สวัสดีครับ ผมเป็นเด็กจบใหม่ อายุ 27 ปี
ผมใช้เวลาเรียนในมหาลัยอยู่ ราวๆ 6ปี
และผมไม่อายที่จะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ในช่วงนั้น ผมรู้สึกไร้แรงบันดาลใจและไม่มีเป้าหมายในชีวิต ผมจึงเหลวแหลกขนาดนั้น
สถานะในชีวิตตอนนี้ = จบช้า,แก่กว่าน้องๆรุ่นหลัง,ประสบการณ์น้อย,เงินจะหมด
หลังจากล้มลุกคลุกคลานกับชีวิตในมหาลัยอยู่นาน ชีวิตก็ถึงมาจุดที่ผมต้องเลิกขี้เกียจและกัดฟันลุกขึ้นมาเรียนให้จบๆไป
แต่กลับเป็นจังหวะเดียวกันที่ทำให้ผมรู้บว่า "ผมอยากจะทำอะไรกับชีวิต"
ช่วงใกล้เรียนจบ ผมเริ่มวิเคราะห์ตัวเองอย่างละเอียดที่สุดตั้งแต่เคยทำมา เพื่อวางแผนชีวิต
ทำให้ผมรู้ว่า ผมเป็นชอบคิดสร้างสรรค์ สนุกที่ได้ร่วมคิดงานกับคนอื่น
ผมรู้สึกชีวิตมีค่ามากเวลาดึงความคิดในหัวออกมาเป็นส่วนนึงของงานได้ บางครั้งยากแต่ก็ยังรู้สึกสนุก และเป็นจุดที่อยากพัฒนาตัวเองมากที่สุดอีก
หลังจากดีใจกับการมองเห็นเส้นทางชีวิตอย่างลางๆ
ผมจึงตัดสินใจว่า "อยากจะทำงานในวงการโฆษณาอย่างจริงจัง"
แต่ผมรู้ดีว่า ตัวผมเองแทบไม่มีผลงานและไม่ผ่านการฝึกงานที่ไหนเลย บวกกับที่สกิลติดตัวก็น้อย (แล้วเอเจนซี่หรือโปรดัคชั่นไหนจะอยากรับ)
ผมเลยตัดสินใจออกจากคอมฟอร์ทโซน
ส่งตัวเองไปฝึกงานที่ Production House แห่งนึง ในตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้กำกับ (เพราะมีคนที่อยากจะเข้าไปเจอเพื่อเรียนรู้ด้วย)
ทุกอย่างก็ผ่านไปอย่างปกติ ผมย้ายตัวเองไปอยู่ย่านนั้น เข้ารับการฝึกงาน พบปะผู้คน เจอผู้กำกับที่เก่งมากท่านนึงอย่างที่ตั้งใจไว้
แต่แล้วก็โชคร้ายนิดนึงครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่โควิดยังกระทบอยู่ และก็มีสั่งล็อคดาวน์ด้วย จึงทำให้การฝึกงานไม่ได้ประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น
หลังจบการฝึกงานทีนี่
ครับ ตอนนี้ผมได้รับรู้รสชาติการทำงานฝั่งโปรดัคชั่นพอสมควร ถึงแม้จะไม่เต็มปากเต็มคำ และก็มีสิ่งที่รู้สึกว่าไม่ชอบอยู่ด้วย
แต่สิ่งที่ได้มาแน่ๆ คือ วิธีคิดและวิธีการทำงาน ว่าคนเก่งๆมีแนวคิดในการทำงานอย่างไร
ทั้งด้านฝั่งโปรดัคชั่น(ที่ผมฝึกงาน) และกระบวนการคิดงานจากฝั่ง Creative Agency ระดับท็อปของวงการบ้านเรา
สิ่งที่นึงที่เป็นแรงผลักดันอย่างมากในการจะเปลี่ยนไปทำฝั่ง Creative Agency ให้ได้ของผม
