Kimetsu no Yaiba: ย่านเริงรมย์ ตอนที่ 10 ทันจิโร่และสตูดิโอ UFOTABLE ของเขา

เป็นตอนที่คืนกำไรให้กับคนดูอย่างแท้จริง สำหรับตอนที่ 10 นี้ มีอาร์ทเวิร์คสวยๆเยอะมาก กระทู้นี้เลยอยากทำเก็บเป็นแกลอรี่เก็บไว้ครับ


 "เพราะว่าเป็นมนุษย์ ไม่มีใครทำอะไรแล้วได้ดั่งใจทุกเรื่องหรอก" 
"จะมีความสุขหรือไม่ ก็อยู่ที่เรากำหนดตัวเอง"
  ภาพเซ็ตแรกเป็นฉากที่เนสึโกะให้สติทันจิโร่ว่า อย่าแบกรับความผิดพลาดและความลำบากไว้กับตัวเองเลย ซึ่งก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าทันจิโร่มัวแต่ขอโทษแล้วก็โทษตัวเองตลอดเวลาที่เกิดเรื่องขึ้น ทั้งเรื่องปกป้องน้องสาวไม่ได้ ทั้งเรื่องเพื่อนๆบาดเจ็บหนัก ทั้งเรื่องจัดการอสูรไม่ได้ ทั้งที่จริงมันไม่ใช่หน้าที่เขาเพียงคนเดียว ตรงนี้เป็นจุดที่ผมชอบมากๆ เพราะคำพูดของเนสึโกะนี้ไม่ได้สอนแค่ทันจิโร่คนเดียวแต่มันได้สอนคนดูอย่างเราๆด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นฉากที่ยอดเยี่ยมไม่แพ้ฉากต่อสู้ทีเดียว
  แล้วการจัดวางภาพก็สวยงามราวกับภาพยนตร์ การที่ทันจิโร่กับเนสึโกะยืนห่างกันขั้นด้วยต้นไม้ แล้วก็เป็นภาพระยะไกลมันสื่อถึงความอ้างว้างและคู่ตรงข้ามของภาวะจิตใจและก็ความคิดของตัวละคร ซึ่งปกติสองคนนี้จะอยู่ติดกันตลอดเวลา แต่เมื่อเป็นเรื่องของความคิดสองคนนี้กับมีความคิดที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว


"เปลวไฟแห่งความสิ้นหวัง เหลือเพียงทันจิโร่และอสูรตรงหน้าที่ดูไม่มีวี่แววของความบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย" 
  ภาพเซตนี้จะบอกว่านี้คืองานฉายทางทีวีก็ไม่อยากจะเชื่อสายตา เอฟเฟคไฟข้างหลังนี่มันยอดเยี่ยมเกินคำบรรยาย แล้วนอกจากนั้นความยากคือ มันทำให้แสงเงาที่ตกกระทบตัวละครเปลี่ยนแปลงไปมาบ่อยครั้งด้วย เรียกว่างานยากเข้าไปอีกขั้น แล้วยังมีการแบ่งระดับความชัดลึกชัดตื้นด้วย งานละเอียดขนาดนี้ไม่ให้อวยยังไงไหว


"แกเองก็มาเป็นอสูรด้วยกันสิ"
  ตอนที่ผมดูๆอยู่ก็นึกแล้วว่ายังไงก็ต้องชวน เพราะภาพจำมันชัดเจน ฮ่าๆๆ แล้วก็ชวนจริงๆซะด้วยนะ ผมรู้สึกว่าที่กิวทาโร่เอ่ยปากชวนแบบนั้น เพราะเขาก็คงรู้สึกว่าทันจิโร่กับเขามีอะไรๆคล้ายกันหลายอย่าง มีน้องสาวเหมือนกัน และก็มีความน่าสมเพศเหมือนๆกัน (เดี๋ยวตอนหน้าคงลงลึกอดีตของกิวทาโร่กับดาคิ) เรียกง่ายๆว่า ถูกชะตา เหมือนตอนเรนโงคุกับอาคาสะ รายนั้นชวนตั้ง 4-5 รอบ แต่ก็โดนปฏิเสธ ฮ่าๆๆ 

