'สรยุทธ' พาช่อง 3 กลับมาแล้ว ปี 64 โชว์กำไร 761 ล้าน หลังขาดทุน 3 ปี
.
หลังเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัล BEC หรือช่อง 3 ของตระกูลมาลีนนท์ ต้องเจอกับภาวะขาดทุนหนักมาตั้งแต่ปี 2561 จนต้องเปลี่ยนแม่ทัพ-ลดขนาดองค์กรครั้งใหญ่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วันนี้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญของ ช่อง 3 เมื่อตัวเลขปี 2564 โชว์กำไรในรอบ 3 ปี
หากย้อนดูผลประกอบการ ช่อง 3 จากธุรกิจที่เคยทำรายได้สูงสุดในปี 2556 ที่ 16,637 ล้านบาท กำไร 5,589 ล้านบาท เมื่อเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัลในปี 2557 จำนวนช่องฟรีทีวีเพิ่มขึ้น และการเติบโตของสื่อออนไลน์ รวมทั้งการแบกต้นทุนสูงจากการประมูลทีวีดิจิทัลมา 3 ช่อง ทำให้เริ่มขาดทุนในปี 2561 มาในปี 2562 จึงขอคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง (ช่อง 13 และ ช่อง 28) เหลือไว้เพียงช่องเดียว คือ ช่อง 33
หลังปรับโครงสร้างลดขนาดองค์กรเพื่อลดต้นทุน วางกลยุทธ์ธุรกิจ Single Content - Multiple Platform นำคอนเทนต์ละครช่อง 3 ไปต่อยอดขายลิขสิทธิ์ในทุกแพลตฟอร์ม ช่อง 3 เริ่มกลับมาเห็น “กำไร” รายไตรมาสอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2563 นับถึงไตรมาส 4 ปี 2564 ทำกำไรติดกันมาแล้ว 6 ไตรมาส
สรุปปิดปี 2564 ด้วยกำไร 761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455% เทียบปีก่อนหน้าที่ขาดทุน ถือเป็นผลประกอบการรายปีที่กลับมากำไรอีกครั้งในรอบ 3 ปี
ย้อนดูผลประกอบการBECปี2561-2564
- ปี 2561 รายได้ 10,486 ล้านบาท ขาดทุน 330 ล้านบาท
- ปี 2562 รายได้ 8,751 ล้านบาท ขาดทุน 397 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้ 5,908 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 5,680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 761 ล้านบาท
สรุปปัจจัยปี64BECพลิกกำไร
ปี 2564 แม้เม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมสื่อโดยรวม "ลดลง" แต่ BEC ยังมีรายได้จากการขายโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายการข่าว รวมถึงการลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการ ปี 2564 BEC มีรายได้ 5,680 ล้านบาท ลดลง 3.1% กำไรสุทธิ 761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455% เมื่อเทียบปี 2563 สรุปได้ดังนี้
1. รายได้ขายโฆษณา 4,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับมาของ "กรรมกรข่าว" สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่กลับมาจัดรายการข่าวอีกครั้งตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ใน 2 รายการข่าว คือ เรื่องเล่าเช้านี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 6.00-8.20 น. และเรื่องเล่าเช้านี้ เสาร์-อาทิตย์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-12.15 น. ได้รับผลตอบรับอย่างดี ส่งผลให้เรตติ้งรายการข่าวเพิ่มขึ้น กลายเป็นปัจจัยสำคัญทำให้รายได้โฆษณากลับมาโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564
2. รายได้จากการใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่น 846 ล้านบาท ลดลง 19.7% อย่างไรก็ตาม รายได้จากดิจิทัลแพลตฟอร์ม 599 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170 ล้านบาท
เฮียยุทธกลับมาท็อปฟอร์ม พาช่องสามร่ำรวยเงินทอง
.
หลังเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัล BEC หรือช่อง 3 ของตระกูลมาลีนนท์ ต้องเจอกับภาวะขาดทุนหนักมาตั้งแต่ปี 2561 จนต้องเปลี่ยนแม่ทัพ-ลดขนาดองค์กรครั้งใหญ่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา วันนี้เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญของ ช่อง 3 เมื่อตัวเลขปี 2564 โชว์กำไรในรอบ 3 ปี
หากย้อนดูผลประกอบการ ช่อง 3 จากธุรกิจที่เคยทำรายได้สูงสุดในปี 2556 ที่ 16,637 ล้านบาท กำไร 5,589 ล้านบาท เมื่อเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัลในปี 2557 จำนวนช่องฟรีทีวีเพิ่มขึ้น และการเติบโตของสื่อออนไลน์ รวมทั้งการแบกต้นทุนสูงจากการประมูลทีวีดิจิทัลมา 3 ช่อง ทำให้เริ่มขาดทุนในปี 2561 มาในปี 2562 จึงขอคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 2 ช่อง (ช่อง 13 และ ช่อง 28) เหลือไว้เพียงช่องเดียว คือ ช่อง 33
หลังปรับโครงสร้างลดขนาดองค์กรเพื่อลดต้นทุน วางกลยุทธ์ธุรกิจ Single Content - Multiple Platform นำคอนเทนต์ละครช่อง 3 ไปต่อยอดขายลิขสิทธิ์ในทุกแพลตฟอร์ม ช่อง 3 เริ่มกลับมาเห็น “กำไร” รายไตรมาสอีกครั้งตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2563 นับถึงไตรมาส 4 ปี 2564 ทำกำไรติดกันมาแล้ว 6 ไตรมาส
สรุปปิดปี 2564 ด้วยกำไร 761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455% เทียบปีก่อนหน้าที่ขาดทุน ถือเป็นผลประกอบการรายปีที่กลับมากำไรอีกครั้งในรอบ 3 ปี
ย้อนดูผลประกอบการBECปี2561-2564
- ปี 2561 รายได้ 10,486 ล้านบาท ขาดทุน 330 ล้านบาท
- ปี 2562 รายได้ 8,751 ล้านบาท ขาดทุน 397 ล้านบาท
- ปี 2563 รายได้ 5,908 ล้านบาท ขาดทุน 214 ล้านบาท
- ปี 2564 รายได้ 5,680 ล้านบาท กำไรสุทธิ 761 ล้านบาท
สรุปปัจจัยปี64BECพลิกกำไร
ปี 2564 แม้เม็ดเงินโฆษณาในอุตสาหกรรมสื่อโดยรวม "ลดลง" แต่ BEC ยังมีรายได้จากการขายโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรายการข่าว รวมถึงการลดต้นทุนลงอย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการ ปี 2564 BEC มีรายได้ 5,680 ล้านบาท ลดลง 3.1% กำไรสุทธิ 761 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 455% เมื่อเทียบปี 2563 สรุปได้ดังนี้
1. รายได้ขายโฆษณา 4,834 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกลับมาของ "กรรมกรข่าว" สรยุทธ สุทัศนะจินดา ที่กลับมาจัดรายการข่าวอีกครั้งตลอด 7 วันต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ใน 2 รายการข่าว คือ เรื่องเล่าเช้านี้ จันทร์-ศุกร์ เวลา 6.00-8.20 น. และเรื่องเล่าเช้านี้ เสาร์-อาทิตย์ ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.30-12.15 น. ได้รับผลตอบรับอย่างดี ส่งผลให้เรตติ้งรายการข่าวเพิ่มขึ้น กลายเป็นปัจจัยสำคัญทำให้รายได้โฆษณากลับมาโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2564
2. รายได้จากการใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่น 846 ล้านบาท ลดลง 19.7% อย่างไรก็ตาม รายได้จากดิจิทัลแพลตฟอร์ม 599 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170 ล้านบาท