ก็คือจังหวะที่ผมอยู่ใน Zoom (ในฐานะเด็กฝึกงาน) และอยู่ในบรรยากาศที่ทั้งผู้กำกับและทีมเอเจนซี่
ต้อง Brainstorm เพื่อคิดเนื้อเรื่องของหนังโฆษณาเรื่องนึง
ก็เกิดการโยนไอเดียแลกเปลี่ยนพูดคุยกันตามปกติ
ผมที่นั่งเงียบๆอยู่ ก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะครับด้วยความที่เป็นเด็กฝึกงานยังมีจุดที่เกร็งๆตามปกติ
แต่การแลกเปลี่ยนไอเดียทุกครั้ง ไม่ได้มีอะไรที่ผมเข้าใจได้ยากเลย ถ้าผมทำงานด้านนี้ไปอีกสักพัก ทำไมผมจะโยนไอเดียไม่ได้ล่ะ
*ผมเข้าใจนะครับว่าการทำงาน Creative ในฝั่งเอเจนซี่คงไม่หมู และผมไม่ได้โอ้อวดใดๆ
คงต้องทำการค้นคว้าหาข้อมูล คิดงานกันจนสมองแทบแตกเหมือนกัน
ผมแค่เด็กฝึกงานที่เห็นการทำงานเพียงไม่กี่ด้านของการทำงานทั้งหมดเท่านั้น
แต่สุดปลายทางแล้วผมก็ยังคิดว่าผมสามารถพัฒนาตัวเองไปถึงจุดที่คลุกคลีในวงการนี้ได้จริงๆครับ
นั่นเลยทำให้ผมตัดสินใจที่จะไปสมัครงานฝั่งเอเจนซี่ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบของ Creative Agency
ในตำแหน่ง copywriter ซึ่งก็คิดว่าน่าจะสามารถเติบโตในวงการนี้ต่อไปได้
แต่หลังจากหาข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว ทำให้รู้ว่าสำหรับคนที่ประสบการณ์น้อยหรือแทบไม่มี ยากมากที่จะรับเด็กจบใหม่ (ใหม่แบบตัวเปล่า)
เข้าใจอย่างดีครับว่าการเข้าไปทำงานในวงการนี้ คงต้องการคนเก่งที่มีคุณภาพ และผมเข้าใจเลยครับว่าต้องการคนแบบไหน
ครับ คำตอบก็คือ ..
ผมคงต้องพึ่งการฝึกงาน (ในสายงานฝั่งนี้เพิ่มเติม)
ก็ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากอะไร (ถึงแม้จะ27แล้วแต่ก็ไม่น่าสาย)
แต่ก็นั่นแหละครับ จังหวะชีวิตผมก็มีปัญหาพอดี
เงินหมดครับ... หมายความว่าเงินที่จะใช้กินใช้ทำอะไร มันจะหมดแล้วครับ
เพราะผมก็ไม่มีทุนจากทางบ้าน และไม่สามารถแบมือขอเงินใครได้อีกแล้ว
นั่นเลยทำให้แผนที่ผมจะอยากฝึกงาน เพื่อเข้าองค์กรที่มีคนเก่งกว่าผม หรือ คนในสภาพแวดล้อมที่ผมจะไปเรียนรู้เติบโต ไม่ได้...
แต่ไม่ลองไม่รู้ใช่ไหมครับ
ผมก็ทดลองยื่นสมัครงาน ในเอเจนซี่ต่างๆ ทุกแนว Digital/Marketing/Creative
ใดๆก็ได้ที่ทำโฆษณา พยายามลดอีโก้ตัวเองลง ฝั่งโปรดัคชั่นเปิดรับ Creative ผมก็ยื่น
เวลาเกือบเดือนผ่านไป
ผลคือ เงียบหมดเลยครับ (ไม่ค่อยแปลกใจ)
ผมผิดไหมครับ?
