JJNY : ของไหว้ตรุษจีนพาเหรดขึ้นราคา│เพื่อไทยจี้กรมเจ้าท่าปรับค่าโดยสาร│โซเชียลแห่อาลัยหมอกระต่าย│ชัชชาติอาลัยหมอกระต่าย

ของไหว้ตรุษจีนพาเหรดขึ้นราคาชาวบ้านโอดรัฐช่วยไม้ได้
https://www.posttoday.com/social/local/673744
  
 
นครราชสีมา-ชาวบ้านโอดสินค้าอุปโภคบริโภคขึ้นราคากันเป็นแถว ของไหว้ตรุษจีนปรับราคาแล้ว ปลงได้แต่พึ่งตนเองหวังพึ่งรัฐบาลไม่ได้เพราะมีปัญหากันอยู่
 
เมื่อวันที่ 23 มกราคม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคาสินค้าอุปโภค บริโภคและของไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนในตลาดเขตเทศบาลนครนครราชสีมา พบว่า สินค้าอุปโภค บริโภคหลายชนิดมีการขึ้นราคา โดยเฉพาะของไหว้ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เช่น ประทัด กระดาษไหว้บางชนิด รวมไปถึงบรรดาพวก หมู เห็ด เป็ด ไก่ มีการปรับราคาสูงขึ้น หมูสามชั้นชิ้นละประมาณครึ่งกิโลกรัมขายชิ้นละ 180 บาท จากเคยขาย 150-160 บาท หัวหมูหัวละ 750-800 บาท จากเคยขาย 450-600 บาทแล้วแต่ขนาด
 
ทั้งนี้ แม่ค้าในตลาดหลายรายบอกว่า ก่อนถึงเทศกาลตรุษจีนอาจจะมีการปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นอีกในส่วนของหมู นอกจากนี้พวกขนมไหว้ต่างๆก็มีการปรับราคาสูงขึ้นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะขนมจันอับ ที่มีการรวมขนมมงคล 5 อย่างคือ ถั่วตัด (เต้าปัง) งา(อิ้วมั่วปัง) ข้าวพอง (บีปัง) ถั่วลิสงเคลือบน้ำตาลสีขาว-แดง (ซกซา) และฟักเชื่อม(ตังกวยแฉะ) เข้าด้วยกัน มีการปรับราคาขึ้นจากเดิมถุง 50 บาท เป็น 60 บาท โดยขึ้นมา 10 บาท นอกจากขนมจันอับแล้ว ขนมเปียะก็มีการปรับราคาจากโรงงานมาแล้วแต่แม่ค้าบางรายยังไม่ขึ้นราคา
 
นอกจากของคาวและของหวานแล้วผลไม้ก็เป็นอีกหนึ่งของไหว้ที่ใช้ในเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตอนนี้ที่มีการปรับราคาขึ้นแล้วก็คือ องุ่น และยังมีส้ม และกล้วยหอมที่จ่อปรับราคาสูงขึ้น อย่างกล้วยหอมตอนนี้ขายอยู่ที่หวีละ 120 แต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนอาจมีการปรับราคาเป็น หวีละ 150 บาท
 
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์สินค้าอุปโภค บริโภคที่ยังแพงอยู่แบบนี้ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น โดย นางอุดม ใบสันเทียะ อายุ 66 ปี ชาวบ้านอำเภอเมืองนครราชสีมา กล่าวว่า ของที่แพงขึ้นในขณะนี้ทำให้ตอนนี้ก็ต้องทนรับสถานการณ์ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะมีใครมาช่วยเราได้ รัฐบาลก็ช่วยเราไม่ได้ในเมื่อรัฐบาลก็มีเรื่องวุ่นวายกันอยู่แบบนี้ มีแต่คนเอาผลประโยชน์เข้าตัวเองกันหมด มีแต่ประชาชนที่จะอดตายกันตอนนี้ อยากถูกล็อตตารีรางวัลที่ 1 จะได้อยู่ได้หมดหนี้หมดสิน แต่ตอนนี้ยังไงก็ต้องทนไปก่อน


 
ส.ส.เพื่อไทย จี้กรมเจ้าท่าปรับค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ฮึ่มระวังเจอปิดแม่น้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3146053

ส.ส.เพื่อไทย จี้กรมเจ้าท่าปรับค่าโดยสารเรือข้ามฟาก ฮึ่มระวังเจอปิดแม่น้ำ
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคพท. แถลงว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมเรือไทย ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อยประมาณ 10 ราย โดยเป็นการเดินเรือในแม่นำ้เจ้าพระยา และคลองสาขาต่างๆ ซึ่งให้บริการเดินเรือโดยสาร ประเภทเรือหางยาว เรือข้ามฟาก เรือท่องเที่ยว และเรือภัตตาคาร ขอให้ทบทวนปรับอัตราค่าโดยสารเรือข้ามฟากซึ่งใช้มาตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2564 ให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันดีเซล และจำนวนผู้โดยสารที่ขามฝากแต่ละฟาก โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้นจากลิตรละประมาณ 25 บาทในช่วงปลายปี 2564 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ลิตรละ 29.84 บาท ขณะที่ราคาค่าโดยสารเรือข้ามฟากยังอยู่ที่ 3.50-5 บาท ซึ่งกรมเจ้าท่าไม่อนุมัติให้ปรับขึ้นราคาได้ เพื่อติดเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จำนวนผู้โดยสารลดลงเพราะการประกาศของ ศบค.ในเรื่องเวิร์กฟอร์มโฮม การห้ามการเดินทาง และเศรษฐกิจไม่ดี คนต่างจังหวัดกลับภูมิลำเนากันมาก
 
