วาเลนไทน์โศก จากนักวิ่ง เป็นนักฆ่า คดีเบลด รันเนอร์ l บันทึกลึกลับ

🛑 14 กุมภาฯ วัน “วาเลนไทน์” เป็นวันแห่งความรักความสุข แต่บางคนกลับกลายเป็นวัน “หายนะ”
🛑 วีรบุรษของชาติสู่ฆาตกร : ‘ออสการ์ พิสโตริอุส’ นักกีฬาพาราลิมปิกผู้สังหารคนรัก
🛑 ครอบครัวคนตายกลับต้องสืบคดีส่งหลักฐานตรวจเอง
🛑 ตำรวจไว้ใจไม่ได้ ยิ่งคดีกับนักกีฬาวีรบุรุษของชาติ 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ออสการ์ได้รับฉายาว่า “เบลด รันเนอร์”  “นักวิ่งไร้ขาที่เร็วสุดในโลก” 
เขากวาดรางวัลการวิ่งระยะสั้นในกีฬาสำหรับคนพิการมาเกือบหมด 
ทั้งนี้ตัวเขาเกิดมาในครอบครัวคนขาวที่ร่ำรวยในประเทศที่มีคนดำเป็นประชากรส่วนใหญ่
และเคยผ่านการเหยียดผิวอย่างเป็นระบบมาอย่างยาวนานนับร้อยปี 
เมื่ออายุได้เพียง 11 เดือน ขาของออสการ์มีปัญหาคือไร้กระดูกน่องและอาจส่งผลเสียต่อร่างกายโดยรวมได้ 
จึงต้องตัดขาใต้เข่าลงมาทิ้งแม้จะพิการตั้งแต่เด็ก แต่แม่ก็ให้กำลังใจอยู่เสมอ 
เธอย้ำว่าการที่เขาไม่มีขาไม่ใช่อุปสรรคในชีวิต เขาสามารถทำทุกอย่างได้ในทุกสิ่งที่ต้องการ 
เด็กหนุ่มเล่นกีฬาแทบทุกประเภทโดยไม่ให้ความพิการมาเป็นอุปสรรค จนมาเอาดีทางการวิ่ง
และได้เป็นนักกีฬาระดับโลกมีชื่อเสียงมากมาย 
 
ออสการ์ พิสโตริอุสเป็นนักกรีฑา “ฮีโร่” ของแอฟริกาใต้ เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาให้บริษัทยักษ์ใหญ่ 
อาทิ “ไนกี้” และ “โอ๊คเลย์” เป็นเจ้าของเหรียญทองกีฬาพาราลิมปิกกรุงเอเธนส์ปี 2004 
กรุงปักกิ่งปี 2008 เขายังเป็นนักวิ่งที่ถูกตัดขาทั้ง 2 ข้างคนแรกที่ได้ลงแข่งขัน
และได้รับเหรียญเงินในกรีฑาเวิลด์ แชมเปียนส์ชิพปี 2011 และกีฬาโอลิมปิก 2012 
ในลอนดอนแข่งกับนักกีฬาร่างกายปกติ จนทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ

เขามีแฟนสาวชื่อรีวา สตีนคัมป์ (Reeva Steenkamp)ซึ่งเป็นนางแบบ ดาราและเรียนมาทางด้านกฎหมาย 
แถมเป็น “เซเลบ” คนดัง  ทั้งสวยและฉลาด เธอจบปริญญาตรีด้านกฎหมาย นิตยสาร “เอฟเอชเอ็ม” 
จัดให้เป็น 1 ใน 100 ผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุดในโลก 2 ปีซ้อน เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาสินค้ามากมาย
ทั้งในแอฟริกาและนานาชาติ ภาพเธอในชุดบิกินีเห็นได้ทั่วไปในนิตยสารสำหรับผู้ชาย 
เธอยังเข้าร่วมรายการเรียลลิตี้ โชว์ ยอดฮิต “ทรอปิกา ไอแลนด์ ออฟ เทรชเชอร์ 5” 
ทั้งคู่เพิ่งพบรักกันเมื่อเดือน พ.ย.2013 และย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันในบ้านที่เกิดเหตุในกรุงพริทอเรีย 
ชีวิตรักดูเหมือนหวานชื่น จนกระทั่ง...
 
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ.2014 วันแห่งความรัก 
กลางดึกคืนนั้นเวลาราว 02.00-03.00 น. ตำรวจรับแจ้งเหตุว่ามีการยิงกันบ้านพัก
หลังได้รับแจ้งเหตุ ตำรวจเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุเวลาราว 04.00 น.
และหลังตรวจสอบภายในบ้านเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพ รีวา ในสภาพนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น 
มีบาดแผลถูกยิง 3 นัดที่ศีรษะ ข้อศอกขวา และสะโพก ตำรวจพบปืนพกขนาด 9 มม. 
รวมทั้งกระสุน .38 และจากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า
ขณะเกิดเหตุ ภายในบ้านนั้นมีแค่พิสตอเรียสและรีวาอยู่ ทำให้พิสตอเรียวจึงถูกจับในข้อหาฆาตกรรม
 
ต่อมาจากการสอบปากคำพยานให้การว่า ออสการ์อุ้มร่างแฟนสาวลงมาจากห้องน้ำ 
ขณะอุ้มนั้นรีวามีเลือดออกเต็มตัว มีแผลฉกรรจ์ที่หัว ขณะนั้นออสการ์โทรศัพท์แจ้งรถพยาบาล 
และรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยการผายปอดให้กับแฟนสาว แต่สุดท้ายเธอก็ไม่รอด
 
หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุโดยละเอียด
ก็พบว่าที่ประตูห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน มีรอยกระสุน พร้อมกับแรงกระแทกจากไม้คริกเก็ต 
ซึ่งออสการ์น่าจะใช้ตีเพื่อทุบประตูเข้าไปโดยอ้างว่าไปอุ้มร่างหญิงคนรักออกมา
นักสืบที่ทำคดีนี้ก็รู้ทันทีว่า ออสการ์เจตนาฆ่าแฟนสาวตาย เพราะรูปแบบการก่อเหตุมันชัดเจน
และเกิดขึ้นบ่อยมากในแอฟริกาใต้ เฉลี่ยว่าทุกๆ 8 ชั่วโมงจะมีคนถูกฆ่าจากสามี แฟนและคนรักอยู่เป็นประจำ 
นี่คือประเทศที่มีหญิงสาวถูกฆาตกรรมในอัตราสูงติดอันดับโลก ดังนั้นตำรวจที่ทำคดีฆาตกรรมจึงเจอคดีแบบนี้บ่อย 
พอวิเคราะห์ที่เกิดเหตุบ้านออสการ์ไม่นานก็ฟันธงได้ทันที
 
เริ่มจากห้องน้ำจุดเกิดเหตุมีทางเข้าออกได้ทางเดียวคือประตูเท่านั้น แม้จะมีบานเกล็ดหน้าต่าง 
แต่ห้องน้ำอยู่ชั้น 2 ของบ้าน ไม่มีทางที่ใครจะสามารถปีนเข้าออกได้เลย เพราะสูงมาก
ตำรวจเดินไปหายอดนักกีฬาของชาติ พบชายหนุ่มกำลังนั่งร้องไห้ เสื้อเปื้อนเลือด 
แต่มือสะอาดมาก เขาอ้างว่าได้ล้างเอาคราบเลือดออกไปแล้ว
“เกิดอะไรขึ้น” ออสการ์ตอบสั้นๆ ว่า “ผมนึกว่าเป็นขโมย”
ตำรวจขมวดคิ้ว หัวขโมยที่ไหนกันจะวิ่งไปขังตัวเองในห้องน้ำแบบนั้น 
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมก็พบว่าเวลาประมาณ 03.00 ของวันที่เกิดเหตุ  
รีวา เธอเอามือถือเข้าไปแอบเล่นในห้องน้ำด้วย เพราะมีข้อความจากแฟนเก่าทักมาหา 
เจ้าหน้าที่จึงคาดว่า นี่อาจเป็นปมที่ทำให้ออสการ์โกรธหึงหวงและนำไปสู่การทะเลาะกัน
 
