คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 30
เราอยู่ที่อเมริกานะคะ เราทำงานในโรงแรม และเคยเป็นผู้จัดการโรงแรมด้วยนะคะ
ในโรงแรมของเรามีสามีภรรยา ทำงานร่วมกันหลายคู่ เพราะเป็นโรงแรมใหญ่ แต่ส่วนมากจะอยู่กันคนละแผนก ปกติแล้วจะบริษัทในอเมริกันส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยให้สามีภรรยาทำงานแผนกเดียวกัน เพื่อกันข้อหาไม่ยุติธรรม และการนำปัญหาส่วนตัวมาลงกับเรื่องงาน ส่วนใหญ่จะเห็นมาด้วยกัน พอจะลงจากรถก็จุ๊บกันทีนึง แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน ตกเย็นเดินมาเจอกันที่ไหนสักที่ จูบกันทีนึง ก็ขึ้นรถกลับบ้าน
ที่อเมริกามีกฎหมายคุ้มครองในเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่บทลงโทษหนักมาก ดังนั้น Romance in work place หรือการจะจีบเพื่อนร่วมงานจึงต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง ถึงแม้ว่าคนอเมริกันจะถือเรื่อง sex เป็นเรื่องธรรมดาของปกติชน หากแต่ทั้งสองฝ่ายต้องเต็มใจ ถ้าเมื่อไหร่เพื่อนร่วมงานคนไหน ออกตัวแรงไปจีบใคร แล้วเขาไม่เล่นด้วย ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ขนาดแค่ซื้อดอกไม้ไปให้ทุกวัน ดักรอตรงประตูทางเข้าทุกวัน แม้ไม้ได้แตะต้องเนื้อตัว จับมือถือแขน ถ้าอีกฝ่ายมีความรู้สึกอึดอัด และรู้สึกว่าโดนคุกคามทางเพศ เขาก็สามารถฟ้องร้องต่อเจ้านาย หรือถึงขั้นบานปลายถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายได้
ทีนี้มาดูกรณี เพื่อนร่วมแผนกเกิดปิ๊งกันในขณะที่ทำงานด้วยกัน ถ้าเป็นกรณีหัวหน้ากับลูกน้อง ความรักเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อค่ะมันไม่ผิด แต่กรณีหัวหน้ากับลูกน้อง ต้องระวังในเรื่องความเท่าเทียมไม่ลำเอียง เพราะถ้าเมื่อไหร่ลูกน้องคนอื่นคิดว่า หัวหน้าเริ่มลำเอียงเข้าข้างแฟนตัวเอง อันนี้หัวหน้าก็อาจจะถูกฟ้องร้อง และถูกการดำเนินการไต่สวนจากฝ่ายบุคคลได้ ตอนนั้นเราทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล และเป็นผู้จัดการ เจอคดีแบบนี้เยอะค่ะ สุดท้ายผลสุรปก็คือคนเป็นแฟน ที่เป็นลูกน้อง ต้องตัดสินใจขอย้ายแผนกหรือลาออก เพื่อให้แฟนที่เป็นหัวหน้า ได้อยู่ทำงานต่อไป เพราะได้เงินเดือนเยอะกว่า
สรุปง่ายๆ ก็คือ Romance in work place ในอเมริกา ทำได้แต่ห้ามประเจิดประเจ้อค่ะ ที่จูบกันแบบดูดดื่มลิ้นตวัดพันกันสามร้อยรอบนี่ ไม่เคยเห็นค่ะ ส่วนการแสดงความรักในที่สาธารณะ อันนั้นแล้วแต่คู่ค่ะ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจอจูบกันแบบดูดดื่ม นอกจากเป็นในบาร์ในผับค่ะ
