ตลอดเวลา9เดือนที่อุ้มท้อง ทั้งแต่ฝากครรภ์จนคลอด ขี่มอไซด์ตากแดดตากฝนไปหาหมอคนเดียวทุกครั้ง หมอถามทุกรอบมาคนเดียวเหลอ เพื่อนๆถามตลอดไปหาหมอกับใคร ขี่รถไปเองอันตราย เราก็แก้ตัวไปทุกครั้ง (มีครั้งเดียวที่ไปด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้เข้าไปด้วยกัน จอดรอข้างนอก) โอนตังให้หาหมอ ให้ซื้อนม รวม9เดือนประมาณ15,200 ตก9เดือนๆละ1,688 (คิดประมาณจากที่ดูในแอพโอนเข้า) ไม่เคยเอ่ยถามว่าตังพอใช้ไหม ต้องการอะไรพิเศษไหม
ของใช้ของลูก น้องสาวเขาซื้อให้หลายอย่าง และเสื้อผ้า ผ้าอ้อม โน้นนี้เราเป็นคนซื้อเองทุกอย่าง เสื้อลูกสักตัวเขาไม่เคยซื้อ
วันคลอดคนที่พาไปคลอดก็ไม่ใช่เขา คนที่เฝ้าคลอดก็ไม่ใช่เขา ออกจากโรงบาลคนที่มารับกลับบ้านก็ไม่ใช่เขา
ค่าคลอด25,421 (ค่าคลอดเราเบิกและโอนคืนไป15,000) เหลือจ่ายค่าคลอด 10,421
ค่าส่องไฟต่อ 6,644
ค่าวัคซีน ครบ1เดือน 811
ค่าวัคซีน ครบ2เดือน3,430
หลังจากกลับมาอยู่บ้านแม่
ชุดตอนแรกคลอดเริ่มใส่ไม่ได้ เราซื้อมาเพิ่ม10ชุด ทั้งๆที่ ชุดแรกคลอดซึ่งมีไม่กี่ตัวที่เราซื้อไว้ คือใส่ไม่ได้แล้วสักตัวเท่ากับ ลูกมีชุดใส่แค่10ชุดที่เราซื้อเพิ่ม ใส่วันละ3ชุด เขาบอกว่าซื้อเยอะไปรึเปล่า กะของใช้ทั่วไป ซึ่งจุกจิก คนมีลูกจะเข้าใจมันเป็นของจุกจิกเล็กๆน้อยๆแต่ก็ต้องใช้ น้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่ม กระติกน้ำร้อน นมผง สำลี เปล รถนอน 9ล9 เราเป็นคนซื้อเอง ของกินบำรุงน้ำนม ยาบำรุงน้ำนม เราอยากให้ลูกกินนมเราได้เยอะ เราไม่เคยเอ่ยขอตังจากเขาซื้อเพราะคิดว่า ต้องช่วยเหลือกัน แต่ระยะเวลา3เดือนที่เราลาคลอดเขาไม่เอ่ยถามเราสักครั้งว่ามีตังใช้รึเปล่า ลูกต้องซื้ออะไรบ้างซึ่งลาคลอดไม่มีรายได้อยู่แล้ว ได้มาจากประกันสังคมแค่เงินเดือน ไม่มีค่าคอมจากการขายของ จนแม่เอ่ยถามเราว่าเวลาเราซื้อของให้ลูกเป็นตังใคร เราก็บอกแม่ว่าตังเรา แม่ก็ถามทำไมไม่ขอพ่อเขาบ้าง เราก็อธิบายแม่ว่าก็ต้องช่วยเหลือกัน เพราะนั้นก็ลูกเรา แต่เราก็อดคิดไม่ได้ ทำไมเขาไม่เคยถามเราเลยว่าเรามีตังพอใช้รึเปล่า เราไม่เคยจะให้เขามารับผิดชอบในส่วนของแม่และลูกเรา แต่ในส่วนของลูกเขาละ แล้วเราละ เราขึ้นชื่อว่าเป็นเมียรึเปล่า ที่เขาต้องดูแลบ้าง
มีซื้อแพมเพิสมา2ห่อ (746)ตอนที่เราบอกไปว่าใกล้หมดแล้ว
ซื้อนมมาให้เราบ้างบางครั้ง ของกินบ้างบางครั้ง แต่เวลาไปอยู่บ้าน เขาก็ซื้อของกินให้เราทุกมื้อ เพราะเราออกไปไหนไม่ได้อยู่บ้านเลี้ยงลูกคนเดียว เขาออกไปทำงาน