เดิมทีออสการ์มีประวัติใช้ความรุนแรง ชอบอาวุธปืน ความเร็ว 
เคยซิ่งเรือเร็วคว่ำในแม่น้ำบาดเจ็บเย็บถึง 180 เข็ม ทั้งยังอารมณ์ร้อน 
เคยชกต่อยกับเศรษฐีเหมืองถ่านหินคนหนึ่งเพราะแย่งผู้หญิงมาแล้ว
 
เจ้าหน้าที่จึงเริ่มสอบปากคำยอดนักกีฬาอย่างละเอียด 
พฤติกรรมหลายอย่างดูผิดเพี้ยนไม่สมเหตุสมผล เช่น ถ้าหัวขโมยเข้ามาในบ้านจริง สิ่งแรกหลังจากหยิบปืน 
ออสการ์ควรจะรีบตามหาตัวแฟนสาวของตัวเองก่อน แล้วบังให้เธออยู่ข้างหลังขณะยิง 
แต่ตอนเกิดเหตุ ทำไมเขากลับเข้าใจผิดว่าคนรักเป็นคนร้าย ทำไมไม่ออกไปตามหาเธอก่อน
ยังไม่นับวิถีกระสุนที่เจตนายิงลงต่ำกว่ากลอนประตู เหมือนจะรู้ว่า คนที่อยู่ในห้องน้ำนั่งยองกับพื้นอยู่ 
ทั้งหมดนำไปสู่บทสรุปว่ามันไม่ใช่การยิงเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นขโมยอย่างแน่นอน
แต่เป็นการฆ่าที่เลือดเย็นมากกว่า
 
 
ออสการ์ถูกอัยการตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน 
โดยนายฮิลตัน “เด็ท” โบธา หัวหน้าตำรวจชุดสอบสวนคดีนี้บอกว่ามีพยานหลักฐานบ่งชี้เช่นนั้น 
โดยพยานคนหนึ่งระบุว่า ได้ยินเสียงทะเลาะกันยาวนานจากบ้านออสการ์ก่อนได้ยินเสียงปืน 
พยานอีกคนระบุว่าได้ยินเสียงปืน จากนั้นมีเสียงผู้หญิงกรีดร้อง ก่อนได้ยินเสียงปืนซ้ำอีก และไฟในบ้านก็เปิดอยู่
อัยการระบุด้วยว่า ออสการ์ใส่ขาเทียมและเดินถึง 7 เมตรไปยังห้องน้ำก่อนลงมือยิง 
เพราะดูจากวิถีกระสุนทั้ง 4 นัดพุ่งจากข้างบนลงล่าง ซึ่งถ้าไม่ใส่ขาเทียมจะต้องพุ่งจากล่างขึ้นบน 
ร่องรอยกระสุนที่ศพยังบ่งชี้ว่า รีวา ไม่ได้อยู่ในห้องส้วมขณะถูกยิง แต่เหมือนนั่งคุดคู้หลบอยู่มุมห้องน้ำด้านนอก 
ส่วนข้ออ้างที่ว่าห้องนอนมืดสนิทจนมองไม่เห็นว่าแฟนสาวไม่ได้อยู่บนเตียงก็ฟังไม่ขึ้น 
เพราะพบซองปืนอยู่ใต้ที่นอนด้านที่ รีวา นอนอยู่
 
แต่ฝ่ายอัยการก็เสียขบวนไปไม่น้อย เพราะโบธา หัวหน้าชุดสืบสวนให้การสับสนเรื่องระยะห่างของพยาน
กับบ้านของออสการ์  จนสุดท้ายต้องมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าชุดสอบสวนคดีนี้ใหม่
คดีนี้เป็นการต่อสู้ระหว่าง “อัยการ” ชั้นอ๋อง และ “ทนายจำเลย” ขั้นเทพ 
โดยครอบครัวของออสการ์นั้นทุ่มเงินจ้างทีมทนายที่ดีที่สุด 
ที่เคยว่าความให้คนขับรถแท็กซี่ที่ชนเหลนของอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา เสียชีวิตในปี 2010 
และชนะคดีมาแล้ว คนในครอบครัวพยายามต่อสู้ช่วยยอดนักกีฬารายนี้ 
โดยอ้างเหตุป้องกันตัวเพราะประเทศนี้มีเหตุอาชญากรรมสูง คนจึงอยู่อย่างหวาดกลัวอย่างมาก
“เราพึ่งพาตำรวจไม่ได้” ดังนั้นคนรวยจึงมีปืนไว้ป้องกันตัว หากมีใครมาเดินในบ้านค่ำๆ คืนๆ 
ความเชื่อของพวกเขาคือ มันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากโจร 
 
