เพื่อนๆนักลงทุนคงคุ้นเคยกับรูปแบบการลงทุนโดยแบ่งหลักๆ เป็น 2 สาย
1. สายเทคนิค (สายกราฟ)
2. สายเน้นคุณค่า (สาย VI)
แต่วันนี้นักลงทุนบ้านนาจะมาขอเล่ารูปแบบการลงทุนที่ตัวเองนิยามไว้ว่า WI
WI มาจาก Winai Invester นั่นเอง
หลายคนก็คงอาจจะคุ้นเคยหรือนึกถึงการลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน
แต่....WI อาจจะไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า นักลงทุนบ้านนาอย่างผมนั้นเริ่มลงทุนด้วยฐานความรู้ในแบบของการลงทุนเน้นคุณค่า
ปรมาจารย์สายนี้ของโลกคงนึกถึง วอร์เรนบัฟเฟตต์ หรือของไทยที่ผมนับถือก็เป็นดร.นิเวศน์ ที่ชอบตามฟังอาจารย์พูดเกือบทุกคลิป
และก็ติดตามท่านอื่นๆบ้าง แต่อย่างที่หลายคนรู้คือ
ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราจะเข้าใจและทำได้ในแบบของที่ท่านเหล่านั้นทำ
นั่นแหละคือปัญหา เพราะเราก็มีนิสัยหรือความอยากมีอยากเป็นแตกต่างกัน
หลังจากที่เริ่มลงทุนมาจนถึงปีนี้ก็ 8 ปีแล้วววว
ลองมาหลายวิธีหลายรูปแบบ พอลงทุนไปเรื่อยๆ
จึงเริ่มเห็นและเข้าใจได้ว่า สิ่งที่เราถนัดและทำได้ดีที่สุดก็คือ
ลงทุนด้วยความมีวินัย
วินัยในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ซื้อหุ้นทุกเดือน เดือนละเท่าๆกัน หรือที่เรียกว่า DCA
วินัย ในที่นี้หมายถึงการเก็บเงิน การแบ่งเงิน และการใช้เงิน
ผมแบ่งรายได้ต่อเดือนอย่างคร่าวๆแบบนี้
10% แรกเลยคือต้องให้พ่อแม่
10% ต่อมาเอาเข้าพอร์ตหุ้น
10% ต่อมาฝากเข้าบัญชีออม
10% ค่าผ่อนบ้าน
10% ต่อมาก็เข้าบัญชีรายจ่ายประจำ เช่น ประกันชีวิต, ใช้หนี้กยศ., ไว้ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีบ้าง
10% ต่อมาก็เข้าบัญชีการออม การลงทุน ทำบุญ คือยืดหยุ่นหน่อยดึงมาใช้ส่วนตัวได้ถ้าจำเป็น
40% ที่เหลือก็ค่าใช้จ่ายทั่วไป ให้มองว่าเรามีเงินเดือนเท่านี้
อาจจะมีคนมองว่าเหลือใช้น้อย ลำบากไปหรือป่าว
ก็ขอตอบว่า สำหรับผมแล้ว เท่านี้คือเพียงพอกับการใช้ชีวิตประจำวันในแบบของตัวเองแล้ว...
8 ปีผ่านไป กับการเริ่มลงทุนอย่างมีวินัย
สำหรับตัวผมเองแล้วว ผมถือว่าสำเร็จแล้ววว
ความสำเร็จในที่นี้คือ ความพอใจแล้วววสำหรับตัวเอง
โดยไม่ขอเทียบกับใคร อาจจะมีหลายคนที่สำเร็จและไปไกลกว่ามาก
แต่สำหรับผมแล้ว มันคือภูมิใจมากแล้ววว...
8 ปีผ่านไป ทำไมถึง 8 ปี ทำไมไม่ 9 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี
ก่อนหน้านั้นไปทำอะไรมา?
ก็ต้องบอกว่า ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
บางคนเกิดมานับหนึ่ง ผมอาจจะเกิดมานับ -10
ผมถือว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้วคือปีที่นับ 1 ในการลงทุน...
