คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
ได้ยินข่าวนี้เมื่อวาน.........รันม่านึกได้เรื่องนึง
สัปดาห์ก่อน.........รันม่าได้มีโอกาส นั่งคุยกับว่าที่บัญฑิต กลุ่มนึง ที่กำลังจะถึงวันรับพระราชทานปริญญา ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
......ว่าที่บัญฑิตกลุ่มนี้ แสดงเจตจำนง ที่จะไม่เข้าร่วมพิธี ..... จะขอแต่งชุดครุยถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ในวันงานแค่นั้น
.............รันม่าก็เลยถามว่าทำไมหล่ะ.........ก็ได้คำตอบมาต่างๆนานา อ้อมแอ้มบ้าง ตอบแบบเกรงใจบ้าง....
............."ว่าไม่อยากเข้าไปนั่งรอ หลายๆชั่วโมง"...............
รันม่าตอบกลับไปว่า..." พวกเธอรู้ไหม......หลายๆชั่วโมง ที่พวกเธอเข้าไปนั่งรอ
.........พ่อแม่ ของพวกเธอ ก็จะนั่งรออยู่ข้างนอก เช่นกัน......... นั่งเฝ้าดูจอโมนิเตอร์...โดยไม่ยอมลุกไปไหน
.........นั่งรอคอย เพื่อเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่เธอ ขึ้นไปรับปริญญา.....น้ำตาท่านจะไหลด้วยความปิติยินดี........
.........ตั้งแต่วันที่เธอเกิด....ท่านรอมา 20 กว่าปี......รอวินาที ที่พวกท่านมีความสุขที่สุดในชีวิต..........."
........."พวกเธอมี โอกาส ตัดสินใจ แค่ครั้งเดียวในชีวิต.........เท่านั้นนะ................
.........รันม่าไม่รู้หรอกว่า เหตุผลคืออะไร....แต่อยากถามว่า........."พวกเธอทำให้คนที่ รักและทุ่มเท ให้พวกเธอมากที่สุดได้ไหม"
น้องๆเริ่มมองหน้ากัน.....บางคน ร้องไห้โฮออกมาเลย.......รันม่าก็ได้แต่ยิ้ม แล้วก็พูดทิ้งท้ายว่า
........."พวกเธอยังมีเวลาตัดสินใจ"...............
ทำให้รันม่านึกไรได้อีกอย่าง
ในอนาคตข้างหน้า............หากรันม่าต้องรับสมัคร ใครซักคนเข้ามาทำงาน
ไม่ได้เกี่ยวกับ ความเห็นทางการเมือง................
รันม่าจะขอรูปถ่าย....วันพระราชทานปริญญาบัตร...ประกอบใบสมัคร.......( ใครไม่มี คงต้องคุยกันยาวๆ.............)
เหตุผลคือ....................กับคนที่ รัก ทุ่มเท เสียสละ ทุกสิ่งทุกอย่างให้...............
..................................ถ้ายังทำไม่ได้...................................
นับประสาอะไร.......จะมาทำงานให้ องค์กร หน่วยงาน หรือทำเพื่อคนอื่น..............................
ใช่มะ....................................
สัปดาห์ก่อน.........รันม่าได้มีโอกาส นั่งคุยกับว่าที่บัญฑิต กลุ่มนึง ที่กำลังจะถึงวันรับพระราชทานปริญญา ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
......ว่าที่บัญฑิตกลุ่มนี้ แสดงเจตจำนง ที่จะไม่เข้าร่วมพิธี ..... จะขอแต่งชุดครุยถ่ายรูปกับเพื่อนๆ ในวันงานแค่นั้น
.............รันม่าก็เลยถามว่าทำไมหล่ะ.........ก็ได้คำตอบมาต่างๆนานา อ้อมแอ้มบ้าง ตอบแบบเกรงใจบ้าง....
............."ว่าไม่อยากเข้าไปนั่งรอ หลายๆชั่วโมง"...............
รันม่าตอบกลับไปว่า..." พวกเธอรู้ไหม......หลายๆชั่วโมง ที่พวกเธอเข้าไปนั่งรอ
.........พ่อแม่ ของพวกเธอ ก็จะนั่งรออยู่ข้างนอก เช่นกัน......... นั่งเฝ้าดูจอโมนิเตอร์...โดยไม่ยอมลุกไปไหน
.........นั่งรอคอย เพื่อเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่เธอ ขึ้นไปรับปริญญา.....น้ำตาท่านจะไหลด้วยความปิติยินดี........
.........ตั้งแต่วันที่เธอเกิด....ท่านรอมา 20 กว่าปี......รอวินาที ที่พวกท่านมีความสุขที่สุดในชีวิต..........."
........."พวกเธอมี โอกาส ตัดสินใจ แค่ครั้งเดียวในชีวิต.........เท่านั้นนะ................
.........รันม่าไม่รู้หรอกว่า เหตุผลคืออะไร....แต่อยากถามว่า........."พวกเธอทำให้คนที่ รักและทุ่มเท ให้พวกเธอมากที่สุดได้ไหม"
น้องๆเริ่มมองหน้ากัน.....บางคน ร้องไห้โฮออกมาเลย.......รันม่าก็ได้แต่ยิ้ม แล้วก็พูดทิ้งท้ายว่า
........."พวกเธอยังมีเวลาตัดสินใจ"...............
ทำให้รันม่านึกไรได้อีกอย่าง
ในอนาคตข้างหน้า............หากรันม่าต้องรับสมัคร ใครซักคนเข้ามาทำงาน
ไม่ได้เกี่ยวกับ ความเห็นทางการเมือง................
