สวัสดีค่ะ เราอาจจะเขียนกระทู้ไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่นะคะ
บางครั้งอาจจะอ่านยากหน่อย ในการเว้นวรรคข้อความหรืออะไรใดๆ
ขออภัยไว้ล่วงหน้าก่อนนะคะ
จากกิจกรรม "Back to Travel ... ได้เวลาเที่ยวแล้ว!"
วันนี้ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยว เราเลือกตอนที่เราไปภูกระดึงค่ะ จ.เลย ค่ะ
ซึ่งภูกระดึงก่อนหน้าที่จะเดินทางไปครั้งที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสไปมาแล้ว
แต่ครั้งนี้คือ เราเคยตั้งกระทู้แล้วได้รู้จักกับพี่คนนึงในพันทิปเนี่ยล่ะค่ะ
คุยกันได้หลายเดือน พอถึงช่วงปลายเดือน พ.ย. เราก็แพลนกับเพื่อนไว้ว่าอยากไปภูกระดึงอีก
ก็เลยชวนกันไปค่ะ สมาชิกร่วมชะตากรรมกัน 4 คน มีเรา เพื่อนเรา แฟนเพื่อน และพี่ในพันทิป 1 คนค่ะ
เริ่มออกเดินทางกันจากหมอชิต ไม่เคยมีประสบการณ์ในการนั่งรถบัสไกลและนานเท่าครั้งนี้มาก่อนค่ะ
แต่ว่ามันเป็นรถบัสวีไอพี ที่นั่งก็เลยค่อนข้างดีหน่อย คนก็ไม่เยอะค่ะ ไม่แน่ใจว่าแค่ 16/24 ที่นั่ง ประมาณนี้ค่ะ
พอพวกเราทั้ง 4 คน เดินทางไปถึง.... เช้ามือค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 05.30 - 6.00 ประมาณนี้ค่ะ
จากการลงรถบัสปุ๊ป สถานีที่จอดไม่ใช่ไปถึงภูกระดึงเลยนะคะ ต้องจอดที่ผานกเค้าก่อนค่ะ
ที่นั่นรถจะจอดเยอะมากๆค่ะ แบบมาจากทั่วทุกสาย พร้อมๆกัน คนเพียบมาก ห้องน้ำต่อคิวเข้า
พวกเราก็ทานอาหารเช้า ล้างหน้า ล้างตา แปรงฟัน อะไรเรียบร้อย
ก็เตรียมตัวค่ะ มองหารถแดง!!!
ซึ่งจากผานกเค้า เราต้องนั่งรถแดงไปค่ะ ซึ่งจากการนั่งฟัง เค้าก็บอกว่ารวมกลุ่มกันให้ครบ 10 คน
แล้วก็เหมือนเหมาไป จะได้ราคาถูกกว่า ซึ่งเราจำราคาไม่ได้แล้วนะคะ เพราะเหตุการณ์นี้ผ่านมา 4 ปีล่ะค่ะ
พวกเราก็มีกันอยู่แล้ว 4 คน เดี๋ยวความอัธยาศัยดีของเรา
ตอนนั้นเราก็จำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้ เราก็ได้ไปชวนคนมาอีก 6 คน เพื่อนั่งรถแดงไปด้วยกัน
คู่ที่ 1 สองสาวสวยเป็นเพื่อนกัน ชวนกันมา 2 คน
คู่ที่ 2 คู่รัก ช.ช มากัน 2 คนเช่นเดียวกัน
คู่ที่ 3 คือ คู่รัก ช.ญ. มากัน 2 คน
ครบแล้วค่ะ 10 คน แก๊งค์รถแดง ผานกเค้า มุ่งหน้าสู่ภูกระดึง
ระหว่างทางในการนั่งรถ เราก็ได้มีโอกาสพูดคุยกัน ถามไถ่ มาจากไหนคะ
นั่งรถอะไรมา กลับวันไหนคะ เคยมาหรือยังคะ
เป็นคำถามทั่วไป ในการเจอกันครั้งแรกสำหรับคนที่ไม่รู้จักกันอ่ะค่ะ
เชื่อมั้ยคะ เหมือนกับทุกอย่างได้ถูกลิขิตไว้ให้พวกเราได้รู้จักกันอ่ะค่ะ
ทุกคนที่นั่งอยู่บนรถแดงตอนนี้ ก็คือ คนที่นั่งรถซันบัสมากับเราทั้งหมดเลย
เพียงแค่ตอนนั้นมันมืดมาก ตอนออกจากหมอชิต ไฟในรถก็มืด
