ปลุกไฟรัก ให้ทันวันวาเลนไทน์
เผลอแป๊บเดียวเราก็เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. กันแล้วนะครับ พี่หมอจำได้ว่าเพิ่งจะเขียนอวยพรปีใหม่ทุกๆ คนไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ซึ่งหนึ่งในวันสำคัญและเป็นวันที่หลายๆ คน (โดยเฉพาะหนุ่มๆ สาวๆ) รอคอยให้มาถึงก็คงหนีไม่พ้นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก 💖
ซึ่งเมื่อพูดถึงความรัก อีกสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ การมีเพศสัมพันธ์ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีเซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคู่ เซ็กส์ที่ดีจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนให้แน่นแฟ้น และช่วยให้ชีวิตรักยืนยาวขึ้น ในทางกลับกัน ปัญหาเรื่องบนเตียงก็ทำให้คู่รักหลายคู่ต้องเลิกรากันมาแล้ว
ดังนั้น เพื่อเป็นการปลุกไฟรักให้กับทุกคู่ พี่หมอจึงไปรวบรวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับปัญหาเรื่องบนเตียงมาให้ หรือคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่กำลังหาวิธีคุยเรื่องเซ็กส์กับลูกๆ อยู่ พี่หมอก็มีคำแนะนำดีๆ มาฝากเช่นกันครับ 👇🏻
จริงหรือไม่? “หมดไฟ เพราะเล้าโลมไม่เป็น”
ความเชื่อนี้ไม่จริงเลยนะครับ ❌ เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้คู่รักส่วนใหญ่หมดไฟในเรื่องเซ็กส์มักเกิดจาก “การไม่มีเวลา” ไม่ใช่การเล้าโลมแต่อย่างใด การเล้าโลมเป็นเพียงแค่ตัวช่วยในขณะที่เรากำลังทำกิจกรรมอยู่เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถเล้าโลมคู่รักของเราด้วยวิธีอื่นได้อีก เช่น การเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็จะทำให้สามารถสานต่อไปถึงเรื่องบนเตียงได้
อย่างที่หมอเขียนไปข้างต้นว่า เซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคู่ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยสานสัมพันธ์ของคู่รัก ซึ่งหากเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอ เมื่อถึงเวลาที่มีปัญหาก็อาจจะทำให้ความสัมพันธ์แตกหักได้ง่าย คู่รักจึงจำเป็นต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกันในทุกๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเซ็กส์ เพื่อให้เรื่องนี้เป็นความสุขร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และทำให้ชีวิตรักยังดำเนินต่อไปได้ ซึ่งวิธีการที่จะช่วยสร้างสีสันในเรื่องเซ็กส์ให้กับคู่รักของเราก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ของเล่น (sex toys) ซึ่งอาจจะใช้เองหรือให้คนรักใช้กับเราก็ได้ ทั้งนี้ ต้องมีการพูดคุยและทำความตกลงระหว่างกันก่อน หรือการเปลี่ยนสถานที่ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ การแต่งตัวด้วยชุดคอสเพลย์ เป็นต้น
หากมีปัญหาเรื่องบนเตียงกับคู่รักควรทำอย่างไร?
