.
.
.
.
.
คิมมินแช สาวน้อยวัยกระเตาะกำลังจะขึ้นเวทีแข่งขันรายการเต้นบัลเลต์ มีแม่ที่เป็นอดีตนักกีฬามีชื่อเสียงมาส่ง แม้จะอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัย ยังมีคนจดจำแม่ของมินแชได้
ที่ข้างเวที เธอยืนมองดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของผู้เข้าแข่งขันนักบัลเลต์อีกคน เมื่อคิวมาถึงเธอเจ้าหน้าที่ขานชื่อ เธอกลับยืนนิ่ง และตัดสินใจวิ่งออกมาจากการแข่งขัน
เธอบอกแม่ว่าเธอมาเพื่อชนะ แต่ในเมื่อมีคนที่เก่งกว่า เธอจะแข่งไปเพื่ออะไร . . แม่ย้อนถามว่า ถ้าไม่ชนะที่หนึ่งก็ไร้ความหมายเลยอย่างนั้นหรือ ตรรกะแบบไหนกัน . . สาวน้อยตอบแม่ว่า เธอจะเลิกเต้นบัลเลต์แล้ว
มินแช หอบเสื้อผ้าไปอยู่บ้านยายช่วงฤดูร้อน ยายไม่ได้กดดันอะไรเธอ แต่ก็เลียบๆ เคียงๆ ถามถึงเรื่องบัลเลต์ที่หลานเต้นมาแล้วตั้ง 5 ปี จะทิ้งไปเฉยๆ อย่างนั้นหรือ มินแชบอกยายว่า . . หนูต้องทำอะไรสักอย่าง ให้ดูเหมือนหนูกำลังทำอะไรอยู่จริงๆ . . ในประโยคนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า เธอแค่หมดใจกับบัลเลต์ หรือเธอไม่เคยรักมันมาก่อนเลย
ยายยังถามต่อ . . . ถ้าไม่ต้องทำอะไรที่รู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แล้วหนูมีความฝันไหม . . . มินแชตอบยายกลับเป็นคำถาม . . . คนเราจำเป็นต้องมีความฝันหรือ
มินแชหลบแม่มาอยู่บ้านยาย จะไปนอนที่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่ห้องเดิมของแม่ แหวกโน้นเปิดนี่ไปเรื่อย เจอไดอารี่เล่มเก่าของแม่ หยิบมาพลิกดูทีละหน้าผ่านไป ล้วนเป็นลายมือเขียนทุกหน้า อดทึ่งไม่ได้ แน่นอนว่าแตกต่างจากคนทุกวันนี้
นอกจากความรักในกีฬาฟันดาบของแม่ที่ถ่ายทอดอยู่ในไดอารี่ ยังมี คนคนนั้น ที่แม่เอ่ยถึง แต่จะเป็น คนไหนกัน หรือจะเป็น แฟนเก่า ของแม่กันนะ
.
.
.
.
.
ต่อในคอมเมนต์ค่ะ
[Twenty-Five Twenty-One] อย่าให้ใครมาพรากความฝันไปจากเรา (opening)
.
.
.
.
.
คิมมินแช สาวน้อยวัยกระเตาะกำลังจะขึ้นเวทีแข่งขันรายการเต้นบัลเลต์ มีแม่ที่เป็นอดีตนักกีฬามีชื่อเสียงมาส่ง แม้จะอยู่ภายใต้หน้ากากอนามัย ยังมีคนจดจำแม่ของมินแชได้
ที่ข้างเวที เธอยืนมองดูการแสดงที่ยอดเยี่ยมของผู้เข้าแข่งขันนักบัลเลต์อีกคน เมื่อคิวมาถึงเธอเจ้าหน้าที่ขานชื่อ เธอกลับยืนนิ่ง และตัดสินใจวิ่งออกมาจากการแข่งขัน
เธอบอกแม่ว่าเธอมาเพื่อชนะ แต่ในเมื่อมีคนที่เก่งกว่า เธอจะแข่งไปเพื่ออะไร . . แม่ย้อนถามว่า ถ้าไม่ชนะที่หนึ่งก็ไร้ความหมายเลยอย่างนั้นหรือ ตรรกะแบบไหนกัน . . สาวน้อยตอบแม่ว่า เธอจะเลิกเต้นบัลเลต์แล้ว
มินแช หอบเสื้อผ้าไปอยู่บ้านยายช่วงฤดูร้อน ยายไม่ได้กดดันอะไรเธอ แต่ก็เลียบๆ เคียงๆ ถามถึงเรื่องบัลเลต์ที่หลานเต้นมาแล้วตั้ง 5 ปี จะทิ้งไปเฉยๆ อย่างนั้นหรือ มินแชบอกยายว่า . . หนูต้องทำอะไรสักอย่าง ให้ดูเหมือนหนูกำลังทำอะไรอยู่จริงๆ . . ในประโยคนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า เธอแค่หมดใจกับบัลเลต์ หรือเธอไม่เคยรักมันมาก่อนเลย
ยายยังถามต่อ . . . ถ้าไม่ต้องทำอะไรที่รู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่าง แล้วหนูมีความฝันไหม . . . มินแชตอบยายกลับเป็นคำถาม . . . คนเราจำเป็นต้องมีความฝันหรือ
มินแชหลบแม่มาอยู่บ้านยาย จะไปนอนที่ไหนได้ ถ้าไม่ใช่ห้องเดิมของแม่ แหวกโน้นเปิดนี่ไปเรื่อย เจอไดอารี่เล่มเก่าของแม่ หยิบมาพลิกดูทีละหน้าผ่านไป ล้วนเป็นลายมือเขียนทุกหน้า อดทึ่งไม่ได้ แน่นอนว่าแตกต่างจากคนทุกวันนี้
นอกจากความรักในกีฬาฟันดาบของแม่ที่ถ่ายทอดอยู่ในไดอารี่ ยังมี คนคนนั้น ที่แม่เอ่ยถึง แต่จะเป็น คนไหนกัน หรือจะเป็น แฟนเก่า ของแม่กันนะ
.
.
.
.
.
ต่อในคอมเมนต์ค่ะ