มีทะเลาะกันหลายครั้ง ทุกครั้งเราจะเป็นฝ่ายเงียบและยอมทุกครั้ง เพราะเราพูดไรไป เราก็เป็นเด็กไม่รู้จักคิดในสายตาเขาตลอด เราพยายามทำความเข้าใจความเป็นผู้ใหญ่ของเขามาตลอด เเต่เหมือนเขาไม่เข้าใจในความเป็นเด็กอายุน้อยกว่าของเรา เราไม่เคยอายุเท่าเขา แต่เขาเคยอายุเท่าเรา เราว่าเขาน่าจะเข้าใจเราบ้าง แต่เราว่าเราก็ไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กไร้สาระ งอแง เรื่องมากอะไรเลย แม้กระทั่งวันเกิดเรา คำอวยพร เค้ก ของขวัญเล็กๆน้อยๆเราก็ไม่ได้จากเขา น้อยใจไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ได้แต่ความรู้สึกของผู้หญิงย่อมมีตรงนั้นอยู่แล้วทุกคน
เราท้อง ก็ไม่มีการทำอะไรให้ถูกต้องสักอย่าง คงเป็นเพราะเราไม่ใช่ลูกสาว เรามีลูกมาแล้วมั่ง เลยไม่ได้รับตรงนั้นแต่เราก็พยายามทำความเข้าใจ ไม่เรียกร้องอะไร ตอนวันแรกที่เขาเจอแม่เรา แม่บอกแก่ไม่ขออะไร แค่ให้จดทะเบียน วันนั้นเขาก็ตอบตกลง แต่เราก็ไม่เคยเอ่ยทวงนะ เพราะเราไม่อยากบังคับใจเขา เราก็ปล่อยผ่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนั้นเลย
มีหลายเรื่องราว หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ไม่สามารถพอมออกมาหมดได้แต่มันทำให้เรารับรู้ว่าเขาอยู่ตอนนี้เพราะลูก เรารู้มาตลอดเขาไม่ได้มีความรู้สึกรักเรา แคร์ รึสงสารเราเลย
เขาเคยบอกตอนทะเลาะกันว่าเขาจะเว้นช่องว่างถอยออกมาจากเรา ทั้งๆที่มีลูกอยู่ตรงนี้ ก่อนเราท้อง เราก็รู้จักกันมาประมาณ1ปี เขาก็พอน่าจะรู้ว่าเราเป็นประมาณไหน เขาบอก ว่าเราความคิดใสๆ โชวเหนือเขา ว่าเราทำเก่ง ขี้เหนียวไม่มีน้ำใจ ใช้ชีวิตร่อมกันไม่เป็น (เราคิดว่าเพื่อนคนที่รู้จักเรา คงรู้ว่าเราไม่ใช่คนไม่มีน้ำใจ ขี้เหนียว เลย) และถ้าเขาถ้าจะถอย ทำไมไม่ถอยตอนนั้น ตอนที่เคยทะเลาะกันทั้งแต่เราไม่ท้อง มีอะไรไม่เข้าใจกันแทนจะพูดกันดีๆค่อยๆปรับตัวกัน เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา ปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่เราฝ่ายเดียว แต่เขากับบอกว่าจะถอยออกมา พูดโดยไม่นึกถึงหน้าลูกเลย
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราอึดอัดไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง ได้แต่เก็บไว้ จนบางครั้งไม่ไหวจริงๆก็มีปรึกษาเพื่อนบ้าง บางคนก็บอกให้เราอดทน เราก็คิดว่าตอนนี้เราอดทนมากแล้วนะ แต่ยังดีไม่พออีก บางคนก็บอกถ้าไม่ไหว ตัดใจให้ลูกกับเค้าดีไหม เรายืนยันว่าเราเลี้ยงเอง อาจจะไม่ได้มีตังพอที่จะทำให้ลูกสบาย แต่เราคิดว่าการที่ลูกอยู่กับแม่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูกเสมอ แต่เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าอนาคตจะเป็นแบบไหน เเต่เราก็คิดว่าตอนนี้เราพยายามทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะอดทนและทำเพื่อลูกได้ ถ้าถึงวันนั้นที่เขาไม่อยู่ตรงนี้กับเราและลูกแล้ว เราก็จะทำให้ดีที่สุด ลูกอยู่กับเราอาจจะลำบากหน่อย แต่เราจะมอบความรักให้เขาอย่างเต็มที่แน่นอน เราต้องอดทนเพื่อลูก เราต้องไม่อ่อนแอ