8 ปีผ่านไป ได้อะไรมาบ้าง
รถ 1 คัน ผ่อนให้พ่อ ผ่อนหมดในปีที่ 2 (รถตัวเองผ่อนหมดก่อนหน้านี้)
คอนโด 1 ห้อง ยังผ่อนอยู่ ยอดผ่อน 10% ของรายได้
พอร์ตหุ้น คิดเป็น 30% ของทรัพย์สิน
พอร์ตกองทุน คิดเป็น 15% ของทรัพย์สิน
เงินฝากคิดเป็น 20% ของทรัพย์สิน
ปีที่ผ่านมาคิดว่าสำเร็จอีกก้าวของตัวเองคือได้ที่ดินมาแปลงนึง รวมๆที่ลงทุนไป ก็คิดเป็น 10% ของทรัพย์สิน
ขอเล่าเรื่องที่ดินยาวหน่อยนะครับ เพราะผมถือว่าหนึ่งความสำเร็จที่ตัวเองวาดฝันไว้
ตอนเด็กๆ เวลาครูให้วาดภาพส่งครู ผมมักจะวาดภาพ ทุ่งนา ภูเขา พระอาทิตย์ ลำธาร และควาย 1 ตัว
วันนี้ผมทำมันสำเร็จตามความไฝ่ฝันแล้วววว เอาไว้หนีโควิดช่วงนี้ได้ด้วย...
8 ปีผ่านไป พอร์ตหุ้นเติบโตขึ้นทุกปีจากเงินปันผล
ได้ปันผลจากหุ้นคิดเป็น 20% ของพอร์ต นี่คือสิ่งที่ได้จากการลงทุนหุ้น
ถ้ามองถึงดัชนี set 8 ปีผ่านไป อยู่เท่าเดิม ไม่ไปไหนเลย พอร์ตหุ้นก็เช่นกัน
แม้จะพอร์ต +- ประมาณ 1% ในวันนี้ แต่มูลค่าในพอร์ตก็เติมโตขึ้นหลายเท่า
จากเงินที่โอนเข้าและเงินปันผลที่ได้แต่ละปี ผมก็เอากลับมาเข้าพอร์ตทุกปี
จากปันผลปีละหลักพันขึ้นมาหลักหมื่น สองหมื่น และปีที่ผ่านมาเพิ่งเข้า 3 หมื่น
ปันผลจากพอร์ตกองทุนก็ประมาณ 1-2 หมื่น
นอกจากนั้นยังมีดอกเบี้ยจากเงินฝาก ฉลากออมสิน หุ้นกู้บ้าง
เป้าหมายต่อไปก็คืออยากเกษียรตัวเองตอนอายุ 40 อาจจะยากแต่มันก็ยังมีหวัง...
แชร์เรื่องหุ้นเพิ่มเติม
ตอนนี้ผมมี 4 พอร์ต
พอร์ตที่ 1 พอร์ตหลัก เป็นพอร์ตแรก เงินลงทุนคิดเป็น 50% เน้นหุ้นแข็งแกร่ง ตัวใหญ่ๆของประเทศ และหาหุ้นปันผลดีสม่ำเสมอ รายได้สม่ำเสมอ กระจายในหุ้นหลายตัว ตอนนี้น่าจะ 80 ขึ้นได้มั้ง เสถียรภาพเป็นไงบ้าง ต้องบอกว่าค่อนข้างนิ่ง ความเสี่ยงน้อย แต่ก็อืดอาดยืดยาด เน้นรักษาเงินต้น มีปันผล ผันผวนอยู่ในกรอบ +- 10% โดยประมาณ ผ่านไป 8 ปีปันผลและกำไรอยู่ที่ประมาณ 20% ของพอร์ต ไม่ต้องดูแลมากปล่อยไปเลย ไม่ว่า set จะขึ้นจะลงก็ปล่อยๆไป ไม่ค่อยซื้อขาย นานๆจะปรับพอร์ตที
พอร์ตที่ 2 20% ของพอร์ตทั้งหมด จับจังหวะลงทุนในหุ้นตัวใหญ่ ถือยาวรอบใหญ่ เก็บตอนลง ขายตอนกำไร ผลประกอบการพอร์ตนี้โตขึ้นจากต้นทุน +5-10% ไม่นับปันผล
พอร์ตที่ 3 20% เน้นหาหุ้นมีอนาคต แนวโน้มเติบโต เริ่มมาได้ 3 ปี ปัจจุบัน +10% ขึ้น ถือว่าในมุมของตัวหุ้นที่ถือ ก็เติบโตดีสุด ปัจจุบันเติมเงินเข้าพอร์ตนี้และจะขยายพอร์ตขึ้นเรื่อยๆ ถือหุ้นไม่เกิน 10 ตัว และจะพยายามลดลงเรื่อยๆ และโฟกัสมากขึ้น
