18 ปี "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" ผลงานประเดิมกำกับควบพระเอกของ "หม่ำ จ๊กมก"


วันที่ 21 มกราคม 2547 ตรงกับวันเริ่มเข้าฉายของ "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" ภาพยนตร์ไทยแนวแอ็กชั่นคอมิดี้ฟอร์มโต ภายใต้การสร้างของ "สหมงคลฟิล์ม" และ "บั้งไฟ ฟิล์ม"

โดยเป็นผลงานจากมือใหม่ทางการกำกับแต่ไม่ใหม่ทางการแสดง "เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" เจ้าของนิกเนม "หม่ำ จ๊กมก" ยอดตลกขวัญใจมหาชนตลอดกาลซึ่งมาสวมบทบาททั้งการกำกับ การเขียนเรื่อง-บท และมาดพระเอกของเรื่องไปในตัว

หนังเรื่องนี้เรียกความฮือฮามาตั้งแต่หนังกำลังถ่ายทำ หนังสือพิมพ์และสำนักข่าวแทบทุกสำนักจำต้องเสนอข่าวกรณีดังนั้น จนเมื่อหนังฉายเสร็จก็สามารถทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ สมกับที่คนสร้างและคนทำทุ่มเทกับงานชิ้นนี้จนสุดตัว และยังช่วยปลุกให้วงการหนังไทยกลับมาคึกคักขึ้นอย่างมีชีวิตชีวา

ในเรื่องนี้ยังได้ทัพนักแสดงระดับคุณภาพ รวมทั้งผองเพื่อนร่วมวงการตลก และนักแสดงกิตติมศักดิ์ มาร่วมสร้างสีสันกันอย่างคับคั่ง ทั้งที่ยังมีชีวิตและเสียชีวิตไปแล้ว ณ ปัจจุบัน

ภายหลังจากนั้น "หม่ำ จ๊กมก" ก็ยังได้นำแบรนด์หนังมาสร้างต่อในเรื่อง "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม 2" ในปี 2550 และ "บอดี้การ์ดหน้าหัก" ในปี 2562

ปัจจุบัน "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" ถือเป็นแบบอย่างของหนังตลกจากผู้กำกับระดับดาราตลกที่ประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน จนอาจกล่าวได้ว่าเป็น "หนังในดวงใจ" ของคอหนังทุกกลุ่ม แถมยังเป็นงานระดับ "มาสเตอร์พีซ" ของหม่ำอีกเรื่องหนึ่งด้วย    

ในโอกาสครบรอบ 18 ปีที่หนังเรื่องนี้เฉิดฉายบนจอเงิน เราจะมาร่วมทบทวนถึงที่มา-ที่ไปของผลงานอันยิ่งใหญ่ให้พอชื่นใจ เริ่มจากประเด็นอะไรดีน้า... 


หม่ำ สตอรี่
"เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" หรือที่หลายคนรู้จักเขาในนามของตลกและพิธีกรชื่อดังแห่งวงการบันเทิงไทย ใครจะรู้บ้างว่าฝันจากชายตัวเล็ก ๆ เขาเคยเขียนบทเสนอคุณประยูร วงษ์ชื่น แต่ด้วยความไม่พร้อมทั้งประสบการณ์และปัจจัยอีกหลาย ๆ ด้าน ทำให้ความฝันของหม่ำนั้นยังไม่ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง
 
ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่หม่ำโลดแล่นอยู่ในเส้นทางสายบันเทิง เขาฝากผลงานภาพยนตร์ที่ล้วนแต่ประสบความสำเร็จและสร้างสีสัน เสียงฮา ให้กับวงการหนังไทย อย่างเรื่อง 2 โทน, กวนโอ๊ย, บ้านผีปอบ และที่โดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดจากผลงานเรื่อง "มือปืน โลก/พระ/จัน" ที่กอบโกยรายได้และสร้างชื่อเสียงให้กับบรรดาเหล่าตลก นักแสดง และผู้กำกับได้เกิดอย่างเต็มตัวในวงการหนังไทย การแสดงที่เป็นเอกลักษณ์และมีพัฒนาการของหม่ำนั้น ได้พิสูจน์ให้คนดู คนทำ และคนสร้างหนังไทยยอมรับเขาในฐานะนักแสดงคนหนึ่ง ไม่ใช่ตลกที่มาแสดงหนังเพียงอย่างเดียว
 
