▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ซีรีส์เกาหลี
นักแสดงเกาหลี
Jo In Sung
รายการวาไรตี้โชว์เกาหลี
รายการวาไรตี้โชว์
[ Unexpected Business ] เมื่อความอิ่มปากอิ่มใจคือกำไรของทุกคน ~~
วอนชอนรี หมู่บ้านเล็กๆ ในจังหวัดคังวอน ที่ไม่ได้มีประชากรหนาแน่นมากนัก รายล้อมด้วยหุบเขาและทะเลสาบกว้างใหญ่ แน่นอนว่าประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยและเด็กน้อย เมื่อคนหนุ่มสาวต่างมุ่งหน้าเข้าเมืองใหญ่ไปสร้างตัวและผจญภัยตามความฝัน
ผู้คนที่วอนชอนรีดำเนินชีวิตด้วยวิถีเกษตรและประมง เรียบง่าย slow life ไปตามรากฐานพื้นถิ่น ขณะนี้เป็นฤดูหนาวที่น้ำในทะเลสาบกลายเป็นลานน้ำแข็ง ทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน นอกจากผู้สูงวัยที่ออกนอกบ้านมาเคลื่อนไหวร่างกายให้เกิดพลังงานความร้อนช่วยอบอุ่นร่างกาย ก็เหลือเพียงหมาแมวที่ออกมาเดินๆ ดมๆ ดูว่ามีอะไรเก็บกินได้บ้าง
ความเรียบเรื่อยของวิถีในวอนชอนรีกำลังจะเปลี่ยนไปนิดหน่อย เมื่อปรากฏสองหนุ่มท่าทางเก้อๆ ที่แม้จะพยายามแต่งตัวให้เป็นชาวบ้านแค่ไหน ก็ยังมองออกว่าไม่ใช่คนแถวนี้ แต่ก็เพราะเสน่ห์แห่งความ “บ้านนอก” นี่ไงที่พาผู้ชายที่โดดเด่นด้วยชื่อเสียงและฐานะสองคนนี้มาถึงที่นี่ คนหนึ่งโดดเด่นด้วยความสูงหล่อ อีกคนโดดเด่นด้วยความคุ้นเคยคุ้นหน้า
ทั้งคู่มาปรากฏตัวอยู่ในร้านที่เรียกให้โอ่อ่าว่า ซุปเปอร์มาร์เก็ตประจำหมู่บ้าน แต่เรียกให้อบอุ่นขึ้นได้ว่า ร้านขายของชำข้างบ้าน ที่อาจมีครบทุกสิ่งที่เราต้องการมากกว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่บางแห่งเสียด้วยซ้ำ สองหนุ่มไม่ได้แค่มาปรากฏตัวแว้บๆ แล้วหายไป แต่ทั้งคู่จะมาเป็นคนขาย คนเก็บเงิน เป็นพ่อครัว เป็นคนเสิร์ฟอาหาร เป็นคนขับรถ เป็นเพื่อนดื่ม เพื่อนคุย เป็นทุกอย่างให้กับชาววอนชอนรีอีก 10 วันนับจากนี้ แทนที่เถ้าแก่เนี้ยผู้เปิดร้านทุกวันมาหลายสิบปีเพื่อดูแลคนวอนชอนรีราวกับว่าเธอเป็นญาติผู้ใหญ่ของทุกคนในหมู่บ้าน เปิดโอกาสให้เถ้าแก่เนี้ยได้พักผ่อนไปเยี่ยมลูกหลานในเมืองใหญ่สักครั้ง
โดยที่พวกเขาก็ไม่มีโอกาสได้พบหน้าเถ้าแก่เนี้ยเมื่อมาถึงวอนชอนรี มีเพียงจดหมายน้อยที่เก้าแก่เนี้ยฝากร้านไว้ด้วยความหวังและความห่วงใย กับโพยเทคนิคการจัดการร้านอีกแผ่น และเสียงเล่าขานสรรเสริญในความเมตตาของเถ้าแก่เนี้ยจากปากของลูกค้าขาประจำ . . . พวกเขาก็จำเป็นต้อง ‘พร้อม’ ที่จะเปิดร้านซุปเปอร์ประจำหมู่บ้านกันทันทีที่มาถึงแล้ว
มาทำความรู้จักกับสองหนุ่มผู้จะเป็นทุกอย่างใน ‘ซุปเปอร์ร้านชำ’ แห่งนี้กันเลยค่ะ พวกเขาคือพี่น้องคนละท้อง ชาแทฮยอน และ โจอินซอง พี่น้องนักแสดงที่รักนับถือสนิทสนมกันมาอย่างยาวนาน ที่จะมาสร้างสีสันและความรื่นรมย์ให้กับคนวอนชอนรี ด้วยธุรกิจที่ไม่ได้คาดหวังเงินกำไรสูงสุด แต่ความอิ่มปากอิ่มใจ ความอบอุ่นใจ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ คือกำไรของทุกคน
