ได้กลับมาเล่าเรื่องราวท่องเที่ยว และแชร์สถานที่น่าสนใจกับเพื่อนๆในพันทิปอีกครั้ง 

หลังจากเก็บตัวอยู่บ้านมานาน 

 

ทริปนี้เราไม่ได้ไปไหนไกลจากกรุงเทพฯ (เรียกว่าใกล้สุดๆ เลยก็ว่าได้) 

เรามาแค่อยุธยานี่เอง 

พอมาเที่ยวอยุธยาแล้วนึกถึงเพลงๆ นึงทันที

'อยุธยาเมืองเก่าของเราแต่ก่อน 

จิตใจอาวรณ์มาเล่าสู่กันฟัง 

อยุธยาแต่ก่อนนี้ยัง 

เป็นดังเมืองทองของพี่น้องเผ่าพงศ์ไทย' 

 

สถานที่แรกที่เราแวะเป็นอันดับแรก คือ วัดพิชัยสงคราม

 

Brief Info. :

วัดพิชัยสงครามมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในช่วงก่อนเสีย กรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 เมื่อ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้ตีฝ่าวงล้อมของกองทัพพม่าออกไปยัง เมืองจันทบูร จากวัดแห่งนี้ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้างเมื่อวันที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2309 หรือก่อนเสียกรุงได้ไม่นาน

 

จากนั้นในสมัย กรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชกาลที่ 4 – รัชกาลที่ 5 ได้มีชาวบ้านเข้ามาบูรณะปฏิสังขรณ์วัดพิชัยจนกลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมกับเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดพิชัยสงคราม เพื่อเป็นสิริมงคลและเพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น . . . วัดพิชัยสงครามได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดย กรมศิลปากร เมื่อ พ.ศ. 2504 

[ข้อมูลจาก Wikipedia]

  

ภายในโบสถ์มีพระประธาน และภาพวาดอยู่โดยรอบ .. ภาพจิตกรรมฝาผนังลายเส้นสวยมากๆ

 

จากนั้นเราก็แวะไปร้าน Tewa Café 

ร้านกาแฟผสมผสานระหว่างสไตล์ Thai Contemporary และ Modern ที่เน้นโทนสีขาวและน้ำตาล  

และประดับด้วยสีเขียวของต้นไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและสดชื่น 

 

     

 

ภายในร้านมีมุมให้ถ่ายรูปหลายมุม ... เพลินทีเดียวค่ะ

ส่วนเมนูของเราในวันนั้น คือ Scone กับ Black Sesame Latte

 

กาแฟก็โอเคค่ะ แต่หวานไป (สำหรับเรา)

ส่วนขนม scone ก็ใช้ได้ค่ะ ไม่ขี้เหร่ แป้งอาจจะแข็งไปนิดวันนั้น

 

เวลาถัดมาเราก็เข้าโรงแรมแล้ววววววววว ไปนอนตีพุงเล่นดีกว่า

ศาลาบางปะอิน boutique resort แห่งล่าสุดของ Sala hospitality group 

ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวในกลางริมแม่น้ำเจ้าพระยา

 

บรรยากาศของที่พักร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ อากาศสบายๆ ลมพัดเย็นสบายตลอดเวลาที่เราเข้าพัก

ด้วยความที่อยู่ติดแม่น้ำ อากาศก็จะไม่ร้อนมาก (หน้าร้อนคงต้องดูอีกที)

 

     

ทางโรงแรมเตรียม amenities ไว้ให้ครบครัน ทั้งครีมอาบน้ำ แชมพูสระผม หวี แปรงสีฟัน โลชั่น etc.

 

ตอนเย็นตอนพระอาทิตย์ใกล้ตก เราก็ออกมาเดินเล่นบนทางเท้าที่โรงแรมทำไว้ให้เดินรอบเกาะได้ ชิลสุดๆ

 

พอดื่มด่ำกับบรรยากาศจนพอใจแล้ว เราก็มาฝากท้องที่ห้องอาหารของโรงแรม

 

ระหว่างรออาหาร ทางโรงแรมก็เสิร์ฟ 'ม้าฮ่อ' ซึ่งเป็นอาหารว่างไทยโบราณมาให้เราชิม 

 

หรืออยากฆ่าเวลาด้วยการถ่ายรูปพระอาทิตย์กำลังจะตกก็ได้

 

อาหารของเรามาเสิร์ฟแล้ววววววว

เมนูแรก กระทงทองลาบหมู 

รสชาติดีเลิศค่ะ

 

เมนูถัดมา Fish & chips กรอบนอกนุ่มใน . . . เด็ดสุด

 

เมนูสุดท้าย ไก่ผัดเม็ดมะม่วง 

อร่อยแบบไม่เหลือแม้แต่ผักสักชิ้นเดียว รสชาติกลมกล่อม (สำหรับเรานะ) ถูกปากมาก 

 

และ . . . ถึงแม้ว่าจะอิ่มแค่ไหน ก็ต้องมีพื้นที่สำหรับของหวาน

เมนู ขนมเปียกปูนเชฟอ๋า ก็ดีนะคะ ไม่หวานมาก หนักไปทางมันกะทิ 

 

มื้อนี้ 1,425 บาท

 

จบวันแรกไปแบบอิ่มพุงกาง แถมวิวสะพานจากห้องเราให้อีกภาพ 

เสริมอีกนิด บรรยากาศตอนกลางคืนเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจมาก