หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ดอยฟ้างาม ทะเลหมอกลำปาง 2 วัน 1 คืน
กระทู้รีวิว
เที่ยวภูเขา
อุทยานแห่งชาติ
บันทึกนักเดินทาง
เดินป่า
เที่ยวน้ำตก
ลำปาง ไม่ได้มีดีเพียงรถม้าหรือเมืองเก่า แถมลำปางยังมีทะเลหมอกสวยแน่นจนทำให้เราต้องร้องว้าวเหมือนกัน ผมชี้เป้าให้เลยที่ดอยฟ้างาม อำเภอแจ้ห่ม สัมผัสด้วยตัวเองมาแล้วว่าของเขาดีจริงจนต้องบอกต่อ
ขอเล่านิดว่าดอยฟ้างาม เป็นภูเขาลูกหนึ่งที่บ้านสาแพะ ตำบลบ้านสา อำเภอแจ้ห่ม ได้รับการจัดตั้งเป็นป่าชุมชนบ้านสาแพะ ความสูงประมาณ 1,100 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเพราะความที่วิวสวย มีทะเลหมอกให้ชมในช่วงฤดูหนาว แถมเดินเท้าไม่ยาก ทำให้ทางวัดสาแพะพนาราม ร่วมกับชาวบ้านพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนขึ้นมา
ความเป็นมาของทริปนี้ เมื่อ 20-21 พฤศจิกายน ปลายปีก่อน พวกเรา 10 คน ยกพลแบกเป้เที่ยวลำปาง 2 วัน 1 คืน (ไม่รวมเดินทาง) โดยมีดอยฟ้างามเป็นจุดหมายหลัก ทว่าระหว่างทริปยังได้เที่ยวที่อื่นๆ แถวอำเภอแจ้ห่ม กับอำเภอเมืองปาน คือวัดเฉลิมพระเกียรติฯ กับ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
(1)
เดินทางแบบสายลุยต้องรถทัวร์ล่ะครับ เพื่อนๆ มาจากกรุงเทพ ส่วนผมแยกเดินทางมาจากโคราช ต่างฝ่ายต่างถึง บขส.ลำปาง ตั้งแต่ก่อนรุ่งสาง มีเวลาให้เตรียมตัวทำโน่นทำนี่แยะเลย
จุดหมายแรกของพวกเราคือวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือ วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส หรือ วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง สุดแท้แต่จะเรียกชื่อไหนล้วนคือวัดเดียวกันซึ่งมีเจดีย์เรียงรายบนยอดเขาหินปูน เป็น Unseen Thailand นั่นแหละ ต้องแวะสักหน่อยเดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงลำปาง
จาก บขส. ลำปาง ถึงวัดประมาณ 70 กม. เราใช้วิธีสะดวกสุดสำหรับสิบคนคือการเหมารถสองแถว ทั้งประหยัดเวลาและหารกันแล้วถือว่าไม่แพงสำหรับการเดินทางไกล
เราถึงวัดเฉลิมพระเกียรติสักสิบโมงตรง การขึ้นด้านบนต้องใช้บริการรถรับ-ส่ง ของทางวัดเท่านั้น กำหนดขึ้น-ลง เป็นรอบเพราะทางขึ้นเขาเป็นถนนเลนเดียวไม่สามารถสวนกัน
ค่าใช้จ่ายขึ้นเขา มีค่าเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระบาท 20 บาท ค่าบำรุงสถานที่ทางวัด 20 บาท และค่ารถรับ-ส่ง 50 บาท สรุปเป็น 90 บาท
หลังนั่งรถขึ้นเขาจนถึงจุดจอดปุ๊บก็เตรียมปาดเหงื่อได้เลย เพราะเราต้องเดินขึ้นเขาตามบันไดอีกกว่าครึ่งกิโลเมตร เอาจริงๆ เดินไม่ยากหรอกครับ บันไดเขาทำไว้ดีเยี่ยมมาก
ถึงยอดแล้วไหว้พระ ชมวิว สูดอากาศ ถ่ายรูปสวยๆ กันตามอัธยาศัย เห็นแล้วต้องตาโตกับความศรัทธาในศาสนา และความพยายามของคนสร้างหมู่เจดีย์เหล่านี้ สมกับเป็น Unseen Thailand
ลงจากเขา หาข้าวกินที่ร้านด้านล่าง ก็ได้เวลาไปต่อที่ดอยฟ้างาม จุดนัดพบของเรากับผู้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวอยู่ที่วัดสาแพะพนาราม ห่างจากวัดเฉลิมพระเกียรติฯ 20 กิโลเมตร ซึ่งที่วัดสาแพะมีสถานที่ให้เตรียมความพร้อม และห้องน้ำให้จัดทำธุระส่วนตัว
พอพร้อมแล้วก็เปลี่ยนพาหนะเป็นรถกระบะกระเตงๆ คลุกฝุ่นไปตีนดอยฟ้างามกันเลย ระยะทางอีก 15 กิโลเมตร
รถมาจอดอยู่ตีนดอยฟ้างาม ทางเดินจากตรงนี้อีกเบาๆ เพียง 1.8 กิโลเมตร (หากฝนตกทางเละขึ้นมาถึงตรงนี้ไม่ได้จะเพิ่มระยะการเดินเป็น 2.5 กิโลเมตร) มีป้ายบอกเส้นทางและระยะทางเรื่อยๆ สำหรับสายลุยบอกเลยว่าเดินง่ายมาก ขึ้นซำแฮก ภูกระดึง ยังเหนื่อยกว่า (ฮา…)
ทางเดินเป็นทางชันขึ้นทีละนิดสลับทางราบหลายช่วง มีเนินชันยาวไม่มากนัก อะไรก็ดูค่อนข้างง่าย เหมือนเวลาเราเดินไปจุดชมวิวตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ มากกว่ามาเทรกกิ้งจริงจัง
ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 40 นาที เราก็มาถึงยอดดอยฟ้างาม บนยอดเขาเป็นป่าโปร่ง มีที่ราบให้กางเต็นท์นิดหน่อย แต่ผมว่าการผูกเปลดูค่อนข้างสะดวกกว่ามาก โดยเฉพาะช่วงที่อากาศยังไม่หนาว
วันที่เราไปมีขึ้นสองกลุ่ม จัดพื้นที่กลุ่มเราตรงนี้ กลุ่มเขาตรงโน้น อยู่ห่างกันแบบสบายไม่รบกวนกัน บนนี้ไม่มีแหล่งน้ำแต่มีแทงค์น้ำสามารถมากรอกใช้ รวมถึงมีห้องน้ำแบบพอบรรเทาทุกข์ยามฉุกเฉิน
บนนี้มีกฎระเบียบที่ขอให้นักท่องเที่ยวร่วมมือกันหน่อย ทั้งเรื่องจุดกางเต็นท์ การกำจัดขยะ การใช้เสียงดัง รวมถึงการห้ามดื่มเหล้าดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นพื้นที่ซึ่งทางวัดสาแพะดูแล
ระเบียงชมวิวอย่างดีตรงนี้คือแลนด์มาร์คของดอยฟ้างาม มองเห็นภาพมุมกว้างชัดเจน อีกฝั่งเห็นเขื่อนกิ่วลม รวมถึงโรงปูน SCG ที่อยู่อีกฝั่งของเขื่อน
พวกเราทำกิจกรรมชาวแคมป์ พอใกล้พระอาทิตย์ตกค่อยเดินไปจุดชมวิวอีกมุมภูเขา โอ้โห… วิวสวยสุดตา ยิ่งได้แสงยามเย็นของฤดูหนาวมาประกอบ บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
หลังฟ้าเริ่มมืดพวกเราค่อยกลับมาล้อมวงกินข้าวตามประสา ก่อนแยกย้ายเข้านอนเมื่อถึงเวลาอันสมควร สวดมนต์ขอพรรอลุ้นทะเลหมอกพรุ่งนี้ (ฮา...)
(2)
มือถือดังปลุกตีห้าครึ่ง ผมดีดตัวออกจากเต็นท์ เดินถึงจุดชมวิวแล้วสมงสมองถูกกระตุ้นให้ตื่นตัวเต็มที่ทันที เพราะภาพตรงหน้าคือทะเลหมอกนุ่มฟูสวยสุดใจ มีแสงสีส้มอมชมพูของพระอาทิตย์ซึ่งกำลังรอขึ้นจากเหลี่ยมเขาเป็นฉากหลัง ส่วนบนท้องฟ้ายังเป็นสีน้ำเงินเข้มพอให้เห็นดาวอยู่บ้าง
พอปลุกเพื่อนๆ ให้ตื่นมาดูทะเลหมอกตามหน้าที่เรียบร้อย ผมก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดขลุกอยู่กับกล้องถ่ายรูปที่จุดชมวิวสมใจอยาก ฟ้าสว่างขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับหมอกที่ฟูสวยขึ้นเช่นกัน
มองไกลๆ จากดอยฟ้างามจะเห็นกลุ่มไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมากลายเป็นเหมือนเมฆอีกก้อน ไม่ต้องตกใจว่าเป็นกลุ่มควันพิษหรือใครเผาอะไรหรือเปล่า เพราะนั่นคือไอน้ำจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร
เช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวทยอยขึ้นดอยฟ้างามมาเรื่อยๆ เดินขึ้นเขาตั้งแต่ตีห้าบ้าง ตีห้าครึ่งบ้าง ด้วยเพราะระยะทางขึ้นไม่ไกล ทำให้ไม่ต้องมาค้างบนนี้ก็มาเที่ยวชมทะเลหมอกกันได้ครับ แต่เริ่มเดินตีห้านะ ต้องตื่นกี่โมงเพื่อเดินทางมาถึงตีนเขาก็คิดเอาแล้วกัน (ฮา…)
ฝั่งพระอาทิตย์ตก มีหมอกบางเป็นหย่อมๆ แต่สวยไปอีกบรรยากาศ
พวกเราดื่มด่ำความงามของธรรมชาติ ช่วยกันทำอาหารเช้า เคลียร์แคมป์ เก็บขยะ จนสิบโมงตรงนั่นแหละค่อยเริ่มเดินลง ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงครึ้งชั่วโมงก็มาอยู่ข้างล่างเรียบร้อย นั่งรถกระบะคันเดิมกลับวัดสาแพะ ซึ่งเรานัดสองแถวให้มารอที่นั่น
มองนาฬิกายังไม่เที่ยงเลย เที่ยวไหนต่อดีนะ หลังลงมติแบบเอาไงก็เอาเถอะ (ฮา…) เราตกลงไปต่อกันที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เพราะเป็นอุทยานฯ ใกล้ที่สุด ห่างไปสัก 40 กิโลเมตร
ถึงแจ้ซ้อนแล้วก็หาข้าวกิน ก่อนแยกย้ายตามใจใครอยากทำอะไรก็ทำ อยากเดินเที่ยวน้ำตกก็จัดไป อยากแช่น้ำร้อน หรือสนุกกับการต้มไข่ที่น้ำพุร้อนก็ตามชอบ
เดือนพฤศจิกายน น้ำตกแจ้ซ้อนสวยมาก น้ำเยอะกำลังดี ดูใสสะอาด ใครแวะมาเที่ยวแจ้ซ้อนยอมเหนื่อยเดินมานิดหน่อยเถอะนะ ส่วนที่บ่อน้ำร้อนก็ผู้คนกลับมาคึกคักในวันหยุด อดยิ้มไม่ได้ที่บรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาแล้ว
สี่โมงเย็นพวกเราค่อยออกจาก อช.แจ้ซ้อน ยิงยาวนั่งรถสัปหงกกันกลับตัวเมืองลำปาง ถึง บขส. ยังไม่ค่ำด้วยซ้ำ เลยเหมาสองแถวไปเดินเที่ยวกาดกองต้าสักหน่อย หาช้อปของฝากและของกินอร่อยๆ เพราะตรงกับวันอาทิตย์พอดี
กาดกองต้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนักท่องเที่ยวและคนลำปางเองออกมาสร้างบรรยากาศให้คึกครึ้น ถ้าเข้าตัวเมืองลำปางช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ต้องมาเดินเพลินๆ
เรากลับถึง บขส. ลำปาง อีกรอบตอนสองทุ่มครึ่ง เพื่อนๆ รอรถทัวร์กลับ กทม. ส่วนผมก็เดินทางกลับโคราชด้วยรถทัวร์รอบใกล้กัน
อย่างที่บอกครับทริปลำปางครั้งนี้ ไปเป็นกลุ่มไปเป็นก๊วนเที่ยวง่ายมาก แถมได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มอิ่มแม้มีเวลาไม่มากนัก ลองมาดูแล้วเราจะได้เห็นลำปางอีกมุม... ช่วงนี้อาจหมดโปรทะเลหมอกแล้ว แต่เตรียมแผนไว้รอหน้าหนาวได้เลย ที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ครับ
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
https://www.facebook.com/alifeatraveller
ชื่อสินค้า:
ดอยฟ้างาม ลำปาง
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
📌 งามสมชื่อ 🌈 ☀️ ดอยฟ้างาม ☀️ 🌈 (( แจ้ห่ม - ลำปาง ))
ทริปนี้ 2 วัน 1 คืน เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปกับกลุ่มเพื่อน ออกจากกรุงเทพฯ ช่วงค่ำ ไปถึง อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ช่วงเช้ามืดวันถัดมา จุดแรกที่พวกเราแวะ
คนช่างเที่ยว
แพลนจะไปเที่ยวลำปางขอคำแนะนำจากคนในท้องที่ด้วยค่ะ
อยู่ขอนแก่นนะคะ ศุกร์เสาร์อาทิตย์นี้จะไปลำปางสถานที่อยากไปกะไปนอนที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนคืนวันศุกร์แล้วอยากไปแม่เมาะอยากไปศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยไปไหว้พระขี่ม้า พระธาตุลำปางหลวงในตัวเมืองลำปาง และ
สมาชิกหมายเลข 7099227
ดอยฟ้างาม ดอกครามสวย จ.ลำปาง
"ดอยฟ้างาม" เฮ๊ยมันที่ไหน คำถามแรกที่ได้เห็นภาพจากเฟสบุ๊คเพื่อน ทำไมไม่เคยได้ยิน. ทะเลหมอกสวยจัง "ต้องไป" สมองสั่งการทันทีที่เห็นรูป รีบหาข้อมูลว่าอยู่ที่ไหนไปยังไง Inbox ไปถามใน
sabtarin
บันทึกเสันทาง ... แจ้ซ้อน - ป่าเมี่ยง ทล. 1252 ไปครั้งเดียวก็พอแล้ว
วันนั้นไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน แล้วจะไปเชียงใหม่ เส้นทาง แจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน ลำปาง ไป ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด เชียงใหม่ ระยะทาง 54 กิโลเมตรเท่านั้น แล้วเข้าเชียงใหม่ไม่ไกล เวลาบ่ายส
tuk-tuk@korat
ทริป "หนีกรุง ...มุ่งลำปาง" 2 วัน 1 คืน งบ 1500 บาท !!!
***ยินดีต้อนรับทุกคนที่เผลอเข้ามาในนี้นะคะ*** เข้ามาดูการรีวิวครั้งแรกของพวกเรากันหน่อยนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ก่อนอื่นพวกเราต้องขอบอกก่อนเลยว่าพวกเราเป็นเพียงกลุ่มนักศึกษาธรรมดาๆก
สมาชิกหมายเลข 4204120
พิชิตยอดดอยจง | อ. สบปราบ จ. ลำปาง | 2 วัน 1 คืน
สถานที่ : อุทยานแห่งชาติดอยจง อ. สบปราบ จ. ลำปาง ความสูง : 1,379 เมตร เหนือระด้บน้ำทะเลปานกลาง ระยะทางเดินเท้า : 7.5 กิโลเมตร ระยะเวลาเดินเท้า : ขึ้น 8 ชั่วโมง ลง 4 ชั่วโมง 20 นาที ช่วงเปิด : ปี 2567
chacharcharri
เที่ยวดูทะเลหมอกที่ม่อนหมื่นจอก ดอยม่อนหมาก แม่แจ่ม เชียงใหม่
ฤดูนี้ต้องล่าทะเลหมอก เชียงใหม่ https://youtu.be/EP1u0-qOzKk?si=isnDgJkr5Eu-gegQ และไปต่อที่ บาหลู่โข่ https://youtu.be/ALB45If4jwc?si=nWmFj34XGshoVd4d
สมาชิกหมายเลข 6318867
มีฟ้าใสใส มีริ้วไอหมอก มีดาวและเดือนเกี้ยวหยอก อยากให้เธอออกมาพบเจอ >>> "แม่ฮ่องสอน"
สวัสดีค่า ดรีมมาส่งกระทู้รีวิวก่อนหมดปี 2024 ค่ะ แต่ละปีผ่านไปไวมากๆเลย แล้วรู้สึกได้เลยว่าตัวเองแก่ขึ้นเยอะมาก ทั้งอายุและตัวเลขน้ำหนักก็ขึ้นตามๆกันมา แต่ก็ยังสนุกกับการไ
dreammyoye
>>ll ดอยพระฌาน สวรรค์ทะเลหมอกลำปาง ll<<
วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่ ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอำเภอแม่ทะ เห็นทิวเขาต้นไ
ผู้ชายนวลๆ
พลังแห่งศรัทธาเจดีย์เสียดฟ้าวัดพระบาทปู่ผาแดง (จ.ลำปาง)
ผมแหงนหน้ามองไปบนยอดเขาสูงลิบด้วยความประหลาดใจ เมื่อสังเกตเห็นจุดขาวๆกระจายอยู่ตามผาหิน นั่นมันเจดีย์! เจดีย์เล็กๆ เรียงรายกันอยู่นับสิบๆ องค์บนยอดผาสูงเสียดฟ้าแห่งวัดพระบาทปู่ผาแดง ซึ่งตั้งอยู่ในเ
Ces
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวภูเขา
อุทยานแห่งชาติ
บันทึกนักเดินทาง
เดินป่า
เที่ยวน้ำตก
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 55
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ดอยฟ้างาม ทะเลหมอกลำปาง 2 วัน 1 คืน
ลำปาง ไม่ได้มีดีเพียงรถม้าหรือเมืองเก่า แถมลำปางยังมีทะเลหมอกสวยแน่นจนทำให้เราต้องร้องว้าวเหมือนกัน ผมชี้เป้าให้เลยที่ดอยฟ้างาม อำเภอแจ้ห่ม สัมผัสด้วยตัวเองมาแล้วว่าของเขาดีจริงจนต้องบอกต่อ
ขอเล่านิดว่าดอยฟ้างาม เป็นภูเขาลูกหนึ่งที่บ้านสาแพะ ตำบลบ้านสา อำเภอแจ้ห่ม ได้รับการจัดตั้งเป็นป่าชุมชนบ้านสาแพะ ความสูงประมาณ 1,100 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเพราะความที่วิวสวย มีทะเลหมอกให้ชมในช่วงฤดูหนาว แถมเดินเท้าไม่ยาก ทำให้ทางวัดสาแพะพนาราม ร่วมกับชาวบ้านพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ สร้างแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนขึ้นมา
ความเป็นมาของทริปนี้ เมื่อ 20-21 พฤศจิกายน ปลายปีก่อน พวกเรา 10 คน ยกพลแบกเป้เที่ยวลำปาง 2 วัน 1 คืน (ไม่รวมเดินทาง) โดยมีดอยฟ้างามเป็นจุดหมายหลัก ทว่าระหว่างทริปยังได้เที่ยวที่อื่นๆ แถวอำเภอแจ้ห่ม กับอำเภอเมืองปาน คือวัดเฉลิมพระเกียรติฯ กับ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
จุดหมายแรกของพวกเราคือวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ หรือ วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส หรือ วัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง สุดแท้แต่จะเรียกชื่อไหนล้วนคือวัดเดียวกันซึ่งมีเจดีย์เรียงรายบนยอดเขาหินปูน เป็น Unseen Thailand นั่นแหละ ต้องแวะสักหน่อยเดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึงลำปาง
จาก บขส. ลำปาง ถึงวัดประมาณ 70 กม. เราใช้วิธีสะดวกสุดสำหรับสิบคนคือการเหมารถสองแถว ทั้งประหยัดเวลาและหารกันแล้วถือว่าไม่แพงสำหรับการเดินทางไกล
เราถึงวัดเฉลิมพระเกียรติสักสิบโมงตรง การขึ้นด้านบนต้องใช้บริการรถรับ-ส่ง ของทางวัดเท่านั้น กำหนดขึ้น-ลง เป็นรอบเพราะทางขึ้นเขาเป็นถนนเลนเดียวไม่สามารถสวนกัน
ค่าใช้จ่ายขึ้นเขา มีค่าเข้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาพระบาท 20 บาท ค่าบำรุงสถานที่ทางวัด 20 บาท และค่ารถรับ-ส่ง 50 บาท สรุปเป็น 90 บาท
หลังนั่งรถขึ้นเขาจนถึงจุดจอดปุ๊บก็เตรียมปาดเหงื่อได้เลย เพราะเราต้องเดินขึ้นเขาตามบันไดอีกกว่าครึ่งกิโลเมตร เอาจริงๆ เดินไม่ยากหรอกครับ บันไดเขาทำไว้ดีเยี่ยมมาก
ถึงยอดแล้วไหว้พระ ชมวิว สูดอากาศ ถ่ายรูปสวยๆ กันตามอัธยาศัย เห็นแล้วต้องตาโตกับความศรัทธาในศาสนา และความพยายามของคนสร้างหมู่เจดีย์เหล่านี้ สมกับเป็น Unseen Thailand
ลงจากเขา หาข้าวกินที่ร้านด้านล่าง ก็ได้เวลาไปต่อที่ดอยฟ้างาม จุดนัดพบของเรากับผู้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยวอยู่ที่วัดสาแพะพนาราม ห่างจากวัดเฉลิมพระเกียรติฯ 20 กิโลเมตร ซึ่งที่วัดสาแพะมีสถานที่ให้เตรียมความพร้อม และห้องน้ำให้จัดทำธุระส่วนตัว
พอพร้อมแล้วก็เปลี่ยนพาหนะเป็นรถกระบะกระเตงๆ คลุกฝุ่นไปตีนดอยฟ้างามกันเลย ระยะทางอีก 15 กิโลเมตร
รถมาจอดอยู่ตีนดอยฟ้างาม ทางเดินจากตรงนี้อีกเบาๆ เพียง 1.8 กิโลเมตร (หากฝนตกทางเละขึ้นมาถึงตรงนี้ไม่ได้จะเพิ่มระยะการเดินเป็น 2.5 กิโลเมตร) มีป้ายบอกเส้นทางและระยะทางเรื่อยๆ สำหรับสายลุยบอกเลยว่าเดินง่ายมาก ขึ้นซำแฮก ภูกระดึง ยังเหนื่อยกว่า (ฮา…)
ทางเดินเป็นทางชันขึ้นทีละนิดสลับทางราบหลายช่วง มีเนินชันยาวไม่มากนัก อะไรก็ดูค่อนข้างง่าย เหมือนเวลาเราเดินไปจุดชมวิวตามอุทยานแห่งชาติต่างๆ มากกว่ามาเทรกกิ้งจริงจัง
ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 40 นาที เราก็มาถึงยอดดอยฟ้างาม บนยอดเขาเป็นป่าโปร่ง มีที่ราบให้กางเต็นท์นิดหน่อย แต่ผมว่าการผูกเปลดูค่อนข้างสะดวกกว่ามาก โดยเฉพาะช่วงที่อากาศยังไม่หนาว
วันที่เราไปมีขึ้นสองกลุ่ม จัดพื้นที่กลุ่มเราตรงนี้ กลุ่มเขาตรงโน้น อยู่ห่างกันแบบสบายไม่รบกวนกัน บนนี้ไม่มีแหล่งน้ำแต่มีแทงค์น้ำสามารถมากรอกใช้ รวมถึงมีห้องน้ำแบบพอบรรเทาทุกข์ยามฉุกเฉิน
บนนี้มีกฎระเบียบที่ขอให้นักท่องเที่ยวร่วมมือกันหน่อย ทั้งเรื่องจุดกางเต็นท์ การกำจัดขยะ การใช้เสียงดัง รวมถึงการห้ามดื่มเหล้าดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นพื้นที่ซึ่งทางวัดสาแพะดูแล
ระเบียงชมวิวอย่างดีตรงนี้คือแลนด์มาร์คของดอยฟ้างาม มองเห็นภาพมุมกว้างชัดเจน อีกฝั่งเห็นเขื่อนกิ่วลม รวมถึงโรงปูน SCG ที่อยู่อีกฝั่งของเขื่อน
พวกเราทำกิจกรรมชาวแคมป์ พอใกล้พระอาทิตย์ตกค่อยเดินไปจุดชมวิวอีกมุมภูเขา โอ้โห… วิวสวยสุดตา ยิ่งได้แสงยามเย็นของฤดูหนาวมาประกอบ บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ
หลังฟ้าเริ่มมืดพวกเราค่อยกลับมาล้อมวงกินข้าวตามประสา ก่อนแยกย้ายเข้านอนเมื่อถึงเวลาอันสมควร สวดมนต์ขอพรรอลุ้นทะเลหมอกพรุ่งนี้ (ฮา...)
