1) NO : ฝึกร้องให้ตรงจังหวะ
YES : ทำจังหวะให้ตรงกับเสียงร้อง
2) NO : ฝึกร้องให้ตรงคีย์ดนตรี
YES : ทำดนตรีให้คีย์ตรงกับเสียงร้อง
3) NO : ฝึกขยาย range เสียง
YES : ลดหรือเพิ่ม octave แค่บางท่อน (เชื่อไหมว่ามีหลายคนที่ทำแบบนี้)
4) NO : ฝึกร้องให้เข้าถึงอารมณ์เพลง
YES : อารมณ์เราตอนนี้เป็นไง ก็ให้ไปร้องเพลงแนวๆที่เรากำลังเป็นอยู่ (รับรองว่าเพราะสุดๆ)
5) NO : ฝึกหลบเสียง
YES : ร้องเบาๆ
6) NO : ฝึก belt (มักจะเกิดขึ้นตอนท่อนพีค)
YES : ร้องเบาๆตลอดทั้งเพลง แต่พอถึงท่อนพีคค่อยร้องปกติ
7) NO : ฝึกเอื้อน
YES : auto-tune (ทำเป็นเล่นไป)
8) NO : พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อรักษาเสียง
YES : ร้องเพลงให้น้อยลง
9) NO : ฝึกหายใจ
YES : ลากเสียงให้สั้นลง
10) NO : พัฒนาการร้องไปเรื่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์
YES : sound effect
วิธีร้องเพลงให้เพราะแบบไม่ต้องฝึกหนัก เน้นสบายๆ (เท่าที่ตอนนี้ผมจะคิดได้)
YES : ทำจังหวะให้ตรงกับเสียงร้อง
2) NO : ฝึกร้องให้ตรงคีย์ดนตรี
YES : ทำดนตรีให้คีย์ตรงกับเสียงร้อง
3) NO : ฝึกขยาย range เสียง
YES : ลดหรือเพิ่ม octave แค่บางท่อน (เชื่อไหมว่ามีหลายคนที่ทำแบบนี้)
4) NO : ฝึกร้องให้เข้าถึงอารมณ์เพลง
YES : อารมณ์เราตอนนี้เป็นไง ก็ให้ไปร้องเพลงแนวๆที่เรากำลังเป็นอยู่ (รับรองว่าเพราะสุดๆ)
5) NO : ฝึกหลบเสียง
YES : ร้องเบาๆ
6) NO : ฝึก belt (มักจะเกิดขึ้นตอนท่อนพีค)
YES : ร้องเบาๆตลอดทั้งเพลง แต่พอถึงท่อนพีคค่อยร้องปกติ
7) NO : ฝึกเอื้อน
YES : auto-tune (ทำเป็นเล่นไป)
8) NO : พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อรักษาเสียง
YES : ร้องเพลงให้น้อยลง
9) NO : ฝึกหายใจ
YES : ลากเสียงให้สั้นลง
10) NO : พัฒนาการร้องไปเรื่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์
YES : sound effect