ใครเคยจน แบบ...
อนันตริยจนบ้างครับ
เพียงแค่ปุ๊ดออกจากท้องแม่
ก็ยากจนแล้ว แบบเนี้ยครับ
ผม..คือหนึ่งในหลายคนนั้น
นะรู้ไหม
สมัยเด็กน่ะ ยังไม่ค่อยรู้หรอกว่าตัวเองจน
รู้แต่ว่า ไม่ค่อยได้กินขนม
ไม่ค่อยมีเสื้อผ้าใหม่(ที่มีอยู่
ก็เขาให้มา)
พอถึงปีการศึกษาใหม่ ก็ต้องไปเข้าแถวหนังสือยืม จากพี่สู่น้อง
จะได้ซื้อใหม่ก็พวกแบบฝึกหัด(ซึ่งก็เป็นจำนวนน้อย) ผมเคยถูกครูตีซ้ำตีซากเพราะไม่ได้ทำการบ้าน
ในวิชาหนึ่ง
เนื่องจากไม่มีหนังสือ ตีจนเป็นขาประจำ
และก็แปลก ที่ทำไมผมไม่
บอกครูก็ไม่ทราบ
ทนโดนตีอยู่แบบนั้นแหละ
แต่ถ้าเป็นการบ้านแช่ แบบให้การบ้านวันพุธ แล้วไปส่งวันศุกร์ยังงี้ ผมถึงจะมีส่ง(ยืมหนังสือเพื่อน)
แต่ที่แปลกกว่าคือปลายปี ผมดันท็อป
วิชาที่ถูกตีขาลายนี่แหละครับ(จุดประสงค์จริงๆคือ
จะอวดว่าตัวเองเรียนเก่งแหละ😅)
เราย้ายบ้านจนได้ฉายาผี
ตองเหลือง จำได้ว่าจาก
ป.1-ป.4 ผมย้ายบ้าน3ครั้ง
ครับ ย้ายทีก็กระเตงกันไป
แม่หาบของ พ่อแบกกระเป๋า
ลูกๆถือเขียงถือครก ตอนนั้นเด็กครับ เลยไม่คิดอะไร
ย้ายก็ย้ายแค่นั้น
คนเรานี้ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน
จริงๆนะครับ
แม้จะยากจน ชนิดที่เรียกได้ว่ามีแค่ชีวิต แต่วันหนึ่ง
ชะตาชีวิตของพวกเราก็เปลี่ยนไป เมื่อพ่อได้เจอกับ
เพื่อนเก่าสมัยเรียน
นี่คือ 'โลกกลม' ครั้งแรกของเราครับ เราได้ย้ายที่อยู่ใหม่ ได้โอกาสใหม่ๆที่ดี
หลายครั้ง บางอย่างมาเหมือนปาฏิหาริย์ด้วยซ้ำ
ทุกวันนี้ผมก็ยังจดจำบุญคุณของคุณลุงได้ไม่เคยลืม
เมื่อครั้งยังจนแสนจน
นั้น พ่อพาพวกเราระหกระเหินกันตามลำพัง จน..
เชื่อไหมครับว่าผม ไม่เคย
รู้จักญาติพี่น้องแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน
กว่าเราจะลืมตาอ้าปากได้
ผมก็โตแล้ว มีความทรงจำ
ของญาติ แค่จากคำบอกเล่า ว่าพี่น้องฝ่ายแม่ชื่ออะไร มีกี่คน พี่น้องฝ่ายพ่อ
ชื่ออะไร มีกี่คน มีครั้งหนึ่ง
ที่พ่อพาไปบ้านลุงคนโต
ปรากฏว่า เขาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว เราเลยไปหาลุงอีกคน
ก็เลยได้รูปของลุงของป้า
พี่ๆและหลานๆมาอัลบั้มหนึ่ง
ให้พอได้รู้ว่า มีพี่ชื่อนี้
มีหลานชื่อนี้เท่านั้น
โซเชียลก็ช่วยอะไรเราไม่
ได้ เพราะเราไม่เคยเจอกัน
และผมรู้แค่ชื่อเล่นของพวกเขาเท่านั้น แต่....
