คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
บันไดตามรูปของ จขกท. เป็นบันไดชนิดตรงประเภทหักมุม รูปแบบหักมุม 90 องศา 2 ครั้งต่อเนื่องในระนาบเดียวกัน ซึ่งก็คือชานพัก(Landing) แบ่งบันไดออกเป็น 2 ช่วง
บันไดมีชื่อว่า Half-turn or Dog-leg or Narrow -U Staircase มีชื่อทางไทยว่า บันไดแบบพับกลับหรือหักกลับ
ตามรูปใช้วัสดุ ค.ส.ล.
จุดที่ถามคือชานพัก
สามารถออกแบบ คำนวณให้ไม่มีคานใต้ชานพักด้านหน้า-ด้านข้างและเสาได้ แต่ยังคงคานด้านหลัง(ขอบนอก)ไว้ หรือไม่มีคานด้านหลังเลยก็ได้ เรียกบันไดชานพักลอย
ทั้งหมดต้องให้สถาปนิก ประสานงานกับวิศวกรในการออกแบบ คำนวณ ทั้งรูปลักษณ์และระบบโครงสร้างการรับแรงและน้ำหนักของบันได
เหตุผลคร่าวๆที่มีหรือไม่มีคานที่ชานพัก เพราะ
-สมัยก่อน บันไดมักทำจากไม้ทั้งหลัง ชานพักจึงต้องมีคานรับแม่บันไดทั้ง 2 ช่วง เมื่อมีการใช้ ค.ส.ล. จึงยังชินกับแบบจากไม้ อีกทั้งวัสดุ ส่วนประกอบยังเอื้อให้ทำแบบนั้น ดูได้จากบันไดบ้านจัดสรรส่วนใหญ่สมัย 30 ปี บันได 2 ช่วงเป็นไม้ ชานพักมักเป็นไม้ หรือที่พัฒนาขึ้น จะเป็นชานพักที่มีคาน ค.ส.ล. รอบชานพัก มีเสารับหรือเป็นคารยื่น ใช้ตงตัว T หงาย ปูด้วยอิฐบล๊อก แล้วเทปูนทับบน ปิดผิวไม้เป็นชานพัก
บันไดที่มีเสารับและคานรอบชานพัก ก็ยังมีมาถึงปัจจุบัน แต่เป็น ค.ส.ล. ทั้งหลัง และเนื่องจากบันไดมักถูกออกแบบอยู่ในกรอบผนัง 3 ด้าน ใต้บันไดจึงมักตีปิดเป็นห้องเก็บของ
-ในปัจจุบัน วิทยาการการออกแบบคำนวณ และวัสดุที่ใช้มีการพัฒนาก้าวหน้าขึ้น อีกทั้งบ้านเริ่มมีการให้บันไดอยู่ในที่โล่งมากขึ้น ไม่ต้องการปิดทึบ และโชว์บันไดมากขึ้น(เป็นการแสดงฐานะอย่างหนึ่ง) การมีเสาและคาน จึงดูเทอะทะล้าสมัย
-การก่อสร้างอาคาร บ้าน ที่หลายชั้นมากขึ้น ในการที่มีช่องและปล่องบันไดตรงกัน อาจมีช่วงบันไดต่างกัน ต้องการความโปร่งโล่งใต้ชานพักของชั้น และไม่ติดระยะดิ่งบันได
ฯลฯ
แก้ไขเพิ่มข้อมูล
บันไดมีชื่อว่า Half-turn or Dog-leg or Narrow -U Staircase มีชื่อทางไทยว่า บันไดแบบพับกลับหรือหักกลับ
ตามรูปใช้วัสดุ ค.ส.ล.
จุดที่ถามคือชานพัก
สามารถออกแบบ คำนวณให้ไม่มีคานใต้ชานพักด้านหน้า-ด้านข้างและเสาได้ แต่ยังคงคานด้านหลัง(ขอบนอก)ไว้ หรือไม่มีคานด้านหลังเลยก็ได้ เรียกบันไดชานพักลอย
ทั้งหมดต้องให้สถาปนิก ประสานงานกับวิศวกรในการออกแบบ คำนวณ ทั้งรูปลักษณ์และระบบโครงสร้างการรับแรงและน้ำหนักของบันได
เหตุผลคร่าวๆที่มีหรือไม่มีคานที่ชานพัก เพราะ
-สมัยก่อน บันไดมักทำจากไม้ทั้งหลัง ชานพักจึงต้องมีคานรับแม่บันไดทั้ง 2 ช่วง เมื่อมีการใช้ ค.ส.ล. จึงยังชินกับแบบจากไม้ อีกทั้งวัสดุ ส่วนประกอบยังเอื้อให้ทำแบบนั้น ดูได้จากบันไดบ้านจัดสรรส่วนใหญ่สมัย 30 ปี บันได 2 ช่วงเป็นไม้ ชานพักมักเป็นไม้ หรือที่พัฒนาขึ้น จะเป็นชานพักที่มีคาน ค.ส.ล. รอบชานพัก มีเสารับหรือเป็นคารยื่น ใช้ตงตัว T หงาย ปูด้วยอิฐบล๊อก แล้วเทปูนทับบน ปิดผิวไม้เป็นชานพัก
บันไดที่มีเสารับและคานรอบชานพัก ก็ยังมีมาถึงปัจจุบัน แต่เป็น ค.ส.ล. ทั้งหลัง และเนื่องจากบันไดมักถูกออกแบบอยู่ในกรอบผนัง 3 ด้าน ใต้บันไดจึงมักตีปิดเป็นห้องเก็บของ
-ในปัจจุบัน วิทยาการการออกแบบคำนวณ และวัสดุที่ใช้มีการพัฒนาก้าวหน้าขึ้น อีกทั้งบ้านเริ่มมีการให้บันไดอยู่ในที่โล่งมากขึ้น ไม่ต้องการปิดทึบ และโชว์บันไดมากขึ้น(เป็นการแสดงฐานะอย่างหนึ่ง) การมีเสาและคาน จึงดูเทอะทะล้าสมัย
-การก่อสร้างอาคาร บ้าน ที่หลายชั้นมากขึ้น ในการที่มีช่องและปล่องบันไดตรงกัน อาจมีช่วงบันไดต่างกัน ต้องการความโปร่งโล่งใต้ชานพักของชั้น และไม่ติดระยะดิ่งบันได
ฯลฯ
แก้ไขเพิ่มข้อมูล
แสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับคานล่างบันได
จากภาพ เวลาสร้างบ้านเเละทำบันไดชั้น 1 ขึ้นชั้น 2 ตำเเหน่งเลข 2 คือคานล่างบันได เราไม่ใส่เเละปล่อยโล่งได้มั๊ย
เฉพาะด้านหน้าตรงเลข 2 นะครับ ส่วนด้านข้างด้านหลังใส่คานหมด สามารถเอาตีนบันไดจากชั้นล่างเเละจะขึ้นไปชั้นบน
ฝากเเค่พื้นตำเเหน่งเลข 1 อย่างเดียว โดยที่ไม่มีคานเลข 2 นี่ ปกติทำได้มั๊ยครับ
ประมาณว่าเสริมเหล็กเอา ตอนนี้เห็นบางผู้รับเหมา บอกว่าทำบันไดไม่มีคานล่างด้านหน้า (ตรงเลข 2)
บอกว่าสามารถทำเเบบนี้ได้ มั่นคงเเข็งเเรงเหมือนกัน จริงเท็จเเค่ไหนครับ (ภาพตัวอย่างจากเน็ตนะครับ)