สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 38
ในฐานะที่เป็นมนุษย์เงินเดือนที่เก็บเงินได้ประมาณ 30ล้านบาท ขอแชร์ข้อมูลนะคะ( ไม่ได้อวดนะคะ แค่เป็นวิทยาทานจาก ปสก จริงค่ะ )
1. พยายาม up ตัวเองให้ตำแหน่งสูงๆ (ซึ่งแน่นอนว่า รายได้ควรจะสูงตาม ใครจะยอมเหนื่อยฟรีเนอะ 555 )
2. หาความรู้ในงานให้ได้มากๆ ให้โดดเด่น ภาษาอังกฤษต้องOK เลย เพราะองค์กรใหญ่เงินดี ส่วนใหญ่เป็น บ ต่างชาติ
3. ถ้าจะผ่อนรถผ่อนบ้าน ก็รีบโปะให้หมดไวๆ ถือคติเสียดอกเบี้ยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
4. ผ่อนจบก็ต้องรู้จักพอ ไม่ใช่สร้างหนี้ใหม่อีกไม่จบสิ้น แบบนั้นคงเก็บเงินยาก หรือเก็บได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
( ของเรา10ปีหลัง ไม่มีอะไรต้องผ่อน เลยเก็บเงินได้เต็มๆ )
5.ดูแลสุขภาพกายใจให้แข็งแรง เพราะถ้าสุขภาพไม่ดี นั่นคือ ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ( และส่งผลในระยะยาวด้วย )
ุ6.รู้จักต่อยอดเงินที่เก็บ ไม่ใช่ฝากในแบ๊งค์ แบบนั้นเจอเงินเฟ้อติดลบแน่ๆ (ส่วนตัวลงทุนหุ้นกู้ratingดีๆ กองทุนรวม พันธบัตร ประกันชีวิต )
7. ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ทำให้ดีที่สุดของเราก็พอ เพราะการเปรียบเทียบอาจทำให้ท้อใจและล้มเลิก
8.ทำงานไปเรื่อยๆเพราะยังมีเงินเข้ามาตลอด แถมเป็นการฝึกสมอง ไม่ out การทำงานแบบไม่มีหนี้ ไม่มีภาระ แถมเงินเก็บเยอะ สุขที่สุดแล้วค่ะ
9.ทำบุญมั่งก็ดีนะคะ ( ส่วนตัว เราบริจาคให้โรงพยาบาลในตจว ค่ะ ส่วนโรงพยาบาลใหญ่ๆในกทม คนน่าจะบริจาคเยอะแล้ว ส่วนวัดวาอาราม
เราขอผ่านค่ะ เพราะดูข่าวพระหลายรูปทำให้รู้สึกว่าท่านคงจะสุขสบาย จึงมีเวลามาทำเรื่องไม่ดีแบบนี้ )
แค่นี้คงพอเป็นข้อมูลนะคะ
1. พยายาม up ตัวเองให้ตำแหน่งสูงๆ (ซึ่งแน่นอนว่า รายได้ควรจะสูงตาม ใครจะยอมเหนื่อยฟรีเนอะ 555 )
2. หาความรู้ในงานให้ได้มากๆ ให้โดดเด่น ภาษาอังกฤษต้องOK เลย เพราะองค์กรใหญ่เงินดี ส่วนใหญ่เป็น บ ต่างชาติ
3. ถ้าจะผ่อนรถผ่อนบ้าน ก็รีบโปะให้หมดไวๆ ถือคติเสียดอกเบี้ยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
4. ผ่อนจบก็ต้องรู้จักพอ ไม่ใช่สร้างหนี้ใหม่อีกไม่จบสิ้น แบบนั้นคงเก็บเงินยาก หรือเก็บได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น
( ของเรา10ปีหลัง ไม่มีอะไรต้องผ่อน เลยเก็บเงินได้เต็มๆ )
