รีวิว : ฉีดวัคซีน Pfizer สำหรับเด็ก 5-12 ปี

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมาตั้งกระทู้รีวิว การเข้ารับวัคซีน Pfizer ของลูกชายเราค่ะ อายุ 6.7 ปี

สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ที่มีลูกในวัยเดียวกันหรือไล่เลี่ยกันกับลูกเรา ที่กำลังคิด และหาข้อมูลอยู่ว่าควรให้ลูกฉีดวัคซีนดีมั้ยหรือจะไม่ฉีดดี

ฉีดแล้วจะมีผลอะไรมั้ย จะเอายังไงดี คิดไปหลายอย่าง เหมือนเราตอนแรก ซึ่งหาข้อมูลเยอะมาก

แต่ยังไม่เจอรีวิวหรือแชร์ประสบการณ์ฉีดวัคซีนในเด็กวัย 5-12 ปี เลย อาจด้วยรัฐบาลเพิ่งประกาศ

เลยยังไม่มีข้อมูล จากประสบการณ์ตรงออกมามากนัก

วันนี้หลังจากที่เราพาลูกเข้ารับวัคซีน เรียบร้อย จึงเป็นที่มาของการตั้งกระทู้นี้

เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาประกอบการตัดสินใจของผู้ปกครองค่ะ 

ปล.กระทู้นี้เป็นประสบการณ์จากลูกเราโดยตรง ซึ่งสภาพร่างกายของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน

อย่าคิดว่าลูกคนนี้ฉีดแล้วไม่เป็นไรเลย หรือทำไมลูกคนนั้นฉีดแล้วมีอาการข้างเคียง

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพของเด็กๆ และการตัดสินใจของแต่ละบ้าน นะคะ  

ถ้าพร้อมแล้วเริ่มเลยค่าาาา.......
    
     ....เริ่มแรกเลยทาง ร.ร.ที่ลูกเราเรียนอยู่ มีจดหมายถึง ผปค.สอบถามความสมัครใจในการเข้ารับการฉีดวัคซีน Pfizer

อย่างที่บอกว่าเราหาข้อมูลในนี้เยอะมาก แต่แทบไม่มีข้อมูลจากประสบการณ์ตรงเลย (หรือเราหาไม่เจอก็ไม่รู้) นอกจากข้อมูลของนักวิชาการ

เราจึงโทรสอบถามคุณหมอประจำของน้องที่ รพ. คุณหมอแจ้งว่าน้องควรเข้ารับวัคซีนนะแม่

เนื่องจากน้องป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจบ่อย และมีภาวะหลอดลมไว ถ้าเกิดติดโควิดขึ้นมาอาจจะลงปอดได้

(คุณหมอจัดให้น้องอยู่ในกลุ่ม 7 โรค) และหมอแจ้งว่าตอนนี้ทาง รพ.ได้โควต้าด้วย และหมอลงชื่อน้องไว้แล้วนะ

คุณแม่สะดวกจะฉีดที่ ร.ร.หรือ ที่ รพ. ตามแต่คุณแม่เลย พอคุณหมอบอกแบบนี้ เราเลยตัดสินใจให้ลูกฉีดที่ รพ.เลยค่ะ

อย่างน้อยอยู่ใกล้หมอก็อุ่นใจหน่อย

    ......หลังจากคุยกันไม่กี่วัน ทาง รพ. ก็โทรมานัดวันฉีด เราเลยเลือกเป็นวันที่ 8 กพ.65 ก็โอเควางสายไป 

แต่ใจก็คิดแบบเอ๊ะนิดนึง ว่าเร็วไปมั้ย จะปลอดภัยมั้ย หรือเอาไงดี รอดูก่อนมั้ย แต่ก็เอาก็เอาตัดสินใจแล้ว

อีกเหตุผลที่เราให้น้องฉีดคือ เราต้องออกมาทำงานนอกบ้าน โดยใช้บริการรถสาธารณะทุกวัน ต้องเจอคนเยอะ

กลัวว่าเราจะเป็นตัวนำพาเชื้อโรค เลยเป็นอีกเหตุผลที่ตัดสินใจให้ฉีดค่ะ

   ....และแล้ววันฉีดก็มาถึง .... หลังจากทำกิจวัตรประจำวันเรียบร้อย สายๆ เราก็ไป รพ.กัน 2 คนแม่ลูก

