การพยากรณ์บุคคลอื่นทำได้หรือไม่
อานนท์ ! ...
เพราะกระแสแห่งธรรมย่อมถูกต้องบุคคล
ใครเล่าจะรู้เหตุนั้นได้
นอกจากตถาคต.
อานนท์ ! เพราะเหตุนั้นเเหละ
เธอทั้งหลาย
อย่าได้เป็นผู้ชอบประมาณในบุคคล
และอย่าได้ประมาณในบุคคล
เพราะผู้ถือประมาณในบุคคล
ย่อมทำลายคุณวิเศษของตน
เราหรือผู้ที่เหมือนเรา
พึงถือประมาณในบุคคลได้.
ทสก. อํ. ๒๔/๑๕๐/๗๕.
อานนท์ ! เราจักแสดง ธรรมปริยายอันชื่อว่าแว่นธรรม ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใด ได้ประกอบพร้อมแล้ว
เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้ในข้อที่ตน เป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดเดรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัย
สิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว, ในข้อที่ตนเป็น พระโสดาบันผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน เป็นผู้มีอันจะตรัสรู้ธรรมได้ในกาลเบื้องหน้า
ดังนี้.
อานนท์ ! ก็ธรรมปริยายอันชื่อว่า แว่นธรรม ในที่นี้ เป็นอย่างไรเล่า ?
อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้
ประกอบพร้อมแล้วด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ไม่หวั่นไหวในองค์พระพุทธเจ้า.... ในองค์พระธรรม....
ในองค์พระสงฆ์....และอริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วยศีลทั้งหลายชนิดเป็นที่พอใจของเหล่าอริยเจ้า คือเป็นศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นศีลที่เป็นไทจากตัณหา เป็นศีลที่ผู้รู้ท่านสรรเสริญ เป็นศีลที่ทิฏฐิไม่ลูบคลำ และเป็นศีลที่เป็นไปเพื่อสมาธิ.
อานนท์ ! ธรรมปริยายอันนี้แล ที่ชื่อว่า
แว่นธรรม ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใดได้ประกอบพร้อมแล้ว เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้, ดังนี้แล.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๕๐-๔๕๑/๑๔๗๙-๑๔๘๐.
พระสูตรแรก ห้ามพยากรณ์บุคคลอื่น ยกเว้นพระพุทธเจ้าหรือพระปัจเจก
พระสูตรหลัง พยากรณ์ตนเองได้
พยากรณ์ตนเอง และบุคคลอื่น 2 พระสูตรนี้ขัดกันหรือไม่ อย่างไร
อานนท์ ! ...
เพราะกระแสแห่งธรรมย่อมถูกต้องบุคคล
ใครเล่าจะรู้เหตุนั้นได้
นอกจากตถาคต.
อานนท์ ! เพราะเหตุนั้นเเหละ
เธอทั้งหลาย
อย่าได้เป็นผู้ชอบประมาณในบุคคล
และอย่าได้ประมาณในบุคคล
เพราะผู้ถือประมาณในบุคคล
ย่อมทำลายคุณวิเศษของตน
เราหรือผู้ที่เหมือนเรา
พึงถือประมาณในบุคคลได้.
ทสก. อํ. ๒๔/๑๕๐/๗๕.
อานนท์ ! เราจักแสดง ธรรมปริยายอันชื่อว่าแว่นธรรม ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใด ได้ประกอบพร้อมแล้ว
เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้ในข้อที่ตน เป็นผู้มีนรกสิ้นแล้ว มีกำเนิดเดรัจฉานสิ้นแล้ว มีเปรตวิสัย
สิ้นแล้ว มีอบาย ทุคติ วินิบาตสิ้นแล้ว, ในข้อที่ตนเป็น พระโสดาบันผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน เป็นผู้มีอันจะตรัสรู้ธรรมได้ในกาลเบื้องหน้า
ดังนี้.
อานนท์ ! ก็ธรรมปริยายอันชื่อว่า แว่นธรรม ในที่นี้ เป็นอย่างไรเล่า ?
อานนท์ ! อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้
ประกอบพร้อมแล้วด้วยความเลื่อมใสอันหยั่งลงมั่น ไม่หวั่นไหวในองค์พระพุทธเจ้า.... ในองค์พระธรรม....
ในองค์พระสงฆ์....และอริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้ประกอบพร้อมแล้วด้วยศีลทั้งหลายชนิดเป็นที่พอใจของเหล่าอริยเจ้า คือเป็นศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นศีลที่เป็นไทจากตัณหา เป็นศีลที่ผู้รู้ท่านสรรเสริญ เป็นศีลที่ทิฏฐิไม่ลูบคลำ และเป็นศีลที่เป็นไปเพื่อสมาธิ.
อานนท์ ! ธรรมปริยายอันนี้แล ที่ชื่อว่า
แว่นธรรม ซึ่งหากอริยสาวกผู้ใดได้ประกอบพร้อมแล้ว เมื่อจำนงจะพยากรณ์ตนเอง ก็พึงทำได้, ดังนี้แล.
มหาวาร. สํ. ๑๙/๔๕๐-๔๕๑/๑๔๗๙-๑๔๘๐.
พระสูตรแรก ห้ามพยากรณ์บุคคลอื่น ยกเว้นพระพุทธเจ้าหรือพระปัจเจก
พระสูตรหลัง พยากรณ์ตนเองได้