ยุคข้าวยากหมากแพงแบบนี้มองไปทางไหนก็ทำให้รู้สึกเครียด อยู่นอกบ้านหมองกันพอแล้วกลับเข้ามาในบ้านก็มาหาความสุขสงบกันดีกว่า 
วิธีจัดบ้านปลอดภัยจากความเครียดสามารถทำได้ไม่ยาก ไม่ต้องลงทุนมากแค่เปลี่ยนรายละเอียดในบ้านจะทำยังไงได้บ้าง รอบรั้วชายคาเจ้าเก่าคนเดิมขอนำเสนอไอเดีย 1…2…3 relax!! 

สีโทนธรรมชาติดูแล้วสบายตาสบายใจ เลือกใช้สีขาวหรือสีเอิร์ธโทน เช่น ครีม เทา น้ำตาล เป็นสีหลักในการแต่งบ้าน หาลูกเล่นให้กับพื้นที่โดยใช้ผิวสัมผัสที่แตกต่างกันด้วยเนื้อผ้าและแพทเทิร์น เติมสีโทนอุ่น เช่น สีทอง สีแทน สีเหลืองอ่อน เพื่อให้ห้องไม่ดูไม่น่าเบื่อจนเกินไป

หลังจากที่เราใช้สีโทนธรรมชาติเป็นสีหลักแล้วก็มาถึงการหยอดสีสัน ใช้ของประดับตกแต่งบ้านชิ้นเล็ก เช่น หมอน แจกัน โคมไฟ เครื่องเซรามิก งานศิลปะ สีสันสดใสเพิ่มความน่าอยู่ให้กับห้อง  

เลือกพื้นที่ที่เราต้องอยู่บ่อยที่สุด เช่น บนโต๊ะทำงาน ชั้นวางทีวี พื้นที่นั่งเล่น ตกแต่งด้วยข้าวของที่เราชอบและจัดเป็นกลุ่มรวมกันเพื่อให้เกิดจุดนำสายตา เวลาเบื่อก็สามารถเปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ตัวใหญ่  

เวลาเลิกงานแล้วถึงบ้านหรือนั่งทำงานอยู่บ้านแล้วอยากมีสมาธิ มาจุดเทียนสร้างบรรยากาศผ่อนคลายเหมือนอยู่ในสปา หาเทียนและเชิงเทียนหลายแบบเอาไว้เปลี่ยนกลิ่นหอมไปเรื่อยๆ อย่าลืมดับเทียนก่อนนอนหรือก่อนออกจากบ้านด้วยนะเพื่อความปลอดภัย 

ในช่วงเวลากลางวันใช้แสงธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ เปิดม่านและให้แสงสว่างเข้ามา ส่วนเวลากลางคืนก็ใช้แสงสีนวลละมุนสายตา 

ใช้แสงสว่างที่เหมาะสมในแต่ละห้อง ห้องสว่างทำให้รู้สึกเชื้อเชิญน่าพักผ่อน พื้นที่มืดในบ้านเติมโคมไฟตั้งโต๊ะ ไฟตั้งพื้นและไฟแขวนเพื่อเพิ่มความสว่างในห้อง
กลิ่นหอมสร้างความผ่อนคลายได้เร็วที่สุด วางเครื่องหอมสำหรับบ้าน เช่น เทียนหอม ดิฟฟิวเซอร์ กลิ่นยูราลิปตัส เจอราเนียม และลาเวนเดอร์ ข้างๆ วางแจกันดอกไม้ได้ทั้งรูปและกลิ่นสัมผัส 

หาภาพครอบครัว ภาพที่เราไปท่องเที่ยว ภาพงานแต่งงานของสมาชิกในครอบครัวใส่กรอบนำไปแต่งบ้าน บ้านอบอุ่นเมื่อได้เห็นหน้าคนที่เรารัก บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยความทรงจำแสนสุข

ช่อดอกไม้สดหรือต้นไม้ในร่มสร้างอากาศบริสุทธิ์ในบ้านหรือจะจัดสวนแบบมินิ หาชามสวยๆ ใส่น้ำและนำดอกไม้ที่ชอบมาลอยน้ำเหมือนกับอยู่ในสปา บางคนไม่ชอบดอกไม้จริงเพราะร่วงโรยเร็วก็ใช้ดอกไม้แห้งหรือต้นไม้ประดิษฐ์ ส่วนดอกไม้สดใช้แต่งบ้านเฉพาะในโอกาสพิเศษ 