หม่ำเป็นนักดูหนังตัวยงที่หลายคนนึกไม่ถึง ตั้งแต่เด็กเขาได้มีโอกาสดูหนังมานับร้อย ๆ เรื่อง ซึ่งหม่ำบอกเองว่า ดูจนไม่รู้จะดูอะไร จำได้แม้กระทั่งชื่อตัวประกอบเล็ก ๆ ทีมงานเอฟเฟ็ค รวมทั้งพัฒนาการในการดูหนังของเขาที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาพิจารณาทั้งการจัดแสง การจัดภาพ จนกระทั่งสามารถอธิบายได้เป็นฉาก ๆ
 
บทบาทอันยอดเยี่ยมจาก องค์บาก ที่หม่ำเปรียบเสมือนกับชูรสชั้นเยี่ยม เพิ่มรสชาติอันเผ็ดร้อนให้กับหนังได้อย่างไม่เสียคาแร็กเตอร์ เขาได้มีโอกาสร่วมดีไซน์ฉากสำคัญ ๆ อย่างเช่นฉากตลาดที่ "จา พนม" โชว์พาวเวอร์ โดยการกระโดดข้ามกระจก และล่าสุดใน "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" เขาร่วมดีไซน์ฉากแอ็กชั่นและคิวบู๊ร่วมกับ "พันนา ฤทธิไกร" ผู้ออกแบบคิวบู๊ที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งของวงการหนังไทย
 
ด้วยจินตนาการของหม่ำถูกพันนานำมาผสมผสานให้ออกมาเป็นรูปธรรมในหนังนั้น จึงทำให้ "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม" มีแอ็กชั่นที่แปลกใหม่และไม่ซ้ำแบบใคร คนดูจะได้สัมผัสกับเทคนิคใหม่ ๆ ผสมผสานกับการเล่าเรื่องในรูปแบบของหม่ำในสไตล์แอ็กชั่นคอมิดี้ อารมณ์ใหม่ ๆ ที่จะฉีกแนวในแง่ของความคิดสร้างสรรค์เพื่อนำสิ่งใหม่ ๆ มาสู่วงการหนังไทยอย่างแน่นอน


เรื่องย่อ
ปฏิบัติการพิสูจน์ศักดิ์ศรีความเป็น "บอดี้การ์ดมือหนึ่ง" แห่งยุคเริ่มต้นขึ้นเมื่อ "วงศ์คม" บอดี้การ์ดหนุ่มผู้เคร่งขรึมซึ่งสืบทอดสายเลือดมาจากตระกูลบอดี้การ์ดอันเลื่องชื่อ แน่นอนว่าความยำเกรงในระดับฝีมือและความสามารถเฉพาะตัวได้รับการยอมรับผ่านภารกิจและหน้าที่ในการปกป้องและอารักขา "เพชรพันธการ" ตระกูลอภิอัครมหาเศรษฐีอันดับ 1 แห่งเอเชียมาหลายชั่วอายุคน

จนกระทั่งบทบาทและหน้าที่การเป็นบอดี้การ์ดมือหนึ่งของเขาได้ถูกท้าทายขึ้นในระหว่างภารกิจอารักขา "โชติ เพชรพันธการ" อภิอัครมหาเศรษฐีอันดับ 1 แห่งเอเชียที่กำลังอยู่ในระหว่างพิธีเซ็นสัญญาธุรกิจหมื่นล้านกับบริษัทยักษ์ใหญ่ทางด้านธุรกิจไอทีของอเมริกา เมื่อกลุ่มบุคคลลึกลับซึ่งนำโดย "อาทิตย์"  พร้อมเหล่ามือสังหารระดับพระกาฬ ได้ก่อปฏิบัติการลอบสังหารที่แสนอุกอาจและเต็มไปด้วยความแยบยลหมายปลิดชีวิตท่านโชติ เพชรพันธการ แต่ก็ไม่ได้เล็ดรอดสายตาบอดี้การ์ดมือหนึ่งอย่างวงศ์คม กลับกันได้นำเอาปฏิภาณไหวพริบและความสามารถเฉพาะตัวที่มีอยู่อย่างเต็มพิกัดช่วยเหลือและปกป้องเจ้านายของตนได้สำเร็จ พร้อมเสนอให้ยกเลิกการเซ็นสัญญาธุรกิจหมื่นล้านออกไป เพราะอาจะจะเผชิญกับอันตรายถึงชีวิตจากสิ่งที่ดักรออยู่ข้างหน้า เพียงทว่ามีอยู่สิ่งหนึ่งที่อยู่นอกเหนือจากความสามารถของเขาโดยสิ้นเชิง นั่นคือความดื้อดึงในการยืนยันที่จะเซ็นสัญญาต่อไปจากเจ้านายของตนนั่นเอง โดยที่ไม่มีใครคาดคิดภารกิจสำคัญที่สมาชิกในตระกูลบอดี้การ์ดต่างสืบทอดต่อเนื่องกันมากำลังจะจบลงในเงื้อมมือของวงศ์คมนั่นเอง เมื่อเขาไม่สามารถปกปักอารักขาชีวิตเจ้านายของเขา ท่านโชติอภิอัครมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเอเชียถูกลอบสังหารในที่สุด โดยศัตรูที่เขาไม่อาจลืมได้ตลอดชีวิต เป็นความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่ผู้ภักดีอย่างวงศ์คมไม่อาจยกโทษและให้อภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ได้ เขาจำยอมต้องถอนตัวจากการเป็นบอดี้การ์ดประจำตระกูลเพชรพันธการ แต่ทว่าถูก "คุณหญิงรัตนา" ภรรยาของท่านโชติห้ามเอาไว้

