นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันที่โดดเด่นที่สุดทั้ง 10 คน ซึ่งถูกจับและถูกควบคุมตัวภายใต้การสังเกตการณ์ ถูกเรียกว่า " Hitler's Uranium Club " (คลับยูเรเนียมของฮิตเลอร์) ในความรับผิดชอบดูแลของพันตรี Rittner นายทหารและนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งของอังกฤษ และมีหน้าที่รายงานต่อ Eric Welsh และ Michael Perrin เจ้าหน้าที่ข่าวกรองกองทัพเรือ โดยทั้งหมด 10 คนได้แก่ 

-  Erich Bagge ผู้พัฒนาอุปกรณ์เสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่เป็นก๊าซ เพื่อเพิ่มปริมาณไอโซโทป U-235 ของยูเรเนียม ขั้นตอนสำคัญในการผลิตอุปกรณ์นิวเคลียร์ในปี 1944 พันตรี Rittner อธิบายว่าเขาเป็นชายหนุ่มชาวเยอรมันอย่างสมบูรณ์ที่จริงจังและขยันมาก และไม่น่าจะให้ความร่วมมือกับฝ่ายพันธมิตร แต่มิตรภาพของเขากับ Kurt Diebner ทำให้เขาอยู่ในความสงสัย
 
-  Kurt Diebner นักฟิสิกส์นิวเคลียร์ชาวเยอรมัน ผู้กำกับและบริหารโครงการพลังงานนิวเคลียร์ของเยอรมนี เขาเป็นผู้อำนวยการสภาวิจัยนิวเคลียร์และ
เจ้าหน้าที่วางแผนของกองทัพเยอรมัน จนกระทั่งการล่มสลายของเยอรมนีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พันตรี Rittner อธิบายว่าเขาดูเป็นมิตรมาก แต่มีบุคลิกที่ไม่เป็นมิตรและไม่น่าไว้ใจ เขาไม่ชอบคนอื่นทั้งหมดยกเว้น Erich Bagge
 
-  Walther Gerlach นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันที่ร่วมกับ Otto Stern ค้นพบการหาปริมาณการหมุน(spin) ในสนามแม่เหล็กที่เรียกว่า "Stern-Gerlach effect" พันตรี Rittner อธิบายว่า เขามีนิสัยร่าเริงและจัดการง่าย ดูเหมือนว่าเขาให้ความร่วมมือกับพวกเราอย่างแท้จริง

-  Otto Hahn นักเคมีชาวเยอรมันที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี (ค้นพบการแตกตัวของนิวเคลียร์) ผู้บุกเบิกด้านกัมมันตภาพรังสีและเคมีวิทยุ ทำให้เขา
ถูกเรียกว่า "บิดาแห่งเคมีนิวเคลียร์" โดยเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 1945 ขณะที่ยังถูกควบคุมตัวที่ Farm Hall เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาเคมี สำหรับการค้นพบการแตกตัวของนิวเคลียสของอะตอมหนัก นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับความเคารพในระดับหนึ่งจากพันตรี Rittner ซึ่งกล่าวถึงเขาในรายงานว่า Hahn เป็น "man of the world" ที่มีความสามารถมากที่สุด ด้วยอารมณ์ขันและสามัญสำนึกของเขาช่วยทำให้สถานะการณ์เลวร้ายดีขึ้น และที่แน่นอนคือเขาเป็นมิตรกับทั้งอังกฤษและอเมริกา

-  Paul Harteck นักเคมีกายภาพชาวเยอรมัน ที่ทำงานเกี่ยวกับการแยกไอโซโทปยูเรเนียมในปี 1939 เขาได้ติดต่อกับกระทรวงการสงครามไรชส์แวร์  (เยอรมัน / Reichskriegsministerium, RKM, Reich Ministry of War) เพื่อเตือนพวกเขาถึงศักยภาพของการประยุกต์ใช้ปฏิกิริยาลูกโซ่นิวเคลียร์ในกองทัพ Harteck ในบทสรุปของพันตรี Rittner คือ เป็นคนที่มีบุคลิกมีเสน่ห์และไม่เคยสร้างปัญหาใด ๆ ความปรารถนาเดียวของเขาคือทำงานต่อไป
ซึ่งในตอนนั้นเขายังเรียนระดับปริญญาตรี เขาจึงมีความกังวลน้อยกว่าคนอื่นๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขในเยอรมนี

-  Werner Heisenberg นักฟิสิกส์เชิงทฤษฎีชาวเยอรมัน หนึ่งในผู้สร้างกลศาสตร์ควอนตัมที่สำคัญ (หลักการของความไม่แน่นอน) เป็นนักวิทยาศาสตร์หลักในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเยอรมัน ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1932 สำหรับการสร้างกลศาสตร์ควอนตัม และการประยุกต์ใช้งานซึ่งนำไปสู่การค้นพบไฮโดรเจนในรูปแบบ "allotropic" (สิ่งที่มีอยู่ในธาตุเคมี) คำอธิบายของพันตรี Rittner เกี่ยวกับ Heisenberg คือเขาเป็นมิตรที่ให้ความช่วยเหลือดีมาก และมีความกระตือรือร้นอย่างแท้จริงที่จะร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษและชาวอเมริกัน แม้ว่าเขาเคยพูดถึงการจะไปอยู่รัสเซียก็ตาม