ต่างคนก็ต่างนั่งที่นั่งของตนเองที่ได้ถูกระบุไว้ก่อนแล้ว
แล้วก็นอนหลับกันไป ก็เลยไม่ได้มองหน้ากันเลย
เอาล่ะค่ะ เริ่มมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น เริ่มคุยสนุกกันมากขึ้นแล้วค่ะ
เราก็เลยคุยกันว่า เกาะกลุ่มกันไว้ก็ดีนะคะ เป็นเพื่อนกันเดินขึ้นไป สนุกดีค่ะ
ก็ไปทำการซื้อตั๋วเดินขึ้น เอากระเป๋าสัมภาระไปลงทะเบียนเพื่อที่จะจ้างลูกหาบแบกขึ้น
แล้วพวกเราก็เริ่มเดินขึ้นภูระดึงกันค่ะ
อ้อ ทั้งหมดที่เดินไปด้วยกันมีแค่ 8 คนนะคะ
เพราะคู่รักพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชายเค้าแยกออกไปเดินกันสองคนค่ะ
แต่ระหว่างทาง เจ้ในแก๊งค์ของเรา ก็ได้สมาชิกมาเพิ่มอีก 2 คน
เป็นคู่รัก ญ. ญ. น่ารักทั้งคู่เลยค่ะ
สรุปตอนนี้เราก็มีสมาชิกครบ 10 คนแล้ว
ทางขึ้นไปก็เดินด้วยกันบ้าง แยกกันบ้าง ตามความเหนื่อยล้า และความช้าเร็วแต่ละคนค่ะ
แวะพักรายทาง แตงโม คือสิ่งที่ทุกคนต้องจัดหน่อยนะคะ
เดินต่อ อย่างไม่ย่อท้อค่ะ แวะเก็บของกินรายทางทุกซำค่ะ
ไม่มีซำไหนที่เราจะไม่พักเลย 55555
เอาล่ะค่ะ รวบรัด ตัดตอน
ในที่สุด!!!!! พวกเราก็ถึงกันแล้วค่ะ ภูกระดึงที่รัก
สรุปความ ณ ตอนนี้สมาชิกเราก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมค่ะ 10 คน
แต่บางรูป คนในสมาชิกก็เป็นคนถ่าย บางคนก็ถ่ายกันเองอยู่บ้าง
เพราะฉะนั้นรูปรวม 10 คนนี่ก็เลยค่อนข้างน้อยค่ะ
เรากินข้าวด้วยกันไป ไปดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยค่ะ
ตอนเลือกเต๊นท์นอนก็เลือกเรียงๆแถวกันเลยค่ะ
เก็บภาพมาฝาก
(จ๊ะเอ๋!!)
กิจกรรมช่วงกลางวันก็ไม่มีอะไรมากค่ะ
พวกเราก็เช่าจักรยานกันคนละคัน ปั่นไปตามผาต่างๆ ที่เป็นอันซีน
เช่น ผาหล่มสัก ผาเหยียบเมฆ ผ่านผา
ตอนเย็นก็ทานข้าวด้วยกัน
เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ ที่ผานกแอ่น
น่าจะเป็นรูปรวมครบ 10 คน รูปแรก เพราะวานให้คนอื่นถ่ายให้ค่ะ
สุดท้าย พวกเราก็ถึงเวลาที่ต้องบอกลากัน เดินทางกลับค่ะ
เรา เพื่อนเรา แฟนเพื่อน และพี่ที่พันทิป ก็กลับรถเดิมค่ะ เพราะจองตั๋วไว้แบบไป-กลับ
แล้วก็พี่อีก 6 คน คือ คู่เพื่อนรัก ญ ญ
คู่รักตอนแรกที่แยกตัวไป ช-ญ
คู่รักที่เจอใหม่ระหว่างทางขึ้น ญ-ญ
ทุกคนก็กลับรถคันเดียวกับเราด้วยค่ะ
แต่ว่าคู่รัก ช-ช มีงานด่วน เค้าก็บินกลับแทนค่ะ เพราะนั่งรถบัสกลับไม่ทันแน่นอน ^^
พอถึงกรุงเทพ เรา 4 คน ลงป้ายสุดท้ายเลย
ใครลงก่อนเราก็โบกมืออำลากันไป
ในระหว่างที่พวกเราได้เที่ยวด้วยกันนั้น พวกเราก็ตั้งไลน์กลุ่มกันขึ้นมาค่ะ
กลุ่มนี้มี 10 คน ถึงแม้บางคนจะไม่ได้เป็นคู่รักกันเหมือนเดิม ไม่ได้คุยกันทุกวันเหมือนเดิม
