my unpopular opinion part 1

กระทู้คำถาม
จากลิงค์นี้ เขาจะมีการถามตอบเกี่ยวกับเสียงร้อง
https://bbellmonn.wordpress.com/2012/02/25/คำถามและคำตอบต่างๆเกี่/

ผมจะลองตอบคำถาม 25 ข้อนี้บ้าง ด้วย way ของผมเอง ไม่รับประกันว่าจะปลอดภัยกับทุกคน ผมถือว่าผมให้วิธีส่วนตัวของผมเอง

ข้อ 1
เริ่มจากร้องให้เหมือนพูดก่อน เพราะ level 1 (เพิ่งเริ่มฝึก) ย่อมต้องใช้เรื่องพื้นฐาน ก็คือธรรมชาติแรกของเรา ก่อนที่จะร้องเพลง เราก็ต้องเปล่งเสียงด้วยการพูดก่อน

ข้อ 2
คุณคิดว่าคนไหนเสียงโหดๆ น่าเกรงขาม
คุณก็ลองเอาคนนั้นเป็นแรงบันดาลใจ แรกๆคุณอาจจะยังกลัวตัวเอง แต่พอไปเรื่อยๆ คุณจะกลายเป็นคนที่เสียงโหดๆได้อย่างมีอิทธิพล
******
ส่วนเรื่องน้ำเสียงและ feeling ที่ดี ผมคิดว่าคุณควรต้องจริงใจกับความรู้สึก จิตใจตอนนี้คุณรู้สึกหดหู่ แต่คุณมาร้องว่าคุณปลาบปลื้มยินดี อันนี้ก็รู้กันอยู่ว่ามันไปด้วยกันไม่ได้ นอกจากว่าคุณอยากอินดี้จัดๆ

ข้อ 3
และมีกรณีอื่นๆด้วย เช่น คุณเกรงใจเสียงตัวเอง, คุณตื่นเต้นจัดๆ, คุณหนาว ฯลฯ

ข้อ 4
ถ้าใจร้อนอยากรีบเห็นผล ก็ให้แหกปาก pull chest มันเข้าไป ถ้าเป็น lyric tenor จะสามารถร้องได้ถึง G4-Ab4 ก่อนที่จะ crack
เพราะเพลงของคุณเบิร์ด ไม่ได้สูงมากขนาดนั้น ถ้าเป็น chesty mix หรือแม้แต่ balanced mix
******
ถ้าใจเย็นไม่เร่งรีบ ผมแนะนำให้ลดคีย์ที่เราสบายก่อน ฝึกร้องฝึกออกเสียงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีประสิทธิผลมากพอแล้วค่อยขยับเพิ่มทีละ semitone แล้วก็ทำวนลูปไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ

ข้อ 5
ถ้าจะเอาแบบเป็น falsetto (มีลม) ย่านสูงเรียกหลบ ย่านต่ำเรียกกระซิบ แต่มันคืออันเดียวกัน
******
แต่ถ้าจะเอาแค่ head ธรรมดา อยากพบประสบการณ์แบบจังๆไหม ลองทำแบบนี้สิ ให้คุณร้องปกติแล้วไต่สูงไปเรื่อยๆจนกว่าคุณจะเสียงหลง นั่นแหละ เรียกว่าเสียงหลบ แล้วให้คุณจำการออกเสียงนั่นไว้ แล้วค่อยฝึกพัฒนาให้สูงขึ้นหรือต่ำลง ก็สุดแล้วแต่ใจ ยากหรือง่ายนั้นขึ้นอยู่กับใจเรา แต่ถ้าจะเอาให้ได้เพียงแค่เสี้ยววินาที อันนี้คงต้องรอยุคอนาคตไปก่อน ตอนนี้ยังทำไม่ได้