พอร์ตที่ 4 10% เอาไว้บริหารความเสียว ซื้อมาขายไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีหลักตายตัว ดูกราฟบ้าง ไม่ดูบ้าง พอร์ตนี้เกิดมาได้ไม่ถึงปี แต่ตอนนี้ก็ยังกำไรอยู่ ไม่นับปันผล ผลเสียคือกำไรไม่ยั่งยืน ได้มาเยอะก็หายไปเยอะ แต่พอร์ตนี้ยึดหลักเดียวคือถ้าขาดทุน ตัดขาดทุนให้เร็ว จะไม่ปล่อยให้ลบเยอะ ผลประกอบการก็อย่างที่บอก บริหารความเสียว คิดว่าคงไปไหนไม่ได้ไกล เดินหน้า ถอยหลัง ไว้ปีหน้าจะมาอัพเดทอีกที
ทั้งหมดนี้แหละครับที่ผมเรียกมันว่าการลงทุนแบบ WI ลงทุนอย่างมีวินัย ผลที่ได้เกินฝัน
แล้วเพื่อนๆล่ะ ลงทุนแบบไหนกัน???
โดย
นักลงทุนบ้านนา
การลงทุนในแบบของตัวเองที่เรียกว่า นักลงทุน WI
1. สายเทคนิค (สายกราฟ)
2. สายเน้นคุณค่า (สาย VI)
แต่วันนี้นักลงทุนบ้านนาจะมาขอเล่ารูปแบบการลงทุนที่ตัวเองนิยามไว้ว่า WI
WI มาจาก Winai Invester นั่นเอง
หลายคนก็คงอาจจะคุ้นเคยหรือนึกถึงการลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน
แต่....WI อาจจะไม่ใช่แบบนั้นทั้งหมด
ก่อนอื่นขอเล่าก่อนว่า นักลงทุนบ้านนาอย่างผมนั้นเริ่มลงทุนด้วยฐานความรู้ในแบบของการลงทุนเน้นคุณค่า
ปรมาจารย์สายนี้ของโลกคงนึกถึง วอร์เรนบัฟเฟตต์ หรือของไทยที่ผมนับถือก็เป็นดร.นิเวศน์ ที่ชอบตามฟังอาจารย์พูดเกือบทุกคลิป
และก็ติดตามท่านอื่นๆบ้าง แต่อย่างที่หลายคนรู้คือ
ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่เราจะเข้าใจและทำได้ในแบบของที่ท่านเหล่านั้นทำ
นั่นแหละคือปัญหา เพราะเราก็มีนิสัยหรือความอยากมีอยากเป็นแตกต่างกัน
หลังจากที่เริ่มลงทุนมาจนถึงปีนี้ก็ 8 ปีแล้วววว
ลองมาหลายวิธีหลายรูปแบบ พอลงทุนไปเรื่อยๆ
จึงเริ่มเห็นและเข้าใจได้ว่า สิ่งที่เราถนัดและทำได้ดีที่สุดก็คือ
ลงทุนด้วยความมีวินัย
วินัยในที่นี้ไม่ได้หมายถึง ซื้อหุ้นทุกเดือน เดือนละเท่าๆกัน หรือที่เรียกว่า DCA
วินัย ในที่นี้หมายถึงการเก็บเงิน การแบ่งเงิน และการใช้เงิน
ผมแบ่งรายได้ต่อเดือนอย่างคร่าวๆแบบนี้
10% แรกเลยคือต้องให้พ่อแม่
10% ต่อมาเอาเข้าพอร์ตหุ้น
10% ต่อมาฝากเข้าบัญชีออม
10% ค่าผ่อนบ้าน
10% ต่อมาก็เข้าบัญชีรายจ่ายประจำ เช่น ประกันชีวิต, ใช้หนี้กยศ., ไว้ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีบ้าง
10% ต่อมาก็เข้าบัญชีการออม การลงทุน ทำบุญ คือยืดหยุ่นหน่อยดึงมาใช้ส่วนตัวได้ถ้าจำเป็น
40% ที่เหลือก็ค่าใช้จ่ายทั่วไป ให้มองว่าเรามีเงินเดือนเท่านี้
อาจจะมีคนมองว่าเหลือใช้น้อย ลำบากไปหรือป่าว
ก็ขอตอบว่า สำหรับผมแล้ว เท่านี้คือเพียงพอกับการใช้ชีวิตประจำวันในแบบของตัวเองแล้ว...