ปัญหาเรื่องบนเตียงเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียดในการเลี้ยงลูก ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพ จนทำให้ความต้องการทางเพศลดลง ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนท่าทางในการมีเซ็กส์ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ หรือถ้าหากมีลูก ก็อาจจะเอาลูกไปฝากญาติให้ช่วยดูแลก่อน เพื่อให้คู่รักได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนบ้าง รวมถึงการออกกำลังกายอย่างโยคะและพิลาทิส ก็สามารถช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น และช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ได้
แต่ในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่อยากมีเซ็กส์ เพราะเหนื่อยจากการทำงานจนหมดแพสชั่น ก็ควรจะใช้วิธีการพูดคุยทำความเข้าใจ เพื่อให้อีกฝ่ายไม่เข้าใจผิดจนนำไปสู่ปัญหาการนอกใจ
ปัญหาเรื่องสุขภาพก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คู่รักมีปัญหาเรื่องบนเตียง 👨 ในผู้ชายที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคหัวใจ ก็อาจจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลง รวมถึงการที่นกเขาไม่ขัน ซึ่งอาจเกิดจากการหมดสมรรถภาพทางเพศ หากเกิดกับผู้ชายอายุระหว่าง 40-50 ปี ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพราะยังไม่ถึงวัยที่ควรจะเป็น โดยโรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาเพิ่มฮอร์โมน และการทำช็อคเวฟ
สำหรับผู้หญิง 👩 สิ่งที่น่ากังวลและอาจส่งผลถึงปัญหาเรื่องบนเตียงมากที่สุดก็คือ ภาวะวัยทอง ซึ่งเกิดจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง หากเกิดก่อนอายุ 48 ปี ถือว่าเป็นโรค เพราะค่าเฉลี่ยวัยทองของคนไทยอยู่ที่อายุ 48-52 ปี และควรรีบไปปรึกษาแพทย์ หรือในกรณีที่มีปัญหาเรื่องเซ็กส์ซึ่งอาจเกิดจากสภาวะทางจิตใจ เช่น ไม่พอใจในรสชาติเซ็กส์ของคู่รัก จนต้องไปมีเซ็กส์กับคนอื่นอยู่เรื่อยๆ หรือหยุดการมีเซ็กส์ไม่ได้ หากเกิดกรณีแบบนี้ก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เช่นกัน
คุณพ่อคุณแม่ควรพูดเรื่องเซ็กส์กับลูกอย่างไร?
การพูดคุยเรื่องเซ็กส์กับลูก ต้องดูที่เพศ วัยและความรับผิดชอบของลูกเป็นหลัก เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้สามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่เหมาะกับช่วงวัยนั้นๆ ได้ เช่น หากลูกๆ ยังอยู่ในวัยเรียน ซึ่งเป็นวัยที่ยังไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกว่า… ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะทำอะไร ถามตัวเองอยู่เสมอว่า พร้อมที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำหรือไม่ เพื่อป้องกันตัวเองและปัญหาในอนาคตที่จะเกิดขึ้น หรือหากประเมินแล้วว่ามีความต้องการจริงๆ ก็ควรรับผิดชอบตัวเองด้วยการคุมกำเนิด หรือใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
แต่หากเป็นวัยที่โตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะลูกๆ สามารถประเมินถึงความเหมาะสมต่างๆ และเลือกปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง หากยังไม่พร้อมที่จะดูแลอีกชีวิตที่จะเกิดมา ก็ควรแนะนำให้ลูกรู้จักการป้องกันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ หรือหากพร้อมแล้ว ก็สามารถเลือกปฏิบัติได้ตามความต้องการ เพราะถือว่าเป็นวัยที่สามารถรับผิดชอบการกระทำของตัวเองได้แล้ว
มีเซ็กส์ช่วงโควิด-19 ต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่? 😷
เชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่งได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำลาย น้ำมูก น้ำตา เลือด เป็นต้น ซึ่งการมีเซ็กส์นั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งเหล่านี้ได้เลย ดังนั้น การใส่แมสก์ระหว่างมีเซ็กส์จึงไม่จำเป็น เพราะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่หากมีความกังวลว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า หรือหากต้องมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้า ก็ควรมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน เพื่อป้องกันตัวเองและคนใกล้ชิด