  "ในยามเข้าตาจนถึงที่สุด ทันจิโร่จะมีไหวพริบในการพลิกแพลงที่น่าตกใจ" 
  ย้อนกลับไปตอนแรกสุดที่ต้องเจอกับเสาหลักปราณวารี ตอนนั้นทันจิโร่แกล้งทำทีเป็นเอามือซ้อนไว้ข้างหลังแล้ววิ่งเข้าใส่กิยู แต่ที่จริงแล้วเขาขว้างขวานออกไปก่อนหน้านั้นแล้ว ซึ่งก็หลอกกิยู(และคนดู)ได้สนิท คราวนี้ก็เหมือนกันที่แกล้งทำเป็นวิ่งหนีแต่ก็แอบเก็บมีดขว้างมาแล้วปาไปพร้อมกับถุงหอม ซึ่งพลิกสถานการณ์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

  "สิ่งที่เหมือนและต่างกัน"
  สองภาพนี้ถ้ามีความละเอียดเยอะๆตั้งเป็นภาพพื้นหลังสวยๆได้เลย และถ้าสังเกตดีๆ ภาพของทันจิโร่กับเนสึโกะจะหันหน้าไปทางแสงสว่าง ส่วนคู่ของกิวทาโร่กับดาคิจะหันหน้าไปทางความมืด เป็นภาพที่ทั้งสวยและก็เรียบง่ายแต่ก็สื่อความหมายลึกซึ้ง

"นายหน่ะก็เป็นฮีโร่ได้นะ" 
  เห็นนิ้วม่วงๆมานี่ผมนึกถึงคนนี้เลย "มิโดริยะ อิสึคุ" ฮ่าๆๆ นิ้วม่วงปุ๊บเก่งปั๊บ(ว่าไป) ที่สำคัญสองคนนี้กว่าจะก้าวขึ้นมาถึงจุดที่เป็นอยู่ ต้องฝึกหนักเจียนตายด้วยกันทั้งคู่ ผิดหวังล้มลุกคลุกคลานมาก็เยอะ เรียกว่า เป็นพระเอกสายโชเน็นของแท้เลยทีเดียว

"เรียงโน้ตเพลงเสร็จสมบูรณ์แล้ว ไปเอาชัยชนะกันเถอะ"
  ภาพเซ็ตการใช้ปราณเสียงของอุซุยซัง แม้ว่าตัวปราณเสียงเองจะไม่มีเอฟเฟคเวอร์วังเหมือนปราณอื่นๆ แต่นั่นก็ไม่อาจหยุดความฉูดฉาดและอลังการของอุซุยซังได้ 

"เปิดการแสดง"
  ภาพเซ็ตการต่อสู้สุดอลังการของทั้งคู่ เรียกว่าใส่สุดตัวทั้งอุซุยและกิวทาโร่ ความมันส์ระดับเทพเริ่มขึ้นแล้ว

"เอาให้ตายไปข้างหนึ่ง"
  ภาพเซ็ตจากฉากต่อสู้ความยาวประมาณ 30 วินาที ที่ผมยกย่องให้ดีที่สุดในเรื่องจนถึงตอนนี้ ให้มากกว่าSS1ตอนที่19 และเดอะมูฟวี่รถไฟสู่นิรันดร์ด้วย ชื่อภาพนี้หมายรวมทั้ง อุซุยและกิวทาโร่ที่ต้องสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง คนดูก็ลุ้นสุดใจเหมือนกัน(สารภาพตอนชมครั้งแรก ลุ้นจนเกร็งไปทั้งตัว เท้าจิกพื้นเลย) และเหล่าอนิเมเตอร์ที่ต้องทำงานอย่างหนัก(เจียนตาย)ด้วยเช่นกัน
  มุมกล้องที่ดอลลี่(เคลื่อนไปรอบๆ) ไปพร้อมๆ กับฉากต่อสู้ที่ละเอียดสวยงามในทุกๆเฟรม ทั้งแสงสีเสียงสุดอลัง และท่าทางตัวอนิเมชั่นที่ไม่มีการเผาเลยแม้แต่น้อย  คุณไม่มีทางได้ฉากต่อสู้ระดับนี้มาง่ายๆ หากปราศจากการอุทิศทั้งกายและใจของเหล่าอนิเมเตอร์และทีมงานทุกคน

