ไม่ใช่เรื่องเงินจะเกี่ยวกับกำไรเสมอไป
บางทีมันก็เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี
สมัยกองทุน tprime ออก ipo เมื่อหลายปีก่อน
มันเป็นกองทุนที่ผมอยากได้ที่สุด
เพราะมีตึกสองตึกที่ผมชอบใกล้บ้าน
ตึก Exchange สมัยก่อนไป true fitness กับดื่มชาเย็นร้าน Chu
ส่วนตึก Mercury Ville ไว้ไปเหล่เด็กมาแตร์
ตอน ipo ไปกสิกรแถวบ้านจะจองให้ได้
พนักงานกลับบอกไม่รู้จักและไม่ให้ความสำคัญในการตามเรื่อง ผมงอนไม่ไปสาขานั้นอีกเลย
( จนกระทั่งผู้จัดการสาขามาง้อเมื่อช่วงโควิด ผม้ลยบอกเหตุผลไป )
จนกระทั่งวันเทรดวันแรกมันเปิดราคาเหนือจองไป 30% ผมเลยไม่เข้าซื้อ
รอๆ ช้อนทุกวัน จนกระทั่งมีโอกาสมา คือ วันที่ true fitness เจ๊ง
มันก็ลงมาให้ช้อนที่ 12 บาทมั๊ง แต่โวลุ่มไม่มี ไม่นานก็ลากขึ้นไปใหม่เพราะมีคนมาเช่าต่อ
เอาจริงๆ ปันผลก็ไม่ได้สวยหรูเลย แค่ 3% กว่าๆมาตลอด ก็เลยไม่ซื้อ
วันๆ ผมได้แต่ไปใช้บริการ และอยากเป็นเจ้าของมัน
แต่ด้วยความเย่อหยิ่งของที่มันเป็นกอง Reit ออฟฟิศ คิดว่าอะไรก็ดิสรัปมันไม่ได้ ตลาดเลยให้ค่ามันตลอด แทบไม่เคยต่ำ 10 บาทเลย
จนกระทั่งร้าน CHU เจ๊ง ด้วยนโยบายหน้าเลือดของตึก ( ก็แหง ผู้ถือหุ้นมีแต่บริษัทประกันแสบๆ ) ราคาก็ร่วงมาแปดบาทกว่าๆ
แต่นั่น ผมก็ยังเข้าไม่ได้เพราะโวลุ่มขายยังไม่มี
จนกระทั่งในที่สุดก็มีอาคารออฟฟิศเปิดใหม่ล่าสุดไม่กี่ตึกถัดไป
เลยเริ่มมีโวลุ่มมาขายให้ผมเก็บจนได้ !
หลังจากที่รอมานานหลายปี ในที่สุดผมก็ได้สิ่งที่ผมอยากได้
และผมก็สามารถเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พร้อมเสื้อยึดสกรีน PAR เบ่งว่า....
GU คือ ผู้ถือหุ้นที่มีมันในราคา PAR มีใครในห้องมีมันที่ราคานี้ไหม ?
เสร็จ. ผมก็จะชวนคนทั้งห้องคุยเพื่ออวดราคาต้นทุนของผม
และสมน้ำหน้า ไอ้พวกกองทุนที่บังอาจตัดหน้าผมจองมันที่ 10 บาท หลายปีก่อน
ระหว่างที่ผมรอเจอหน้าพวกมันทุกปี ผมก็กินปันผลประมาน 5% ไปด้วย
หลังจากนี้ผมจะได้กลับไปใช้งานธนาคารกสิกรสาขานั้นได้ซักที
และขอบคุณพนักงานคนนั้นที่เมินผมที่ขอ ipo
การเล่นหุ้นบางทีเป้าหมายไม่ใช่กำไรเสมอไป...
บางทีมันก็เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี
สมัยกองทุน tprime ออก ipo เมื่อหลายปีก่อน
มันเป็นกองทุนที่ผมอยากได้ที่สุด
เพราะมีตึกสองตึกที่ผมชอบใกล้บ้าน
ตึก Exchange สมัยก่อนไป true fitness กับดื่มชาเย็นร้าน Chu
ส่วนตึก Mercury Ville ไว้ไปเหล่เด็กมาแตร์
ตอน ipo ไปกสิกรแถวบ้านจะจองให้ได้
พนักงานกลับบอกไม่รู้จักและไม่ให้ความสำคัญในการตามเรื่อง ผมงอนไม่ไปสาขานั้นอีกเลย
( จนกระทั่งผู้จัดการสาขามาง้อเมื่อช่วงโควิด ผม้ลยบอกเหตุผลไป )
จนกระทั่งวันเทรดวันแรกมันเปิดราคาเหนือจองไป 30% ผมเลยไม่เข้าซื้อ
รอๆ ช้อนทุกวัน จนกระทั่งมีโอกาสมา คือ วันที่ true fitness เจ๊ง
มันก็ลงมาให้ช้อนที่ 12 บาทมั๊ง แต่โวลุ่มไม่มี ไม่นานก็ลากขึ้นไปใหม่เพราะมีคนมาเช่าต่อ
เอาจริงๆ ปันผลก็ไม่ได้สวยหรูเลย แค่ 3% กว่าๆมาตลอด ก็เลยไม่ซื้อ
วันๆ ผมได้แต่ไปใช้บริการ และอยากเป็นเจ้าของมัน
แต่ด้วยความเย่อหยิ่งของที่มันเป็นกอง Reit ออฟฟิศ คิดว่าอะไรก็ดิสรัปมันไม่ได้ ตลาดเลยให้ค่ามันตลอด แทบไม่เคยต่ำ 10 บาทเลย
จนกระทั่งร้าน CHU เจ๊ง ด้วยนโยบายหน้าเลือดของตึก ( ก็แหง ผู้ถือหุ้นมีแต่บริษัทประกันแสบๆ ) ราคาก็ร่วงมาแปดบาทกว่าๆ
แต่นั่น ผมก็ยังเข้าไม่ได้เพราะโวลุ่มขายยังไม่มี
จนกระทั่งในที่สุดก็มีอาคารออฟฟิศเปิดใหม่ล่าสุดไม่กี่ตึกถัดไป
เลยเริ่มมีโวลุ่มมาขายให้ผมเก็บจนได้ !
หลังจากที่รอมานานหลายปี ในที่สุดผมก็ได้สิ่งที่ผมอยากได้
และผมก็สามารถเข้าที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พร้อมเสื้อยึดสกรีน PAR เบ่งว่า....
GU คือ ผู้ถือหุ้นที่มีมันในราคา PAR มีใครในห้องมีมันที่ราคานี้ไหม ?
เสร็จ. ผมก็จะชวนคนทั้งห้องคุยเพื่ออวดราคาต้นทุนของผม
และสมน้ำหน้า ไอ้พวกกองทุนที่บังอาจตัดหน้าผมจองมันที่ 10 บาท หลายปีก่อน
ระหว่างที่ผมรอเจอหน้าพวกมันทุกปี ผมก็กินปันผลประมาน 5% ไปด้วย
หลังจากนี้ผมจะได้กลับไปใช้งานธนาคารกสิกรสาขานั้นได้ซักที
และขอบคุณพนักงานคนนั้นที่เมินผมที่ขอ ipo