เมื่อเร็วๆนี้รุ่นน้องมาคุยถึงครีมตัวนึงให้ฟัง บอกน่าใช้มาก อยากลอง พอเอารูปให้ดูคือเป็นครีมคล้ายๆกับแบบที่เราเคยใช้แล้วแพ้หนักมาก ถึงจะไม่ใช่ยี่ห้อเดียวกันแต่เห็นแล้วรู้เลยว่าโมเดลเดียวกัน เป็นครีมกิโล ครีมกวนเอง ที่ขายในเน็ตแบบไม่มีการรับรอง ไม่มีมาตรฐานอะไรทั้งนั้น มีแต่โฆษณารีวิวที่เห็นผลแบบเวอร์ๆ แบบทาปุ๊บขาวปั๊บ หรือทาปุ๊บแขนสองข้างขาวไม่เท่ากัน อะไรประมาณนี้เราว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นตามเน็ต ตามติ๊กต่อกมาบ้างใช่มั้ยคะ นั่นแหละ เราเลยเตือนน้องไป แล้วถึงได้มารู้ว่าจนถึงตอนนี้ ก็ยังมีคนเชื่อครีมพวกนี้เยอะมากกกกก แบบมากจนน่าตกใจ ทั้งที่มีเคสหน้าพังให้เห็นกันเยอะแยะ แถมยังมีข่าวจับโรงงานครีมเถื่อน ครีมปลอม ครีมกวนเองมาตลอด แต่หลายคนก็ยังอยากลอง น้องเรายังโชคดีที่มาบอกเราก่อน แล้วเรามีหลักฐานตอนหน้าพังให้ดู ถึงได้กลัว แล้วยอมไม่ใช้ เราเลยอยากมาแชร์เรื่องนี้เผื่อจะเตือนใจสาวๆหลายคนได้ค่ะ
https://www.pptvhd36.com/news/141504
https://www.thairath.co.th/news/crime/2135640
https://www.khaosod.co.th/crime/news_6583194
อย่างที่บอกว่าเราเคยเป็นเหยื่อเพราะครีมจากเน็ตมาก่อน ใช้จนหน้าพังไปหลายปี ปัจจุบันก็ดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ยังไม่หายสนิทเต็มร้อย ยังมีสิวมีรอยอยู่บ้าง ซึ่งก็หาทางรักษากันต่อไป พอมาเจอแบบนี้ก็ตกใจเหมือนกันนะ เพราะไม่น่าเชื่อว่าหลายปีแล้วครีมกวนแบบนี้ก็ยังได้รับความนิยมเสมอ ทั้งที่มันควรจะสูญพันธุ์ไปได้ตั้งนานแล้ว
เราก็เหมือนกับผู้หญิงหลายๆคนแหละ คืออยากสวย อยากผิวขาวใส แต่ทำได้แค่อยากเพราะตัวจริงเราไม่ได้สวยและผิวก็ไม่เนียนใสตาม beauty standard บวกกับตอนนั้นก็แอบชอบรุ่นพี่คนนึงอยู่ด้วย คิดว่าถ้าตัวเองขาวขึ้นสวยขึ้นอะไรๆมันคงจะดีกว่านี้ ดีไม่ดีรุ่นพี่อาจจะชอบเราด้วยก็ได้(เพ้อเจ้อมาก ยอมรับ ไม่เถียงเลย) และด้วยความซื่อแบบเด็กๆอ่ะ คิดแค่ว่าอยากขาวไวๆ เลยหลงไปใช้ครีมกวนจากอินเทอร์เน็ต เพราะเห็นรีวิวหลายคนบอกใช้ดีหน้าใส แบบที่รีวิวกันเยอะๆในติ๊กต่อกนั่นแหละ บวกกับราคาที่ไม่แพง แบบเฮ้ยมันดีขนาดนั้นเลยดิ มันต้องลองแล้ว สอยมาเลยสองกระปุกจุกๆ ทาวนไปทั้งเช้าเย็น
ตอนแรกมันก็ได้ผลนะจริงๆ หน้าใสขึ้นมากๆ ปลื้มปริ่มมาก ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิวสวยมากเท่านี้มาก่อน จนกระทั่งเราใช้ไปได้หมดกระปุกแรก เท่านั้นแหละ สวรรค์พลิกกลับมาเป็นนรก เพราะหน้าจู่ๆก็มีสิวเห่อเต็มไปหมด แถมยังแสบและทรมานมากๆ ทั้งช็อคทั้งงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ ทำไมหน้าเราเป็นแบบนี้ไปได้ฟะ และพึ่งมาเข้าใจตอนหลังว่าครีมที่ซื้อจากเน็ตมาใช้เป็นครีมปรอท และผลจากการใช้ทำให้หน้าพังจนแทบดูไม่ได้ จากหน้าดีๆเลยกลายเป็นหน้าสิวนี่แหละ อยู่ดีไม่ว่าดีแท้ๆ

นอกจากความทรมานจากการอักเสบแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่ทำร้ายจิตใจเรามาก ตอนนั้นฟีลเหมือนโลกพังเลยอ่ะ ไม่กล้าส่องกระจกเพราะกลัวและเกลียดตัวเอง อับอายจนแทบจะไม่อยากไปโรงเรียน คือหนักขนาดที่นอนร้องไห้ทุกคืน รับไม่ได้กับสภาพตัวเองจริงๆ จนแม่ต้องพาไปหาหมอคลินิก หมอก็แนะนำให้พักหน้าเลย และให้บำรุงผิวด้วยครีมให้ความชุ่มชื้นของคลินิก แต่เนื่องจากการเข้าคลินิกเนี่ยราคาแรงอยู่ เราเลยไม่ได้ไปเข้าคลินิกต่อเนื่อง การรักษาส่วนใหญ่เลยเป็นการรักษาเองตามมีตามเกิด ดูข้อมูลจากในเน็ตและก็ไปซื้อยาทางร้านยาที่ราคาถูกกว่า เภสัชก็จ่ายเจลว่านหางจระเข้กับ Ezerra cream มาใช้ ส่วนแม่ก็บอกให้เราให้ใช้ไข่ขาวมาส์กหน้าสัปดาห์ละครั้งจะช่วยได้ อันนี้เป็นเคล็ดลับของแม่เอง ช่วงนั้นก็เสียไข่ไปเยอะอยู่ด้วยเหมือนกัน

ช่วงนั้นคือใช้สามอันนี้วนไป (ขอยืมรูปจากเน็ตนะคะ) ซึ่งก็ใช้แบบนี้มาเป็นปีๆเลย แล้วจะบอกว่ามันเวิร์กนะ คือหน้าดีขึ้น มันไม่อักเสบไม่แสบเหมือนแต่ก่อน

ช่วงนั้นก็ทนอยู่กับสภาพแบบนี้แหละ งดใช้ครีมงดแต่งหน้าไปเลยเป็นปี รักษาสิวไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันก็คือสิวเหลือน้อยแล้ว เหลือแค่รอยสิวเนี่ยแหละ ซึ่งรอยสิวเนี่ยรักษาได้ยากกว่าสิว แถมยังราคาสูงกว่าด้วย เคยลองเช็คราคาเลเซอร์ทีเป็นหมื่น สู้ไม่ไหว
ถึงตรงนี้ก็เข้าสู่จุดแห่งการปลงชีวิตบรรลุธรรม

จริงๆก็คือเข็ดขยาดแล้วกับอะไรที่ราคาถูกแต่เคลมผลลัพธ์แบบหลักล้าน หน้าแหกแล้วแหกอีก โมโหจนไม่รู้จะโมโหยังไง แต่มันแก้ไขไรไม่ได้แล้วอ่ะ มันเกิดขึ้นไปแล้ว ก็เริ่มที่จะทำใจยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง คิดในแง่ดีว่าเอออย่างน้อยสิวก็หายแล้ว ก็เหลือแค่รอยสิวที่เราต้องจัดการต่อไป

แล้วพอดีว่าเราได้มีโอกาสดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง true beauty ที่นางเอกเป็นคนหน้าพัง สิวขึ้นเหมือนตัวเราเลย แต่ก็สวยปิ๊งได้ด้วยการแต่งหน้า พอดูแล้วเกิดแรงฮึดเลยค่ะ แบบว่าเฮ้ยเรายังมียังมีโอกาสสวยได้นะ ชีวิตมันไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น คราวนี้เลยเบนเข็มมาสายเมคอัพแทน เริ่มฝึกแต่งหน้าปกปิดรอยสิวที่ดูมาจากในเน็ต ถ้ารักษามันยากเย็นนักก็ปกปิดมันไปซะเลย