ด้าน "ชายชล" ทายาทคนเดียวของท่านโชติ คุณหญิงรัตนาและตระกูลเพชรพันธการโกรธแค้นและหมดความเชื่อถือในตัววงศ์คม ปฏิเสธความห่วงใยที่แสนซื่อสัตย์จากบอดี้การ์ดประจำตระกูลอีกต่อไป โดยหันไปพึ่งบอดี้การ์ดรองบ่อนที่ไม่เพียงไร้น้ำยาและเต็มไปด้วยความฉ้อฉล จนเกือบเสียชีวิตจากแผนการเด็ดชีพทายาทเพชรพันธการระลอกสองของเหล่ามือสังหารที่เด็ดชีพบิดาของตน เมื่อไม่มีคนคุ้มครอง เรื่องราวทุกอย่างกลับพลิกผัน ชายชลลืมนึกไปว่าเป้าหมายต่อไปของพวกมันก็คือตนนั่นเอง แผนการโค่นอัครมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจมหาศาลเพื่อผลประโยชน์ที่ไม่อาจประมาณค่าได้จึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสิ่งที่เขาต้องเผชิญล้วนเต็มไปด้วยภยันตรายล้อมอยู่รอบด้านเกินกว่าเด็กหนุ่มธรรมดาๆ อย่างเขาจะรับมือไหว

ชายชลรอดชีวิตและหลบหนีจากการถูกตามล่าอย่างหวุดหวิดโดยบอดี้การ์ดทุกคนที่ปกป้องชีวิตของตนต่างเสียชีวิตหมด โดยได้ครอบครัวของ "ป๊อก" เด็กสาวจิตใจงามให้ความช่วยเหลือและให้ที่พัก โดยที่ไม่รู้เลยว่าชายหนุ่มที่น่าสงสารที่เธอช่วยเหลือนั้นคือทายาทของอัครมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดแห่งเอเชีย ถึงแม้ว่าชีวิตของป๊อกจะแวดล้อมไปด้วยภาพที่ไม่น่าประทับใจเท่าไรนักสำหรับชายชล โดยเฉพาะ "แม่แจ่ม" ของป๊อกที่ไม่ต่างอะไรจากมิจฉาชีพในคราบของนักร้องคาเฟ่ที่มีเทคนิคในการหลอกสั่งอาหารจากบรรดานักเที่ยวไปวัน ๆ แต่จริง ๆ แล้วก็เพื่อเลี้ยงปากท้องครอบครัวของตน แต่ชายชลกลับมองป๊อกและสมาชิกในครอบครัวอย่างเข้าใจซึ่งทำให้ชายชลได้รู้จักกับชีวิตอีกด้านหนึ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ชายหนุ่มแทบลืมเรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาถ้าเผอิญว่าเหล่าศัตรูตัวฉกาจ บรรดามือสังหาร และเหล่านักฆ่าระดับพระกาฬที่ถูกส่งตรงมาเด็ดชีพเขาโดยเฉพาะไม่ออกตามล่าสังหารเขาอีกครั้ง

ด้วยความสามารถและไหวพริบอันเฉียบแหลม มีเพียงคนเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์อันเลวร้ายและช่วยชีวิตทายาทที่เหลืออยู่ของตระกูลเพชรพันธการ จะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากเขาคนนี้ คนที่กลับมาเพื่อไถ่บาปและแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิตซึ่งไม่มีวันลืมเลือน เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีความเป็นที่สุดแห่งบอดี้การ์ดอันดับ 1 นาม "วงศ์คม" เจ้าของฉายา "บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม"