การพูดคุยเรื่องเซ็กส์ในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอีกต่อไป เพราะแม้แต่คู่รักที่อยู่ด้วยกันมานาน บางครั้งก็อาจจะมีเรื่องที่เข้าใจหรือมีความต้องการไม่ตรงกันบ้าง การพูดคุยแบบเปิดใจจะช่วยให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุข ส่วนการพูดคุยระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูกๆ ซึ่งพี่หมอเชื่อว่าสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เด็กๆ ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องไปหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หรือไปลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวันแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงนะครับ ❤️❤️❤️
ปลุกไฟรัก ให้ทันวันวาเลนไทน์
เผลอแป๊บเดียวเราก็เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน ก.พ. กันแล้วนะครับ พี่หมอจำได้ว่าเพิ่งจะเขียนอวยพรปีใหม่ทุกๆ คนไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เอง ซึ่งหนึ่งในวันสำคัญและเป็นวันที่หลายๆ คน (โดยเฉพาะหนุ่มๆ สาวๆ) รอคอยให้มาถึงก็คงหนีไม่พ้นวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก 💖
ซึ่งเมื่อพูดถึงความรัก อีกสิ่งหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ การมีเพศสัมพันธ์ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การมีเซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคู่ เซ็กส์ที่ดีจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนให้แน่นแฟ้น และช่วยให้ชีวิตรักยืนยาวขึ้น ในทางกลับกัน ปัญหาเรื่องบนเตียงก็ทำให้คู่รักหลายคู่ต้องเลิกรากันมาแล้ว
ดังนั้น เพื่อเป็นการปลุกไฟรักให้กับทุกคู่ พี่หมอจึงไปรวบรวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับปัญหาเรื่องบนเตียงมาให้ หรือคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนที่กำลังหาวิธีคุยเรื่องเซ็กส์กับลูกๆ อยู่ พี่หมอก็มีคำแนะนำดีๆ มาฝากเช่นกันครับ 👇🏻
ความเชื่อนี้ไม่จริงเลยนะครับ ❌ เพราะสาเหตุหลักที่ทำให้คู่รักส่วนใหญ่หมดไฟในเรื่องเซ็กส์มักเกิดจาก “การไม่มีเวลา” ไม่ใช่การเล้าโลมแต่อย่างใด การเล้าโลมเป็นเพียงแค่ตัวช่วยในขณะที่เรากำลังทำกิจกรรมอยู่เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วเราสามารถเล้าโลมคู่รักของเราด้วยวิธีอื่นได้อีก เช่น การเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งก็จะทำให้สามารถสานต่อไปถึงเรื่องบนเตียงได้
อย่างที่หมอเขียนไปข้างต้นว่า เซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญของชีวิตคู่ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยสานสัมพันธ์ของคู่รัก ซึ่งหากเราไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอ เมื่อถึงเวลาที่มีปัญหาก็อาจจะทำให้ความสัมพันธ์แตกหักได้ง่าย คู่รักจึงจำเป็นต้องพูดคุยและทำความเข้าใจกันในทุกๆ เรื่อง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเซ็กส์ เพื่อให้เรื่องนี้เป็นความสุขร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และทำให้ชีวิตรักยังดำเนินต่อไปได้ ซึ่งวิธีการที่จะช่วยสร้างสีสันในเรื่องเซ็กส์ให้กับคู่รักของเราก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ของเล่น (sex toys) ซึ่งอาจจะใช้เองหรือให้คนรักใช้กับเราก็ได้ ทั้งนี้ ต้องมีการพูดคุยและทำความตกลงระหว่างกันก่อน หรือการเปลี่ยนสถานที่ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ การแต่งตัวด้วยชุดคอสเพลย์ เป็นต้น
ปัญหาเรื่องบนเตียงเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียดในการเลี้ยงลูก ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หรือแม้แต่ปัญหาสุขภาพ จนทำให้ความต้องการทางเพศลดลง ซึ่งเราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนท่าทางในการมีเซ็กส์ เพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ หรือถ้าหากมีลูก ก็อาจจะเอาลูกไปฝากญาติให้ช่วยดูแลก่อน เพื่อให้คู่รักได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันสองคนบ้าง รวมถึงการออกกำลังกายอย่างโยคะและพิลาทิส ก็สามารถช่วยให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้น และช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ได้