ความแน่นอนคือความไม่แน่
นอนนี่ครับ อะไรก็เกิดขึ้น
ได้ เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เองที่ความไม่แน่นอนที่ว่านี้ก็
เกิดขึ้น
ช่วงหลังปีใหม่เล็กน้อย
พวกผมตกเป็นผู้เสี่ยงสูง
จากโควิด เพราะมีคนใน
ครอบครัวติดโควิดแบบไม่
มีอาการ เราทำatk1ครั้ง
rtpcr2ครั้ง กักตัว10วัน
โชคดีที่ไม่มีใครติดเป็นคน
ที่สองอีก เราก็เลยกลับไปใช้ชีวิตปกติ(แต่ระหว่างนั้น
เราก็เข้าไร่เข้าสวนกันทุกวันนะครับ แค่อยู่กันเอง
ไม่เจอเพื่อนบ้านเท่านั้น)
พูดถึงเรื่องกักตัวนี้ ผมซึ้งใจ
เพื่อนบ้านหลายครอบครัว
มากครับ มีทั้งคนเอาของสดมาส่ง เอาข้าวสาร
อาหารแห้ง ขนม ผลไม้
กาแฟ ของใช้สิ้นเปลืองมา
ส่งเราแบบไม่รังเกียจว่าเรา
อาจเป็นโควิดและแพร่เชื้อให้พวกเขาเลยครับ
ผมว่า..ผมโชคดีกว่าการถูก
รางวัลที่หนึ่งอีกนะ
เพราะการมีเพื่อนดีนี้
คือที่สุดของชีวิตคนๆหนึ่ง
แล้ว
..ดังนั้นเมื่อพ้นจากกักตัว
เราจึงกลับไปใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง(ที่เพิ่มเติมคือ ดีกับ
เพื่อนบ้าน ให้มากขึ้นเท่าที่เราจะทำได้) และแน่นอนว่า
การกลับไปใช้ชีวิตปกติ
ของผมคือ งานฟรีแลนซ์
ซึ่งผมทำมาสามปีแล้ว
จริงๆก็ชอบนะครับ ขยันก็ไป เบื่อหรือเหนื่อยก็หยุด
ไม่ต้องมีใบแพทย์ใบลา
เสร็จงานรับตังค์ จบ..
ดังนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ผมจึงไปทำงานเหมือนเคย
ปกติก็ตำแหน่งของใครของมันครับ แต่เผอิญอยู่กับเครื่องจักรประเภทโรบอท
ก็เลยต้องแขวนบัตรประจำตัวและล็อกเอาท์
ซึ่งจะมีคนดูแลตรงนั้นอยู่
ซึ่งไม่เกี่ยวกับผม
แต่..เพราะอะไรไม่รู้ผมดัน
ไปหยิบบัตรประจำตัวที่ติดไว้หน้าบอร์ดใบหนึ่งดู
เด็กคนนั้น นามสกุลเดียว
กับผมครับ แถมหน้าคล้าย
นพลมากด้วย ตอนนั้นมือ
สั่นไปหมดเลยครับ
ทนไม่ไหว ผมก็เข้าไป
ตะโกนถามว่า ใครชื่อ....
มีเสียงตอบมาจากข้างหลัง
ว่า
"ผมเองครับ"
หันไปดูก็เจอ เด็กคิ้วเข้มตาคมคนหนึ่ง แกคงงงว่า
ผมเป็นใครอยู่เหมือนกัน
ผมเลยพยักหน้าชวนแกหลีกคนออกมา .แล้วผมที่
ไม่ใส่ใจมนุษย์หน้าไหนก็
กลายร่างเป็นทนายครับ
เชื่อไหมครับ ว่าเขาเป็นหลานของผมจริงๆด้วย
เบลล์เป็นหลานที่เกิดจากลูกชายคนโตของลุงผม
แถมเขายังพาน้องที่อายุเพิ่งเต็ม18มาสมัครงานด้วย
(แต่เมื่อวันเสาร์เขาไปธุระ
เลยไม่เจอกัน)
เบลล์เล่าว่า ปู่พูดถึงพ่อผม
บ่อย เพราะเป็นน้องคนเล็ก
และแกเชื่อสนิทใจว่าผม
เป็นอา เพราะผมหน้าเหมือนอาน้อยเขา
ความผูกพันทางสายเลือดนี้
เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก
แค่เห็นหน้า ก็ถูกชะตา
พอรู้ว่าเป็นหลานก็รักเต็มหัวใจง่ายๆ
ผมคงต้องเชื่อเรื่องโลกกลม
จริงๆแล้วครับ จู่ๆก็ได้เจอหลาน ทั้งที่ไม่เคยเจอพ่อ