5.ดูแลสุขภาพกายใจให้แข็งแรง เพราะถ้าสุขภาพไม่ดี นั่นคือ ต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ( และส่งผลในระยะยาวด้วย )
ุ6.รู้จักต่อยอดเงินที่เก็บ ไม่ใช่ฝากในแบ๊งค์ แบบนั้นเจอเงินเฟ้อติดลบแน่ๆ (ส่วนตัวลงทุนหุ้นกู้ratingดีๆ กองทุนรวม พันธบัตร ประกันชีวิต )
7. ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร ทำให้ดีที่สุดของเราก็พอ เพราะการเปรียบเทียบอาจทำให้ท้อใจและล้มเลิก
8.ทำงานไปเรื่อยๆเพราะยังมีเงินเข้ามาตลอด แถมเป็นการฝึกสมอง ไม่ out การทำงานแบบไม่มีหนี้ ไม่มีภาระ แถมเงินเก็บเยอะ สุขที่สุดแล้วค่ะ
9.ทำบุญมั่งก็ดีนะคะ ( ส่วนตัว เราบริจาคให้โรงพยาบาลในตจว ค่ะ ส่วนโรงพยาบาลใหญ่ๆในกทม คนน่าจะบริจาคเยอะแล้ว ส่วนวัดวาอาราม
เราขอผ่านค่ะ เพราะดูข่าวพระหลายรูปทำให้รู้สึกว่าท่านคงจะสุขสบาย จึงมีเวลามาทำเรื่องไม่ดีแบบนี้ )
แค่นี้คงพอเป็นข้อมูลนะคะ
ความคิดเห็นที่ 8
ต้องเริ่มจากพรแสวงก่อน พัฒนาตัวเราให้มีความสามารถที่หลากหลาย
จังหวะและโอกาสยังมาไม่ถึงก็ไม่เป็นไร ถ้ามีความพร้อม เมื่อมีจังหวะและโอกาสก็ไขว่คว้ามาได้
แต่ถ้าไม่มีความพร้อม เมื่อมีจังหวะและโอกาส แต่ไปต่อไม่ได้
ผมมาจากต่างจังหวัด มาทำงานในกรุงเทพเริ่มต้นจากแทบไม่มีอะไรเลย
พ่อแม่ส่งเสียให้เรียนจบเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยครับ
ที่เหลือก็ต้องขวนขวายหาเอง มีเงินขวัญถุงแม่ให้มา 2 หมื่น
ตอนเด็ก ๆ เงินล้านถือว่าไกลมาก คิดว่ามีเงินเก็บสักล้านก็ดีแล้ว
แต่ทำงานมาเกือบยี่สิบปี ยังเก็บเงินไม่ได้เลย พอใช้เดือนชนเดือน
จนคิดว่าอนาคตหลังเกษียณจะเอาอะไรกิน
หลังจากผ่อนบ้าน ผ่อนรถเสร็จ เริ่มเก็บเงินได้ก็ทำงานมายี่สิบปีต้น ๆ
แล้วเอาเงินไปลงทุน แล้วคลิก เริ่มเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
และมีรายได้จาก passive income มากขึ้น
ทำงานประจำรับเงินเดือนอย่างเดียว กว่าจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถหมดก็ใช้เวลาหลายปี
หลังจากนั้น ผมเริ่มลงทุนทำงานในวันเสาร์ อาทิคย์ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
การทำธุรกิจ ถ้ามาถูกทาง จังหวะดี ๆ เวลาได้ ก็ได้เยอะเหมือนกัน
และสามารถเก็บเงินได้โดยไม่ต้องจำกัดจำเขี่ย สามารถใช้จ่ายเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง
ควบคู่ไปกับการเก็บเงินและต่อยอดไปเรื่อย ๆ แต่กว่าจะมาทุกทางก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน
เส้นทางการทำงานยังไกล ยังมีจุดเปลี่ยนและโอกาส ขอให้มีความพร้อม
แต่ทำสิ่งใดระวัง เรื่อง mindset ถ้าเร่งรัดจนเป็น mindset ของการพนันก็อันตราย
ขอให้เดินตามจังหวะ มองทั้ง risk และ return ครับ
จังหวะและโอกาสยังมาไม่ถึงก็ไม่เป็นไร ถ้ามีความพร้อม เมื่อมีจังหวะและโอกาสก็ไขว่คว้ามาได้
แต่ถ้าไม่มีความพร้อม เมื่อมีจังหวะและโอกาส แต่ไปต่อไม่ได้
ผมมาจากต่างจังหวัด มาทำงานในกรุงเทพเริ่มต้นจากแทบไม่มีอะไรเลย
พ่อแม่ส่งเสียให้เรียนจบเป็นพระคุณอย่างยิ่งเลยครับ
ที่เหลือก็ต้องขวนขวายหาเอง มีเงินขวัญถุงแม่ให้มา 2 หมื่น
ตอนเด็ก ๆ เงินล้านถือว่าไกลมาก คิดว่ามีเงินเก็บสักล้านก็ดีแล้ว
แต่ทำงานมาเกือบยี่สิบปี ยังเก็บเงินไม่ได้เลย พอใช้เดือนชนเดือน
จนคิดว่าอนาคตหลังเกษียณจะเอาอะไรกิน
หลังจากผ่อนบ้าน ผ่อนรถเสร็จ เริ่มเก็บเงินได้ก็ทำงานมายี่สิบปีต้น ๆ
แล้วเอาเงินไปลงทุน แล้วคลิก เริ่มเก็บเงินได้เป็นกอบเป็นกำ
และมีรายได้จาก passive income มากขึ้น
ทำงานประจำรับเงินเดือนอย่างเดียว กว่าจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถหมดก็ใช้เวลาหลายปี
หลังจากนั้น ผมเริ่มลงทุนทำงานในวันเสาร์ อาทิคย์ ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
การทำธุรกิจ ถ้ามาถูกทาง จังหวะดี ๆ เวลาได้ ก็ได้เยอะเหมือนกัน
และสามารถเก็บเงินได้โดยไม่ต้องจำกัดจำเขี่ย สามารถใช้จ่ายเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง
ควบคู่ไปกับการเก็บเงินและต่อยอดไปเรื่อย ๆ แต่กว่าจะมาทุกทางก็เหนื่อยอยู่เหมือนกัน
เส้นทางการทำงานยังไกล ยังมีจุดเปลี่ยนและโอกาส ขอให้มีความพร้อม
แต่ทำสิ่งใดระวัง เรื่อง mindset ถ้าเร่งรัดจนเป็น mindset ของการพนันก็อันตราย
ขอให้เดินตามจังหวะ มองทั้ง risk และ return ครับ
ความคิดเห็นที่ 5
ถ้ามาจากศูนย์เลย ผมว่าน้อยครับ
แต่มันวัดยาก
เอาแค่พ่อแม่มีเงินส่งเสีย ไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรให้มาก
จบมาทำงาน สร้างตัวจนร่ำรวย ระดับ 10 ล้านนี่ยากมากเลยครับ
ส่วนมากก็ปะปน พ่อแม่มีทรัพย์สินให้บ้าง
บางคนที่ดินที่เคยไม่มีราคาก็กลับมามีราคา ก็แล้วแต่ว่าใครจัดการยังไง
มันไม่มีเหตุผลใช่ไหมครับ ที่ไม่ยอมหาประโยชน์จากทรัพย์สินเลย
จะวัดจากค่าตัวเพียวๆ
โด่ๆมาแท่งนึง มีแค่วุฒิ ปริญญา
เงินเดือนเริ่มต้นก็แสนสาหัส ความอยากมีอยากได้ก็แสนจะทรมาน
ความสับสนกับความสุขระหว่างทางกับความมั่นคงบั้นปลาย