"สามหน่อสามปราณ"
  พูดถึงฝั่งอุซุยไปเยอะแล้ว กลับมาที่สามหน่อของเรากันบ้าง แม้ว่าตอนที่แล้วจะได้โชว์ปราณสวยๆกันไปหมดแล้วทุกคน ทำให้ตอนนี้อาจจะน้อยๆลงไปบ้าง แต่คนที่ได้ซีนเยอะสุดคงหนีไม่พ้นเซนอิทสึ ที่ใช้ปราณอัสนีแต่ละทีก็ตื่นตาตื่นใจเสมอ และครั้งสุดท้ายกับ "ปราณอัสนีกระบวนท่าที่หนึ่ง ความเร็วเทพ" ส่วนทันจิโร่และอิโนะสุเกะก็เป็นกำลังเสริมในการจัดการพี่น้องอสูรคู่นี้ (หลายคนอาจสงสัยว่าอิโนะสุเกะตามความเร็วเทพของเซนอิทสึทันได้ยังไง ผมเองก็สงสัย ฮ่าๆ)

"อสูรกันทุกคน"
  ใครบอกว่ากิวทาโร่กับดาคิเป็นอสูรแค่สองคนในภาพนี้ ผมเถียงสุดใจ ไล่ตั้งแต่ทันจิโร่ โดนโจมตีที่ไหล่จนบาดเจ็บตั้งแต่แรก ใช้ปราณตะวันจนพลังหมดไปหลายรอบ บ่นยืนไม่ไหวไปกี่ครั้ง โดนอัดกี่รอบ ก็ยังยืนอยู่ได้จนจบ ทางด้านเซนอิทสึก็ไม่แพ้กัน โดนซากถล่มทับขนาดนั้นก็ยังลุกมาสู้ได้อีก ทางด้านอุซุยนี่หนักเลย โดนเข้าไปทั้งพิษ ทั้งเสียมือไปข้างหนึ่ง ก็ยังลุกขึ้นมาสู้ได้หน้าตาเฉย และที่น่าจะเรียกว่าอสูรได้เต็มปากก็คือ เจ้าหมูป่าอิโนะสุเกะ ที่โดนแทงหัวใจไปแล้ว แต่ก็ยังลุกขึ้นมาได้อีก เข้าใจได้ว่าร่างกายยืนหยุด จนย้ายอวัยวะภายในเพื่อหลบเลี่ยงความเสียหายได้ (หรอ!!!!) ทั้งหมดนี่มันเกินมนุษย์ไปไกลแล้วพวก เป็นผมเป็นอสูร ผมท้อใจอะ ทำไงก็ไม่ตาย เห้อออออ

"อย่ายอมแพ้เด็ดขาด!!!"
  เป็นอีกเซตที่สวยมาก ให้อารมณ์การ์ตูนสายโชเน็นมาเต็มๆ ฉากการใส่สุดตัว ดับเครื่องชน ร้องย๊ากกกกกกกกกกก คนดูก็พลอยอะดีนารีนพลุกพล่านไปด้วย อยากจะหยิบดาบออกล่าอสูรโว้ยยยยย!!!!!
  อารมณ์ตอนนี้มันไม่เหมือนกับตอนเรนโงคุกับอาคาสะนะ ผมรู้สึกว่าตอนรถไฟมันเหมือนคนที่เก่งมากๆสู้กัน พวกทันจิโร่ได้แต่ยืนดู เข้าไปก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ทั้งสามคนได้ร่วมสู้ตายกับอุซุย เรียกว่าพัฒนาขึ้นจากเดิมเยอะมาก แล้วก็ลบล้างความรู้สึกผิดตอนรถไฟที่พวกเขาทำอะไรไม่ได้เลยไปด้วย เป็นชัยชนะที่เกิดจากการร่วมมือกับเสาหลักอย่างแท้จริง

