พอดีเราเลี้ยงสุนัขพันธุ์ปอมฯ เพศชาย 1 ตัว อายุ 7 ขวบ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 น้องมีอาการเจ็บที่ขาหลังทั้งสองข้าง ซึมและเดินไม่ไหว แต่ทานอาหารได้ปกติ วันที่ 2 มกราคม 2565 เราพาน้องหมาไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ใกล้บ้าน เอกซเรย์กระดูกผลออกมาว่ากระดูกปกติไม่ผิดรูป แต่ค่าเลือดผิดปกติ(เม็ดเลือดขาวสูง) ค่าตับผิดปกติ คุณหมอเช็คอาการและวิเคราะห์จากค่าเลือด สรุปแล้วบอกว่าน้องเป็นพยาธิเม็ดเลือด และเอ็กซเรย์มีตะกอนในถุงน้ำดี จึงได้ยามาทานที่บ้าน เป็นยาบำรุงเลือด  ยาบำรุงไต ยาบำรุงตับ ยาสลายนิ่ว และยาฆ่าเชื้อแบบก้างปลา พร้อมทั้งนัดให้ไปเช็คอาการทุกๆ 3-4 วัน(ค่ารักษา+ค่ายา3-4พัน😥ต่อครั้ง) อาการน้องดีขึ้นตามลำดับ แต่ไม่หายขาด บางครั้งสลับมาเจ็บที่ขาหน้า บางครั้งก็เจ็บขาหลังเดิน 3 ขา มีอาการซึมเล็กน้อย วันนี้วันที่ 27 มกราคม 2565 น้องมีอาการเจ็บที่ขาหลังข้างซ้าย ทั้งๆที่กินยาทุกวันเช้า-เย็นตามที่หมอสั่ง ทานอาหารสำหรับน้องสุนัขป่วย และเข้าน้ำเกลือทุกวันวันละ 150 ML ตามที่หมอสั่ง คือเราแปลกใจว่ารักษามาเกือบเดือนแล้ว แต่ทำไมน้องไม่ดีขึ้นเลย มีแต่ทรงไปเรื่อยๆ บางวันก็ยังเจ็บขาอยู่ หรือมันจะเป็นเพราะพยาธิในเม็ดเลือดที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้ แต่กินยามาเกือบเดือนก็ควรหายแล้วมั้ย?? เราควรเปลี่ยนโรงพยาบาลไหม ทั้งตอนนี้ค่ารักษาพยาบาลน้องแพงมาก เราก็ไม่ไหวในเรื่องของค่าใช้จ่าย แต่รักก็รัก ถ้าป่วยก็ต้องรักษา มีใครพอจะให้คำปรึกษาได้บ้างคะ โรงพยาบาลที่ดีและราคาค่ารักษาไม่แพงมาก พอจะมีใครทราบบ้างคะ🙏