายนิยมรัสเซียในยูเครนแทบไม่มี (หรือมีก็ไม่กล้าออกมา) ทว่าฝ่ายต่อต้านกลับมีมากกว่า ทำให้การผ่านพื้นที่ของกองกำลังรัสเซียเต็มไปด้วยความขลุกขลักยากลำบาก ถูกต่อต้านไปเสียทุกหย่อมหญ้า

3) รัสเซียคาดว่าสหรัฐกับ EU น่าจะลงดาบมาตรการคว่ำบาตรแก่รัสเซียแน่ๆ แต่ปูตินคิดว่ามันอาจจะไม่รวดเร็วนัก (อาจจะต้องใช้เวลา 1-2 สัปดาห์กว่าจะเริ่มมาตรการจริงจัง) และกว่าการคว่ำบาตรจะเริ่มหรือทำให้รัสเซียจุก ยูเครนลงเละเป็นโจ๊กไปแล้ว

ซึ่งช่วงวันแรกของการบุกเหมือนปูตินจะคิดถูก เพราะทั้งไบเดนและมาร์เคลออกมาพูดว่าจะคว่ำบาตรรัสเซียก็ต้องประเมินก่อนเพื่อให้ฝ่ายตนได้รับผลกระทบน้อยสุด

ปัญหาคือพอวันที่สามเป็นต้นมา การคว่ำบาตรของชาติต่างๆตามกันออกมาอย่างต่อเนื่อง และตามด้วยการลงดาบหนักคือการตัด SWIFT ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการโอนเงิน อันนี้ทำให้รัสเซียเจ็บหนักและเจ็บเร็วกว่าที่คาดมาก

4) แรงต้านจากประชาคมโลก ปูตินอาจจะคิดผิดว่าอย่างเก่งก็เหมือนสงครามที่สหรัฐบุกอัฟกานิสถาน หรืออิสราเอลจัดการปาเลสไตน์ คงมีพวกนิยมสันติต่อต้านสงครามออกมาก่นด่าประนามปูตินแล้วสักพักมันก็หายไปกับสายลม

แต่ปรากฏว่าแรงต้านจากประชาคมโลกผ่านสื่อโซเชียลเนี่ยรุนแรงมาก มันทำให้ปูตินกลายเป็นไอ้บ้าสงครามและตัวตลกในสายตาประชาชนโลก และส่งเสริมภาพลักษณ์ให้เซเลนสกี้กลายเป็นฮีโร่ผู้ต่อต้านความอยุติธรรมไป

ผมว่าการคว่ำบาตรและมาตรการที่นานาชาติออกมาโจมตีใส่รัสเซีย ส่วนหนึ่งก็เพราะนักการเมืองในประเทศต่างๆเห็นกระแสต่อต้านสงครามนี้ และจับเอามาเล่นด้วยเพื่อสร้างผลงานทางการเมืองให้แก่ตนครับ

5) ปูตินประเมินพลวัตรทางเศรษฐกิจของรัสเซียดีเกินจริงไป คิดว่ารัสเซียจะจัดการยูเครนได้เร็ว ผลกระทบจากการคว่ำบาตรจะน้อยและยอมรับได้ แต่จากวันนี้เป็นต้นไป รัสเซียดูเหมือนจะไม่มีพลวัตรและเงินทุนมากพอจะยื้อสงครามได้นาน ท่ามกลางการตัดท่อน้ำเลี้ยงจากนานาประเทศ

6) การต่อต้านจากภายในรัสเซียเอง ปูตินพยายามบอกประชาชนถึงความจำเป็นต่างๆนาๆในการโจมตียูเครน แต่ดูเหมือนความจำเป็นนั้นจะไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้ชาวรัสเซียยอมรัดเข็มขัด ยอมอดยอมจนเพื่อเลี้ยงแนวหน้าให้ทำศึกได้ยาวนานนัก
ความคิดเห็นที่ 10
สภาพภูมิประเทศด้านที่ติดต่อกับยุโรป เป็นที่ราบลุ่มแทบทั้งหมด พรมแดนทางธรรมชาติมีเพียงแม่น้ำ ภูเขาหรือเนินเขาสักลูกนั้นหาได้ยากเย็น

เมื่อไม่มีพรมแดนทางธรรมชาติ การป้องกันประเทศจึงใช้วิธีการสร้าง "รัฐกันชน" หรือเมืองบริวาร คือมีสงครามก็มารบกันที่ที่เมืองบริวาร การพัฒนาอาวุธ ยุทโธปกรณ์ทั้งหลายก็พัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่