เครื่องสำอางที่เราใช้ก็เลือกแบบที่เน้นปกปิดดี แต่ต้องไม่ทำให้ผิวอุดตัน และไม่หนาเตอะจนเหมือนปูน ไม่งั้นเดี๋ยวสิวจะขึ้นมาอีก ตรงนี้ก็ต้องเลือกให้ดี ให้เข้ากับสภาพผิวหน้าเราด้วย รองพื้นกับแป้งเราใช้ของ Deesay เหมาะกับคนหน้ามันและคนมีรอยสิวเยอะคือกริบเลย แล้วก็คอนซีลเลอร์ของ Catrice เอาไว้แตะๆปิดจุดที่รอยเข้มมากๆ ส่วนลิปสติกมีเยอะมาก แต่สีประจำก็เป็นสีนี้ของ Cezanne เนื้อไม่แห้ง สีสวย เราว่าทาแล้วหน้าสดใสดี แล้วก็บลัชออน Canmake กับ 4U2 คือชอบมากเพราะมันละมุนแบบธรรมชาติ ให้ฟีลเลือดฝาดสวยๆ เอามาทาตาทาปากได้ด้วย หลักๆก็ใชแค่ประมาณนี้แหละไม่อยากโบกหนา จะบอกว่าการแต่งหน้าให้สวยและเนียนกริบไม่ใช่เรื่องง่ายนะ สำหรับเราคือยากมาก ยิ่งกับคนที่หน้าพังแบบเรา แต่ก็รู้สึกสนุกกับมัน ให้ความรู้สึกเหมือนเรียนศิลปะเลย แต่เปลี่ยนจากวาดรูประบายสีบนกระดาษมาเป็นบนหน้าเราแทน กลายเป็นว่าสิ่งดีๆที่ได้จากเรื่องนี้คือทำให้เราแต่งหน้าเป็นค่ะ ไปๆมาๆตอนนี้คิดว่าตัวเองกลายเป็นนางเอก True Beauty แล้วเสียแต่ยังไม่เจอพระเอกหล่อๆแบบชาอึนอูสักที
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือประสบการณ์ของตัวเองที่ใช้ชีวิตกับความหน้าพังมาเป็นปีๆ แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่หายสนิท และอยากจะเตือนใจใครก็ตามที่คิดจะลองครีมจากในเน็ตเพราะเชื่อรีวิวหรือว่าอะไร อยากให้คิดให้ดีๆก่อนจะเสียเงินกับสิ่งที่ส่งผลกับร่างกายเราโดยตรง อย่าเห็นแก่ของถูกหรือใจร้อนอยากเห็นผลไวๆจนเกินพอดี เลือกใช้ของดีมีคุณภาพจะปลอดภัยกว่า เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นการแก้ไขทีหลังมันไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างเราเองก็ไม่ได้หายขาด ก็ยังรักษาตัวเองอยู่ตลอด เวลาไปข้างนอกก็แต่งหน้าปิดเอาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และต้องล้างทำความสะอาดหน้าทุกครั้งเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นสิวอีก แต่ความผิดพลาดครั้งนี้ก็ทำให้เราคิดได้อย่างนึงคือ คนเราต้องยอมรับในความบกพร่องของตัวเองบ้าง ไม่มีใครเกิดมาเพอร์เฟคท์ และต้องมีสติ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่มันเกินจริง ไอ้ครีมอะไรที่สรรพคุณเวอร์วังนี่ตีไว้ก่อนเลยว่าเชื่อถือไม่ได้ ก็หวังว่ากระทู้เราจะช่วยเตือนสติทุกคนได้บ้างนะคะ
[กระทู้เตือนใจ] เกิดมามีกรรมหน้าพังเพราะครีมกวน เสียเวลารักษาเป็นปีกว่าจะดีขึ้น
https://www.pptvhd36.com/news/141504
https://www.thairath.co.th/news/crime/2135640
https://www.khaosod.co.th/crime/news_6583194
อย่างที่บอกว่าเราเคยเป็นเหยื่อเพราะครีมจากเน็ตมาก่อน ใช้จนหน้าพังไปหลายปี ปัจจุบันก็ดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ยังไม่หายสนิทเต็มร้อย ยังมีสิวมีรอยอยู่บ้าง ซึ่งก็หาทางรักษากันต่อไป พอมาเจอแบบนี้ก็ตกใจเหมือนกันนะ เพราะไม่น่าเชื่อว่าหลายปีแล้วครีมกวนแบบนี้ก็ยังได้รับความนิยมเสมอ ทั้งที่มันควรจะสูญพันธุ์ไปได้ตั้งนานแล้ว
