แฟนที่เลิกกันไปบอกผมไม่มีอนาคต ที่คบอยู่เพราะสงสาร

ตอนนี้ผมอายุ 29 แฟนเก่าก็อายุ 29 เท่ากัน

ผมเลิกกับแฟนเมื่อปีที่แล้ว ก่อนปีใหม่ 2 วันผมยังจำได้ดีเลย เธอบอกว่า
“เราอยากมีชีวิตใหม่ เปลี่ยนมาเป็นเพื่อนกันแทนดีกว่า ที่ทนเราคบกับเธอเพราะเราสงสาร”

ผมได้ยินคำนี้ผมจุกเลยมันแย่มากๆ เหมือนตัวผมไม่มีคุณค่าเลย  หลังจากได้ยินคำนี้ผมได้แต่ยอมรับความจริง แล้วปล่อยเธอไป


คือผมกับแฟนคนนี้คบกันมา 3ปีนิดๆ ผมเจอเธอจากแอฟtinder นี่แหละ(ช่วง4-5ปีก่อนยังไม่ได้เน้นหาเพื่อนนอนกันมากมายแบบสมัยนี้555)

ช่วงนั้นผมยังเรียนไม่จบด้วยช่วงที่เราคบกันแรกๆ เพราะผมเรียนจบช้ากว่าเพื่อนๆในรุ่นแล้วผมซิ่วมา1ปีด้วย คบกันช่วงปีแรกๆก็ดีครับ ไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกัน

แต่มาช่วง ปีหลังๆนี่แหละครับที่มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยมาก  มันเริ่มตั้งแต่ผมไปฝึกงานกับเรือสินค้านี่แหละครับ ผมไปประมาณ 1ปีช่วง1ปีนี้คบๆเลิกกันบ่อยมาก แต่ผมก็ง้อเธอกลับมาได้ทุกครั้ง

ผมกลับมาจากฝึกงานภาคปฎิบัติ ทางทะเลกับเรือสินค้า (ผมเรียนด้านพานิชย์นาวี) ผมก็คิดแหละว่า ผมจะแต่งกับเธอนี่แหละ แต่ด้วยความที่ผมติดนิสัยพลัดวันไปเรื่อย ไม่รีบลงมือทำไม่ยอม
ไปสอบ License แล้วรีบๆไปหางานสักที เธอก็เลยพูดกับผมว่า ถ้าภายในปีหน้าถ้าผมยังไม่มีงานเธอจะเลิกกับผม เพราะเธอทำงานตอนนี้เธอเริ่มคิดถึงอนาคตแล้ว  โอเครผมก็ตกลงกับเธอ


แต่ผมบอกกับเธอว่าผมไปทำงานมาตั้ง1ปี ขอเที่ยวพักสมองบ้าง ก็เลยชวนเธอไปเที่ยวพักผ่อนไปหัวหินเดือนละครั้ง บางเดือนก็2ครั้ง ไปอยู่3-4เดือนได้ เงินเที่ยว ผมก็เอามาจากเงินเดือนที่ไปฝึกงาน ผมมีเงินกลับมาประมาณ 2 แสนได้ ส่วนเงินใช้ตอนนี้ผมไปรับงาน ตามท่าเรือบ้างเป็น job สั้นๆได้รอบละ 10,000 บ้าง 8,000บ้าง แล้วก็ขอแม่ใช้เพิ่มอีก

เธอบอกผมเธอ มองตรงนี้แหละว่าผมอายุก็ 27-28 แล้วแต่ยังขอเงินแม่ License ก็ไม่รีบสอบ (ผมไม่กล้าไปสอบเพราะกลัวทำไม่ได้) ถ้าไม่สอบ ปริญญาก็มีรีบๆ ไปสมัครงานซะ สิ้นปีเธอก็เลยเลิกกับผมก่อนที่ข้ามไปถึงอีกปีที่เธอให้โอกาสผมอีก  “เธอบอกผมไม่มีอนาคต”

หลังจากนั้นผมเสียใจอยู่ 3 เดือนได้ผมก็มานั่งทบทวนตัวเอง วิเคราะห์ถึงปัญหาของตัวผม ว่าเกิดจากอะไร สุดท้ายผมก็รู้ว่า ตอนผมมีเธอ ผมคิดว่ายังไงเธอก็อยู่กับผม ทำให้ผมไม่ Activeตัวเองทำตัวอยู่ไปวัน ไม่มีเป้าหมายในชีวิต ไม่พัฒนาตัวเอง ไม่มีความก้าวหน้าในอะไรเลย

หลังจากนั้นผมปรับปรุงตัวใหม่ เปลี่ยน Mindset ถ้าเราพยายามมากพอ ถ้าเราใส่ใจกับมันมากพอไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ผมแบ่งเวลามากขึ้น ไม่เอาแต่อยู่ไปวันๆ

ผมเริ่มอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ License ไม่พลัดวัน ประกันพรุ่ง อ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องทุกเล่มที่หาได้ จนสุดท้ายผมสอบผ่าน แล้วได้งานทำหลังจากนั้นผมตั้งเป้าหมายในชีวิตใหม่เลย ตั้งใจทำงาน เก็บเงินลงทุน เดือนนึงผมแทบไม่ใช้เงินเลย ได้เงินเดือนมา 50,000 ผมใช้ไม่ถึง 4,000 เลยที่เหลือผมก็ แบ่งๆลงPortหุ้น, เก็บไว้ใช้ฉุกเฉินกับให้แม่กับพ่อบ้าง ,แล้วก็สินสอดในอนาคต555

ส่วนบ้านกับรถตอนนี้ยังผมไม่ซื้อ เพราะยังไม่อยากมีแฟนขอเก็บเงินลงทุนให้มากที่สุด อายุ35ผมค่อยกลับมาทำงานบก (คนเป็นสิ่งมีชีวิตบนบกจะอยู่แต่ในน้ำได้ไง)

ตอนนี้ผมมีโอกาสได้เรียนรู้งานในตำแหน่งที่สูงกว่า ผมเรียนรู้ตลอดจากพี่ๆเพราะเมื่อโอกาสมาถึง ผมพร้อมเสมอ ทุกวันนี้ผมแบ่งเวลา เวลาพักผ่อน ,ทำงาน+ช่วยงานพี่ๆตำแหน่งที่สูงกว่า  แล้วก็เวลาสำหรับเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะตัวเราพรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ (คนเรารวยหรือจนมีเวลาเท่ากันอยู่ที่ใครจะตักตวงได้เท่าไร)

คิดแล้วก็ได้แต่เสียดายว่าทำไมผมไม่คิดได้ให้เร็วกว่านี้ ไม่รีบตั้งใจทำ ไม่ทำก่อนพูด ไม่งั้นผมคงมีเธออยู่ข้างๆแล้ว  ผมขอบคุณเธอน้ะที่เป็นคนเปลี่ยนให้ผมดีขึ้น



ปล.ตอนนี้นั่งเหงาๆอยู่แถวๆสิงคโปร์ เลยนึกถึงเรื่องเก่าๆ อยากระบาย แล้วก็เป็นอุทาหรณ์ให้ใครที่เป็นแบบผมในอดีต ว่า “พยายามในวันที่คุณอยู่ข้างๆเธอ  ดีกว่าพยายามในวันที่เธออยู่ข้างๆใคร”

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่