ข้อ 6
อยากร้องเสียงสูงได้ ให้ทำแบบข้อ 4
ส่วนจะเข้ากับดนตรีหรือไม่ ผมว่าขึ้นอยู่กับรสนิยม เพราะร้องแบบเปล่าๆไม่มีดนตรีก็เพราะได้ ถ้าคุณยังไม่พอใจ ให้คุณเลือกเพลงไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะเข้ากับตัวคุณเอง (คิดกลับกัน)
******
ลูกคอย่อมมีจังหวะเป็นของมัน ให้เริ่มจากร้องคำว่า “อา” ร้องลากเสียงแล้วก็เชื่อมเสียงคำว่า “อา” อีกครั้ง (ลมเดียว) นี่คือ 1 จังหวะ จากนั้นคุณก็ทำเป็น 2, 3 มากขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วจากนั้นคุณก็เร่งจังหวะมันไปเรื่อยๆ จนมันถี่พอที่คุณจะพอใจไปกับมัน เพราะนักร้องแต่ละคน ลูกคอเร็วไม่เท่ากันอยู่แล้ว

ข้อ 7
ร้องแบบ r&b คือร้องแบบตามใจเรา แต่ต้องเข้ากับเพลงด้วยนะ และห้ามร้องแบบทื่อตรง การที่จะร้องแบบ r&b ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆก็จะร้องได้ ใจต้องรักใน r&b จริงๆซะก่อน
******
อยากร้องแบบ mariah ก็ต้องเก็บ level ไปเรื่อยๆ เขา level 100 เราแค่ 10 อะไรอย่างงี้อะ ถ้าไม่อยากกดดันมาก ก็ลองฝึกแบบง่ายๆและเทียบกับคนที่ดูเหมือนจะเสมอตัวกับเรา เริ่มจากง่ายไปยาก แบบนี้ก่อน

ข้อ 8
อันนี้คงต้องขอฟังคุณแล้วล่ะ เพราะที่เพื่อนพูดอาจจะเหมือนที่ผมคิดหรืออาจจะไม่ก็ได้ บางทีเราก็อาจจะเสียความมั่นใจโดยใช่เหตุ
******
เรื่องพัฒนาเสียงก็ตามข้อ 4 ใช้ได้ทั้งสูงและต่ำ สูงก็ไปทางขวา ต่ำก็ไปทางซ้าย แนะนำให้ฝึกอย่างใดอย่างหนึ่งให้ดีก่อน ถ้า level ยังไม่มากพอ แล้วค่อยฝึกพร้อมกัน ถ้ามีความ professional แล้ว
******
monotone ของจริงเป็นแบบนี้
https://youtu.be/FVeU2Hbt9zs

ข้อ 9
ร้องแบบไม่มีใครเหมือน คนอื่นฟังแล้วรู้ทันทีว่าเป็นเสียงคุณ นั่นแหละ เอกลักษณ์
******
ส่วนตัวผมคิดว่าคนที่เสียงเป็นเอกลักษณ์แบบจ๋าๆที่สุดในไทย ผมให้ 3 คน
แอ๊ด คาราบาว
ติ๊ก ชิโร่
ป้อม อัสนี

ข้อ 10
ถ้าอยากจะวอร์มให้มีประสิทธิภาพจริงๆ ผมแนะนำให้ร้องเพลงไปเลย เพลงที่คุณจะร้องบนเวทีนั่นแหละ ซ้อมร้องไปเรื่อยๆ เพื่อความคุ้นเคยในการเปล่งเสียงก่อนที่จะพบปะกับผู้ชม

ข้อ 11
ทำเสียงห้าวหาญ ฉกรรจ์ แต่เนื้อเสียงไม่ต้องทุ้มจนเกินไป อันนี้ความชอบส่วนตัวผมนะ แต่เท่าที่ผมทราบ ภาคดนตรีเป็นร็อก แต่เสียงคนร้องหวานแหวว ก็จัดว่าเป็นร็อกได้เหมือนกัน