แต่ในกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่อยากมีเซ็กส์ เพราะเหนื่อยจากการทำงานจนหมดแพสชั่น ก็ควรจะใช้วิธีการพูดคุยทำความเข้าใจ เพื่อให้อีกฝ่ายไม่เข้าใจผิดจนนำไปสู่ปัญหาการนอกใจ
ปัญหาเรื่องสุขภาพก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คู่รักมีปัญหาเรื่องบนเตียง 👨 ในผู้ชายที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคหัวใจ ก็อาจจะทำให้ความต้องการทางเพศลดลง รวมถึงการที่นกเขาไม่ขัน ซึ่งอาจเกิดจากการหมดสมรรถภาพทางเพศ หากเกิดกับผู้ชายอายุระหว่าง 40-50 ปี ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพราะยังไม่ถึงวัยที่ควรจะเป็น โดยโรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาเพิ่มฮอร์โมน และการทำช็อคเวฟ
สำหรับผู้หญิง 👩 สิ่งที่น่ากังวลและอาจส่งผลถึงปัญหาเรื่องบนเตียงมากที่สุดก็คือ ภาวะวัยทอง ซึ่งเกิดจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง หากเกิดก่อนอายุ 48 ปี ถือว่าเป็นโรค เพราะค่าเฉลี่ยวัยทองของคนไทยอยู่ที่อายุ 48-52 ปี และควรรีบไปปรึกษาแพทย์ หรือในกรณีที่มีปัญหาเรื่องเซ็กส์ซึ่งอาจเกิดจากสภาวะทางจิตใจ เช่น ไม่พอใจในรสชาติเซ็กส์ของคู่รัก จนต้องไปมีเซ็กส์กับคนอื่นอยู่เรื่อยๆ หรือหยุดการมีเซ็กส์ไม่ได้ หากเกิดกรณีแบบนี้ก็ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เช่นกัน
คุณพ่อคุณแม่ควรพูดเรื่องเซ็กส์กับลูกอย่างไร?
การพูดคุยเรื่องเซ็กส์กับลูก ต้องดูที่เพศ วัยและความรับผิดชอบของลูกเป็นหลัก เพื่อที่คุณพ่อคุณแม่จะได้สามารถให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่เหมาะกับช่วงวัยนั้นๆ ได้ เช่น หากลูกๆ ยังอยู่ในวัยเรียน ซึ่งเป็นวัยที่ยังไม่สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกว่า… ต้องคิดให้ถี่ถ้วนก่อนที่จะทำอะไร ถามตัวเองอยู่เสมอว่า พร้อมที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำหรือไม่ เพื่อป้องกันตัวเองและปัญหาในอนาคตที่จะเกิดขึ้น หรือหากประเมินแล้วว่ามีความต้องการจริงๆ ก็ควรรับผิดชอบตัวเองด้วยการคุมกำเนิด หรือใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
แต่หากเป็นวัยที่โตพอที่จะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจในเรื่องนี้อีกต่อไป เพราะลูกๆ สามารถประเมินถึงความเหมาะสมต่างๆ และเลือกปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง หากยังไม่พร้อมที่จะดูแลอีกชีวิตที่จะเกิดมา ก็ควรแนะนำให้ลูกรู้จักการป้องกันก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ หรือหากพร้อมแล้ว ก็สามารถเลือกปฏิบัติได้ตามความต้องการ เพราะถือว่าเป็นวัยที่สามารถรับผิดชอบการกระทำของตัวเองได้แล้ว
มีเซ็กส์ช่วงโควิด-19 ต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือไม่? 😷
เชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อผ่านทางสารคัดหลั่งได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำลาย น้ำมูก น้ำตา เลือด เป็นต้น ซึ่งการมีเซ็กส์นั้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่งเหล่านี้ได้เลย ดังนั้น การใส่แมสก์ระหว่างมีเซ็กส์จึงไม่จำเป็น เพราะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ได้ แต่หากมีความกังวลว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า หรือหากต้องมีเซ็กส์กับคนแปลกหน้า ก็ควรมีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน เพื่อป้องกันตัวเองและคนใกล้ชิด
การพูดคุยเรื่องเซ็กส์ในปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องที่น่าอายอีกต่อไป เพราะแม้แต่คู่รักที่อยู่ด้วยกันมานาน บางครั้งก็อาจจะมีเรื่องที่เข้าใจหรือมีความต้องการไม่ตรงกันบ้าง การพูดคุยแบบเปิดใจจะช่วยให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุข ส่วนการพูดคุยระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูกๆ ซึ่งพี่หมอเชื่อว่าสำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เด็กๆ ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องไปหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต หรือไปลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวันแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงนะครับ ❤️❤️❤️