นายจิรพงษ์ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นตนได้นำเรื่องดังกล่าวปรึกษาหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว จึงมีความเป็นห่วงว่าหากภาครัฐไม่ช่วยเหลือ หาทางออกให้กับผู้ประกอบการ และให้ปรับราคาจะทำให้ธุรกิจเรือรายย่อยล้มหายตายจาก และผลสุดท้ายประชาชนจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบ เพราะไม่สามารถเดินทางคมนาคมได้

“เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 มกราคม) ผมดีใจที่ได้เจอ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่สภาฯ ผมขออวย กับท่านรัฐมนตรีท่านนี้ ท่านไปประชุมสภาฯเรื่อยฝ่ายค้านสามารถนำเรียนปัญหาได้ ซึ่งผิดกับหลายๆ ท่าน ที่ไม่ค่อยเข้าสภาฯ ถามกระทู้สดก็ไม่มา แล้วอย่างนี้ความเดือดร้อนของประชาชน จะไปเจอรัฐมนตรีได้ที่ไหน แต่นายศักดิ์สยามเจอที่ห้องอาหารรัฐสภาเลย ท่านบอกให้สมาคมเรือไทย ทำเรื่องเข้ามา พร้อมจะช่วยเหลือเยียวยาให้ โดยให้ ร.ต.ต.มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) รับเรื่อง ดังนั้นสัปดาห์หน้าคงจะนำสมาคมเรือไทยมาพบ และเรื่องนี้ปล่อยไว้ไม่ได้ ขอเตือนว่าน้ำมันแพง รถสิบล้อเขาปิดถนน อย่าให้เรือข้ามฟากปิดแม่น้ำบ้าง เพราะไม่มีแม่น้ำอื่นให้ไป แล้วจะขนส่งกันอย่างไร” นายจิรพงศ์ กล่าว
 

  
โซเชียลแห่อาลัย 'หมอกระต่าย' สุดเศร้า บุคลากรดีๆ ต้องจากไปเพราะความประมาท
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6848533

โลกโซเชียลแห่อาลัย “หมอกระต่าย” จากไปเพราะอุบัติเหตุรถชนขณะข้ามทางม้าลาย ชี้บุคลากรดี ๆ ต้องจากไปเพราะความประมาท ร่วมจวกคนทำผิดยับ 
  
ถือเป็นเรื่องราวราวสุดเศร้า สำหรับการสูญเสียบุคลากรดี ๆ อย่าง “หมอกระต่าย” หรือ “พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล“ ที่ถูกจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ชนเสียชีวิตระหว่างเดินข้ามทางม้าลาย เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา
 
ต่อมามีการเผยแพร่ภาพจากกล้อง CCTV บันทึกนาทีขณะเกิดอุบัติเหตุ จากกล้องเผยให้เห็นว่า ขณะที่ พญ.วราลัคน์ เดินข้ามทางม้าลาย มีรถตู้คันหนึ่งได้ชะลอความเร็วพร้อมหยุดรถให้ข้าม แต่ระหว่างนั้นจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ยี่ห้อดูคาติ สีแดง ที่มีผู้ขับขี่เป็นตำรวจ ยศ ส.ต.ต. ไม่ได้ชะลอให้ข้าม ทำให้พุ่งชนพญ.วราลัคน์จนเสียชีวิต ส่วนตำรวจคู่กรณีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
  
อุบัติเหตุครั้งนี้ สร้างความเสียใจให้หลายคน ชาวเน็ตร่วมติด #หมอกระต่าย เพื่อไว้อาลัยและวิพากษ์วิจารณ์ถึงอุบัติเหตุครั้งนี้
 
ส่วนใหญ่ต่างรู้สึกเศร้าที่ต้องสูญเสียบุคลากรดี ๆ ของประเทศไปจากความประมาท เนื่องจากพญ.วราลัคน์ เป็นแพทย์ผู้ชำนาญการด้านจักษุวิทยา และเพิ่งจบสาขาเฉพาะทางมา ซึ่งสาขาดังกล่าวค่อนข้างพบได้น้อยในประเทศไทย
  
โดยอิงจากข้อความของผู้ใช้ทวิตเตอร์ @Vision Saviour (OHM) ที่เผยว่า พญ.วราลัคน์ เพิ่งจบเป็นจักษุแพทย์อนุสาขาด้านม่านตาอักเสบ (Uveitis) และจอประสาทตา (retina) ซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 5% ของจักษุแพทย์ทั้งประเทศ ดังนั้นความสูญเสียครั้งนี้จึงไม่สามารถประเมินได้
  
นอกจากนี้ชาวเน็ตยังวิพากษ์วิจารณ์ถึงตำรวจ ยศ ส.ต.ต. ที่ขับขี่รถด้วยความประมาท ทั้ง ๆ ที่ตนเป็นถึงตำรวจ เหตุใดถึงไม่เคารพกฎจราจร จอดชะลอให้คนข้ามทางม้าลาย พร้อมกับร่วมผลักดันให้ผู้ขับขี่ตระหนักถึงกฎหมายจราจร ขับรถอย่างมีวินัย จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้อีก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่