เมืองบริวารของรัสเซียสมัยอยู่หลังม่านเหล็ก หรือสหภาพโซเวียต อาจจะรวมถึงยุโรปตะวันออกทั้งหมด แต่ต่อมาเมื่อสหภาพโซเวียตแตกเป็นประเทศย่อยๆนั้น หลักๆ คือเบลารุส กับอูเครน ที่สำคัญอันดับ 1 โดยที่ตั้งคือเบลารุส แต่ด้วยทรัพยากรคืออูเครน

ในทางปฎิบัติการแทรกแซง หรือควบคุมกิจการในประเทศหนึ่งโดยอีกประเทศหนึ่งทั้งในยามสงครามและยามสันติ เป็นสิ่งที่มีจริง มีมานานแล้ว และมีทุกประเทศ ทั้งด้วยการค้า อุตสากรรม หรือการเมือง ความจริงคือแทบไม่มีประเทศใดในโลก ที่บริหารประเทศโดยถือผลประโยชน์ของตนเองได้โดยอิสระ อย่างไรก็ต้องคำนึงถึงประเทศอื่นๆ ทั้งที่เป็นประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศที่อยู่ห่างไกล

การแยกประเทศของสหภาพโซเวิยดก็เช่นกัน มันคือการแยกกระเป๋ากันจ่าย แยกทรัพยากร แต่นโยบายหลักๆก็เหมือนประเทศเดียวกัน ใครจะอยากทำอะไร อยากอยู่กับฝั่งไหนก็เข้า ไม่สามารถทำได้ ไม่งั้นแผ่นดินหลัก หรือ Main Land ของรัสเซียจะเผชิญถัยคุกคามทันที ซึ่งไม่มีใครยอมหรือครับ ลองสมมติให้เม็กซิโก แคนาดา อยู่ฝั่งเดียวกับรัสเซียดูสิครับ อเมริกาจะว่ายังไง (เมื่อก่อนก็มีคิวบาที่เข้ากับรัวเซีย แต่นั่นแค่เกาะเล็กๆ ยังวุ่นวาย หวิดๆจะเกิดสงครามโลกตั้งหลายครั้ง)

จะเห็นว่าที่มาของปัญหา คือ อูเครนจะไปเข้ากับเนโท ซึ่งเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือนึกยังไงก็ต้องไปศึกษาดู เพราะนี่คือสิ่งที่หาเรื่องใส่ตัวเองชัดๆ อันนี้ผมยังไม่ได้ศึกษา

ส่วนแนวทางสันติภาพ จะเห็นว่ารัสเซียไม่มีทางให้ถอยครับ ไม่มีทางเสียดินแดนในส่วนนี้ และมีกำลังพลเหนือกว่ามาก อูเครนต้านอย่างไรก็ต้านไม่อยู่ และสงครามยิ่งรบนานยิ่งเสียหาย ในทางภูมิประเทศเข้าใจว่าอาจไม่ต้องยึดทั้งอูเครน แต่แค่กรุงเคียฟ ซึ่งมีแม่น้ำใหญ่เป็นปราการทางธรรมชาติได้ส่วนหนึ่ง ก็คือรัสเซียต้องยึดให้ได้ถึงกรุงเคียฟเป็นอย่างน้อย สงครามจึงจะยุติ

ส่วนแนวทางแห่งความบรรลัยก็มี คือการส่งทหารไปช่วยอูเครนครับ รับรองว่าจากรบกันไม่กี่วันไม่กี่เดือน กลายเป็นปีแน่นอน และจะพาลพังเละเทะไม่แค่ยูเครนที่เดียวด้วย
ความคิดเห็นที่ 22
คนรัสเซียเอง ยังบอกว่า มันเป็นสงครามของปูตินและเหล่านักการเมืองรอบตัวเขา ไม่ใช่สงครามระหว่างชาวรัสเซีย กับ ยูเครน

อันนี้ก็ชัด จนไม่รู้ว่าจะชัดยังไงแล้วหล่ะ  

สำหรับปูติน ถ้าตอนนี้คิดว่าตัวเองหลงกล ถูกเขาลวง ก็แก้ไข อย่าให้ทหารรัสเซียต้องตาย+ประชาชนชาวรัสเซียต้องลำบาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่