สวัสดีค่ะทุกคน
ช่วงนี้ ชีวิตจะวนเวียนอยู่แค่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์แต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ บลาๆๆๆ เพราะกำลังตกแต่งบ้านอยู่ ไม่ค่อยได้รีวิวทริปท่องเที่ยวเลยค่ะ ฮืออออ.... แต่ก็เอ๊ะขึ้นมาได้ว่า งั้นมารีวิวของที่เราซื้อมาเตรียมไว้ใช้ในบ้านดีกว่า
ขอเริ่มที่กล้องวงจรปิดก่อนนะคะ พอดีว่า กำลังเห่อ 55555555555
ยุคนี้ กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากกกกกก เรียกได้ว่า ต้องมีไว้ติดบ้านเลยทีเดียว... ที่จริงในบ้าน แป้งได้ติดกล้องวงจรปิดแบบมีสายไว้แล้วค่ะ โดยเดินสายร้อยท่อฝังในผนังไว้เพื่อไม่ให้มีสายไฟเกะกะ แต่พอผ่านไปซักพัก คิดไปคิดมา เดินไปเดินมา และตีลังการอบบ้านแล้ว ก็รู้สึกว่ายังไม่พอแฮะ แต่ถ้าติดแบบเดิมเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะ server channel ที่มีอยู่เต็มไปแล้ว แถมตอนนี้ผนังทุกด้านเนียนกริ๊บมากกกก!!! ทำใจเดินสายลอยไม่ได้จริงๆ ก็เลยมาจบที่กล้องวงจรปิดแบบไร้สายค่า แป้งสอยมา 2 รุ่น (ใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือ/ไอแพดตัวเดียวกัน) คือ Pro Cctv รุ่น PR-P400PLUS3X กับ PR-R200PLUS6X ตั้งใจว่า จะเอามาไว้ในบ้าน 1 ตัวและหน้าบ้าน 1 ตัว
ก่อนจะ unbox แต่ละรุ่น แป้งทำเปรียบเทียบคร่าวๆ ให้ก่อนนะคะ 😊
โอเคคคค งั้นเรามาเริ่ม unbox กันทีละรุ่นกันเลยนะคะ
เริ่มที่ตัวแรก… Pro Cctv รุ่น PR-P400PLUS3X หน้าตาเหลี่ยมๆ มนๆ ดูปุ๊กปิ๊กดี เลยเลือกเจ้าตัวนี้มาดูแลภายในตัวบ้านค่ะ หน้าตาดูไม่โดดจากเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เท่าไหร่
- ความละเอียดของภาพก็ชัดแจ๋วแหววมากกกก (4 ล้านพิกเซล (2560*1440P))
- มีฟังก์ชั่นจับการเคลื่อนไหว เวลาที่มีการเคลื่อนไหวหน้ากล้อง จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอพพลิเคชั่นที่เราเชื่อมต่อไว้ (แป้งใช้แอพ Vicohome นะคะ) แล้วก็อัดคลิปวีดีโอช่วงนั้นให้ดูย้อนหลังได้ โดยเลือกได้ว่าจะบันทึก 10, 15, 20 วินาที หรือ auto ได้ยาวสุด 3 นาที
- สามารถพูดคุยกับคนหน้ากล้องได้ (เช่น เปิดลำโพงบอกให้สามีตากผ้า 555)
ในกล่องมีตัวกล้อง ฐานยึดติดผนัง อุปกรณ์ช่วยติดตั้ง สายชาร์จ และคู่มือมาให้ค่ะ
ตัวกล้องเป็นสีขาว ด้านหน้าสีดำเงา ขนาดกว้าง 63.3 x 72.1 x 97.4 mm หน้าตาเหลี่ยมๆ มนๆ ดูปุ๊กปิ๊ก เลยตั้งชื่อกล้องตัวนี้ในแอพว่า mini box >.<
มีปุ่มกลมๆ ทั้ง 2 ข้าง สำหรับกดเปิดแผ่นปิดด้านหลัง เพื่อเสียบ sd card
ด้านล่างของตัวกล้อง มีปุ่มกดสำหรับเปิด ปิด และที่เสียบชาร์จแบตเตอร์รี่ แบตของเค้าเป็นแบตลิเทียม แบบสามารถชาร์จได้ โดยสามารถใช้ได้ยาวๆ ประมาณ 6 เดือนต่อรอบการใช้งาน หรือถ้าเข้าโหมด standby จะอยู่ได้ 1 ปี