ของหลาน และที่สำคัญ
หลานผมอยู่สมุทรปราการ
แต่ผมอยู่ฉะเชิงเทรา
นายแม่บอกว่า รอให้หลาน
สนิทใจก่อน ค่อยชวนมาเที่ยวบ้าน แต่ผมว่าแกคง
สนิทใจแล้วละครับ
เพราะพอรู้ว่าผมเป็นอา
แกกอดผมแน่นเลย
ยังไงก็...ช่วยดีใจกับผม
ด้วยนะครับ
*พอดีเลยนะครับ ที่เรื่องนี้
เข้าโครงการของคุณน้ำได้
พอดีเชียว*
ขอบคุณครับผม
โลกกลม
อนันตริยจนบ้างครับ
เพียงแค่ปุ๊ดออกจากท้องแม่
ก็ยากจนแล้ว แบบเนี้ยครับ
ผม..คือหนึ่งในหลายคนนั้น
นะรู้ไหม
สมัยเด็กน่ะ ยังไม่ค่อยรู้หรอกว่าตัวเองจน
รู้แต่ว่า ไม่ค่อยได้กินขนม
ไม่ค่อยมีเสื้อผ้าใหม่(ที่มีอยู่
ก็เขาให้มา)
พอถึงปีการศึกษาใหม่ ก็ต้องไปเข้าแถวหนังสือยืม จากพี่สู่น้อง
จะได้ซื้อใหม่ก็พวกแบบฝึกหัด(ซึ่งก็เป็นจำนวนน้อย) ผมเคยถูกครูตีซ้ำตีซากเพราะไม่ได้ทำการบ้าน
ในวิชาหนึ่ง
เนื่องจากไม่มีหนังสือ ตีจนเป็นขาประจำ
และก็แปลก ที่ทำไมผมไม่
บอกครูก็ไม่ทราบ
ทนโดนตีอยู่แบบนั้นแหละ
แต่ถ้าเป็นการบ้านแช่ แบบให้การบ้านวันพุธ แล้วไปส่งวันศุกร์ยังงี้ ผมถึงจะมีส่ง(ยืมหนังสือเพื่อน)
แต่ที่แปลกกว่าคือปลายปี ผมดันท็อป
วิชาที่ถูกตีขาลายนี่แหละครับ(จุดประสงค์จริงๆคือ
จะอวดว่าตัวเองเรียนเก่งแหละ😅)
เราย้ายบ้านจนได้ฉายาผี
ตองเหลือง จำได้ว่าจาก
ป.1-ป.4 ผมย้ายบ้าน3ครั้ง
ครับ ย้ายทีก็กระเตงกันไป
แม่หาบของ พ่อแบกกระเป๋า
ลูกๆถือเขียงถือครก ตอนนั้นเด็กครับ เลยไม่คิดอะไร
ย้ายก็ย้ายแค่นั้น
คนเรานี้ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน
จริงๆนะครับ
แม้จะยากจน ชนิดที่เรียกได้ว่ามีแค่ชีวิต แต่วันหนึ่ง
ชะตาชีวิตของพวกเราก็เปลี่ยนไป เมื่อพ่อได้เจอกับ
เพื่อนเก่าสมัยเรียน
นี่คือ 'โลกกลม' ครั้งแรกของเราครับ เราได้ย้ายที่อยู่ใหม่ ได้โอกาสใหม่ๆที่ดี
หลายครั้ง บางอย่างมาเหมือนปาฏิหาริย์ด้วยซ้ำ
ทุกวันนี้ผมก็ยังจดจำบุญคุณของคุณลุงได้ไม่เคยลืม
เมื่อครั้งยังจนแสนจน
นั้น พ่อพาพวกเราระหกระเหินกันตามลำพัง จน..
เชื่อไหมครับว่าผม ไม่เคย
รู้จักญาติพี่น้องแม้แต่คนเดียว ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน
กว่าเราจะลืมตาอ้าปากได้
ผมก็โตแล้ว มีความทรงจำ
ของญาติ แค่จากคำบอกเล่า ว่าพี่น้องฝ่ายแม่ชื่ออะไร มีกี่คน พี่น้องฝ่ายพ่อ
ชื่ออะไร มีกี่คน มีครั้งหนึ่ง
ที่พ่อพาไปบ้านลุงคนโต
ปรากฏว่า เขาย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว เราเลยไปหาลุงอีกคน
ก็เลยได้รูปของลุงของป้า
พี่ๆและหลานๆมาอัลบั้มหนึ่ง
ให้พอได้รู้ว่า มีพี่ชื่อนี้
มีหลานชื่อนี้เท่านั้น
โซเชียลก็ช่วยอะไรเราไม่
ได้ เพราะเราไม่เคยเจอกัน
และผมรู้แค่ชื่อเล่นของพวกเขาเท่านั้น แต่....
