ทำไมเลนส์ที่มีปัญหา F/B บน DSLR ถึงไม่มีปัญหาบน Mirrorless ครับ

กระทู้คำถาม
ถ้าเช่นนั้นแล้ว  เวลาแก้ไข front back ก็ต่องไปแก้ที่กล้องสิครับ  ผมพยายามหาข้อมูลแล้ว ไม่ค่อยเข้าใจลยครับ

ขอบคุณครับๆ
โกอ้วน
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าปัญหา F/B อาจเกิดได้จาก
กล้อง
เลนส์
การสื่อสารระหว่างกล้องและเลนส์
อย่างใดอย่างหนึ่งหรือร่วมกันก็ได้

ตรงนี้ลองอ่านรายละเอียดความแตกต่างของระบบโฟกัสระหว่างกล้อง DSLR และ MRL นะครับ
https://www.digitalcameraworld.com/features/dslr-vs-mirrorless-cameras-how-do-they-compare
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าให้สรุปจากความเข้าใจของผมนะครับ
ต้องเข้าใจก่อนว่ามีเรื่องของระบบโฟกัส
contrast detection ( C ) กับ Phase detection ( P )
-C จะใช้การหา contrast ที่ชัด วิธีนี้ข้อดีคือถ้าโฟกัสได้จะมีความแม่นยำ แต่ข้อเสียคือช้า
-P จะใช้การโฟกัสจากมุมที่ต่างกัน แล้วคำนวณหาระยะที่ต้องใช้ในการขยับเลนส์เพื่อโฟกัส
  เร็วกว่า C มาก แต่ความแม่นสู้ไม่ได้

-กล้อง MRL ในระยะแรก( เช่น Sony A7 รุ่นแรกๆ ทั้ง 7 , 7R ) จะใช้ C เป็นหลัก
กระทั่ง Olympus หลายๆรุ่นในปัจจุบัน ก็ยังใช้ C เป็นหลัก
แต่ Oly ขนาดเซ็นเซอร์เล็ก C จะทำงานได้เร็วกว่ากล้องที่เซ็นเซอร์ใหญ่
แต่ระยะหลัง MRL ก็พัฒนาใส่ P ฝังเข้ามาในตัวเซ็นเซอร์เลย
ทำให้รุ่นหลังๆนอกจากแม่นแล้วยังเร็วอีกด้วย
ภาพที่มายังเซ็นเซอร์ก็จะเห็นใน EVF ด้วย
เนื่องจากเป็นระบบโฟกัสชุดเดียวกัน
ที่เซ็นเซอร์เห็นว่าโฟกัสเข้าชัด ที่ EVF ก็จะเข้าชัดด้วย
เป็นการขจัดปัญหา F/B

-DSLR ระบบโฟกัสหลักแต่เดิมคือ P การโฟกัสด้วยการมองเห็นผ่าน OVF
  เร็ว แต่ไม่แม่นเท่า C
และชุดโฟกัสจะแยกไปใช้ต่างหาก ตำแหน่งอยู่ด้านล่างของกล้องตามรูป
ชุดโฟกัสที่แยกกับสิ่งที่มองเห็นผ่าน OVF ก็มีโอกาสเกิด F/B อยู่แล้ว
DSLR รุ่นหลังๆ ก็จะมี live view เพิ่มเข้ามา
ระยะแรกก็เป็น C เหมือน MRL
ต่อมารุ่นใหม่ๆบางรุ่นอาจจะใส่ P มาในเซ็นเซอร์เหมือนในกล้อง MRL ก็จริง
แต่ในการโฟกัสด้วยการมองผ่าน OVF ก็ยังต้องใช้ชุดโฟกัสระบบ P เหมือนเดิม
( อาศัยชุดโฟกัสที่อยู่ด้านล่างของกล้อง  ไม่ได้ใช้ที่อยู่บนเซ็นเซอร์ )
แยกชุดกับการโฟกัสด้วย live view ไม่สามารถใช้ร่วมกันเป็นระบบเดียวเหมือนใน MRL
ถ้าโฟกัสด้วย live view ก็จะประพฤติตัวเหมือน MRL อันนี้ก็จะลดปัญหาเรื่อง F/B ได้เช่นกัน

-ส่วนเลนส์ Third party เช่น Sigma ที่ว่ามีโอกาสเกิด F/B มากกว่าเลนส์ค่าย
  คาดว่าเป็นเรื่องการสื่อสารของกล้องกับเลนส์
  เพราะระบบ P เมื่อเราโฟกัสผ่าน OVF
กล้องกับเลนส์ต้องสื่อสารกันว่าจะให้เลนส์ขยับไปมากน้อยแค่ไหน
พวก DSLRเช่น Canon , Nikon ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลในส่วนนี้ให้ Third party
( พวกที่เปิดเผยให้ Third party เช่น Sony เลนส์นอกค่ายก็มักจะทำงานได้ดี
  หรือพวกเลนส์ L mount ก็จะใช้ข้อมูลร่วมกันระหว่าง Leica , Pana , Sigma
  พวกนี้ก็จะทำเลนส์ L mount ออกมาใช้งานร่วมกันได้ดี )
พวกนี้อาศัยการ reverse engineering เอา
  การสื่อสารระหว่างกล้องและเลนส์จะไม่ดีเท่าเลนส์ค่าย
โอกาสมีปัญหา F/B จากเลนส์ ( เรียกให้ถูกคือการสื่อสารระหว่างกล้องและเลนส์ ) ก็จะเกิดได้มากกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่