โค้ชซามูไรฝีมือดี "ยาฮิโระ คาซามะ" จุดเริ่มต้นปฐมบทแห่งความรุ่งเรือง ผู้ปลุกปั้น"ฟรอนตาเล่" ท่าเรือสนใจหรือไม่

ยาฮิโระ คาซามะ Yahiro Kazama ( 風間 八宏 )
ก่อนที่คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จะผงาดเป็นแชมป์เจลีก ทั้ง 4 สมัยในช่วงปี 2017  2018  2020 และ 2021 ภายใต้การทำทีมโทรุ โอนิกิ เกรมิโอแห่งคานากาวะมีผู้ชายที่ยาฮิโระ คาซามะ ระหว่างปี 2012-2016  ที่มาเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นของทีมกลายเป็นบอลเกมรุกเพรสซิ่งสูงและบีบให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม เซตเกมกันไม่ได้ แล้วต้องมาสาดบอลยาวแทน มันเป็นสูตรสำเร็จของทีม คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ทว่าในเวลานั้นทีมไร้ความสำเร็จ ผลงานไม่ต่อเนื่อง ทำให้ ยาฮิโระ คาซามะ ไขก็อกลาออกมา ก่อนจะไปรับเผือกร้อนคุมนาโงย่า แกรมปัส ที่ตกชั้นหล่นไปเล่นในเจ2 ในปี 2017 และใช้เวลา 1 ปีพาทีมกลับขึ้นเจลีกได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ คาซามะ ทำกับนาโงย่า มันแตกต่างกับฟรอนตาเล่ คือคุณภาพผู้เล่นญี่ปุ่นที่ต่างแตกกันสิ้นเชิง มีคุณภาพผู้เล่นไม่สูง มันจึงทำให้ทีมมีผลงานไม่สวยหรูในเจลีก 2018 และต้องมาดิ้นรนหนีการตกชั้นในเกมนัดสุดท้าย เมื่อเข้าปี 2019 นาโงย่า ยังมีสถานะไม่ต่างจากเดิมคือจมอยู่ช่วงท้ายตาราง แถม คาซามะ ยังไปมีปัญหากับลูกทีมตัวเองอย่างรุนแรงในช่วงกลางเดือนกันยายน จึงต้องยกเลิกสัญญากับ คาซามะไปในที่สุด  ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ประธานเทคนิคสโมสร เซเรโซ่ โอซาก้า

ผลงานการทำทีม
เจลีก 1 
2012 คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จบอันดับ 8
2013 คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จบอันดับ 3
2014 คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จบอันดับ 6
2015 คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จบอันดับ 6
2016 คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จบอันดับ 3
เจลีก 2
2017 นาโงย่า แกรมปัส จบอันดับ 3 เลื่อนชั้นสู่เจลีก 1
เจลีก 1
2018 นาโงย่า แกรมปัส จบอันดับ 15
2019 นาโงย่า แกรมปัส จบอันดับ 11

จากผลงานทำทีมในเจลีก ไม่เคยทำทีมตกชั้น ทำทีมได้ค่อนข้างดี ใช้ระบบการเล่นเป็นบอลเกมรุกเพรสซิ่งสูงและบีบให้ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเป็นเทรนฟุตบอลยุคใหม่ในปัจจุบัน

เม่าออมเม่าออมเม่าออมเม่าออมเม่าออม

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่