แล้วก็มีช่องลำโพงและไมโครโฟนในตัว ทำให้สื่อสารได้ทั้ง 2 ทาง ก็คือ เราสามารถกดพูดในแอพ เพื่อให้คนที่อยู่หน้ากล้องได้ยิน และคนที่อยู่หน้ากล้องก็สามารถโต้ตอบเราได้เหมือนกันค่ะ (เอาไว้ใช้เรียกให้แฟนปิดไฟ ปิดประตู เลิกเล่นเกม 555)
วิธีติดตั้งของรุ่นนี้ง่ายมากค่ะ เค้าใช้เป็นระบบแม่เหล็กยึดติดระหว่างด้านหลังของตัวกล้องกับฐานยึดติดผนัง สามารถถอดออกตัวกล้องออกมาชาร์จแบตได้สะดวกมากกกก
แม่เหล็กติดยึดแน่นหนึบมาก
นี่เป็นภาพช่วงกลางวันค่ะ ด้วยความละเอียดของภาพถึง 4 ล้านพิกเซล ได้ภาพชัดแจ๋วแหววมากกกก
ส่วนภาพที่ได้ช่วงกลางคืน แป้งเอามาให้ดู 3 เวอร์ชั่น คือ รูปตอนเปิดไฟ รูปตอนห้องมืด และรูปตอนห้องมืด (เปิดแสงสปอร์ตไลท์บนกล้อง)
เวลากลางคืน ตัวกล้องจะใช้ระบบแสงอินฟราเรดเป็นตัวช่วยให้สามารถเห็นภาพได้ชัด โดยจะได้ภาพสีขาว-ดำ หรือถ้าเราต้องการมองเห็นเป็นภาพสีชัดๆ ก็สามารถสั่งผ่านแอพให้เปิดไฟแสงสปอร์ตไลท์ที่ตัวกล้องได้ค่ะ
ส่วนอีกรุ่นที่เอามาใช้ คือ Pro Cctv รุ่น PR-R200PLUS6X เราเอาไว้ใช้กับส่วนนอกบ้านค่ะ ไว้คอยสอดส่องความเรียบร้อย โดยความละเอียดของภาพอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล (น้อยกว่ารุ่น PR-P400PLUS3X)
ที่จริงๆ สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก แต่เราว่า ใช้ภายนอกบ้านจะเหมาะกว่า เพราะถ้าจะถอดรุ่นนี้ออกจากฐานยึดติดผังต้องหมุนเกลียวน็อตก่อน
ในกล่อง มีตัวกล้อง ฐานยึดติดผนัง อุปกรณ์ช่วยติดตั้ง สายชาร์จ และคู่มือ
เป็นรุ่นมีหู เลยตั้งชื่อกล้องในแอพว่า white rabbit เรียกน่ารักมะ 555
มีแบตเตอร์รี่ในตัว ความจุ 10,000 มิลลิแอมป์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 10 ชั่วโมง โดยใช้งานได้ยาวๆ ถึง 8 เดือนต่อการชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้ง ถ้าเป็น standby mode อยู่ได้ถึง 15 เดือน
วิธีติดตั้งรุ่นนี้ก็ง่ายเหมือนกันค่ะ โดยใช้น็อตขันเกลียวยึดติดระหว่างตัวกล้องกับฐานยึด แล้วค่อยปรับล็อคองศากล้องตามต้องการ
ภาพที่ได้ตอนกลางวันค่ะ ความชัดจะน้อยกว่ารุ่น PR-P400PLUS3X แต่ถ้าใช้กับบริเวณภายนอก เราว่าโอเคอยู่นะคะ เพราะมีแสงธรรมชาติช่วยอยู่แล้ว ภาพที่ออกสามารถมองเห็นหน้าคนได้ชัดอยู่
แล้วก็ภาพตอนกลางคืนค่ะ แป้งทำรูปมาเป็น 3 เวอร์ชั่นเหมือนเดิมนะคะ การทำงานก็จะคล้ายกับรุ่นที่รีวิวไปก่อนหน้าค่ะ จะแต่กันก็ที่ความละเอียดของภาพที่ได้นี่แหระ
ส่วนนี่เป็น SD card ที่ใช้กับกล้อง โดยสามารถใช้ได้กับกล้องวงจรปิดทั้ง 2 รุ่นเลยค่ะ
รีวิวจบแล้วค้าบบบบ ขอเขียนยาวหน่อยนะคะ (แฮร่ๆ พยายามให้กระชับแล้ว) แต่แป้งอยากให้ทุกคนได้อ่านรายละเอียดแบบชัดๆ ค่ะ เพื่อนๆ จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจได้
ปล. จริงๆ รายละเอียดกล้องเยอะกว่านี้อีกมากกกก ลองไปสอบถามที่ร้านเค้าดูอีกทีนะคะ