-  Horst Korsching นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันที่ทำงานเกี่ยวกับการแยกไอโซโทปภายใต้การทำงานของ Kurt Diebner และ Werner Heisenberg พันตรี Rittner บันทึกไว้ว่า Korsching เป็น “ปริศนาที่สมบูรณ์” ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์เสียและโกรธจัด และแทบไม่เคยเปิดปากพูดเลย อย่างไรก็ตาม เขาดูอารมณ์ดีขึ้นมากตั้งแต่เขามาถึงอังกฤษ

-  Max von Laue นักฟิสิกส์ชาวเยอรมันผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี 1914 จากการค้นพบการเลี้ยวเบนของรังสีเอกซ์ด้วยผลึกคริสตัล การต่อต้านลัทธิสังคมนิยมแห่งชาติทำให้เขาเหินห่างจากนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันคนอื่นๆ พันตรี Rittner เขียนว่า เขามีลักษณะขี้อาย แม้จะไม่เข้าใจเหตุผลที่ถูกกักขัง แต่ก็เป็นมิตรมากและมีความโน้มเอียงที่ดีไปทางอังกฤษและอเมริกา

-  Carl Friedrich von Weizsäcker นักฟิสิกส์และนักปรัชญาชาวเยอรมัน หนึ่งในนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่ตระหนักว่าสามารถสร้างอาวุธนิวเคลียร์ขึ้นได้ไม่นานหลังจากที่ Otto Hahn เผยแพร่ทฤษฎีของเขาเกี่ยวกับการแตกตัวของนิวเคลียร์) ทั้งยังเป็นที่รู้จักจากทฤษฎีเกี่ยวกับการผลิตพลังงานในดาวฤกษ์จากกระบวนการนิวเคลียร์ฟิวชัน พันตรี Rittner อธิบายว่า เขาเป็นนักการทูตที่เป็นมิตรและให้ความร่วมมือเสมอมา และเชื่อว่าแม้จะเป็นชาวเยอรมันที่ดี
แต่ก็พร้อมจริงๆ ที่จะทำงานกับอังกฤษและอเมริกา

-  Karl Wirtz นักฟิสิกส์นิวเคลียร์ชาวเยอรมัน ที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในปี 1940 โดยเข้าร่วมทีมวิจัยปรมาณูที่นำโดย Werner Heisenberg พันตรี Rittner เขียนว่า เขาเป็นคนเห็นแก่ตัว แม้จะดูภายนอกเหมือนเป็นมิตรมาก แต่ไม่สามารถเชื่อถือได้ และอาจจะให้ความร่วมมือหากคิดว่าคุ้มค่า

ในระหว่างการคุมขัง บทสนทนาของพวกเขาได้ถูกบันทึกไว้ โดยสิ่งที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับการสนทนาของคือ การหยั่งรู้สภาพของตนเองในขณะนั้น ซึ่งแต่ละคนต่างก็ชั่งน้ำหนักตัวเองกับความจงรักภักดี ทั้งในด้านมนุษยชาติ วิทยาศาสตร์ ประเทศและหน้าที่ ต่อกลุ่ม ครอบครัว และอาชีพของเขา อย่างไรก็ตาม แผนนี้กลับเป็นว่าค่อนข้างมีประโยชน์ เพราะในการพูดคุย พวกเขามีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสงครามและจริยธรรมของอาวุธนิวเคลียร์ และอดไม่ได้ที่จะพูดคุยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ (บทสนทนาที่คิดว่ามีคุณค่าทางสติปัญญาถูกถอดความและแปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยตีพิมพ์และเผยแพร่ใน Operation Epsilon, 1992)  

จากนั้นหนึ่งเดือนหลังจากถูกกักขัง พวกเขาได้ยินข่าวว่าชาวอเมริกันได้ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลกในฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น พวกเขาประหลาดใจมากเพราะพวกเขาเชื่อว่าอาวุธดังกล่าวยังห่างไกลจากความสำเร็จอีกหลายปี และได้พูดคุยกันถึงวิธีที่สหรัฐอเมริกาสร้างระเบิดนี้ขึ้นมา ทั้งยังสงสัยว่าทำไมเยอรมนีถึงไม่ประสบความสำเร็จในการผลิตอุปกรณ์ปรมาณู นักวิทยาศาสตร์บางคนระบุว่าพวกเขาดีใจที่ล้มเหลวในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์เป็นคนแรก และดีใจที่ฝ่ายสัมพันธมิตรชนะสงครามโลกครั้งที่สอง

นักวิทยาศาสตร์ทั้ง 10 คนได้รับการปล่อยตัวจากการคุมขังเมื่อวันที่ 3 มกราคม 1946 หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้รับอนุญาตให้กลับไปเยอรมนี สำหรับ  Heisenberg หลังจากที่กลับไปเยอรมนีก็กลายเป็นผู้อำนวยการสถาบันฟิสิกส์ Max Planck นอกจากนี้ เขากับ Hermann Rein ยังมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้ง Forschungsrat ซึ่งเป็นสภาวิจัยที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเจรจาระหว่างสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีที่เพิ่งก่อตั้งใหม่และชุมชนวิทยาศาสตร์ในเยอรมนี

Cr.https://www.amusingplanet.com/2022/02/operation-epsilon-when-allied-forces.html / KAUSHIK PATOWARY 
Cr.https://www.paperlessarchives.com/wwii-operation-epsilon.html
Cr.https://www.neatorama.com/2022/02/01/Operation-Epsilon-Spying-on-Scientists-by-Doing-Nothing/ Miss Cellania
Cr.https://cosmosmagazine.com/science/how-close-did-the-nazis-come-to-building-an-atomic-bomb/ Richard A Lovett
Cr.http://news.bbc.co.uk/2/hi/uk_news/england/cambridgeshire/3127222.stm / Nic Rigby

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)