ที่ผมไม่อยากเข้าบริษัททั่วไป(ที่ไม่ใช่ Agency)
เพราะผมคิดว่า สภาพแวดล้อม และบุคลากร ไม่เก่งเท่าฝั่งเอเจนซี่
แต่สุดท้ายแล้วผมรู้เลยครับว่าถ้าไม่มีไหนเปิดรับจริงๆ ผมคงต้องยื่นมันไปให้หมดเพื่อทำงานหาเลี้ยงตัวเอง
แต่ก็มีอีกปัญหานึงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเอเจนซี่หรือบริษัทเล็กใหญ่
หลายๆงานหลายตำแหน่ง มักจะต้องการประสบการณ์ 1-2 ปี ไม่ก็ผลงานติดตัวมาด้วยตลอด
แล้วคนที่ไม่มีโอกาสได้ฝึกงานหรือได้ทำงานเลยก็คงไม่ได้รับโอกาสใช่ไหมครับ
**ยินดีรับเด็กจบใหม่ ประสบการณ์ 1-2ปี **
โอเคครับ เด็กจบใหม่นี้ ผมเข้าใจว่าคงเป็นเด็กจบใหม่ที่ฝีมือดี พอร์ทแน่น ถูกไหมครับ
ผมพยายามปล่อยวางนะครับ ในใจผมเหมือนคิดอยากย้อนเวลากลับไปหลายปี่ที่แล้ว
ผมคงตั้งใจหาที่ฝึกงาน หา workshop ลง ฝึกให้ตัวเองแน่น จนขึ้นชื่อว่าเป็นนักศึกษาที่มีของ
แม้แต่ B.A.D AWARDS ที่สมัยเรียน ผมมองว่า สมาคม
อะไรวะ เนี้ยเก่งกัน
เล้ยยยย ไกลตัวกู ไม่ไหวๆๆ
จนทุกวันนี้ผมมองว่า ถ้าผมย้อนเวลากลับไป ผมก็จะเข้า workshop ให้ได้
การที่ผมได้เจอบุคคลที่เก่งมากคนนึงในวงการ ทำให้หลายความคิดของผมเปลี่ยน ผมมีแรงบันดาลใจขึ้นมาก
สิ่งต่างๆเหล่านั้นเหมือนเข้ามาจุดไฟ ในสิ่งที่ผมอยากจะทำมาตลอดเพียงแต่ผมไม่รู้ตัว
ทุกวันนี้ผมคิดเลยนะครับ ว่าอยากเป็นคนที่เก่งมากๆในวงการโฆษณาวันนึงให้ได้ ไม่ต้องถึงกับที่สุด แต่แค่คนเก่งคนนึงก็พอ
ผมตั้งใจะเป็นคนที่มีไหวพริบ และ ฉลาดกว่าเดิม
จากที่ไม่เคยอ่านหนังสือเลย ก็เริ่มอ่านจนรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้รู้อะไรมากขึ้น
เพราะสุดท้ายผมเชื่อว่าถ้าคนมีความรู้เยอะยังไงก็ได้เปรียบ
ถ้าหากจะมีการฝึกงานที่ใด ที่มีเบี้ยเลี้ยงให้เพียงพอสำหรับใช้ชีวิตผมจริงๆ ในตอนนี้ผมก็ยอมฝึกแล้วครับ
ถ้ามี Agency ใดรับสมัครงานที่เริ่มต้นที่เงินน้อยไม่กี่พัน ถ้ามันเพียงพอสำหรับการอยู่รอดของผม ผมก็ยอมทำครับ
การเรียนรู้ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับผมเลยครับทุกวันนี้
ปัญหาคือ เงิน ครับ
ถ้าอยู่ดีๆ ตอนนี้ผมได้เงินหมื่นมา
ผมคงวิ่งหาที่ฝึกงานตาม Agency แทนที่จะหางานทำเลยล่ะครับ
สรุปก็คือ ผมก็คงหางานที่ไหนทำซักที่ก่อนแล้วก็คงขยับขยายต่อไป
ถึงแม้ใจจะอยากไปเรียนรู้และทำงานในที่ๆอยากไปมากๆก็ตาม.. (และตอนนี้ก็ยังหาไม่ได้ซักที่)
สุดท้ายแล้วครับ ทุกท่าน / พี่ๆในวงการ มีคำแนะนำอย่างไรเกี่ยวกับเส้นทางของผมในวงการนี้