ไว้เจอกันใหม่นะคะ สวัสดีค่า
[CR] [ของมันต้องมีติดบ้านเรา] รีวิวกล้องวงจรปิดไร้สาย PRO CCTV ภาพชัด ใช้งานง่าย แถมพูดได้ด้วย
ช่วงนี้ ชีวิตจะวนเวียนอยู่แค่ร้านขายวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์แต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ บลาๆๆๆ เพราะกำลังตกแต่งบ้านอยู่ ไม่ค่อยได้รีวิวทริปท่องเที่ยวเลยค่ะ ฮืออออ.... แต่ก็เอ๊ะขึ้นมาได้ว่า งั้นมารีวิวของที่เราซื้อมาเตรียมไว้ใช้ในบ้านดีกว่า ขอเริ่มที่กล้องวงจรปิดก่อนนะคะ พอดีว่า กำลังเห่อ 55555555555
ยุคนี้ กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากกกกกก เรียกได้ว่า ต้องมีไว้ติดบ้านเลยทีเดียว... ที่จริงในบ้าน แป้งได้ติดกล้องวงจรปิดแบบมีสายไว้แล้วค่ะ โดยเดินสายร้อยท่อฝังในผนังไว้เพื่อไม่ให้มีสายไฟเกะกะ แต่พอผ่านไปซักพัก คิดไปคิดมา เดินไปเดินมา และตีลังการอบบ้านแล้ว ก็รู้สึกว่ายังไม่พอแฮะ แต่ถ้าติดแบบเดิมเพิ่มก็ไม่ได้ เพราะ server channel ที่มีอยู่เต็มไปแล้ว แถมตอนนี้ผนังทุกด้านเนียนกริ๊บมากกกก!!! ทำใจเดินสายลอยไม่ได้จริงๆ ก็เลยมาจบที่กล้องวงจรปิดแบบไร้สายค่า แป้งสอยมา 2 รุ่น (ใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือ/ไอแพดตัวเดียวกัน) คือ Pro Cctv รุ่น PR-P400PLUS3X กับ PR-R200PLUS6X ตั้งใจว่า จะเอามาไว้ในบ้าน 1 ตัวและหน้าบ้าน 1 ตัว
ก่อนจะ unbox แต่ละรุ่น แป้งทำเปรียบเทียบคร่าวๆ ให้ก่อนนะคะ 😊
โอเคคคค งั้นเรามาเริ่ม unbox กันทีละรุ่นกันเลยนะคะ
เริ่มที่ตัวแรก… Pro Cctv รุ่น PR-P400PLUS3X หน้าตาเหลี่ยมๆ มนๆ ดูปุ๊กปิ๊กดี เลยเลือกเจ้าตัวนี้มาดูแลภายในตัวบ้านค่ะ หน้าตาดูไม่โดดจากเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เท่าไหร่
- ความละเอียดของภาพก็ชัดแจ๋วแหววมากกกก (4 ล้านพิกเซล (2560*1440P))
- มีฟังก์ชั่นจับการเคลื่อนไหว เวลาที่มีการเคลื่อนไหวหน้ากล้อง จะมีการแจ้งเตือนผ่านแอพพลิเคชั่นที่เราเชื่อมต่อไว้ (แป้งใช้แอพ Vicohome นะคะ) แล้วก็อัดคลิปวีดีโอช่วงนั้นให้ดูย้อนหลังได้ โดยเลือกได้ว่าจะบันทึก 10, 15, 20 วินาที หรือ auto ได้ยาวสุด 3 นาที
- สามารถพูดคุยกับคนหน้ากล้องได้ (เช่น เปิดลำโพงบอกให้สามีตากผ้า 555)
ในกล่องมีตัวกล้อง ฐานยึดติดผนัง อุปกรณ์ช่วยติดตั้ง สายชาร์จ และคู่มือมาให้ค่ะ
ตัวกล้องเป็นสีขาว ด้านหน้าสีดำเงา ขนาดกว้าง 63.3 x 72.1 x 97.4 mm หน้าตาเหลี่ยมๆ มนๆ ดูปุ๊กปิ๊ก เลยตั้งชื่อกล้องตัวนี้ในแอพว่า mini box >.<
มีปุ่มกลมๆ ทั้ง 2 ข้าง สำหรับกดเปิดแผ่นปิดด้านหลัง เพื่อเสียบ sd card
ด้านล่างของตัวกล้อง มีปุ่มกดสำหรับเปิด ปิด และที่เสียบชาร์จแบตเตอร์รี่ แบตของเค้าเป็นแบตลิเทียม แบบสามารถชาร์จได้ โดยสามารถใช้ได้ยาวๆ ประมาณ 6 เดือนต่อรอบการใช้งาน หรือถ้าเข้าโหมด standby จะอยู่ได้ 1 ปี