สายตาที่เขามองเรา ไม่มีความรัก ความสงสารเราอยู่ในนั้นเลย
เราเหนื่อยเกินไปหรือเปล่า
ของใช้ของลูก น้องสาวเขาซื้อให้หลายอย่าง และเสื้อผ้า ผ้าอ้อม โน้นนี้เราเป็นคนซื้อเองทุกอย่าง เสื้อลูกสักตัวเขาไม่เคยซื้อ
วันคลอดคนที่พาไปคลอดก็ไม่ใช่เขา คนที่เฝ้าคลอดก็ไม่ใช่เขา ออกจากโรงบาลคนที่มารับกลับบ้านก็ไม่ใช่เขา
ค่าคลอด25,421 (ค่าคลอดเราเบิกและโอนคืนไป15,000) เหลือจ่ายค่าคลอด 10,421
ค่าส่องไฟต่อ 6,644
ค่าวัคซีน ครบ1เดือน 811
ค่าวัคซีน ครบ2เดือน3,430
หลังจากกลับมาอยู่บ้านแม่
ชุดตอนแรกคลอดเริ่มใส่ไม่ได้ เราซื้อมาเพิ่ม10ชุด ทั้งๆที่ ชุดแรกคลอดซึ่งมีไม่กี่ตัวที่เราซื้อไว้ คือใส่ไม่ได้แล้วสักตัวเท่ากับ ลูกมีชุดใส่แค่10ชุดที่เราซื้อเพิ่ม ใส่วันละ3ชุด เขาบอกว่าซื้อเยอะไปรึเปล่า กะของใช้ทั่วไป ซึ่งจุกจิก คนมีลูกจะเข้าใจมันเป็นของจุกจิกเล็กๆน้อยๆแต่ก็ต้องใช้ น้ำยาซักผ้า ปรับผ้านุ่ม กระติกน้ำร้อน นมผง สำลี เปล รถนอน 9ล9 เราเป็นคนซื้อเอง ของกินบำรุงน้ำนม ยาบำรุงน้ำนม เราอยากให้ลูกกินนมเราได้เยอะ เราไม่เคยเอ่ยขอตังจากเขาซื้อเพราะคิดว่า ต้องช่วยเหลือกัน แต่ระยะเวลา3เดือนที่เราลาคลอดเขาไม่เอ่ยถามเราสักครั้งว่ามีตังใช้รึเปล่า ลูกต้องซื้ออะไรบ้างซึ่งลาคลอดไม่มีรายได้อยู่แล้ว ได้มาจากประกันสังคมแค่เงินเดือน ไม่มีค่าคอมจากการขายของ จนแม่เอ่ยถามเราว่าเวลาเราซื้อของให้ลูกเป็นตังใคร เราก็บอกแม่ว่าตังเรา แม่ก็ถามทำไมไม่ขอพ่อเขาบ้าง เราก็อธิบายแม่ว่าก็ต้องช่วยเหลือกัน เพราะนั้นก็ลูกเรา แต่เราก็อดคิดไม่ได้ ทำไมเขาไม่เคยถามเราเลยว่าเรามีตังพอใช้รึเปล่า เราไม่เคยจะให้เขามารับผิดชอบในส่วนของแม่และลูกเรา แต่ในส่วนของลูกเขาละ แล้วเราละ เราขึ้นชื่อว่าเป็นเมียรึเปล่า ที่เขาต้องดูแลบ้าง
มีซื้อแพมเพิสมา2ห่อ (746)ตอนที่เราบอกไปว่าใกล้หมดแล้ว
ซื้อนมมาให้เราบ้างบางครั้ง ของกินบ้างบางครั้ง แต่เวลาไปอยู่บ้าน เขาก็ซื้อของกินให้เราทุกมื้อ เพราะเราออกไปไหนไม่ได้อยู่บ้านเลี้ยงลูกคนเดียว เขาออกไปทำงาน
มีทะเลาะกันหลายครั้ง ทุกครั้งเราจะเป็นฝ่ายเงียบและยอมทุกครั้ง เพราะเราพูดไรไป เราก็เป็นเด็กไม่รู้จักคิดในสายตาเขาตลอด เราพยายามทำความเข้าใจความเป็นผู้ใหญ่ของเขามาตลอด เเต่เหมือนเขาไม่เข้าใจในความเป็นเด็กอายุน้อยกว่าของเรา เราไม่เคยอายุเท่าเขา แต่เขาเคยอายุเท่าเรา เราว่าเขาน่าจะเข้าใจเราบ้าง แต่เราว่าเราก็ไม่ได้ทำตัวเป็นเด็กไร้สาระ งอแง เรื่องมากอะไรเลย แม้กระทั่งวันเกิดเรา คำอวยพร เค้ก ของขวัญเล็กๆน้อยๆเราก็ไม่ได้จากเขา น้อยใจไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ได้แต่ความรู้สึกของผู้หญิงย่อมมีตรงนั้นอยู่แล้วทุกคน