ถ้าที่บ้านมีหน้าต่างเปิดสู่ภายนอกเห็นวิวธรรมชาติควรใช้หน้าต่างให้เป็นประโยชน์ ติดม่านเป็นชั้นๆ สำหรับเปิดและปิดในแต่ละช่วงเวลาของวัน ตอนเช้าแดดไม่ร้อนเกินไปเปิดม่านให้ห้องสว่าง ตอนบ่ายใช้แค่ผ้าม่านโปร่งแสง ตอนเย็นจนถึงตอนมืดต้องการความเป็นส่วนตัวใช้ผ้าม่าน black out หรือ dim out แทน 

สิ่งทอประดับทั้งหมอน ผ้าผืน พรม  ผ้าบุโซฟา ทำให้ห้องดูสบาย สิ่งทอประดับห้องราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับเฟอร์นิเจอร์ใหญ่ เวลาเลือกหมอนเลือกรูปร่าง ขนาดและไซส์ให้แตกต่างกัน ส่วนพรมควรเลือกโทนสีกลางๆ เพื่อสลับสับเปลี่ยนไปใช้ในแต่ละห้อง 

บางที่เราอยู่กับข้าวของตกแต่งเดิมๆ ทำให้รู้สึกเบื่อหน่าย เปลี่ยนมุมวางโซฟา เปลี่ยนแจกันดอกไม้ เปลี่ยนของตกแต่งบ้านเล็กๆ น้อยๆ วางสับเปลี่ยนในแต่ละห้อง หรือใช้เทศกาลต่างๆ มาเป็นธีมแต่งบ้านก็ช่วยให้ห้องไม่จำเจ 
 
ห้องน้ำควรเป็นห้องที่ใช้ประโยชน์ได้และควรเป็นสถานที่ส่วนตัวสร้างความผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในสปาด้วยการเติมสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เทียนหอมและเสียงเพลงชิลๆ ทำให้ใช้เวลาในห้องน้ำได้มีความสุข 

เพิ่มคุณภาพในการนอน เลือกใช้เครื่องนอน ผ้าปู หมอนที่มีคุณภาพ อ่อนนุ่ม นอนสบาย สร้างบรรยากาศให้เหมือนกับนอนในโรงแรม 5 ดาว 

เก็บข้าวของที่จำเป็นไว้บนหัวเตียงหรือโต๊ะข้างเตียงที่สามารถเอื้อมถึง ผนังห้องนอนใช้สีที่สร้างความสบาย เติมของตกแต่ง งานศิลปะที่สร้างรอยยิ้ม ส่วนพื้นปูพรมสร้างสัมผัสอ่อนนุ่มก่อนเดินไปที่เตียงนอนแล้วหลับสบาย
  
ความยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบทำให้เกิดความเครียด เริ่มต้นเก็บเป็นที่ๆ ไป เริ่มจากพื้นที่หน้าบ้านก่อนเมื่อเก็บเรียบร้อยแล้วก็ไปพื้นที่ต่อไป เมื่อเก็บของเรียบร้อยแล้วยังได้พื้นที่ว่างเพิ่มขึ้นด้วย  

หามุมหนึ่งของบ้านให้เป็นมุมสร้างความผ่อนคลาย มุมที่สามารถทำกิจกรรมส่วนตัวได้ เช่น อ่านหนังสือ นั่งฟังเพลง นั่งดูหนัง หรือนั่งสมาธิ นำเอาเก้าอี้ที่นั่งสบายไปตั้งไว้ในที่ที่มีแสงสว่าง ริมหน้าต่างที่มีวิว และหาฉากมากั้นจากสิ่งวุ่นวายทั้งปวง และต้องเป็นที่ที่สมาชิกในบ้านไม่สามารถเดินผ่านได้  
ข้อมูลอ้างอิง 
https://www.bhg.com/decorating/lessons/basics/home-decorating-ideas-to-create-a-soothing-environment/