ก็เปิดรับทุกข้อเสนอแนะเลยนะครับ ทางใดที่ทำให้ผมได้เดินบนเส้นทางของ Creative โฆษณาอย่างมีคุณภาพ
จะสนับสนุนด้วยไอเดียของพี่ๆทุกคนก็เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตของผมแล้วครับ
ขอขอบคุณ
เด็กที่มีความฝันคนหนึ่ง
อยากเป็น Creative โฆษณา แต่ชีวิตไม่เอื้ออำนวย พี่ๆในวงการช่วยแนะนำผมด้วยครับ
ผมใช้เวลาเรียนในมหาลัยอยู่ ราวๆ 6ปี
และผมไม่อายที่จะตอบอย่างเต็มปากเต็มคำว่า ในช่วงนั้น ผมรู้สึกไร้แรงบันดาลใจและไม่มีเป้าหมายในชีวิต ผมจึงเหลวแหลกขนาดนั้น
สถานะในชีวิตตอนนี้ = จบช้า,แก่กว่าน้องๆรุ่นหลัง,ประสบการณ์น้อย,เงินจะหมด
หลังจากล้มลุกคลุกคลานกับชีวิตในมหาลัยอยู่นาน ชีวิตก็ถึงมาจุดที่ผมต้องเลิกขี้เกียจและกัดฟันลุกขึ้นมาเรียนให้จบๆไป
แต่กลับเป็นจังหวะเดียวกันที่ทำให้ผมรู้บว่า "ผมอยากจะทำอะไรกับชีวิต"
ช่วงใกล้เรียนจบ ผมเริ่มวิเคราะห์ตัวเองอย่างละเอียดที่สุดตั้งแต่เคยทำมา เพื่อวางแผนชีวิต
ทำให้ผมรู้ว่า ผมเป็นชอบคิดสร้างสรรค์ สนุกที่ได้ร่วมคิดงานกับคนอื่น
ผมรู้สึกชีวิตมีค่ามากเวลาดึงความคิดในหัวออกมาเป็นส่วนนึงของงานได้ บางครั้งยากแต่ก็ยังรู้สึกสนุก และเป็นจุดที่อยากพัฒนาตัวเองมากที่สุดอีก
หลังจากดีใจกับการมองเห็นเส้นทางชีวิตอย่างลางๆ
ผมจึงตัดสินใจว่า "อยากจะทำงานในวงการโฆษณาอย่างจริงจัง"
แต่ผมรู้ดีว่า ตัวผมเองแทบไม่มีผลงานและไม่ผ่านการฝึกงานที่ไหนเลย บวกกับที่สกิลติดตัวก็น้อย (แล้วเอเจนซี่หรือโปรดัคชั่นไหนจะอยากรับ)
ผมเลยตัดสินใจออกจากคอมฟอร์ทโซน
ส่งตัวเองไปฝึกงานที่ Production House แห่งนึง ในตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้กำกับ (เพราะมีคนที่อยากจะเข้าไปเจอเพื่อเรียนรู้ด้วย)
ทุกอย่างก็ผ่านไปอย่างปกติ ผมย้ายตัวเองไปอยู่ย่านนั้น เข้ารับการฝึกงาน พบปะผู้คน เจอผู้กำกับที่เก่งมากท่านนึงอย่างที่ตั้งใจไว้
แต่แล้วก็โชคร้ายนิดนึงครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่โควิดยังกระทบอยู่ และก็มีสั่งล็อคดาวน์ด้วย จึงทำให้การฝึกงานไม่ได้ประสิทธิภาพอย่างที่ควรจะเป็น
หลังจบการฝึกงานทีนี่
ครับ ตอนนี้ผมได้รับรู้รสชาติการทำงานฝั่งโปรดัคชั่นพอสมควร ถึงแม้จะไม่เต็มปากเต็มคำ และก็มีสิ่งที่รู้สึกว่าไม่ชอบอยู่ด้วย
แต่สิ่งที่ได้มาแน่ๆ คือ วิธีคิดและวิธีการทำงาน ว่าคนเก่งๆมีแนวคิดในการทำงานอย่างไร