เราท้อง ก็ไม่มีการทำอะไรให้ถูกต้องสักอย่าง คงเป็นเพราะเราไม่ใช่ลูกสาว เรามีลูกมาแล้วมั่ง เลยไม่ได้รับตรงนั้นแต่เราก็พยายามทำความเข้าใจ ไม่เรียกร้องอะไร ตอนวันแรกที่เขาเจอแม่เรา แม่บอกแก่ไม่ขออะไร แค่ให้จดทะเบียน วันนั้นเขาก็ตอบตกลง แต่เราก็ไม่เคยเอ่ยทวงนะ เพราะเราไม่อยากบังคับใจเขา เราก็ปล่อยผ่านไม่เคยพูดถึงเรื่องนั้นเลย
มีหลายเรื่องราว หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ไม่สามารถพอมออกมาหมดได้แต่มันทำให้เรารับรู้ว่าเขาอยู่ตอนนี้เพราะลูก เรารู้มาตลอดเขาไม่ได้มีความรู้สึกรักเรา แคร์ รึสงสารเราเลย
เขาเคยบอกตอนทะเลาะกันว่าเขาจะเว้นช่องว่างถอยออกมาจากเรา ทั้งๆที่มีลูกอยู่ตรงนี้ ก่อนเราท้อง เราก็รู้จักกันมาประมาณ1ปี เขาก็พอน่าจะรู้ว่าเราเป็นประมาณไหน เขาบอก ว่าเราความคิดใสๆ โชวเหนือเขา ว่าเราทำเก่ง ขี้เหนียวไม่มีน้ำใจ ใช้ชีวิตร่อมกันไม่เป็น (เราคิดว่าเพื่อนคนที่รู้จักเรา คงรู้ว่าเราไม่ใช่คนไม่มีน้ำใจ ขี้เหนียว เลย) และถ้าเขาถ้าจะถอย ทำไมไม่ถอยตอนนั้น ตอนที่เคยทะเลาะกันทั้งแต่เราไม่ท้อง มีอะไรไม่เข้าใจกันแทนจะพูดกันดีๆค่อยๆปรับตัวกัน เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลา ปรับตัวเข้าหากัน ไม่ใช่เราฝ่ายเดียว แต่เขากับบอกว่าจะถอยออกมา พูดโดยไม่นึกถึงหน้าลูกเลย
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราอึดอัดไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง ได้แต่เก็บไว้ จนบางครั้งไม่ไหวจริงๆก็มีปรึกษาเพื่อนบ้าง บางคนก็บอกให้เราอดทน เราก็คิดว่าตอนนี้เราอดทนมากแล้วนะ แต่ยังดีไม่พออีก บางคนก็บอกถ้าไม่ไหว ตัดใจให้ลูกกับเค้าดีไหม เรายืนยันว่าเราเลี้ยงเอง อาจจะไม่ได้มีตังพอที่จะทำให้ลูกสบาย แต่เราคิดว่าการที่ลูกอยู่กับแม่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูกเสมอ แต่เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าอนาคตจะเป็นแบบไหน เเต่เราก็คิดว่าตอนนี้เราพยายามทำมันให้ดีที่สุดเท่าที่คนๆหนึ่งจะอดทนและทำเพื่อลูกได้ ถ้าถึงวันนั้นที่เขาไม่อยู่ตรงนี้กับเราและลูกแล้ว เราก็จะทำให้ดีที่สุด ลูกอยู่กับเราอาจจะลำบากหน่อย แต่เราจะมอบความรักให้เขาอย่างเต็มที่แน่นอน เราต้องอดทนเพื่อลูก เราต้องไม่อ่อนแอ
สายตาที่เขามองเรา ไม่มีความรัก ความสงสารเราอยู่ในนั้นเลย