ในบางวันที่เรารู้สึกแย่ๆ
เราก็แค่ต้องการคำพูดดีๆจากใครสักคนเท่านั้น…
.
ในอีพีนี้เราได้เห็นมุมของนาฮีโดที่มีทั้งความสุขกับความผิดหวังไปพร้อมๆกัน
.
ความสุขแรกที่ต้องขอบคุณ “ยุคสมัย” ที่ทำให้เธอได้ทำตามความฝัน ในขณะที่ “ยุคสมัย” อาจทำให้ใครหลายคนต้องสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต
.
เฉกเช่นเดียวกับแพคอีจินที่ “ยุคสมัย” ทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความฝันและการที่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัว ยิ่งซีนที่บอกลาพ่อคือน่าสงสารจับใจ
.
ส่วนสิ่งที่เป็นความผิดหวังของนาฮีโดคือ ความผิดหวังในตัวโกยูริม ผู้ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เธอได้เดินตามความฝันแต่สุดท้ายเมื่อได้รับรู้ถึงคำพูดและการกระทำของโกยูริม ก็ทำให้นาฮีโดรู้สึกใจสลาย
.
ในขณะที่มุมมองของโกยูริมที่มีต่อนาฮีโดนั้นคือความกลัว เพราะนาฮีโดเป็นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เด็ก ส่วนโกยูริมนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมากถึงจะก้าวมาตรงจุดนี้ได้
.
อยากจะบอกว่าชอบทุกตัวละครในเรื่อง เพราะมีมิติเป็นของตัวเองทั้งหมด ไม่มีใครแผ่วเลย ทุกคนล้วนมีที่มาที่ไปและยังมีเหตุผลในการกระทำของตนเองด้วย
.
และสุดท้ายคือรักคิมแทรี เอาบทของนาฮีโดอยู่หมัดมาก!!! แล้วบทของนาฮีโดคือยากนะ ถ้าเล่นเยอะไปก็จะดูล้นและดูน่ารำคาญ ถ้าเล่นน้อยไปก็ดูไม่สดใสตามคาแรคเตอร์นาฮีโดอีก คือคิมแทรีเล่นออกมาได้น่ารักมากกกก
.
ส่วนนัมจูฮยอก พูดได้คำเดียวว่า “หล่อ” 
จบการรีวิว 555….!!!

รับชม Twenty Five Twenty One
>>> ทุกวันเสาร์-อาทิตย์
⏰ เวลา 21.30 น. ตามเวลาเกาหลี
>>> ซับไทยดูได้ทาง Netflix เวลา 21.00 น.

#TwentyfiveTwentyoneEp3 #스물다섯스물하나 #tvN #스트리밍은TVING #NamJooHyuk #KimTaeRi #Bona #ChoiHyunWook #LeeJooMyung