แต่พวกเราก็เป็นเพื่อน พี่ น้องกันค่ะ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมานี้
ไลน์กลุ่มพวกเราก็ยังคงอยู่ คุยบ้าง เงียบบ้าง เป็นครั้งคราว
และเรื่องที่น่ายินดีที่สุดคือ เพื่อนเราและแฟน ก็เพิ่งได้แต่งงานกันไปค่ะ เมื่อปีที่ผ่านมา
เกริ่นก่อนว่าเค้าเพิ่งคุยกันได้แค่ประมาณ 5-6 เดือนก่อนไปขึ้นภูกระดึงค่ะ
และเรื่องที่เซอร์ไพร์สอีกเรื่องคือ เราอ่ะอยู่ ตจว.ค่ะ แต่ไปกรุงเทพบ่อย
วันนั้นเราไปทานข้าวแถวสาทร เธอ ถ้าเป็นผู้ชาย เราคงคิดว่าเป็นพรหมลิขิตไปแล้วล่ะ
เราเดินสวนกับพี่ในแก๊งค์คนนึง ที่เป็นคู่เพื่อน
ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยมั่นใจ เลยลองเรียก ใช่จริงๆด้วย
เราก็เลยเซลฟี่กันไป ส่งเข้าอวดในแก๊งค์ โดยความบังเอิญ
เนี่ยล่ะค่ะ ทริปภูกระดึงทริปนี้ เลยเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าประทับใจมากๆ
ทั้งเปิดประสบการณ์การนั่งรถตู้ ต่อรถบัส ลงรถสองแถว กว่าจะไปเจอเพื่อนๆ
แล้วได้เพื่อนมาอีก แล้วจนเป็นเพื่อนกันมาถึงทุกวันนี้
ยกให้ทริปนี้ค่ะ ภูกระดึงที่รัก ณ ปี 2017
#เที่ยวไทย
ภูกระดึง ได้เพื่อนเพิ่มจริงๆนะ ^_^
บางครั้งอาจจะอ่านยากหน่อย ในการเว้นวรรคข้อความหรืออะไรใดๆ
ขออภัยไว้ล่วงหน้าก่อนนะคะ
จากกิจกรรม "Back to Travel ... ได้เวลาเที่ยวแล้ว!"
วันนี้ที่จะมาแชร์ประสบการณ์การไปเที่ยว เราเลือกตอนที่เราไปภูกระดึงค่ะ จ.เลย ค่ะ
ซึ่งภูกระดึงก่อนหน้าที่จะเดินทางไปครั้งที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสไปมาแล้ว
แต่ครั้งนี้คือ เราเคยตั้งกระทู้แล้วได้รู้จักกับพี่คนนึงในพันทิปเนี่ยล่ะค่ะ
คุยกันได้หลายเดือน พอถึงช่วงปลายเดือน พ.ย. เราก็แพลนกับเพื่อนไว้ว่าอยากไปภูกระดึงอีก
ก็เลยชวนกันไปค่ะ สมาชิกร่วมชะตากรรมกัน 4 คน มีเรา เพื่อนเรา แฟนเพื่อน และพี่ในพันทิป 1 คนค่ะ
เริ่มออกเดินทางกันจากหมอชิต ไม่เคยมีประสบการณ์ในการนั่งรถบัสไกลและนานเท่าครั้งนี้มาก่อนค่ะ
แต่ว่ามันเป็นรถบัสวีไอพี ที่นั่งก็เลยค่อนข้างดีหน่อย คนก็ไม่เยอะค่ะ ไม่แน่ใจว่าแค่ 16/24 ที่นั่ง ประมาณนี้ค่ะ
พอพวกเราทั้ง 4 คน เดินทางไปถึง.... เช้ามือค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 05.30 - 6.00 ประมาณนี้ค่ะ
จากการลงรถบัสปุ๊ป สถานีที่จอดไม่ใช่ไปถึงภูกระดึงเลยนะคะ ต้องจอดที่ผานกเค้าก่อนค่ะ
ที่นั่นรถจะจอดเยอะมากๆค่ะ แบบมาจากทั่วทุกสาย พร้อมๆกัน คนเพียบมาก ห้องน้ำต่อคิวเข้า
พวกเราก็ทานอาหารเช้า ล้างหน้า ล้างตา แปรงฟัน อะไรเรียบร้อย
ก็เตรียมตัวค่ะ มองหารถแดง!!!
ซึ่งจากผานกเค้า เราต้องนั่งรถแดงไปค่ะ ซึ่งจากการนั่งฟัง เค้าก็บอกว่ารวมกลุ่มกันให้ครบ 10 คน
แล้วก็เหมือนเหมาไป จะได้ราคาถูกกว่า ซึ่งเราจำราคาไม่ได้แล้วนะคะ เพราะเหตุการณ์นี้ผ่านมา 4 ปีล่ะค่ะ
พวกเราก็มีกันอยู่แล้ว 4 คน เดี๋ยวความอัธยาศัยดีของเรา
ตอนนั้นเราก็จำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้ เราก็ได้ไปชวนคนมาอีก 6 คน เพื่อนั่งรถแดงไปด้วยกัน
คู่ที่ 1 สองสาวสวยเป็นเพื่อนกัน ชวนกันมา 2 คน
คู่ที่ 2 คู่รัก ช.ช มากัน 2 คนเช่นเดียวกัน
คู่ที่ 3 คือ คู่รัก ช.ญ. มากัน 2 คน
ครบแล้วค่ะ 10 คน แก๊งค์รถแดง ผานกเค้า มุ่งหน้าสู่ภูกระดึง
ระหว่างทางในการนั่งรถ เราก็ได้มีโอกาสพูดคุยกัน ถามไถ่ มาจากไหนคะ
นั่งรถอะไรมา กลับวันไหนคะ เคยมาหรือยังคะ
เป็นคำถามทั่วไป ในการเจอกันครั้งแรกสำหรับคนที่ไม่รู้จักกันอ่ะค่ะ
เชื่อมั้ยคะ เหมือนกับทุกอย่างได้ถูกลิขิตไว้ให้พวกเราได้รู้จักกันอ่ะค่ะ
ทุกคนที่นั่งอยู่บนรถแดงตอนนี้ ก็คือ คนที่นั่งรถซันบัสมากับเราทั้งหมดเลย
เพียงแค่ตอนนั้นมันมืดมาก ตอนออกจากหมอชิต ไฟในรถก็มืด
ต่างคนก็ต่างนั่งที่นั่งของตนเองที่ได้ถูกระบุไว้ก่อนแล้ว
แล้วก็นอนหลับกันไป ก็เลยไม่ได้มองหน้ากันเลย
เอาล่ะค่ะ เริ่มมีความคุ้นเคยกันมากขึ้น เริ่มคุยสนุกกันมากขึ้นแล้วค่ะ
เราก็เลยคุยกันว่า เกาะกลุ่มกันไว้ก็ดีนะคะ เป็นเพื่อนกันเดินขึ้นไป สนุกดีค่ะ
ก็ไปทำการซื้อตั๋วเดินขึ้น เอากระเป๋าสัมภาระไปลงทะเบียนเพื่อที่จะจ้างลูกหาบแบกขึ้น
แล้วพวกเราก็เริ่มเดินขึ้นภูระดึงกันค่ะ
อ้อ ทั้งหมดที่เดินไปด้วยกันมีแค่ 8 คนนะคะ
เพราะคู่รักพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชายเค้าแยกออกไปเดินกันสองคนค่ะ
แต่ระหว่างทาง เจ้ในแก๊งค์ของเรา ก็ได้สมาชิกมาเพิ่มอีก 2 คน
เป็นคู่รัก ญ. ญ. น่ารักทั้งคู่เลยค่ะ
สรุปตอนนี้เราก็มีสมาชิกครบ 10 คนแล้ว
ทางขึ้นไปก็เดินด้วยกันบ้าง แยกกันบ้าง ตามความเหนื่อยล้า และความช้าเร็วแต่ละคนค่ะ
แวะพักรายทาง แตงโม คือสิ่งที่ทุกคนต้องจัดหน่อยนะคะ
เดินต่อ อย่างไม่ย่อท้อค่ะ แวะเก็บของกินรายทางทุกซำค่ะ
ไม่มีซำไหนที่เราจะไม่พักเลย 55555
เอาล่ะค่ะ รวบรัด ตัดตอน
ในที่สุด!!!!! พวกเราก็ถึงกันแล้วค่ะ ภูกระดึงที่รัก
สรุปความ ณ ตอนนี้สมาชิกเราก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิมค่ะ 10 คน
แต่บางรูป คนในสมาชิกก็เป็นคนถ่าย บางคนก็ถ่ายกันเองอยู่บ้าง
เพราะฉะนั้นรูปรวม 10 คนนี่ก็เลยค่อนข้างน้อยค่ะ
เรากินข้าวด้วยกันไป ไปดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยค่ะ
ตอนเลือกเต๊นท์นอนก็เลือกเรียงๆแถวกันเลยค่ะ
เก็บภาพมาฝาก
(จ๊ะเอ๋!!)
