สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
มันเป็นเหตุผลที่ฟังดูเพราะแค่นั้นเอง
เหตุผลที่แท้จริงคือ ธนาคาร blacklist กับบริษัทล้มละลายนั้นทุกกรณี ใครเกี่ยวโยงจะโดนงดปล่อยเงินกู้หมด
น่าจะมีเบื้องหลังของบริษัทล้มละลายนั้นที่เราไม่รู้อีกเยอะครับ
อย่างเคสที่ผมรู้จัก ยื่นเรื่องกู้เงิน 50 ล้าน ทำร้านให้ดูดี ไปเอารถยี่ห้อดังมาจอดไว้สามคัน ทะเบียนรถเป็นชื่อตัวเอง และลูกๆในบ้านน
เอากล่องเปล่ามาสต้อคสินค้าไว้เพียบ ฝังไว้ข้างใน กล่องนอกๆมีสินค้าเต็ม
พอธนาคารปล่อยกู้ให้ ก็ปิดบริษัท หนีเลย ปล่อยให้ถูกฟ้องล้มละลายไป ขนของรื้อร้านออกหมด
โดน blacklist ทันที คนที่เกี่ยวข้องก็อดทำธุรกรรมกับธนาคารนี้ ตลอดชีวิต
เรื่องนี้มีอยู่จริงในแวดวงเงินกู้ครับ
ถ้ายื่นธนาคารอื่นคุณอาจจะผ่านสบายๆครับ
เหตุผลที่แท้จริงคือ ธนาคาร blacklist กับบริษัทล้มละลายนั้นทุกกรณี ใครเกี่ยวโยงจะโดนงดปล่อยเงินกู้หมด
น่าจะมีเบื้องหลังของบริษัทล้มละลายนั้นที่เราไม่รู้อีกเยอะครับ
อย่างเคสที่ผมรู้จัก ยื่นเรื่องกู้เงิน 50 ล้าน ทำร้านให้ดูดี ไปเอารถยี่ห้อดังมาจอดไว้สามคัน ทะเบียนรถเป็นชื่อตัวเอง และลูกๆในบ้านน
เอากล่องเปล่ามาสต้อคสินค้าไว้เพียบ ฝังไว้ข้างใน กล่องนอกๆมีสินค้าเต็ม
พอธนาคารปล่อยกู้ให้ ก็ปิดบริษัท หนีเลย ปล่อยให้ถูกฟ้องล้มละลายไป ขนของรื้อร้านออกหมด
โดน blacklist ทันที คนที่เกี่ยวข้องก็อดทำธุรกรรมกับธนาคารนี้ ตลอดชีวิต
เรื่องนี้มีอยู่จริงในแวดวงเงินกู้ครับ
ถ้ายื่นธนาคารอื่นคุณอาจจะผ่านสบายๆครับ
แสดงความคิดเห็น
กู้บ้านไม่ผ่านด้วยเหตุผลแบบนี้ make senses หรือไม่ครับ
ผมเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนกู้ได้เดินสเตจเม้น จ่ายภาษี ทำทุกอย่าง อย่างถูกต้องเพื่อให้เกณฑ์การผ่านนั้นง่ายที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
ผมได้เข้าไปดูบ้านหลังหนึ่งราคา 14 ล้านบาท แล้วสนใจขึ้นมา ก็ได้ปรึกษากับทางผู้ขาย บอกประวัติโดยคร่าว ซึ่งทางผู้ขายมั่นใจว่าผ่าน จึงเข้าสู่กระบวนการกู้สินเชื่อบ้าน
เริ่มกระบวนการกู้สินเชื่อ มีการขอเอกสารหลักฐานต่างๆไป ซึ่งทางตัวแทนแบงค์เอส ได้บอกว่าจะกู้ในนามบุคคล ใช้เวลาไปเกือบเดือนก็มีการมาขอเอกสารต่างๆเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นหนังสือรับรองบริษัท ภ.พ. 30 และอื่นๆของบริษัทมากมาย จากนั้นตัวแทนก็เริ่มทำการขายประกันตัวหนึ่ง บอกว่า เป็น Prime จะช่วยให้ง่ายขึ้นเพราะเป็น VIP จึงได้ตกลงทำไป การประเมินเบื้องต้นผ่านหมด ทางตัวแทนก็ให้ความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าผ่านชัวร์ บอกว่าทางผมมี Score เป็น A+ เวลาผ่านไปอีกเบ็ดเสร็จเดือนกว่าๆ จึงถึงวันที่เรื่องของผมเข้าถึงคณะกรรมการตัดสิน
ปรากฏว่า คณะกรรมการตัดสินว่าไม่ผ่านการอนุมัติ ด้วยสาเหตุ กรรมการในบริษัท ล้มละลาย เค้า Hold เรื่องไว้อยู่ อยากขอเอกสารการยกเลิกเป็นบุคคลล้มละลายของกรรมการ ผมตกใจมากและได้บอกกลับไปว่า ไม่ได้เป็นผู้ล้มละลายอย่างแน่นอน กรรมการเล่าให้ฟังว่า บริษัทนั้นเป็นบริษัทที่ล้มละลายจริง ซึ่งเค้าถือหุ้นอยู่ 20% โดยที่จ่ายค่าหุ้นไปหมดแล้ว ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัทนั้น แค่ถือหุ้นเฉยๆ กรรมการจึงเดินทางไปที่ กรมบังคับคดี เพื่อออกหนังสือรับรองการไม่เป็นบุคคลล้มละลาย และนำกลับไปยืนยันอีกครั้ง
ผลสุดท้ายคือ ธนาคารยังตัดสินว่าไม่ผ่านการอนุมัติ เพราะกรรมการ "เคย" ถือหุ้นในบริษัทที่ล้มละลาย ผมก็ไม่เข้าใจว่า มันเกี่ยวข้องกันได้เหรอกรณีนี้ จึงค้นหากูเกิ้ล พันทิพมากมาย จนแน่ใจแล้วว่า "ผู้ถือหุ้น เมื่อชำระทุนจดทะเบียนหมดแล้ว ไม่มีภาระผูกพันธ์กับบริษัทหากบริษัทเกิดล้มละลายขึ้นมา" ผมก็พยายามชี้แจ้งว่า บริษัทที่เค้าเคยอยู่ล้ม ไม่ควรเกี่ยวข้องมาถึงผู้ถือหุ้นรายย่อยสิ ผมยกตัวอย่างมั่วๆขึ้นมาว่า "อย่างนี้ ถ้าบริษัท XXX ล้มละลายขึ้นมา คนหลายหมื่นคนในประเทศก็กลายเป็นบุคคลล้มไปด้วยเหรอ" กลับได้คำตอบมาว่า "ก็น่าจะใช่อะค่ะ" ทำให้ผมหมดศรัทธา และยอมแพ้กับธนาคารแห่งนี้
จากนี้ก็น่าจะยื่นธนาคารอื่นต่อไป
ผมเพียงอยากสอบถามทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านว่า การตัดสินกรณีนี้มันถูกต้องแล้วจริงๆหรือไม่ ผมกู้ในนามบุคคล ตัวผมได้ Score A+ ฐานการเงินทุกอย่างผ่าน จุดเดียวที่ไม่ผ่านคือ กรรมการบริษัทของผมเคยถือหุ้นในบริษัทล้มละลาย