ทั้งด้านฝั่งโปรดัคชั่น(ที่ผมฝึกงาน) และกระบวนการคิดงานจากฝั่ง Creative Agency ระดับท็อปของวงการบ้านเรา
สิ่งที่นึงที่เป็นแรงผลักดันอย่างมากในการจะเปลี่ยนไปทำฝั่ง Creative Agency ให้ได้ของผม
ก็คือจังหวะที่ผมอยู่ใน Zoom (ในฐานะเด็กฝึกงาน) และอยู่ในบรรยากาศที่ทั้งผู้กำกับและทีมเอเจนซี่
ต้อง Brainstorm เพื่อคิดเนื้อเรื่องของหนังโฆษณาเรื่องนึง
ก็เกิดการโยนไอเดียแลกเปลี่ยนพูดคุยกันตามปกติ
ผมที่นั่งเงียบๆอยู่ ก็ไม่ได้พูดอะไรเยอะครับด้วยความที่เป็นเด็กฝึกงานยังมีจุดที่เกร็งๆตามปกติ
แต่การแลกเปลี่ยนไอเดียทุกครั้ง ไม่ได้มีอะไรที่ผมเข้าใจได้ยากเลย ถ้าผมทำงานด้านนี้ไปอีกสักพัก ทำไมผมจะโยนไอเดียไม่ได้ล่ะ
*ผมเข้าใจนะครับว่าการทำงาน Creative ในฝั่งเอเจนซี่คงไม่หมู และผมไม่ได้โอ้อวดใดๆ
คงต้องทำการค้นคว้าหาข้อมูล คิดงานกันจนสมองแทบแตกเหมือนกัน
ผมแค่เด็กฝึกงานที่เห็นการทำงานเพียงไม่กี่ด้านของการทำงานทั้งหมดเท่านั้น
แต่สุดปลายทางแล้วผมก็ยังคิดว่าผมสามารถพัฒนาตัวเองไปถึงจุดที่คลุกคลีในวงการนี้ได้จริงๆครับ
นั่นเลยทำให้ผมตัดสินใจที่จะไปสมัครงานฝั่งเอเจนซี่ ซึ่งจะเป็นในรูปแบบของ Creative Agency
ในตำแหน่ง copywriter ซึ่งก็คิดว่าน่าจะสามารถเติบโตในวงการนี้ต่อไปได้
แต่หลังจากหาข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว ทำให้รู้ว่าสำหรับคนที่ประสบการณ์น้อยหรือแทบไม่มี ยากมากที่จะรับเด็กจบใหม่ (ใหม่แบบตัวเปล่า)
เข้าใจอย่างดีครับว่าการเข้าไปทำงานในวงการนี้ คงต้องการคนเก่งที่มีคุณภาพ และผมเข้าใจเลยครับว่าต้องการคนแบบไหน
ครับ คำตอบก็คือ ..
ผมคงต้องพึ่งการฝึกงาน (ในสายงานฝั่งนี้เพิ่มเติม)
ก็ไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากอะไร (ถึงแม้จะ27แล้วแต่ก็ไม่น่าสาย)
แต่ก็นั่นแหละครับ จังหวะชีวิตผมก็มีปัญหาพอดี
เงินหมดครับ... หมายความว่าเงินที่จะใช้กินใช้ทำอะไร มันจะหมดแล้วครับ
เพราะผมก็ไม่มีทุนจากทางบ้าน และไม่สามารถแบมือขอเงินใครได้อีกแล้ว
นั่นเลยทำให้แผนที่ผมจะอยากฝึกงาน เพื่อเข้าองค์กรที่มีคนเก่งกว่าผม หรือ คนในสภาพแวดล้อมที่ผมจะไปเรียนรู้เติบโต ไม่ได้...
แต่ไม่ลองไม่รู้ใช่ไหมครับ
ผมก็ทดลองยื่นสมัครงาน ในเอเจนซี่ต่างๆ ทุกแนว Digital/Marketing/Creative
ใดๆก็ได้ที่ทำโฆษณา พยายามลดอีโก้ตัวเองลง ฝั่งโปรดัคชั่นเปิดรับ Creative ผมก็ยื่น
เวลาเกือบเดือนผ่านไป
ผลคือ เงียบหมดเลยครับ (ไม่ค่อยแปลกใจ)
ผมผิดไหมครับ?
