คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 31
มาตอบในมุมมองผู้บริหารที่รักการ WFH และต้องฝ่าฟันกับพวกหัวเก่าปัญญาอ่อน คิดว่างานบริหารคือการเจอหน้าแล้วได้จิกสั่งควบคุมได้แสดงอำนาจใส่คนนะคะ
เหตุผลหลักคือเขาอยากควบคุมพนักงาน อยากจิกสั่งด่าคนได้ดั่งใจค่ะ คือพวกนี้เราว่าเป็นโรค เขาจะไม่รู้สึกว่ามีอำนวจถ้าไม่ได้ควบคุมกดขี่ใคร และระแวงคิดว่าคนอื่นจะเอาเปรียบหลบเลี่ยงงาน
ทั้งที่จริงๆของแบบนี้มันประเมินได้ สั่งงานไปคุณภาพงานเป็นอย่างไร ดีหรือเปล่า เสร็จตรงเวลาหรือเปล่า มี improvement หรือเปล่า จะคุยงานตามตัวกันได้หรือเปล่า เพราะเอาจริงๆหน้าที่ “ผู้บริหาร” คือการให้นโยบาย และติดตามผลงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ใช่ทำตัวเป็นครูฝ่ายปกครองแล้วรู้สึกว่านั่นคือการบริหาร ปัญญาอ่อน
มุมมองเรานะ ใครที่เอาลูกน้องไม่อยู่ คุมทีมไม่ได้จนต้องระแวงว่าพอไม่ได้นั่งจ้องตาแล้วงานจะไม่มีประสิทธิภาพ หรือลูกน้องจะเบี้ยว คนนั้นไม่สมควรเป็นผู้บริหารค่ะ นั่นล่ะตัวด้อยประสิทธิภาพเลย องค์กรต่างๆควรคิดจุดนี้มากกว่ามานั่งจับผิดพนักงาน
ส่วนตัวบอกเลย ชอบ WFH มาก ทีมเราก็ดีมาก ลูกน้องไม่มีใครเบี้ยว ยิ่ง WFH ประสิทธิภาพผลงานปีที่ผ่านมาดีกว่าเดิมอีก ขนาดมีรับเด็กเข้าใหม่นะ ก็แค่ทำระบบให้เขาเรียนรู้งานได้ มันก็ deliver ผลลัพธ์ได้เหมือนกัน ทุกคนคือรับผิดชอบโดยไม่ต้องจิก เพราะสร้างวัฒนธรรมทีมไว้แบบนั้น ไม่เคยต้องตามจิกใคร วันๆลูกน้องรายงานนั่นนี่ปรึกษาตลอดยิ่งกว่าตอนเข้าออฟฟิศอีก ผลงานเสร็จเร็วกว่าเดิม ดีกว่าเดิม ไม่ต้องเสียเวลารถติด เสียอารมณ์กับการเดินทาง ส่วนตัวว่าดีค่ะ กำลังคิดจะย้ายไปหาองค์กรที่ WFH เต็มรูปแบบ เบื่อพวกกระโหลกเหลี่ยมวันๆมาให้เรานั่งจับผิดลูกน้องว่าใครเข้าช้ากี่นาที ออกไปทานเที่ยงก่อนเวลาไหม ปัญญาอ่อน ทำได้แค่นั้นเขาเรียกว่า รปภ. ค่ะ แค่ดูเวลาคนเข้าออก จะมีหน้ามารับเงินเดือนผู้บริหารได้ไง ลุงสมานยามหน้าตึกก็ทำหน้าที่เช็คคนเข้าออกตึกเหมือนกันแหละ ใครเอาลูกน้องไม่อยู่ เชื่อใจทีมไม่ได้ สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีไม่ได้ สมควรละอายนะคะ
เหตุผลหลักคือเขาอยากควบคุมพนักงาน อยากจิกสั่งด่าคนได้ดั่งใจค่ะ คือพวกนี้เราว่าเป็นโรค เขาจะไม่รู้สึกว่ามีอำนวจถ้าไม่ได้ควบคุมกดขี่ใคร และระแวงคิดว่าคนอื่นจะเอาเปรียบหลบเลี่ยงงาน
ทั้งที่จริงๆของแบบนี้มันประเมินได้ สั่งงานไปคุณภาพงานเป็นอย่างไร ดีหรือเปล่า เสร็จตรงเวลาหรือเปล่า มี improvement หรือเปล่า จะคุยงานตามตัวกันได้หรือเปล่า เพราะเอาจริงๆหน้าที่ “ผู้บริหาร” คือการให้นโยบาย และติดตามผลงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย ไม่ใช่ทำตัวเป็นครูฝ่ายปกครองแล้วรู้สึกว่านั่นคือการบริหาร ปัญญาอ่อน
มุมมองเรานะ ใครที่เอาลูกน้องไม่อยู่ คุมทีมไม่ได้จนต้องระแวงว่าพอไม่ได้นั่งจ้องตาแล้วงานจะไม่มีประสิทธิภาพ หรือลูกน้องจะเบี้ยว คนนั้นไม่สมควรเป็นผู้บริหารค่ะ นั่นล่ะตัวด้อยประสิทธิภาพเลย องค์กรต่างๆควรคิดจุดนี้มากกว่ามานั่งจับผิดพนักงาน
ส่วนตัวบอกเลย ชอบ WFH มาก ทีมเราก็ดีมาก ลูกน้องไม่มีใครเบี้ยว ยิ่ง WFH ประสิทธิภาพผลงานปีที่ผ่านมาดีกว่าเดิมอีก ขนาดมีรับเด็กเข้าใหม่นะ ก็แค่ทำระบบให้เขาเรียนรู้งานได้ มันก็ deliver ผลลัพธ์ได้เหมือนกัน ทุกคนคือรับผิดชอบโดยไม่ต้องจิก เพราะสร้างวัฒนธรรมทีมไว้แบบนั้น ไม่เคยต้องตามจิกใคร วันๆลูกน้องรายงานนั่นนี่ปรึกษาตลอดยิ่งกว่าตอนเข้าออฟฟิศอีก ผลงานเสร็จเร็วกว่าเดิม ดีกว่าเดิม ไม่ต้องเสียเวลารถติด เสียอารมณ์กับการเดินทาง ส่วนตัวว่าดีค่ะ กำลังคิดจะย้ายไปหาองค์กรที่ WFH เต็มรูปแบบ เบื่อพวกกระโหลกเหลี่ยมวันๆมาให้เรานั่งจับผิดลูกน้องว่าใครเข้าช้ากี่นาที ออกไปทานเที่ยงก่อนเวลาไหม ปัญญาอ่อน ทำได้แค่นั้นเขาเรียกว่า รปภ. ค่ะ แค่ดูเวลาคนเข้าออก จะมีหน้ามารับเงินเดือนผู้บริหารได้ไง ลุงสมานยามหน้าตึกก็ทำหน้าที่เช็คคนเข้าออกตึกเหมือนกันแหละ ใครเอาลูกน้องไม่อยู่ เชื่อใจทีมไม่ได้ สร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีไม่ได้ สมควรละอายนะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
มนุษย์เงินเดือน
การบริหารจัดการ
ทรัพยากรบุคคล
Work From Home
งานไอที
คิดว่าทำไมหลังผ่านการWFHมาหลายบริษัทถึงยังต้องการให้เข้าออฟฟิศ
PS.ขออนุญาตTagหลากหลายหน่อยนะคะ อยากได้ความเห็นจากหลายอุสาหกรรมเลย