ความแน่นอนคือความไม่แน่
นอนนี่ครับ อะไรก็เกิดขึ้น
ได้ เมื่ออาทิตย์ก่อนนี้เองที่ความไม่แน่นอนที่ว่านี้ก็
เกิดขึ้น
ช่วงหลังปีใหม่เล็กน้อย
พวกผมตกเป็นผู้เสี่ยงสูง
จากโควิด เพราะมีคนใน
ครอบครัวติดโควิดแบบไม่
มีอาการ เราทำatk1ครั้ง
rtpcr2ครั้ง กักตัว10วัน
โชคดีที่ไม่มีใครติดเป็นคน
ที่สองอีก เราก็เลยกลับไปใช้ชีวิตปกติ(แต่ระหว่างนั้น
เราก็เข้าไร่เข้าสวนกันทุกวันนะครับ แค่อยู่กันเอง
ไม่เจอเพื่อนบ้านเท่านั้น)
พูดถึงเรื่องกักตัวนี้ ผมซึ้งใจ
เพื่อนบ้านหลายครอบครัว
มากครับ มีทั้งคนเอาของสดมาส่ง เอาข้าวสาร
อาหารแห้ง ขนม ผลไม้
กาแฟ ของใช้สิ้นเปลืองมา
ส่งเราแบบไม่รังเกียจว่าเรา
อาจเป็นโควิดและแพร่เชื้อให้พวกเขาเลยครับ
ผมว่า..ผมโชคดีกว่าการถูก
รางวัลที่หนึ่งอีกนะ
เพราะการมีเพื่อนดีนี้
คือที่สุดของชีวิตคนๆหนึ่ง
แล้ว
..ดังนั้นเมื่อพ้นจากกักตัว
เราจึงกลับไปใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง(ที่เพิ่มเติมคือ ดีกับ
เพื่อนบ้าน ให้มากขึ้นเท่าที่เราจะทำได้) และแน่นอนว่า
การกลับไปใช้ชีวิตปกติ
ของผมคือ งานฟรีแลนซ์
ซึ่งผมทำมาสามปีแล้ว
จริงๆก็ชอบนะครับ ขยันก็ไป เบื่อหรือเหนื่อยก็หยุด
ไม่ต้องมีใบแพทย์ใบลา
เสร็จงานรับตังค์ จบ..
ดังนั้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ผมจึงไปทำงานเหมือนเคย
ปกติก็ตำแหน่งของใครของมันครับ แต่เผอิญอยู่กับเครื่องจักรประเภทโรบอท
ก็เลยต้องแขวนบัตรประจำตัวและล็อกเอาท์
ซึ่งจะมีคนดูแลตรงนั้นอยู่
ซึ่งไม่เกี่ยวกับผม
แต่..เพราะอะไรไม่รู้ผมดัน
ไปหยิบบัตรประจำตัวที่ติดไว้หน้าบอร์ดใบหนึ่งดู
เด็กคนนั้น นามสกุลเดียว
กับผมครับ แถมหน้าคล้าย
นพลมากด้วย ตอนนั้นมือ
สั่นไปหมดเลยครับ
ทนไม่ไหว ผมก็เข้าไป
ตะโกนถามว่า ใครชื่อ....
มีเสียงตอบมาจากข้างหลัง
ว่า
"ผมเองครับ"
หันไปดูก็เจอ เด็กคิ้วเข้มตาคมคนหนึ่ง แกคงงงว่า
ผมเป็นใครอยู่เหมือนกัน
ผมเลยพยักหน้าชวนแกหลีกคนออกมา .แล้วผมที่
ไม่ใส่ใจมนุษย์หน้าไหนก็
กลายร่างเป็นทนายครับ
เชื่อไหมครับ ว่าเขาเป็นหลานของผมจริงๆด้วย
เบลล์เป็นหลานที่เกิดจากลูกชายคนโตของลุงผม
แถมเขายังพาน้องที่อายุเพิ่งเต็ม18มาสมัครงานด้วย
(แต่เมื่อวันเสาร์เขาไปธุระ
เลยไม่เจอกัน)
เบลล์เล่าว่า ปู่พูดถึงพ่อผม
บ่อย เพราะเป็นน้องคนเล็ก
และแกเชื่อสนิทใจว่าผม
เป็นอา เพราะผมหน้าเหมือนอาน้อยเขา
ความผูกพันทางสายเลือดนี้
เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก
แค่เห็นหน้า ก็ถูกชะตา
พอรู้ว่าเป็นหลานก็รักเต็มหัวใจง่ายๆ
ผมคงต้องเชื่อเรื่องโลกกลม
จริงๆแล้วครับ จู่ๆก็ได้เจอหลาน ทั้งที่ไม่เคยเจอพ่อ
ของหลาน และที่สำคัญ
หลานผมอยู่สมุทรปราการ
แต่ผมอยู่ฉะเชิงเทรา
นายแม่บอกว่า รอให้หลาน
สนิทใจก่อน ค่อยชวนมาเที่ยวบ้าน แต่ผมว่าแกคง
สนิทใจแล้วละครับ
เพราะพอรู้ว่าผมเป็นอา
แกกอดผมแน่นเลย
ยังไงก็...ช่วยดีใจกับผม
ด้วยนะครับ
*พอดีเลยนะครับ ที่เรื่องนี้
เข้าโครงการของคุณน้ำได้
พอดีเชียว*
ขอบคุณครับผม