"ตัดคอได้แล้วค่ะ ฮินะซีรุซัง มองจากทางโลกโน้นดูสิคะ"
  555555555555555 ตัดอารมณ์ได้สุดยอดมาก เดอะเบสไปเลยสุมะซังงงงงงงงงงงง ฮินะซึรุบอกว่า ยังไม่ตายเฮ้ย!!!

"Ending"
  ขนาดฉากปิดก็ยังสวย ผมชอบการที่ไม่ตัดเข้าเพลงปิดแบบปกติ แต่เป็นฉากนี้ที่ไฟมันค่อยๆมอดลงจนมืดสนิท กับตัวละครที่ไม่ทราบชะตากรรม งานจะสุดไปไหนครับเนี่ย 

  ข่าวซุบซิบไทโช ไม่มาตั้งแต่ตอนที่สู้กับอสูร เข้าใจได้ว่าสถานการณ์คงคลี่คลายแล้วจริงๆ ว่าแต่เจ้าหมูป่านี่มันคุ้นๆ 5555

  ตอนหน้าก็เป็นตอนสุดท้ายของบทย่านเริงรมย์แล้ว ใจหายเลย จะเรียกว่านี่เป็นอนิเมชั่นซีรี่ย์ที่มีงานภาพยอดเยี่ยมที่สุดก็พูดได้เต็มปาก งานภาพดีมาตั้งแต่ตอนแรกแล้วด้วยซ้ำ มันไม่ใช่มาดีตอนสองตอนนี้ มันยอดเยี่ยมมาตลอด แล้วพองานมันสวย คนก็อยากดู แล้วก็พร้อมบอกต่อ พอเป็นเดอะมูฟวี่เลยประสบความสำเร็จ ผมรู้สึกว่า ซีซั่นนี้เป็นเหมือนคำขอบคุณของสตูดิโอที่เอาเข้าจริง เขาไม่ต้องทำงานระดับนี้ก็ได้ มันเกินมาตรฐานไปไกลมากๆๆๆ ภาพสวยทุกเฟรมจริงๆ เราจะไม่เห็นตัวละครหน้าโล้นๆ เวลาเป็นภาพระยะไกลๆ หรือตัวละครเบี้ยวๆ เมื่อเป็นฉากต่อสู้ไวๆ สิ่งเหล่านี้ไม่มีอยู่ในดาบพิฆาตอสูรเลย ถ้าจะบอกว่า Attack on Titan เป็นอนิเมะที่มีเนื้อเรื่องที่ยอดเยี่ยมที่สุด ผมก็ถือว่า Kimetsu no Yaiba มีความเป็นอนิเมชั่นที่สวยงามที่สุดไม่แพ้กัน ให้เกียรติทั้งสองเรื่อง และดีใจที่ชีวิตนี้มีโอกาสได้เห็นอนิเมะที่พีคสุดๆ ฉายวันเดียวกันทั้งสองเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าชาตินี้จะได้เห็นปรากฏการณ์แบบนี้อีกรึเปล่า ต้องขอบคุณคนทำงานจริงๆ แบบนี้มันเป็นกำไรคนดูอย่างเราๆเหลือเกิน

เก็บตกภาพตัวละครสวยๆอีกสักนิด 
ฝากเพจด้วยครับ Story Decoder เข้าไปดูท่านก็จะพบว่าเนื้อหาในเพจมันก็เอามาจากกระทู้นี่แหละ ฮ่าๆๆ ไม่ต่างกัน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่