8 ปีผ่านไป กับการเริ่มลงทุนอย่างมีวินัย
สำหรับตัวผมเองแล้วว ผมถือว่าสำเร็จแล้ววว
ความสำเร็จในที่นี้คือ ความพอใจแล้วววสำหรับตัวเอง
โดยไม่ขอเทียบกับใคร อาจจะมีหลายคนที่สำเร็จและไปไกลกว่ามาก
แต่สำหรับผมแล้ว มันคือภูมิใจมากแล้ววว...
8 ปีผ่านไป ทำไมถึง 8 ปี ทำไมไม่ 9 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี
ก่อนหน้านั้นไปทำอะไรมา?
ก็ต้องบอกว่า ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
บางคนเกิดมานับหนึ่ง ผมอาจจะเกิดมานับ -10
ผมถือว่าเมื่อ 8 ปีที่แล้วคือปีที่นับ 1 ในการลงทุน...
8 ปีผ่านไป ได้อะไรมาบ้าง
รถ 1 คัน ผ่อนให้พ่อ ผ่อนหมดในปีที่ 2 (รถตัวเองผ่อนหมดก่อนหน้านี้)
คอนโด 1 ห้อง ยังผ่อนอยู่ ยอดผ่อน 10% ของรายได้
พอร์ตหุ้น คิดเป็น 30% ของทรัพย์สิน
พอร์ตกองทุน คิดเป็น 15% ของทรัพย์สิน
เงินฝากคิดเป็น 20% ของทรัพย์สิน
ปีที่ผ่านมาคิดว่าสำเร็จอีกก้าวของตัวเองคือได้ที่ดินมาแปลงนึง รวมๆที่ลงทุนไป ก็คิดเป็น 10% ของทรัพย์สิน
ขอเล่าเรื่องที่ดินยาวหน่อยนะครับ เพราะผมถือว่าหนึ่งความสำเร็จที่ตัวเองวาดฝันไว้
ตอนเด็กๆ เวลาครูให้วาดภาพส่งครู ผมมักจะวาดภาพ ทุ่งนา ภูเขา พระอาทิตย์ ลำธาร และควาย 1 ตัว
วันนี้ผมทำมันสำเร็จตามความไฝ่ฝันแล้วววว เอาไว้หนีโควิดช่วงนี้ได้ด้วย...