กิจกรรมช่วงกลางวันก็ไม่มีอะไรมากค่ะ
พวกเราก็เช่าจักรยานกันคนละคัน ปั่นไปตามผาต่างๆ ที่เป็นอันซีน
เช่น ผาหล่มสัก ผาเหยียบเมฆ ผ่านผา
ตอนเย็นก็ทานข้าวด้วยกัน
เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ ที่ผานกแอ่น
น่าจะเป็นรูปรวมครบ 10 คน รูปแรก เพราะวานให้คนอื่นถ่ายให้ค่ะ
สุดท้าย พวกเราก็ถึงเวลาที่ต้องบอกลากัน เดินทางกลับค่ะ
เรา เพื่อนเรา แฟนเพื่อน และพี่ที่พันทิป ก็กลับรถเดิมค่ะ เพราะจองตั๋วไว้แบบไป-กลับ
แล้วก็พี่อีก 6 คน คือ คู่เพื่อนรัก ญ ญ
คู่รักตอนแรกที่แยกตัวไป ช-ญ
คู่รักที่เจอใหม่ระหว่างทางขึ้น ญ-ญ
ทุกคนก็กลับรถคันเดียวกับเราด้วยค่ะ
แต่ว่าคู่รัก ช-ช มีงานด่วน เค้าก็บินกลับแทนค่ะ เพราะนั่งรถบัสกลับไม่ทันแน่นอน ^^
พอถึงกรุงเทพ เรา 4 คน ลงป้ายสุดท้ายเลย
ใครลงก่อนเราก็โบกมืออำลากันไป
ในระหว่างที่พวกเราได้เที่ยวด้วยกันนั้น พวกเราก็ตั้งไลน์กลุ่มกันขึ้นมาค่ะ
กลุ่มนี้มี 10 คน ถึงแม้บางคนจะไม่ได้เป็นคู่รักกันเหมือนเดิม ไม่ได้คุยกันทุกวันเหมือนเดิม
แต่พวกเราก็เป็นเพื่อน พี่ น้องกันค่ะ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมานี้
ไลน์กลุ่มพวกเราก็ยังคงอยู่ คุยบ้าง เงียบบ้าง เป็นครั้งคราว
และเรื่องที่น่ายินดีที่สุดคือ เพื่อนเราและแฟน ก็เพิ่งได้แต่งงานกันไปค่ะ เมื่อปีที่ผ่านมา
เกริ่นก่อนว่าเค้าเพิ่งคุยกันได้แค่ประมาณ 5-6 เดือนก่อนไปขึ้นภูกระดึงค่ะ
และเรื่องที่เซอร์ไพร์สอีกเรื่องคือ เราอ่ะอยู่ ตจว.ค่ะ แต่ไปกรุงเทพบ่อย
วันนั้นเราไปทานข้าวแถวสาทร เธอ ถ้าเป็นผู้ชาย เราคงคิดว่าเป็นพรหมลิขิตไปแล้วล่ะ
เราเดินสวนกับพี่ในแก๊งค์คนนึง ที่เป็นคู่เพื่อน
ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยมั่นใจ เลยลองเรียก ใช่จริงๆด้วย
เราก็เลยเซลฟี่กันไป ส่งเข้าอวดในแก๊งค์ โดยความบังเอิญ
เนี่ยล่ะค่ะ ทริปภูกระดึงทริปนี้ เลยเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าประทับใจมากๆ
ทั้งเปิดประสบการณ์การนั่งรถตู้ ต่อรถบัส ลงรถสองแถว กว่าจะไปเจอเพื่อนๆ
แล้วได้เพื่อนมาอีก แล้วจนเป็นเพื่อนกันมาถึงทุกวันนี้
ยกให้ทริปนี้ค่ะ ภูกระดึงที่รัก ณ ปี 2017
#เที่ยวไทย