พอปลุกเพื่อนๆ ให้ตื่นมาดูทะเลหมอกตามหน้าที่เรียบร้อย ผมก็ได้ใช้เวลาทั้งหมดขลุกอยู่กับกล้องถ่ายรูปที่จุดชมวิวสมใจอยาก ฟ้าสว่างขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับหมอกที่ฟูสวยขึ้นเช่นกัน
มองไกลๆ จากดอยฟ้างามจะเห็นกลุ่มไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมากลายเป็นเหมือนเมฆอีกก้อน ไม่ต้องตกใจว่าเป็นกลุ่มควันพิษหรือใครเผาอะไรหรือเปล่า เพราะนั่นคือไอน้ำจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 50 กิโลเมตร
เช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวทยอยขึ้นดอยฟ้างามมาเรื่อยๆ เดินขึ้นเขาตั้งแต่ตีห้าบ้าง ตีห้าครึ่งบ้าง ด้วยเพราะระยะทางขึ้นไม่ไกล ทำให้ไม่ต้องมาค้างบนนี้ก็มาเที่ยวชมทะเลหมอกกันได้ครับ แต่เริ่มเดินตีห้านะ ต้องตื่นกี่โมงเพื่อเดินทางมาถึงตีนเขาก็คิดเอาแล้วกัน (ฮา…)
ฝั่งพระอาทิตย์ตก มีหมอกบางเป็นหย่อมๆ แต่สวยไปอีกบรรยากาศ
พวกเราดื่มด่ำความงามของธรรมชาติ ช่วยกันทำอาหารเช้า เคลียร์แคมป์ เก็บขยะ จนสิบโมงตรงนั่นแหละค่อยเริ่มเดินลง ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงครึ้งชั่วโมงก็มาอยู่ข้างล่างเรียบร้อย นั่งรถกระบะคันเดิมกลับวัดสาแพะ ซึ่งเรานัดสองแถวให้มารอที่นั่น
มองนาฬิกายังไม่เที่ยงเลย เที่ยวไหนต่อดีนะ หลังลงมติแบบเอาไงก็เอาเถอะ (ฮา…) เราตกลงไปต่อกันที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เพราะเป็นอุทยานฯ ใกล้ที่สุด ห่างไปสัก 40 กิโลเมตร
ถึงแจ้ซ้อนแล้วก็หาข้าวกิน ก่อนแยกย้ายตามใจใครอยากทำอะไรก็ทำ อยากเดินเที่ยวน้ำตกก็จัดไป อยากแช่น้ำร้อน หรือสนุกกับการต้มไข่ที่น้ำพุร้อนก็ตามชอบ
เดือนพฤศจิกายน น้ำตกแจ้ซ้อนสวยมาก น้ำเยอะกำลังดี ดูใสสะอาด ใครแวะมาเที่ยวแจ้ซ้อนยอมเหนื่อยเดินมานิดหน่อยเถอะนะ ส่วนที่บ่อน้ำร้อนก็ผู้คนกลับมาคึกคักในวันหยุด อดยิ้มไม่ได้ที่บรรยากาศการท่องเที่ยวกลับมาแล้ว
สี่โมงเย็นพวกเราค่อยออกจาก อช.แจ้ซ้อน ยิงยาวนั่งรถสัปหงกกันกลับตัวเมืองลำปาง ถึง บขส. ยังไม่ค่ำด้วยซ้ำ เลยเหมาสองแถวไปเดินเที่ยวกาดกองต้าสักหน่อย หาช้อปของฝากและของกินอร่อยๆ เพราะตรงกับวันอาทิตย์พอดี
กาดกองต้ากลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนักท่องเที่ยวและคนลำปางเองออกมาสร้างบรรยากาศให้คึกครึ้น ถ้าเข้าตัวเมืองลำปางช่วงวันเสาร์ อาทิตย์ ต้องมาเดินเพลินๆ
เรากลับถึง บขส. ลำปาง อีกรอบตอนสองทุ่มครึ่ง เพื่อนๆ รอรถทัวร์กลับ กทม. ส่วนผมก็เดินทางกลับโคราชด้วยรถทัวร์รอบใกล้กัน
อย่างที่บอกครับทริปลำปางครั้งนี้ ไปเป็นกลุ่มไปเป็นก๊วนเที่ยวง่ายมาก แถมได้สัมผัสธรรมชาติแบบเต็มอิ่มแม้มีเวลาไม่มากนัก ลองมาดูแล้วเราจะได้เห็นลำปางอีกมุม... ช่วงนี้อาจหมดโปรทะเลหมอกแล้ว แต่เตรียมแผนไว้รอหน้าหนาวได้เลย ที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ครับ
ติดตามเรื่องราวการท่องเที่ยวเดินทางของผมได้อีกช่องทาง
https://www.facebook.com/alifeatraveller
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้