8 ปีผ่านไป พอร์ตหุ้นเติบโตขึ้นทุกปีจากเงินปันผล
ได้ปันผลจากหุ้นคิดเป็น 20% ของพอร์ต นี่คือสิ่งที่ได้จากการลงทุนหุ้น
ถ้ามองถึงดัชนี set 8 ปีผ่านไป อยู่เท่าเดิม ไม่ไปไหนเลย พอร์ตหุ้นก็เช่นกัน
แม้จะพอร์ต +- ประมาณ 1% ในวันนี้ แต่มูลค่าในพอร์ตก็เติมโตขึ้นหลายเท่า
จากเงินที่โอนเข้าและเงินปันผลที่ได้แต่ละปี ผมก็เอากลับมาเข้าพอร์ตทุกปี
จากปันผลปีละหลักพันขึ้นมาหลักหมื่น สองหมื่น และปีที่ผ่านมาเพิ่งเข้า 3 หมื่น
ปันผลจากพอร์ตกองทุนก็ประมาณ 1-2 หมื่น
นอกจากนั้นยังมีดอกเบี้ยจากเงินฝาก ฉลากออมสิน หุ้นกู้บ้าง
เป้าหมายต่อไปก็คืออยากเกษียรตัวเองตอนอายุ 40 อาจจะยากแต่มันก็ยังมีหวัง...
แชร์เรื่องหุ้นเพิ่มเติม
ตอนนี้ผมมี 4 พอร์ต
พอร์ตที่ 1 พอร์ตหลัก เป็นพอร์ตแรก เงินลงทุนคิดเป็น 50% เน้นหุ้นแข็งแกร่ง ตัวใหญ่ๆของประเทศ และหาหุ้นปันผลดีสม่ำเสมอ รายได้สม่ำเสมอ กระจายในหุ้นหลายตัว ตอนนี้น่าจะ 80 ขึ้นได้มั้ง เสถียรภาพเป็นไงบ้าง ต้องบอกว่าค่อนข้างนิ่ง ความเสี่ยงน้อย แต่ก็อืดอาดยืดยาด เน้นรักษาเงินต้น มีปันผล ผันผวนอยู่ในกรอบ +- 10% โดยประมาณ ผ่านไป 8 ปีปันผลและกำไรอยู่ที่ประมาณ 20% ของพอร์ต ไม่ต้องดูแลมากปล่อยไปเลย ไม่ว่า set จะขึ้นจะลงก็ปล่อยๆไป ไม่ค่อยซื้อขาย นานๆจะปรับพอร์ตที
พอร์ตที่ 2 20% ของพอร์ตทั้งหมด จับจังหวะลงทุนในหุ้นตัวใหญ่ ถือยาวรอบใหญ่ เก็บตอนลง ขายตอนกำไร ผลประกอบการพอร์ตนี้โตขึ้นจากต้นทุน +5-10% ไม่นับปันผล
พอร์ตที่ 3 20% เน้นหาหุ้นมีอนาคต แนวโน้มเติบโต เริ่มมาได้ 3 ปี ปัจจุบัน +10% ขึ้น ถือว่าในมุมของตัวหุ้นที่ถือ ก็เติบโตดีสุด ปัจจุบันเติมเงินเข้าพอร์ตนี้และจะขยายพอร์ตขึ้นเรื่อยๆ ถือหุ้นไม่เกิน 10 ตัว และจะพยายามลดลงเรื่อยๆ และโฟกัสมากขึ้น
พอร์ตที่ 4 10% เอาไว้บริหารความเสียว ซื้อมาขายไป อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีหลักตายตัว ดูกราฟบ้าง ไม่ดูบ้าง พอร์ตนี้เกิดมาได้ไม่ถึงปี แต่ตอนนี้ก็ยังกำไรอยู่ ไม่นับปันผล ผลเสียคือกำไรไม่ยั่งยืน ได้มาเยอะก็หายไปเยอะ แต่พอร์ตนี้ยึดหลักเดียวคือถ้าขาดทุน ตัดขาดทุนให้เร็ว จะไม่ปล่อยให้ลบเยอะ ผลประกอบการก็อย่างที่บอก บริหารความเสียว คิดว่าคงไปไหนไม่ได้ไกล เดินหน้า ถอยหลัง ไว้ปีหน้าจะมาอัพเดทอีกที
ทั้งหมดนี้แหละครับที่ผมเรียกมันว่าการลงทุนแบบ WI ลงทุนอย่างมีวินัย ผลที่ได้เกินฝัน
แล้วเพื่อนๆล่ะ ลงทุนแบบไหนกัน???
โดย นักลงทุนบ้านนา