แล้วก็มีช่องลำโพงและไมโครโฟนในตัว ทำให้สื่อสารได้ทั้ง 2 ทาง ก็คือ เราสามารถกดพูดในแอพ เพื่อให้คนที่อยู่หน้ากล้องได้ยิน และคนที่อยู่หน้ากล้องก็สามารถโต้ตอบเราได้เหมือนกันค่ะ (เอาไว้ใช้เรียกให้แฟนปิดไฟ ปิดประตู เลิกเล่นเกม 555)
วิธีติดตั้งของรุ่นนี้ง่ายมากค่ะ เค้าใช้เป็นระบบแม่เหล็กยึดติดระหว่างด้านหลังของตัวกล้องกับฐานยึดติดผนัง สามารถถอดออกตัวกล้องออกมาชาร์จแบตได้สะดวกมากกกก
แม่เหล็กติดยึดแน่นหนึบมาก
นี่เป็นภาพช่วงกลางวันค่ะ ด้วยความละเอียดของภาพถึง 4 ล้านพิกเซล ได้ภาพชัดแจ๋วแหววมากกกก
ส่วนภาพที่ได้ช่วงกลางคืน แป้งเอามาให้ดู 3 เวอร์ชั่น คือ รูปตอนเปิดไฟ รูปตอนห้องมืด และรูปตอนห้องมืด (เปิดแสงสปอร์ตไลท์บนกล้อง)
เวลากลางคืน ตัวกล้องจะใช้ระบบแสงอินฟราเรดเป็นตัวช่วยให้สามารถเห็นภาพได้ชัด โดยจะได้ภาพสีขาว-ดำ หรือถ้าเราต้องการมองเห็นเป็นภาพสีชัดๆ ก็สามารถสั่งผ่านแอพให้เปิดไฟแสงสปอร์ตไลท์ที่ตัวกล้องได้ค่ะ
ส่วนอีกรุ่นที่เอามาใช้ คือ Pro Cctv รุ่น PR-R200PLUS6X เราเอาไว้ใช้กับส่วนนอกบ้านค่ะ ไว้คอยสอดส่องความเรียบร้อย โดยความละเอียดของภาพอยู่ที่ 2 ล้านพิกเซล (น้อยกว่ารุ่น PR-P400PLUS3X)
ที่จริงๆ สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก แต่เราว่า ใช้ภายนอกบ้านจะเหมาะกว่า เพราะถ้าจะถอดรุ่นนี้ออกจากฐานยึดติดผังต้องหมุนเกลียวน็อตก่อน
ในกล่อง มีตัวกล้อง ฐานยึดติดผนัง อุปกรณ์ช่วยติดตั้ง สายชาร์จ และคู่มือ
เป็นรุ่นมีหู เลยตั้งชื่อกล้องในแอพว่า white rabbit เรียกน่ารักมะ 555
มีแบตเตอร์รี่ในตัว ความจุ 10,000 มิลลิแอมป์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 10 ชั่วโมง โดยใช้งานได้ยาวๆ ถึง 8 เดือนต่อการชาร์จแบตเต็ม 1 ครั้ง ถ้าเป็น standby mode อยู่ได้ถึง 15 เดือน
วิธีติดตั้งรุ่นนี้ก็ง่ายเหมือนกันค่ะ โดยใช้น็อตขันเกลียวยึดติดระหว่างตัวกล้องกับฐานยึด แล้วค่อยปรับล็อคองศากล้องตามต้องการ
ภาพที่ได้ตอนกลางวันค่ะ ความชัดจะน้อยกว่ารุ่น PR-P400PLUS3X แต่ถ้าใช้กับบริเวณภายนอก เราว่าโอเคอยู่นะคะ เพราะมีแสงธรรมชาติช่วยอยู่แล้ว ภาพที่ออกสามารถมองเห็นหน้าคนได้ชัดอยู่
แล้วก็ภาพตอนกลางคืนค่ะ แป้งทำรูปมาเป็น 3 เวอร์ชั่นเหมือนเดิมนะคะ การทำงานก็จะคล้ายกับรุ่นที่รีวิวไปก่อนหน้าค่ะ จะแต่กันก็ที่ความละเอียดของภาพที่ได้นี่แหระ
ส่วนนี่เป็น SD card ที่ใช้กับกล้อง โดยสามารถใช้ได้กับกล้องวงจรปิดทั้ง 2 รุ่นเลยค่ะ
รีวิวจบแล้วค้าบบบบ ขอเขียนยาวหน่อยนะคะ (แฮร่ๆ พยายามให้กระชับแล้ว) แต่แป้งอยากให้ทุกคนได้อ่านรายละเอียดแบบชัดๆ ค่ะ เพื่อนๆ จะได้ใช้ประกอบการตัดสินใจได้
ปล. จริงๆ รายละเอียดกล้องเยอะกว่านี้อีกมากกกก ลองไปสอบถามที่ร้านเค้าดูอีกทีนะคะ
ไว้เจอกันใหม่นะคะ สวัสดีค่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้