ในโรงแรมของเรามีสามีภรรยา ทำงานร่วมกันหลายคู่ เพราะเป็นโรงแรมใหญ่ แต่ส่วนมากจะอยู่กันคนละแผนก ปกติแล้วจะบริษัทในอเมริกันส่วนใหญ่ จะไม่ค่อยให้สามีภรรยาทำงานแผนกเดียวกัน เพื่อกันข้อหาไม่ยุติธรรม และการนำปัญหาส่วนตัวมาลงกับเรื่องงาน ส่วนใหญ่จะเห็นมาด้วยกัน พอจะลงจากรถก็จุ๊บกันทีนึง แล้วก็แยกย้ายกันไปทำงาน ตกเย็นเดินมาเจอกันที่ไหนสักที่ จูบกันทีนึง ก็ขึ้นรถกลับบ้าน
ที่อเมริกามีกฎหมายคุ้มครองในเรื่องการคุกคามทางเพศ ที่บทลงโทษหนักมาก ดังนั้น Romance in work place หรือการจะจีบเพื่อนร่วมงานจึงต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง ถึงแม้ว่าคนอเมริกันจะถือเรื่อง sex เป็นเรื่องธรรมดาของปกติชน หากแต่ทั้งสองฝ่ายต้องเต็มใจ ถ้าเมื่อไหร่เพื่อนร่วมงานคนไหน ออกตัวแรงไปจีบใคร แล้วเขาไม่เล่นด้วย ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ขนาดแค่ซื้อดอกไม้ไปให้ทุกวัน ดักรอตรงประตูทางเข้าทุกวัน แม้ไม้ได้แตะต้องเนื้อตัว จับมือถือแขน ถ้าอีกฝ่ายมีความรู้สึกอึดอัด และรู้สึกว่าโดนคุกคามทางเพศ เขาก็สามารถฟ้องร้องต่อเจ้านาย หรือถึงขั้นบานปลายถูกฟ้องร้องดำเนินคดีทางกฎหมายได้
ทีนี้มาดูกรณี เพื่อนร่วมแผนกเกิดปิ๊งกันในขณะที่ทำงานด้วยกัน ถ้าเป็นกรณีหัวหน้ากับลูกน้อง ความรักเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อค่ะมันไม่ผิด แต่กรณีหัวหน้ากับลูกน้อง ต้องระวังในเรื่องความเท่าเทียมไม่ลำเอียง เพราะถ้าเมื่อไหร่ลูกน้องคนอื่นคิดว่า หัวหน้าเริ่มลำเอียงเข้าข้างแฟนตัวเอง อันนี้หัวหน้าก็อาจจะถูกฟ้องร้อง และถูกการดำเนินการไต่สวนจากฝ่ายบุคคลได้ ตอนนั้นเราทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายบุคคล และเป็นผู้จัดการ เจอคดีแบบนี้เยอะค่ะ สุดท้ายผลสุรปก็คือคนเป็นแฟน ที่เป็นลูกน้อง ต้องตัดสินใจขอย้ายแผนกหรือลาออก เพื่อให้แฟนที่เป็นหัวหน้า ได้อยู่ทำงานต่อไป เพราะได้เงินเดือนเยอะกว่า
สรุปง่ายๆ ก็คือ Romance in work place ในอเมริกา ทำได้แต่ห้ามประเจิดประเจ้อค่ะ ที่จูบกันแบบดูดดื่มลิ้นตวัดพันกันสามร้อยรอบนี่ ไม่เคยเห็นค่ะ ส่วนการแสดงความรักในที่สาธารณะ อันนั้นแล้วแต่คู่ค่ะ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเจอจูบกันแบบดูดดื่ม นอกจากเป็นในบาร์ในผับค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
งานออฟฟิศที่อเมริกา ต่อให้เป็นสามีภรรยากันก็ไม่จูบค่ะ จะมาประเจิดประเจ้อในที่ทำงานนี่เราไม่เคยเห็น ยิ่งตน.สูงยิ่งระวังตัวกันมาก ฝรั่งนี่ก็นินทากันนะ ยิ่งถ้าเจอพวก conservatives หรือเคร่งๆนี่ ต่อให้คุณจู๋จี๋คู่ของคุณแต่เขารู้สึกว่าประเจิดประเจ้อเกินเขารู้สึก offend เขาก็หาว่า sexual harassment ได้
แสดงความคิดเห็น
ในชีวิตจริง ฝรั่งที่เป็นแฟนกันหรือกิ๊กกัน แล้วทำงานที่เดียวกัน เค้ามีการจูบปากกันในออฟฟิศให้คนอื่นเห็นแบบในหนังมั้ยครับ
ขอถามคนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศฝรั่งด้วยน่ะครับ