เงินเดือนเป็นแสน ก็โดนยั่วด้วยคำว่ารางวัลของชีวิต
คำติฉินนินทา
จบมาเงินเดือนปริญญา กว่าจะมีตำแหน่งงาน
เหลืออายุงานสักกี่ปี
กับแนวคิด งก เก็บอย่างเดียว
มันไม่ได้
มีชีวิต มีครอบครัว มีความจำเป็น
จะไปเห็นแก่เงินโดยทิ้งภาระครอบครัวให้ลำบาก มันไม่ถูก
ชีวิตไม่เที่ยง
ได้คิดแล้วจะไปดรามา
ทำเสียใจตอนผิดหวัง ผมว่าผมไม่อยากเป็น
ผมขอครึ่งทาง
คุณถ้าอยู่ในเงื่อนไข คุณเก่งแล้ว
ไม่ต้องหวังไปเทียบใครหรอกครับ
สามารถมีความพอใจ มีความสุขในชีวิตบ้าง
แต่มันวัดยาก
เอาแค่พ่อแม่มีเงินส่งเสีย ไม่ได้มีทรัพย์สินอะไรให้มาก
จบมาทำงาน สร้างตัวจนร่ำรวย ระดับ 10 ล้านนี่ยากมากเลยครับ
ส่วนมากก็ปะปน พ่อแม่มีทรัพย์สินให้บ้าง
บางคนที่ดินที่เคยไม่มีราคาก็กลับมามีราคา ก็แล้วแต่ว่าใครจัดการยังไง
มันไม่มีเหตุผลใช่ไหมครับ ที่ไม่ยอมหาประโยชน์จากทรัพย์สินเลย
จะวัดจากค่าตัวเพียวๆ
โด่ๆมาแท่งนึง มีแค่วุฒิ ปริญญา
เงินเดือนเริ่มต้นก็แสนสาหัส ความอยากมีอยากได้ก็แสนจะทรมาน
ความสับสนกับความสุขระหว่างทางกับความมั่นคงบั้นปลาย
เงินเดือนเป็นแสน ก็โดนยั่วด้วยคำว่ารางวัลของชีวิต
คำติฉินนินทา
จบมาเงินเดือนปริญญา กว่าจะมีตำแหน่งงาน
เหลืออายุงานสักกี่ปี
กับแนวคิด งก เก็บอย่างเดียว
มันไม่ได้
มีชีวิต มีครอบครัว มีความจำเป็น
จะไปเห็นแก่เงินโดยทิ้งภาระครอบครัวให้ลำบาก มันไม่ถูก
ชีวิตไม่เที่ยง
ได้คิดแล้วจะไปดรามา
ทำเสียใจตอนผิดหวัง ผมว่าผมไม่อยากเป็น
ผมขอครึ่งทาง
คุณถ้าอยู่ในเงื่อนไข คุณเก่งแล้ว
ไม่ต้องหวังไปเทียบใครหรอกครับ
สามารถมีความพอใจ มีความสุขในชีวิตบ้าง
แสดงความคิดเห็น
มนุษย์เงินเดือนที่ จะสามารถเก็บเงินหลังเกษียรจากการทำงานได้ เกิน 10 ล้าน เพื่อนๆคิดว่าจะมีสักกี่ % ของประชากรในประเทศคะ
คือ จขกท เงินเดือนก็อยู่ในระดับค่อยข้างพอใช้ได้ ตอนนี้มีบ้าน รถ ที่ดิน เก็บอยู่แต่ 4 ล้าน เหลือเวลาทำงานอีกประมาณ 15 ปี คาดว่าจะสามารถเก็บเงินได้ตามเป้า 10 ล้านก่อนเกษียณ
แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า เห็นคนรอบข้างหลายๆคน มีทั้งหนี้ต่างๆ นาๆ หรืออยู่ในอาชีพ ที่ได้เงินเดือนน้อย มีมากมาย หรืออาจจะเป็นคนส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ
เลยจะสอบถามเพื่อนๆว่า ประเทศเรานี้จะมี จะคนที่สามารถเก็บเงินได้ 10 ล้านหลักเกษียณได้ประมาณกี่ % ของประชากรในประเทศ คนที่เก็บเงินไม่ถึง หรือยังเป็นหนีสินอยู่จะใช้ช้วิตต่อไปกันยังไงคะ