นักแสดงหลัก

หม่ำ จ๊กมก เป็น "วงศ์คม" บอดี้การ์ดประจำตระกูลเพชรพันธการ เมื่อเขาไม่สามารถจะปกป้องชีวิตของท่านโชติ เพชรพันธการ หัวหน้าของตระกูลได้ เขาจะไถ่บาปที่เกิดขึ้นอย่างไร

พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร เป็น "ชายชล" ลูกชายคนเดียวของโชติ รักและบูชาพ่อของตัวเองมากในเมื่อเขาไม่ไว้ใจบอดี้การ์ดมือหนึ่งประจำตระกูล หายนะและอันตรายของชายชลกำลังจะเกิดขึ้น

ภุมวารี ยอดกมล เป็น "ป๊อก" เด็กสาวสุดห้าวที่เกิดในครอบครัวยากจน เธอเป็นเจ้าหน้าที่ประจำมูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนจิตใจดีงาม ความใจดีและความจริงใจของป๊อกจะทำให้ชายชลเป็นอย่างไรนั้น...

อาภาพร นครสวรรค์ เป็น "แจ่มจันทร์" แม่ของป๊อก ชอบการพนันมาก ถึงภายนอกดูจะเป็นคนเจ้าเล่ห์และเห็นแก่เงิน แต่เพื่อปากท้องของเธอและลูกจึงต้องทำ

สุรชัย จันทิมาธร (หงา คาราวาน) เป็น "ท่านโชติ" อภิอัครมหาเศรษฐีแห่งเอเชีย หัวหน้าและครอบครัวและผู้นำตระกูลเพชรพันธการ การตายของท่านโชติกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล้างแค้น

อรัญญา นามวงศ์ เป็น "คุณหญิงรัตนา" ภรรยาของท่านโชติ เป็นคนจิตใจดีไม่แบ่งชนชั้น เพราะในอดีต เคยยากลำบากมากกับสามี จนในที่สุดต่อสู้มาได้ถึงวันนี้ ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร เธอก็ยังรักและไว้ใจวงศ์คมเสมอ

วัชระ ปานเอี่ยม เป็น "ทรงพล" หนึ่งในกรรมการผู้จัดการของบริษัทเพชรพันธการ มักใหญ่ใฝ่สูง แท้ที่จริงเขาคือคนวางแผนฆ่าเจ้านายของตัวเอง

สุเทพ ประยูรพิทักษ์ เป็น "ช่วง เพชรพันธการ" น้องชายของโชติ ผู้ดูแลชายชลหลังจากที่โชติเสียชีวิต ความสุขุมเยือกเย็นยากนักที่จะล่วงรู้ถึงจิตใจเขา

ยิ่งยง ยอดบัวงาม เป็น "อาทิตย์" มือสังหารของทรงพล มือสังหารใจร้อนที่สามารถฆ่าคนได้อย่างเลือดเย็น

นอกจากหน้าที่เห็นแล้วต้องขำไว้ก่อนของหม่ำ ซึ่งขอบอกว่าในบทบาทของวงศ์คมนั้น เขาจะเป็นอีกคนที่คุณไม่คุ้นเคยอย่างแน่นอน แต่ส่วนมุขตลกและความสนุก มันจะออกมาจากตัวหนังและความเป็นหม่ำในมาดของวงศ์คมด้วยตัวของบทเอง สีสันและความสนุกที่มีในเรื่องนี้คงจะหนีไม่พ้นเหล่าสมุนของทรงพลที่มีฝีไม้ลายมือและความบ้าอย่างเต็มพิกัด

คุณจะได้พบกับ "โหน่ง ชะชะช่า" ปรากฏกายด้วยมาดของนักมวยปล้ำพลังเหลือล้น "สามารถ พยัคฆ์อรุณ" มาในมาดนักมวยไทย ลีลาเด็ดเผ็ดมัน และ "สายัณห์ ดอกสะเดา" บอดี้การ์ดที่ยากจะหาใครเลียนแบบได้ นอกจากนั้นยังมี เอ๋ จารชน, เต๋อ เชิญยิ้ม, อาแปะ เถิดเทิง และ จเร เชิญยิ้ม ที่ขอพลิกบทบาทมาเป็นนักฆ่าท้าลุยกับวงศ์คม

คิดถึงกันไหมเอ่ย?...สวัสดี

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

เรียบเรียงข้อความจากคอลัมน์ Picked Flicks ของ ขจิตพัฒ เกิดอยู่ ตีพิมพ์ในนิตยสาร Flicks, 16-22 ม.ค. 2547.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่