เราก็เหมือนกับผู้หญิงหลายๆคนแหละ คืออยากสวย อยากผิวขาวใส แต่ทำได้แค่อยากเพราะตัวจริงเราไม่ได้สวยและผิวก็ไม่เนียนใสตาม beauty standard บวกกับตอนนั้นก็แอบชอบรุ่นพี่คนนึงอยู่ด้วย คิดว่าถ้าตัวเองขาวขึ้นสวยขึ้นอะไรๆมันคงจะดีกว่านี้ ดีไม่ดีรุ่นพี่อาจจะชอบเราด้วยก็ได้(เพ้อเจ้อมาก ยอมรับ ไม่เถียงเลย) และด้วยความซื่อแบบเด็กๆอ่ะ คิดแค่ว่าอยากขาวไวๆ เลยหลงไปใช้ครีมกวนจากอินเทอร์เน็ต เพราะเห็นรีวิวหลายคนบอกใช้ดีหน้าใส แบบที่รีวิวกันเยอะๆในติ๊กต่อกนั่นแหละ บวกกับราคาที่ไม่แพง แบบเฮ้ยมันดีขนาดนั้นเลยดิ มันต้องลองแล้ว สอยมาเลยสองกระปุกจุกๆ ทาวนไปทั้งเช้าเย็น
ตอนแรกมันก็ได้ผลนะจริงๆ หน้าใสขึ้นมากๆ ปลื้มปริ่มมาก ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองผิวสวยมากเท่านี้มาก่อน จนกระทั่งเราใช้ไปได้หมดกระปุกแรก เท่านั้นแหละ สวรรค์พลิกกลับมาเป็นนรก เพราะหน้าจู่ๆก็มีสิวเห่อเต็มไปหมด แถมยังแสบและทรมานมากๆ ทั้งช็อคทั้งงงว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ ทำไมหน้าเราเป็นแบบนี้ไปได้ฟะ และพึ่งมาเข้าใจตอนหลังว่าครีมที่ซื้อจากเน็ตมาใช้เป็นครีมปรอท และผลจากการใช้ทำให้หน้าพังจนแทบดูไม่ได้ จากหน้าดีๆเลยกลายเป็นหน้าสิวนี่แหละ อยู่ดีไม่ว่าดีแท้ๆ
นอกจากความทรมานจากการอักเสบแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่ทำร้ายจิตใจเรามาก ตอนนั้นฟีลเหมือนโลกพังเลยอ่ะ ไม่กล้าส่องกระจกเพราะกลัวและเกลียดตัวเอง อับอายจนแทบจะไม่อยากไปโรงเรียน คือหนักขนาดที่นอนร้องไห้ทุกคืน รับไม่ได้กับสภาพตัวเองจริงๆ จนแม่ต้องพาไปหาหมอคลินิก หมอก็แนะนำให้พักหน้าเลย และให้บำรุงผิวด้วยครีมให้ความชุ่มชื้นของคลินิก แต่เนื่องจากการเข้าคลินิกเนี่ยราคาแรงอยู่ เราเลยไม่ได้ไปเข้าคลินิกต่อเนื่อง การรักษาส่วนใหญ่เลยเป็นการรักษาเองตามมีตามเกิด ดูข้อมูลจากในเน็ตและก็ไปซื้อยาทางร้านยาที่ราคาถูกกว่า เภสัชก็จ่ายเจลว่านหางจระเข้กับ Ezerra cream มาใช้ ส่วนแม่ก็บอกให้เราให้ใช้ไข่ขาวมาส์กหน้าสัปดาห์ละครั้งจะช่วยได้ อันนี้เป็นเคล็ดลับของแม่เอง ช่วงนั้นก็เสียไข่ไปเยอะอยู่ด้วยเหมือนกัน
ช่วงนั้นคือใช้สามอันนี้วนไป (ขอยืมรูปจากเน็ตนะคะ) ซึ่งก็ใช้แบบนี้มาเป็นปีๆเลย แล้วจะบอกว่ามันเวิร์กนะ คือหน้าดีขึ้น มันไม่อักเสบไม่แสบเหมือนแต่ก่อน
ช่วงนั้นก็ทนอยู่กับสภาพแบบนี้แหละ งดใช้ครีมงดแต่งหน้าไปเลยเป็นปี รักษาสิวไปเรื่อยๆ จนปัจจุบันก็คือสิวเหลือน้อยแล้ว เหลือแค่รอยสิวเนี่ยแหละ ซึ่งรอยสิวเนี่ยรักษาได้ยากกว่าสิว แถมยังราคาสูงกว่าด้วย เคยลองเช็คราคาเลเซอร์ทีเป็นหมื่น สู้ไม่ไหว
ถึงตรงนี้ก็เข้าสู่จุดแห่งการปลงชีวิตบรรลุธรรม