เพื่อนสนิทคนหนึ่งเล่าว่า เมื่อไปค้างบ้านออสการ์ แล้วออกมากินน้ำตอนกลางคืนจนทำเสียงดัง 
ออสการ์ก็รีบออกมาพร้อมปืนในมือทันที เพราะไม่มีใครปลอดภัยในประเทศนี้
“หัวขโมยที่บุกเข้ามาในบ้านคนรวยนั้น คงไม่ได้มัดคุณไว้และปล้นทรัพย์สินเท่านั้น 
แต่เขาอาจจะข่มขืนเมียคุณ ฉี่รดลูกคุณ ยิงคุณ แล้วทิ้งให้เด็กโตมาไร้พ่อได้ 
ดังนั้นข้ออ้างยิงเพราะคิดว่าเป็นขโมยจึงไม่ใช่เรื่องแปลกในประเทศนี้”
 
ส่วนในมุมของครอบครัว รีวา ยืนยันว่า ออสการ์เป็นฆาตกรเจตนาฆ่าหญิงสาวอย่างแน่นอน 
ไม่มีเหตุผลเป็นอื่นได้ ในชั้นสอบสวนดูเหมือนเจ้าหน้าที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับยอดนักกีฬา 
นักสืบที่ไปตรวจที่เกิดเหตุคนแรกและฟันธงว่ามันคือการฆาตกรรมถูกถอดออกจากคดี 
พ่อของรีวาต้องไปที่จุดเกิดเหตุเก็บหลักฐานใส่ถุงแล้วส่งไปให้นิติเวชหลายหน่วยวิเคราะห์เอง 
เขาถึงขั้นต้องเอาประตูที่ถูกยิงไปส่งตรวจด้วย เพราะมีคนเสนอจะซื้อประตูนี้ไป 
และหากประตูหายไป หลักฐานชิ้นสำคัญก็จะหายไปด้วย
ตำรวจไว้ใจไม่ได้ ยิ่งคดีกับนักกีฬาวีรบุรุษของชาติ ผู้ทรงอิทธิพล ฐานะทางบ้านดี
กลายเป็นว่าครอบครัวคนตายกลับต้องสืบคดีส่งหลักฐานตรวจเอง
 
ต่อมาในชั้นศาลออสการ์ให้การว่า เขานอนหลับอยู่ที่เตียง แต่ด้วยความกลัวเรื่องอาชญากรรม 
ทำให้ต้องพกปืนไว้ใต้เตียงเสมอ ตอนตี 2 กว่าๆ เขาได้ยินเสียงดัง จึงลุกขึ้น 
หยิบปืนใช้ไม้ค้ำตัวเองเพื่อพยุงเดิน พยายามฟังเสียงที่ดัง ระหว่างนั้นได้ตะโกนออกมา 
เพื่อให้แฟนสาวได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ ทันใดนั้น! เขาเห็นอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวในห้องน้ำ 
จึงเดินไปหน้าห้องน้ำถือปืนพร้อมลั่นไก ประตูมันล็อก มีคนอยู่ในห้องน้ำแน่นอน วินาทีนั้น เขาคิดว่าคือหัวขโมย
ด้วยความกลัว ด้วยความตกใจ ออสการ์บอกว่าเคยได้รับคำขู่ฆ่ามาก่อน จึงตัดสินใจยิงออกไป 
เมื่อกระหน่ำกระสุนจนเสร็จ จึงพยายามตะโกนบอกให้แฟนสาวรีบแจ้งตำรวจทันที 
เขาคิดว่าเธอยังนอนอยู่บนเตียง แต่ทุกอย่างเงียบ ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ
วินาทีนั้น ออสการ์จึงรู้ว่า สิ่งที่อยู่ในห้องน้ำคือแฟนสาวของเขาเอง ไม่ใช่หัวขโมยที่ไหน 
เขาฉวยไม้คริกเก็ตกระหน่ำตีประตูเพื่อให้เปิดออก แล้วจึงรีบแจ้งแพทย์ รีบอุ้มร่างเธอลงมาเพื่อหวังว่าจะมีชีวิตอยู่ 
แต่มันก็สายไปเสียแล้ว “เขายืนยันทั้งน้ำตาว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าเธอ เพราะทั้งคู่รักกันมาก รู้สึกเสียใจอย่างที่สุด”
 