รันม่าจะขอรูปถ่าย....วันพระราชทานปริญญาบัตร...ประกอบใบสมัคร.......( ใครไม่มี คงต้องคุยกันยาวๆ.............)
เหตุผลคือ....................กับคนที่ รัก ทุ่มเท เสียสละ ทุกสิ่งทุกอย่างให้...............
..................................ถ้ายังทำไม่ได้...................................
นับประสาอะไร.......จะมาทำงานให้ องค์กร หน่วยงาน หรือทำเพื่อคนอื่น..............................
ใช่มะ....................................
แสดงความคิดเห็น
@@@ ชะตากรรม 3 กีบ @@@
.
13 มกราคม 2565 – นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักเคลื่อนไหว และผู้สื่อข่าวอาวุโสข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ โพสต์เฟซบุ๊กกล่าวถึง นายจตุพร แซ่อึ้ง หรือ นิว แกนนำกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอกว่า โทษทางอ้อมของคนโดนคดีการเมือง: กรณีจตุพร แซ่อึ้ง เมื่อต้นอาทิตย์ผมได้สัมภาษณ์ Jatuporn Saeoueng ผู้ซึ่งโดนคดีทางการเมือง 6 คดี รวมถึง ม.112 เพราะถูกกล่าวหาว่าแต่งตัวและเดินล้อเลียนพระราชินี สืบเนื่องจากการชุมนุมที่ถนนสีลมปลายปี 63
ตอนนี้เธอตกงานมาปีกว่าแล้ว พยายามหางาน ไปสมัครเป็นผู้ช่วยพ่อครัว sous chef ซึ่งเป็นอาชีพเธอก่อนเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง ก็ได้รับการปฎิเสธ บอกให้ไปเคลียร์คดีให้เสร็จก่อน
“มันไม่ใช่แค่รู้สึกหรอก มันลองมาแล้ว 4-5 ที่ เขาบอกเคลียร์คดีตัวเองให้เสร็จก่อน… พอรู้ว่าโดนคดีก็ไม่มีใครกล้ารับไปทำงาน หลังๆมาก็พยายามทำของขาย แต่เศรษฐกิจแบบนี้ขายไม่ได้ ตอนนี้คิดว่าจะปลูกผัก”
(จตุพรเองก็เข้าใจ ถ้าต้องลาที 2-3 วันบ่อยๆ เพื่อไปทำธุระเรื่องคดีที่กรุงเทพฯ หรือขอนแก่น คงไม่มีใครทำอาหาร แล้วนายจ้างคงลำบาก)
ตอนนี้เธออยู่ที่บุรีรัมย์ อาศัยบ้านพ่อแม่ที่อยู่จังหวัดอื่น และแม่ก็ส่งเงินมาช่วยบ้างแม้ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย อาหารหลักจึงเป็นมาม่ากับไข่ เป็นหนี้ธนาคาร 12,000 บาท ยังดีที่ระยะหลังมีกองทุนสาธารณะฝั่งไม่เอา 112 ให้เบิกค่าเดินทางและที่พักได้ แต่ค่าอาหารต้องจ่ายเอง ไม่รวมถึงเวลาที่เสียไป
ส่วนการโดน 6 คดีทางการเมืองแปลว่าเธอต้องเดินทางจากบุรีรัมย์เข้ากรุง 6-7 ครั้งแล้วตลอดปีกว่า บางครั้งเพื่อเซ็นลายมือในเอกสารเพียงจุดเดียว เพราะระบบราชการไทยไม่ยอมให้เซ็นที่ภูมิลำเนา และยังมีคดีที่ขอนแก่นและบุรีรัมย์
“คือมัน plan ชีวิตลำบากมาก” จตุพร ซึ่งปัจจุบันอายุ 25 และเป็น LGBT บอกผม “ใช่ค่ะ มันแค่นั้นเลยชีวิต”
พ่อแม่แฟนจตุพร ที่กาฬสินธุ์ได้รับการเยี่ยมเยี่ยนจากเจ้าหน้าที่รัฐ ไซโคบอกพวกเขาว่าอย่าให้ลูกสาวไปคบกับจตุพร เพราะเรื่องการเมืองและคดี บลาๆๆ
ปีที่แล้วเธอกินยาแก้เครียดอยู่ 4 เดือน แต่ในที่สุดก็ตัวสินใจหยุด แล้วหันไปใช้เทียนหอมและน้ำมันสกัดแทน แต่ก็ยังมีปัญหานอนไม่หลับ เบ้าตาคล้ำ
“มันเอ๋อ” จตุพรกล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจเลิกทานยา “มันเอ๋อ” คืออาการตอนเช้าหลังกินยา
ปีนี้เข้าปีที่ 2 ตั้งแต่โดนคดี คดี 112 อัยการสั่งฟ้องไปแล้ว เริ่มพิจารณาคดีเดือนมิถุนานี้
“หนูรู้สึกว่าเขาทำให้เราเสียเวลาชีวิต จะฟ้องก็ไม่ฟ้อง จะทำให้เรารู้สึกเหนื่อย ซึ่งมันได้ผล… [แต่] ต่อสู้ ต่อสู้อยู่แล้ว แค่เหนื่อย มันมาขนาดนี้ มันถอยไม่ได้” จตุพรกล่าวทิ้งทายกับผม
อัพเดตและติดตามข่าวสารได้ที่
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCpG6B-L1CRtYtMW8ZwU08BQ
.
#bangkokfuture