สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 30
คำตอบอยู่ในเนื้อเรื่อง ก็เพราะพ่อแม่ของผู้หญิงเขามีการวางแผน ตัวพ่อแม่เขาเองก็อยากมีชีวิตที่ดี มีอาชีพที่ไม่ต้องแบกต้องหาม มีเงินมาให้ลูกกินลูกใช้โดยไม่ต้องกดดันลูกให้ไปหางานทำขณะที่เขายังไม่โตพอ เขาอยากเตรียมไว้ให้ลูกแต่เนิ่นๆ พวกเขาจึงใช้เวลาในวัยหนุ่มสาวทำงานหาเงินให้ได้มากที่สุด ซึ่งมันก็จะกินเวลายาวกว่าคนอื่น เขาอยากเห็นลูกเรียนสูง มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีทางเลือกในการได้ไปเที่ยว ตปท และเขาก็น่าจะอยากให้ลูกมีงานสบายรายได้ดีกว่าตัวเขายิ่งขึ้นไปอีกและยังอยากสร้างฐานะและสังคมให้ลูกมีทางเลือกในการคบเพื่อนและหาคู่ครองที่จะพาลูกเขาให้สบาย ปลอดภัย มีแต่ความสุขความเจริญ ซึ่งอาจจะมีความเกี่ยวพันกับความเป็นคนในเมืองใหญ่อยู่เพียงบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด อาจจะเพราะการศึกษาและประสบการณ์ที่เข้มข้นที่พวกเขาได้รับ ทำให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะใช่เวลาวางแผน มากกว่าทำไปแก้ไปเหมือนคนอื่น อีกอย่าง ข้อมูลตรงนี้คุณรู้อยู่ในใจ ว่าพ่อแม่ของผู้หญิงมีรายได้จากการเกษียณอายุเป็นของตัวเองรึป่าว และมีมากแค่ไหน ส่วนพ่อแม่คุณมีแผนเกษียณยังไง แล้วคุณอายุ 22 ก็ทำงานแล้ว แสดงว่าอาจจะไม่เรียนต่อ ต้องเริ่มทำงานและส่งเสียพ่อแม่ที่อายุยังไม่ถึง 50 เลย นี่ล่ะคือการวางแผน การวางแผนจะใช้เวลากว่าการคิดและทำเลย อีกอย่างที่สำคัญ เราไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะต้องสืบพันธ์ทันทีเมื่อร่างกายพร้อมเหมือนสัตว์ชนิดอื่น ธรรมชาติสร้างสมองอันชาญฉลาดให้มนุษย์นำมาใช้ในการยกระดับชีวิตให้ดีขึ้นและปลอดภัยขึ้น
ความคิดเห็นที่ 7
ตอบแบบเข้าใจง่ายๆ
1.ความคิดคนเราไม่เหมือนกัน
2.พื้นฐานครอบครัวแบบไหนก็จะส่งแนวความคิดมารุ่นสู่รุ่น ครอบครัวไหน พ่อแม่ แต่งช้า มีลูกช้า(หรือแต่งเร็ว มีลูกเร็ว) รุ่นลูกมักจะดำเนินแนวเดียวกัน
3.สังคมกลุ่มคนเรียนสูงๆ มักอยากให้ลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากๆๆๆๆ เทียบเท่าหรือดีกว่าที่ตนเองเคยได้รับ เช่น เรียนอนุบาล 3ภาษา ค่าเทอม หลักแสน ทำให้ต้องใช้เวลาทำงานเตรียมเงินมากกว่า
4.ในสภาวะปัจจุบันคนกลุ่มปัญญาชนเริ่มคิดมากเรื่องการมีบุตร ในยุคสมัยนี้
และบางคนอยากใข้ชีวิตโสดให้เต็มที่ก่อน ทั้งเรื่องงาน และเรื่องเที่ยว
5.ผู้ชายสมบูรณ์แบบในฝันของสาวๆในเมืองหายากมากขึ้นกว่าจะเจอก็อายุมากมีลูกไม่ได้
6.จากทุกข้อที่กล่าวมา ทำให้คนเมืองกลุ่มคนชั้นกลางขึ้นไป คิดมากขึ้นในการมีลูก1คน คิดไปคิดมา เลยวัยเจริญพันธุ์ จึงมียาก นี่ยังไม่นับเรื่องกิจกรรมความบันเทิงในเมืองมีมากกว่าชนบท ทำให้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องเจริญพันธุ์
1.ความคิดคนเราไม่เหมือนกัน
2.พื้นฐานครอบครัวแบบไหนก็จะส่งแนวความคิดมารุ่นสู่รุ่น ครอบครัวไหน พ่อแม่ แต่งช้า มีลูกช้า(หรือแต่งเร็ว มีลูกเร็ว) รุ่นลูกมักจะดำเนินแนวเดียวกัน
3.สังคมกลุ่มคนเรียนสูงๆ มักอยากให้ลูกมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากๆๆๆๆ เทียบเท่าหรือดีกว่าที่ตนเองเคยได้รับ เช่น เรียนอนุบาล 3ภาษา ค่าเทอม หลักแสน ทำให้ต้องใช้เวลาทำงานเตรียมเงินมากกว่า
4.ในสภาวะปัจจุบันคนกลุ่มปัญญาชนเริ่มคิดมากเรื่องการมีบุตร ในยุคสมัยนี้
และบางคนอยากใข้ชีวิตโสดให้เต็มที่ก่อน ทั้งเรื่องงาน และเรื่องเที่ยว
5.ผู้ชายสมบูรณ์แบบในฝันของสาวๆในเมืองหายากมากขึ้นกว่าจะเจอก็อายุมากมีลูกไม่ได้
6.จากทุกข้อที่กล่าวมา ทำให้คนเมืองกลุ่มคนชั้นกลางขึ้นไป คิดมากขึ้นในการมีลูก1คน คิดไปคิดมา เลยวัยเจริญพันธุ์ จึงมียาก นี่ยังไม่นับเรื่องกิจกรรมความบันเทิงในเมืองมีมากกว่าชนบท ทำให้ไม่มีเวลามาคิดเรื่องเจริญพันธุ์
แสดงความคิดเห็น
ทำไมสังคมเมืองใหญ่ ถึงแต่งงานช้า มีลูกช้ากันมากครับ