มี ผปค.พาเด็กๆไปฉีดเยอะอยู่นะคะ ไปถึงก็ลงทะเบียน วัดความดัน วัดไข้ ตามปกติค่ะ 

นั่งรอตามคิว พอถึงคิวน้องใช้เวลาฉีดแป๊ปเดียวค่ะ เสร็จแล้วก็ไปนั่งรอดูอาการประมาณ 30 นาที เหมือนผู้ใหญ่เลยค่ะ

พอครบกำหนด พยาบาลก็ให้มาวัดความดันอีกครั้ง และให้กลับบ้านได้ ก่อนกลับก็แจ้งว่าให้งดออกกำลังกาย 7 วัน

เราเลยถามว่าแล้วถ้าน้องกระโดดโลดเต้นซนตามประสาเด็กล่ะ เป็นไรมั้ย พยาบาลบอกว่าไม่เป็นไร แต่ก็อย่าให้ใช้แรงเยอะ 

คืองดกิจกรรมที่ต้องใช้แรงเยอะๆ อะไรประมาณนี้ค่ะ จากนั้นก็กลับบ้านกัน

เราก็ถามลูกตลอดนะ ว่ามีอาการอะไรมั้ย เจ็บแขนมั้ย หายใจสะดวกมั้ย แน่นหน้าอกรึเปล่า ซึ่งตัวแสบก็บอกไม่เป็นไรแม่

แค่เจ็บแขนตรงที่ฉีดยานิดหน่อย พอถึงบ้านเลยเลยให้กินยาแก้ปวดไป เขาก็เล่นได้ตามปกติไม่มีอาการใดๆเลย

แต่เราก็ห้ามเขากระโดดหรือเล่นอะไรโลดโผนค่ะ อ่อ แอบได้ยินพยาบาลบอกคิวก่อนหน้าเราว่าให้งดปั่นจักรยาน 

เราเลยบอกตัวแสบของเราว่างดเล่นรถทุกชนิด งดสกู๊ตเตอร์ งดวิ่ง ถามว่าเชื่อมั้ย ก็ไม่ทั้งหมดค่ะ 555555

เด็กกำลังซนอะเนอะ ก็คอยปรามๆไป แต่ก่อนนอนมีตัวรุมๆ ก็เลยจัดยาแก้ไข้ไปอีก กลางคืนก็นอนหลับปกติค่ะ วันแรกก็ผ่านไปด้วยดี 
     
     ...วันที่ 2 วันนี้ตื่นมาบอกเจ็บแขน เราเข้าใจเลย คงเหมือนผู้ใหญ่ ที่เวลาฉีดวันต่อๆมาก็จะมีอาการปวดแขน เจ็บแขน

ก็เลยให้กินยาแก้ไข้แก้ปวดไปอีก ทั้งวันก็เล่นปกติ ไม่มีอาการอะไรใดๆ เลยค่ะ

     ....จนถึงวันนี้ วันที่มาตั้งกระทู้ น้องไม่มีอาการอะไรใดๆ เลยค่ะ หายปวดแขนแล้ว เล่นซนได้ตามปกติ แต่ยังคงต้องคอยปรามๆ เรื่องการวิ่ง

หรือกระโดดอยู่บ้าง ก็นับว่าเป็นโชคดีค่ะ ที่ลูกเราไม่มีอาการอะไรมากมาย ณ ตอนนี้ แต่เราก็ไม่รู้นะคะว่าระยะยาวจะมีผลอะไรรึเปล่า

แต่ตอนนี้ไม่มีอาการใดๆ และมีเกราะป้องกันโรคขั้นแรกก็ถือว่าโอเคกับยุคนี้แล้วค่ะ
 
เราคิดว่าโรคนี้คงอยู่กับเราไปอีกนานแน่ ถ้าเรามัวแต่กลัวมากเกิน หรือหลบเกินไป คงแย่ คงต้องอยู่ร่วมกับมันให้ได้

ด้วยการป้องกันทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ 

     หวังว่ากระทู้ของเราจะเป็นประโยชน์สำหรับ ผปค.ไม่มากก็น้อยนะคะ จบการรีวิวเพียงเท่านี้

                                                                                              ขอบคุณค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่