ที่ผมไม่อยากเข้าบริษัททั่วไป(ที่ไม่ใช่ Agency)
เพราะผมคิดว่า สภาพแวดล้อม และบุคลากร ไม่เก่งเท่าฝั่งเอเจนซี่
แต่สุดท้ายแล้วผมรู้เลยครับว่าถ้าไม่มีไหนเปิดรับจริงๆ ผมคงต้องยื่นมันไปให้หมดเพื่อทำงานหาเลี้ยงตัวเอง
แต่ก็มีอีกปัญหานึงนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเอเจนซี่หรือบริษัทเล็กใหญ่
หลายๆงานหลายตำแหน่ง มักจะต้องการประสบการณ์ 1-2 ปี ไม่ก็ผลงานติดตัวมาด้วยตลอด
แล้วคนที่ไม่มีโอกาสได้ฝึกงานหรือได้ทำงานเลยก็คงไม่ได้รับโอกาสใช่ไหมครับ
**ยินดีรับเด็กจบใหม่ ประสบการณ์ 1-2ปี **
โอเคครับ เด็กจบใหม่นี้ ผมเข้าใจว่าคงเป็นเด็กจบใหม่ที่ฝีมือดี พอร์ทแน่น ถูกไหมครับ
ผมพยายามปล่อยวางนะครับ ในใจผมเหมือนคิดอยากย้อนเวลากลับไปหลายปี่ที่แล้ว
ผมคงตั้งใจหาที่ฝึกงาน หา workshop ลง ฝึกให้ตัวเองแน่น จนขึ้นชื่อว่าเป็นนักศึกษาที่มีของ
แม้แต่ B.A.D AWARDS ที่สมัยเรียน ผมมองว่า สมาคม อะไรวะ เนี้ยเก่งกันเล้ยยยย ไกลตัวกู ไม่ไหวๆๆ
จนทุกวันนี้ผมมองว่า ถ้าผมย้อนเวลากลับไป ผมก็จะเข้า workshop ให้ได้
การที่ผมได้เจอบุคคลที่เก่งมากคนนึงในวงการ ทำให้หลายความคิดของผมเปลี่ยน ผมมีแรงบันดาลใจขึ้นมาก
สิ่งต่างๆเหล่านั้นเหมือนเข้ามาจุดไฟ ในสิ่งที่ผมอยากจะทำมาตลอดเพียงแต่ผมไม่รู้ตัว
ทุกวันนี้ผมคิดเลยนะครับ ว่าอยากเป็นคนที่เก่งมากๆในวงการโฆษณาวันนึงให้ได้ ไม่ต้องถึงกับที่สุด แต่แค่คนเก่งคนนึงก็พอ
ผมตั้งใจะเป็นคนที่มีไหวพริบ และ ฉลาดกว่าเดิม
จากที่ไม่เคยอ่านหนังสือเลย ก็เริ่มอ่านจนรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้รู้อะไรมากขึ้น
เพราะสุดท้ายผมเชื่อว่าถ้าคนมีความรู้เยอะยังไงก็ได้เปรียบ
ถ้าหากจะมีการฝึกงานที่ใด ที่มีเบี้ยเลี้ยงให้เพียงพอสำหรับใช้ชีวิตผมจริงๆ ในตอนนี้ผมก็ยอมฝึกแล้วครับ
ถ้ามี Agency ใดรับสมัครงานที่เริ่มต้นที่เงินน้อยไม่กี่พัน ถ้ามันเพียงพอสำหรับการอยู่รอดของผม ผมก็ยอมทำครับ
การเรียนรู้ไม่ใช่ปัญหาอะไรสำหรับผมเลยครับทุกวันนี้
ปัญหาคือ เงิน ครับ
ถ้าอยู่ดีๆ ตอนนี้ผมได้เงินหมื่นมา
ผมคงวิ่งหาที่ฝึกงานตาม Agency แทนที่จะหางานทำเลยล่ะครับ
สรุปก็คือ ผมก็คงหางานที่ไหนทำซักที่ก่อนแล้วก็คงขยับขยายต่อไป
ถึงแม้ใจจะอยากไปเรียนรู้และทำงานในที่ๆอยากไปมากๆก็ตาม.. (และตอนนี้ก็ยังหาไม่ได้ซักที่)
สุดท้ายแล้วครับ ทุกท่าน / พี่ๆในวงการ มีคำแนะนำอย่างไรเกี่ยวกับเส้นทางของผมในวงการนี้
ก็เปิดรับทุกข้อเสนอแนะเลยนะครับ ทางใดที่ทำให้ผมได้เดินบนเส้นทางของ Creative โฆษณาอย่างมีคุณภาพ
จะสนับสนุนด้วยไอเดียของพี่ๆทุกคนก็เพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตของผมแล้วครับ
ขอขอบคุณ
เด็กที่มีความฝันคนหนึ่ง