แล้วพอดีว่าเราได้มีโอกาสดูซีรีส์เกาหลีเรื่อง true beauty ที่นางเอกเป็นคนหน้าพัง สิวขึ้นเหมือนตัวเราเลย แต่ก็สวยปิ๊งได้ด้วยการแต่งหน้า พอดูแล้วเกิดแรงฮึดเลยค่ะ แบบว่าเฮ้ยเรายังมียังมีโอกาสสวยได้นะ ชีวิตมันไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น คราวนี้เลยเบนเข็มมาสายเมคอัพแทน เริ่มฝึกแต่งหน้าปกปิดรอยสิวที่ดูมาจากในเน็ต ถ้ารักษามันยากเย็นนักก็ปกปิดมันไปซะเลย
เครื่องสำอางที่เราใช้ก็เลือกแบบที่เน้นปกปิดดี แต่ต้องไม่ทำให้ผิวอุดตัน และไม่หนาเตอะจนเหมือนปูน ไม่งั้นเดี๋ยวสิวจะขึ้นมาอีก ตรงนี้ก็ต้องเลือกให้ดี ให้เข้ากับสภาพผิวหน้าเราด้วย รองพื้นกับแป้งเราใช้ของ Deesay เหมาะกับคนหน้ามันและคนมีรอยสิวเยอะคือกริบเลย แล้วก็คอนซีลเลอร์ของ Catrice เอาไว้แตะๆปิดจุดที่รอยเข้มมากๆ ส่วนลิปสติกมีเยอะมาก แต่สีประจำก็เป็นสีนี้ของ Cezanne เนื้อไม่แห้ง สีสวย เราว่าทาแล้วหน้าสดใสดี แล้วก็บลัชออน Canmake กับ 4U2 คือชอบมากเพราะมันละมุนแบบธรรมชาติ ให้ฟีลเลือดฝาดสวยๆ เอามาทาตาทาปากได้ด้วย หลักๆก็ใชแค่ประมาณนี้แหละไม่อยากโบกหนา จะบอกว่าการแต่งหน้าให้สวยและเนียนกริบไม่ใช่เรื่องง่ายนะ สำหรับเราคือยากมาก ยิ่งกับคนที่หน้าพังแบบเรา แต่ก็รู้สึกสนุกกับมัน ให้ความรู้สึกเหมือนเรียนศิลปะเลย แต่เปลี่ยนจากวาดรูประบายสีบนกระดาษมาเป็นบนหน้าเราแทน กลายเป็นว่าสิ่งดีๆที่ได้จากเรื่องนี้คือทำให้เราแต่งหน้าเป็นค่ะ ไปๆมาๆตอนนี้คิดว่าตัวเองกลายเป็นนางเอก True Beauty แล้วเสียแต่ยังไม่เจอพระเอกหล่อๆแบบชาอึนอูสักที
ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือประสบการณ์ของตัวเองที่ใช้ชีวิตกับความหน้าพังมาเป็นปีๆ แม้กระทั่งทุกวันนี้ก็ยังไม่หายสนิท และอยากจะเตือนใจใครก็ตามที่คิดจะลองครีมจากในเน็ตเพราะเชื่อรีวิวหรือว่าอะไร อยากให้คิดให้ดีๆก่อนจะเสียเงินกับสิ่งที่ส่งผลกับร่างกายเราโดยตรง อย่าเห็นแก่ของถูกหรือใจร้อนอยากเห็นผลไวๆจนเกินพอดี เลือกใช้ของดีมีคุณภาพจะปลอดภัยกว่า เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นการแก้ไขทีหลังมันไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างเราเองก็ไม่ได้หายขาด ก็ยังรักษาตัวเองอยู่ตลอด เวลาไปข้างนอกก็แต่งหน้าปิดเอาเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และต้องล้างทำความสะอาดหน้าทุกครั้งเพื่อไม่ให้กลับมาเป็นสิวอีก แต่ความผิดพลาดครั้งนี้ก็ทำให้เราคิดได้อย่างนึงคือ คนเราต้องยอมรับในความบกพร่องของตัวเองบ้าง ไม่มีใครเกิดมาเพอร์เฟคท์ และต้องมีสติ อย่าหลงเชื่อคำโฆษณาที่มันเกินจริง ไอ้ครีมอะไรที่สรรพคุณเวอร์วังนี่ตีไว้ก่อนเลยว่าเชื่อถือไม่ได้ ก็หวังว่ากระทู้เราจะช่วยเตือนสติทุกคนได้บ้างนะคะ