ตลอดเวลาที่เกิดเรื่อง ออสการ์ได้รับการประกันตัว คดีนี้เขายอมรับว่าก่อเหตุยิงแฟนสาวจริง 
แต่ย้ำว่ามันคืออุบัติเหตุ ศาลชั้นต้นตัดสินว่าเขามีความผิดจริง แต่ลงโทษจำคุก 5 ปี 
นับเป็นโทษที่เบามากกับความผิดที่ก่อ เขาจำคุกแค่ 10 เดือนก็ได้รับการปล่อยตัวและให้กักขังตัวเองในบ้านแทน
 
ครอบครัว รีวา ไม่ยอมรับในคำตัดสินของศาลชั้นต้น พวกเขาจึงยื่นเรื่องสู่ศาลอุทธรณ์ 
ต่อมาศาลอุทธรณ์ตัดสินให้ออสการ์จำคุก 6 ปี แต่อัยการรับไม่ได้นี่เป็นโทษเบากว่าที่สังคมคาดหวัง 
จึงได้ส่งเรื่องไปสู่ศาลฎีกา โดยอัยการนำหลักฐานมาชี้แจงต่อศาลว่า.. 
ก่อนเกิดเหตุออสการ์ กับรีวา ทะเลาะกันอย่างรุนแรงมาก ด้วยความโกรธไม่พอใจ 
ซึ่งเป็นนิสัยของชายหนุ่มอยู่แล้ว จึงข่มขู่จะทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนเธอต้องหนีไปขังตัวเองในห้องน้ำ 
หยิบมือถือเตรียมจะขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกยิงใส่จนเสียชีวิต
หลักฐานชี้ว่าบ้านที่ชายหนุ่มพัก แม้จะเคยถูกก่อเหตุย่องเบาเมื่อหลายปีก่อนจริง 
แต่หลังเหตุการณ์นั้น ระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านก็ยกระดับ มีกำแพงสูง
 ดังนั้นจึงยากที่ขโมยคนไหนจะเข้ามาในหมู่บ้านได้ และก่อนเกิดเหตุมีคนได้ยินเสียงชายหญิงทะเลาะกันในบ้าน 
ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ตามด้วยเสียงปืนดังสนั่น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอีกครั้ง 
ก่อนมีเสียงปืนดังอีกครา จากนั้นทุกอย่างก็เงียบลง
นอกจากนี้วิถีกระสุนที่พบยังหักล้างข้ออ้างที่ออสการ์บอกว่า ใช้ไม้ค้ำยันร่างระหว่างยิงนั้นเป็นไปไม่ได้เลย 
ที่จริงแล้วเขาใส่ขาเทียมแล้วเดินตัวตรงไปห้องน้ำ เพื่อให้ยืนได้อย่างมั่นคง ก่อนเจตนาเหนี่ยวไกปืน 
เล็งเป้าต่ำ ให้กระสุนพุ่งเข้าใส่หญิงสาวอย่างโหดเหี้ยม การจำลองเหตุการณ์โน้มน้าวใจลูกขุนอย่างมาก
อีกจุดหนึ่งที่อัยการนำหลักฐานมาแสดงต่อศาล ชี้ว่าออสการ์เคยไปออกรายการทีวีแสดงความยโส
ว่าจะเอาตัวรอดจากคดีนี้ ย้ำว่าตัวเขาจะต้องชนะ แม้จะติดคุกหลังศาลอุทธรณ์พิพากษา 
แต่ก็ได้ย้ายไปอยู่ในเรือนจำที่เอื้อต่อคนพิการ แถมที่ผ่านมาเขาไม่เคยแสดงการสำนึกผิด
หรือแสดงความเสียใจมากพอในสายตาของครอบครัวของ รีวา เลย..
 
มีต่อ ในคอมเม้นนะคะ ..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่