ข้อ 12
ทำตามข้อ 4 
******
ส่วนอยากจะเก่ง คืออยากเก่งดังใจตัวเองต้องการ หรือจากสายตาคนอื่นๆ ถ้าเป็นแบบแรก คุณสร้างเองได้เลยได้ ยืมแรงบันดาลใจจากใครมาก็ได้ และก็เอามาต่อยอดแบบฉบับตัวเอง
แต่ถ้าเป็นแบบหลัง ก็แนะนำให้ร้องตามกระแสทั่วๆไป

ข้อ 13
เรื่องความใสนี่ไม่แน่ใจ เพราะบางคนแหบธรรมชาติ ส่วนเรื่องฟังเพราะ ก็แค่ละเมียดละไมไปกับการร้องไปเรื่อยๆเก็บแต้มไปเรื่อยๆ
******
ไม่ต่ำหรือสูงเกินไปงั้นเหรอ ก็แค่สมมติว่าคุณร้องเพลง move on ต้นฉบับตอนต้นเพลงเขาร้องเสียงต่ำ คุณก็แค่เพิ่มoctave แล้วพอเข้าท่อนก่อนฮุกและก็ท่อนฮุก คุณก็แค่กลับไปร้องเท่าต้นฉบับเท่าเดิม ก็จะมี range แค่ A3-B4 มีแค่ 1 octave 3 semitones เท่านั้น ถือว่าแคบมาก คงไม่ยากสำหรับคนเพิ่งฝึก

ข้อ 14
ร้องตามคอร์ดดนตรี อย่าร้องตามเสียงร้องหลัก

ข้อ 15
ทำตามข้อ 4
เดี๋ยวว่างๆผมอาจจะลองร้อง 30 เพลงรวดดูบ้าง

ข้อ 16
ที่จริงครูก็พูดถูกนะ แต่ผมคิดว่าใช้ไม่ได้กับทุกกรณี เดี๋ยวถ้าผมผอมเมื่อไร ผมจะมาร้องเสียงใหญ่ๆให้ดู (ผมจะทำได้ไหมน้าาา)

ข้อ 17
ทำตามข้อ 4

ข้อ 18
ก็ยังคงต้องทำตามข้อ 4 (ข้อ 4 นี่ mvp จริงๆ)

ข้อ 19
ให้ทายว่าผมจะตอบว่าไง เหอะๆๆ

ข้อ 20
เคล็ดไม่ลับก็คือ พยายามไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
******
ส่วนเคล็ดลับน่ะเหรอ ร้อง range ที่ไม่กว้างจนเกินไป แต่แฝงไปด้วยลูกเล่นที่ไม่จำเป็นต้อง damage เสียง (แบบคำรงคำรามหรือว้าก)

ข้อ 21
ถ้าตราบใดที่มันไม่ได้ทำให้เส้นเสียงมีปัญหาใดๆ ก็ถือว่าไม่ผิด เพราะ full voice เอาเข้าจริง ก็สามารถทำลายเส้นเสียงได้ ในบางกรณี

ข้อ 22
ผมว่าที่คุณถามมา ตัวคุณเองก็น่าจะรู้แล้วนะ ถ้าอยากใช้เสียงจริง ต้องอย่าแคร์คนรอบข้าง ถ้าเสียงจริงคุณเป็นเสียงโหดๆน่ากลัว ก็ตามนั้นแหละ เลือกเอาว่าจะร้องแบบเสียงจริง หรือจะปรับเปลี่ยนเพื่อรักษาบรรยากาศหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ลองคิดดูนะ ซึ่งไม่ผิดทั้งคู่ ยังไงก็สามารถไพเราะได้ทั้งคู่

ข้อ 23
สุดแต่ใจ

ข้อ 24
รู้จักโน้ตดนตรีขั้นพื้นฐานก่อน ถ้าคนรู้จริง ใครถามโน้ตอะไร คุณจะสามารถตอบได้ทันที และแน่นอนว่าคุณก็จะต้องรู้ว่าจะต้องร้องโน้ตไหน คีย์อะไร ตัวผมเองตอนนี้รู้จักทุกโน้ตบนเปียโน แต่ช่วง octave 0 หรือ 1 ต้นๆ ผมยังลังเลอยู่

ข้อ 25
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่