นักแสดงผู้มีชื่อเสียงโด่งดังสองคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานในร้านชำหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตมาก่อน เริ่มต้นด้วยความเป็นคนหน้าแปลกสำหรับผู้สูงอายุและเด็กน้อย ในซุปเปอร์ร้านชำเล็กๆ ประจำหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองบ้านนอกเล็กๆ ทุกอย่างล้วนเล็กๆ
อะไรที่คนดูจะได้พบในวาไรตี้ ขายของ-ซื้อของ นี้ ขณะที่นับถอยหลังการทำงานในร้านชำแห่งนี้ จากคนแปลกหน้ากลายเป็นความคุ้นเคยของคนในหมู่บ้าน เรื่องราวที่พวกเขาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันระหว่างการซื้อ-การขาย ระหว่างการปรุงอาหาร-การกินอาหาร รวมทั้งมิตรสหายมากหน้าของทั้งคู่ที่ดั้นด้นมาเป็นพนักงาน part-time แต่ทำงานแข็งขันเหมือนเป็นพนักงาน full-time เปลี่ยนหน้าทุกวันล้วนเป็นคนที่ผู้ชมไม่มากก็น้อยคุ้นหน้าคุ้นตา กลายเป็นความอบอุ่นที่อบอวลอยู่ในร้านชำแห่งนี้ท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บด้านนอก
กลางวันโกลาหลเฮฮา ลนลานลุกลี้ลุกลน คิดเงินผิดบ้าง และงงๆ กับการขายตั๋วรถบัสที่วิ่งระหว่างเมือง คนหนึ่งครองครัว อีกคนคุมหน้าร้านและสารพัดหน้าที่ ฮิฮิฮะฮะกันไปทั้งวัน ตกกลางคืนปิดร้าน ล้อมวงกินดื่มกับมิตรสหายpart-time ในรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ มีคราบน้ำตาแห่งความซาบซึ้งตื้นตันใจในเรื่องเล่าตลอดเส้นทางอาชีพของพวกเขา เคล้าโซจูที่ซาดลงคอ
บางวันพวกเขาออกไปหาวัตถุดิบชั้นยอดในท้องถิ่นมาใช้เป็นเมนูแปลกใหม่ไว้ต้อนรับนักชิมประจำหมู่บ้าน แน่นอนว่าไม่ใช่การออกไปหาวัตถุดิบแบบธรรมดา ต้องได้ความสนุกและผจญภัยเป็นของแถมด้วย
ธุรกิจเล็กๆ ที่เหมือนกับจะวุ่นวายอยู่ตลอดทั้งวัน เพราะเกือบจะมีทุกสิ่งสรรที่ทุกคนต้องการ มีกระทั่งเหยื่อตกปลา แต่บางช่วงเวลาของวัน ก็มีตอนที่เถ้าแก่ทั้งสอง หรือพนักงาน part-time ได้ออกมาไขกาแฟหวานๆ อุ่นๆ ที่ตู้หยอดเหรียญหน้าร้าน นั่งจิบกาแฟ ได้พักจากความเมื่อยล้า ได้ชื่นชมบรรยากาศนอกร้านที่มีท่ารถบัสอยู่อีกฝั่งถนน และมองเห็นวิวภูเขาไกลๆ อยู่หลังโรงเรียนประถมประจำหมู่บ้าน ได้สนทนากับหมาดำเจ้าถิ่นที่บางครั้งเป็นแบบ one way communication ฮาฮาฮา
ทุกความรื่นรมย์ที่วอนชอนรี อันหายากยิ่งในเมืองใหญ่ที่ผู้คนขวักไขว่เร่งรีบและดูดายกัน โดยเฉพาะกับสองนักแสดงชื่อดังที่กลายเป็นอาจอชี่ธรรมดาๆ สำหรับเด็กๆ กลายเป็นคนหนุ่มสามัญที่แข็งขันน่ารักของฮาราบอจี-ฮัลมอนี อาจุมม่า-อาจอชี่ ในหมู่บ้านแห่งนี้ อย่าว่าแต่ทั้งคู่ที่ผ่อนคลายสบายใจ แม้แต่ผู้ชมอย่างเราก็ยังรู้สึกถึงความเป็นอิสระจากการเป็น somebody ของพวกเขาเช่นกัน
