คาดว่าเรื่องน่าจะยาวแต่จะพยายามเล่าให้กระชับที่สุดค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าพ่อของเราเอาที่ดินไปจำนองได้เงินมา 80,000 บาทผ่านไปสองปีไม่มีเงินไปใช้ดอกเลยเพิ่ม กลายเป็นเงินจำนวนแสนเจ็ด เราเพิ่งมารู้ทีหลัง พ่อไม่มีเงินไปใช้เขา ตอนแรกเลยว่าจะปล่อยให้เขายึดที่ดินตรงนั้นไป แต่ป้าเราไม่ยอมเลยไปหาเงินมาไถ่ที่ดินคืน แต่ทีนี้ป้าอยากให้เราช่วยใช้อีก 70,000 คิดว่าใช้ดอกเบี้ยไป อีกแสนนึงป้าจะใช้หนี้เองแล้วเอาที่ดินโอนเป็นของป้า แต่แม่เราไม่ยอมแม่บอกว่าถ้าจะไถ่ถอนต้องเป็นเงินตัวเองทั้งหมดแสนเจ็ด ไม่ต้องมาให้เรารับผิดชอบด้วย ตอนนั้นเราเองก็ไม่มีเงินเราก็เลยปฏิเสธไม่อยากไถ่ให้พ่อ แต่ทีนี้เหมือนโดนฝั่งป้าคะยั้นคะยอด้วย ฝั่งแม่ก็ไม่ยอมท่าเดียว สุดท้ายเราจึงตัดสินใจไปกู้เงินมาไถ่ที่ดินเองเลยทั้งแสนเจ็ด แต่ยังเป็นชื่อที่ดินของพ่อ ในการกู้เราจึงเอาที่ตรงนี้เข้าค้ำตอนยื่นกู้เพื่อขยายวงเงินให้พอด้วย สุดท้ายได้เงินมาใช้หนี้ป้าแสนนึง และอีก 70000 ให้เจ้าหนี้เขา ผ่านมาสามสี่เดือน ป้ามาบอกว่าพ่อไปพูดว่าจะขายที่ตรงนั้นให้ป้าอีกแล้วในราคาหนึ่งแสน เพราะพ่อไปเอาเงินกับป้ามาอีก 45000 แถมไปเอากับลุงมาอีก 30000 กลายเป็นเงิน 75000 ป้าบอกว่าจะใช้หนี้ส่วนที่พ่อยืมลุงมาให้ด้วย และจะหามาให้เพิ่มให้ครบหนึ่งแสน พอเรารู้จากป้า ยอมรับว่าอึ้งไปเลย เพราะพ่อไม่ได้มาปรึกษาหรือบอกกล่าวสักคำ ตอนนั้นทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ เพราะถึงยังไงเราก็ไถ่มาตั้ง แสนเจ็ด พ่อจะมาขายให้ป้าแสนเดียวเหมือนเดิม ทั้งที่คุยกันไปแล้ว เข้าใจว่ามันเป็นสิทธิพ่อ เพราะเป็นที่ดินพ่อ ไม่ใช่ของเรา แต่ก็ตรงๆ ว่าเราเป็นคนรับภาระใช้หนี้ที่ดินตรงนี้อยู่ไง เพราะฉะนั้น เราจึงไม่ยอมให้ขาย เราก็เลยไปกู้มาใช้หนี้ให้พ่ออีก แต่มันเต็มที่แล้ว ก็ยังไม่หมดหนี้ป้า เพราะก็ยังต้องเอามาหมุนใช้ภาระอย่างอื่นของพ่ออีก ตอนนี้ก็เลยมานั่งคิด ว่าที่ตรงนี้ยังควรจะยื้อมันต่อไปมั้ย หรือควรขายให้ป้าไปเลยดี ในราคาที่ผู้ใหญ่เขาตกลงกัน ส่วนเราก็ทำใจใหญ่ถือว่าเอาเงินไปตุบหนี้ แบบเสียเปล่าไปเลยแบบนั้นดีมั้ย เพราะบางทีก็อึดอัดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่เหมือนกัน พี่น้องเขาตกลงกันมาตั้งแต่ตอนไหน ว่าอย่างไร เราไม่รู้ แต่ตอนนี้เราเหมือนเข้าไปแทรกในเรื่องของการรับภาระใช้หนี้แทนอยู่ ก็เลยกำลังคิดว่า จะปล่อยที่ดินผืนนั้นไปให้ป้าแล้วก็เอาเงินที่เหลือมาแต่ว่าคงไม่พอใช้หนี้เดิมตัวเอง ก็คือต้องทำใจ.. หรือก็เก็บไว้อย่างนี้เผื่ออนาคตข้างหน้าดี
ทุกคนมีมุมมอง หรือความเห็นยังไงบ้างคะ ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ
ปัญหาครอบครัว ญาติพี่น้อง อยากทราบทุมมองความคิดค่ะ ว่าเจอปัญหาแบบนี้ควรตัดสอนใจยังไง
เรื่องมีอยู่ว่าพ่อของเราเอาที่ดินไปจำนองได้เงินมา 80,000 บาทผ่านไปสองปีไม่มีเงินไปใช้ดอกเลยเพิ่ม กลายเป็นเงินจำนวนแสนเจ็ด เราเพิ่งมารู้ทีหลัง พ่อไม่มีเงินไปใช้เขา ตอนแรกเลยว่าจะปล่อยให้เขายึดที่ดินตรงนั้นไป แต่ป้าเราไม่ยอมเลยไปหาเงินมาไถ่ที่ดินคืน แต่ทีนี้ป้าอยากให้เราช่วยใช้อีก 70,000 คิดว่าใช้ดอกเบี้ยไป อีกแสนนึงป้าจะใช้หนี้เองแล้วเอาที่ดินโอนเป็นของป้า แต่แม่เราไม่ยอมแม่บอกว่าถ้าจะไถ่ถอนต้องเป็นเงินตัวเองทั้งหมดแสนเจ็ด ไม่ต้องมาให้เรารับผิดชอบด้วย ตอนนั้นเราเองก็ไม่มีเงินเราก็เลยปฏิเสธไม่อยากไถ่ให้พ่อ แต่ทีนี้เหมือนโดนฝั่งป้าคะยั้นคะยอด้วย ฝั่งแม่ก็ไม่ยอมท่าเดียว สุดท้ายเราจึงตัดสินใจไปกู้เงินมาไถ่ที่ดินเองเลยทั้งแสนเจ็ด แต่ยังเป็นชื่อที่ดินของพ่อ ในการกู้เราจึงเอาที่ตรงนี้เข้าค้ำตอนยื่นกู้เพื่อขยายวงเงินให้พอด้วย สุดท้ายได้เงินมาใช้หนี้ป้าแสนนึง และอีก 70000 ให้เจ้าหนี้เขา ผ่านมาสามสี่เดือน ป้ามาบอกว่าพ่อไปพูดว่าจะขายที่ตรงนั้นให้ป้าอีกแล้วในราคาหนึ่งแสน เพราะพ่อไปเอาเงินกับป้ามาอีก 45000 แถมไปเอากับลุงมาอีก 30000 กลายเป็นเงิน 75000 ป้าบอกว่าจะใช้หนี้ส่วนที่พ่อยืมลุงมาให้ด้วย และจะหามาให้เพิ่มให้ครบหนึ่งแสน พอเรารู้จากป้า ยอมรับว่าอึ้งไปเลย เพราะพ่อไม่ได้มาปรึกษาหรือบอกกล่าวสักคำ ตอนนั้นทั้งเสียใจ ทั้งน้อยใจ เพราะถึงยังไงเราก็ไถ่มาตั้ง แสนเจ็ด พ่อจะมาขายให้ป้าแสนเดียวเหมือนเดิม ทั้งที่คุยกันไปแล้ว เข้าใจว่ามันเป็นสิทธิพ่อ เพราะเป็นที่ดินพ่อ ไม่ใช่ของเรา แต่ก็ตรงๆ ว่าเราเป็นคนรับภาระใช้หนี้ที่ดินตรงนี้อยู่ไง เพราะฉะนั้น เราจึงไม่ยอมให้ขาย เราก็เลยไปกู้มาใช้หนี้ให้พ่ออีก แต่มันเต็มที่แล้ว ก็ยังไม่หมดหนี้ป้า เพราะก็ยังต้องเอามาหมุนใช้ภาระอย่างอื่นของพ่ออีก ตอนนี้ก็เลยมานั่งคิด ว่าที่ตรงนี้ยังควรจะยื้อมันต่อไปมั้ย หรือควรขายให้ป้าไปเลยดี ในราคาที่ผู้ใหญ่เขาตกลงกัน ส่วนเราก็ทำใจใหญ่ถือว่าเอาเงินไปตุบหนี้ แบบเสียเปล่าไปเลยแบบนั้นดีมั้ย เพราะบางทีก็อึดอัดกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่เหมือนกัน พี่น้องเขาตกลงกันมาตั้งแต่ตอนไหน ว่าอย่างไร เราไม่รู้ แต่ตอนนี้เราเหมือนเข้าไปแทรกในเรื่องของการรับภาระใช้หนี้แทนอยู่ ก็เลยกำลังคิดว่า จะปล่อยที่ดินผืนนั้นไปให้ป้าแล้วก็เอาเงินที่เหลือมาแต่ว่าคงไม่พอใช้หนี้เดิมตัวเอง ก็คือต้องทำใจ.. หรือก็เก็บไว้อย่างนี้เผื่ออนาคตข้างหน้าดี
ทุกคนมีมุมมอง หรือความเห็นยังไงบ้างคะ ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