เราจะได้เห็นตัวตนอีกด้านของพระเอกโจอินซอง ความช่างอำ ความตลกหน้าตาย ความแหย่ยั่วคนโน้นคนนี้ ความผ่อนคลายสบายๆ ที่ยากจะได้เห็นมุมเหล่านี้จากผลงานด้านอื่นๆ ของเขา เราจะได้เห็นมุมน่ารักของโจอินซองจนชุ่มฉ่ำใจ ยิ่งอายุมากขึ้นเขายิ่งผ่อนคลายกับความคิดของตัวเองหรือความคาดหวังของใครๆ มากขึ้น ถึงเขาไม่ได้พูดตรงๆ แต่ฉันเชื่อว่าที่เขารับงานนี้ก็เป็นเพราะมีฮยองที่น่ารัก ชาแทฮยอน เป็นคู่หูที่จะอยู่ข้างๆ ให้ได้อุ่นใจในทุกสถานการณ์แน่ๆ ครั้งแรกกับรายการ reality show ที่ต้องเป็นตัวยืนตลอดรายการถึง 10 อีพีเขาสารภาพตั้งแต่อีพีแรกว่า “เราทำอะไรก็ไม่ตลกหรอกครับ” . . . . เท่านี้ก็ขำแล้ว ๕๕๕
เมื่อเอ่ยชื่อชาแทฮยอน หนึ่งในนักแสดงที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อรายการ variety show แฟนเกาหลีทั้งหลายย่อมเชื่อใจได้อยู่แล้วว่า เสียงฮาจะไม่ขาดหายไปอย่างแน่นอน เหนือกว่านั้นเถ้าแก่ชายังทำตัวกลมกลืนกับคนวอนชอนรีได้อย่างรวดเร็วราบรื่นราวกับเป็นลูกหลานวอนชอนรีก็ไม่ปาน
ความน่ารักอย่างใสซื่อของผู้คนในวอนชอนรี ที่ต่างแวะเวียนมาใช้บริการซุปเปอร์ร้านชำ ผ่านการดูแลอย่างอบอุ่นเป็นกันเองของเถ้าแก่ชา แวะมาลิ้มชิมรสเมนูเด็ดของเถ้าแก่ "เชฟโจ" ที่เลือกสรรวัตถุดิบชั้นเลิศมาเสิร์ฟในราคาย่อมเยา ไหนจะเหล่าพนักงาน part-time ที่น่ารักน่าเอ็นดู ไม่ว่าจะเป็น พัคโบยอง, คิมแจฮวา, ยุนคยองโฮ, พัคคยองฮเย, ชินซึงฮวาน, พัคบยองอึน, นัมจูฮยอก, ยุนชียุน, โจโบอา เป็นต้น ผลัดเวียนกันมาสร้างรอยยิ้ม ความฮา และความซึ้งอย่างจุใจผู้ชม
เมื่อเถ้าแก่ชาและเถ้าแก่โจเริ่มต้นวันใหม่ ไขกุญแจประตูเปิดร้าน เติมสินค้าบนชั้น เตรียมวัตถุดิบในการปรุงอาหาร ด้วยความคุ้นชินอย่างอัตโนมัติเหมือนเป็นวิถีชีวิตที่ทำมานับเดือนนับปี แม้ในความเป็นจริงจะเป็นเวลาเพียงแค่ 10 วัน แต่ก็เป็นวันสุดท้ายของการเป็นเถ้าแก่จำเป็นของพวกเขาแล้ว จากคนแปลกหน้าในหมู่บ้าน กลายเป็นเหมือนญาติสนิทมิตรสหาย เจอหน้าก็โบกมือทักทายถามไถ่ความเป็นไปในชีวิต ไม่ต้องคิดเลยว่าตอนที่เถ้าแก่เนี้ยตัวจริงกลับมาพบพวกเขากับวันสุดท้ายในหน้าที่ ความรู้สึกของสองเถ้าแก่ที่กำลังจะต้องจากไปแล้วนั้นจะวูบไหวเพียงไหน บรรยากาศจะซาบซึ้งปานใด
ในวาระที่เถ้าแก่ชาและเถ้าแก่โจ จะกลับมาเปิดประตูร้านชำในซีซั่นที่สอง แห่งใหม่และใหญ่กว่าเดิมในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ฉันจะขอชักชวนทุกท่านสะพายถุงผ้าไปช็อปปิ้งในซุปเปอร์ร้านชำแห่งแรกของสองเถ้าแก่กันก่อนเป็นการชิมลางค่ะ กินข้าวกินหมี่กันให้อิ่มก่อนนะคะ ไม่อย่างนั้นจะต้องท้องร้องโครกครากด้วยความทรมานเมื่อมาเจอกับเมนูสูตรเด็ดของเถ้าแก่เชฟโจ
ไปค่ะ ไปเที่ยวซุปเปอร์ร้านชำ ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านชำ ซึ่งฉันมั่นใจว่า จะมีสถานที่แบบนั้นอยู่ใกล้บ้านคุณแน่ๆ อย่างน้อยก็หนึ่งร้าน เผลอๆ จะเจอคนดังยืนซดน้ำดับกระหายอยู่ก็ได้นะ
.
Teaser
งานแถลงข่าวและตัวอย่างยาวๆ