สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ตอบสำหรับ blackpink นะเพราะว่าเป็นสแตนตึกดำ
uniqueness
- ด้านรูปลักษณ์ภายนอก ทุกคนสวยแบบมีเวย์ของตัวเอง โดยไม่ต้องให้กรอบความสวยตามแบบเกาหลีมากำหนด แต่สามารถสร้างมาตรฐานความสวยได้เอง
- ด้านคาแร็คเตอร์ แต่ละคนยิ่งโตจะเห็นเวย์ของตัวเองมากขึ้นจากไลฟ์สไตล์ สิ่งของที่เขาใช้ แฟชั่น กลุ่มเพื่อนที่ hang out กิจกรรมต่างๆ ไม่ต้องสร้างความหยิ่งแพงหรู น่ารักพูดน้อยขี้อาย อย่าง จีซูก็อบอุ่น ตลก ไม่ห่วงสวย ซัพพอร์ทน้องๆ ผ่านมากี่ปีเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น เจนนี่คาแร็คเตอร์คุณหนูชองดัม ดงยังไงก็เพราะเขาเกิดมาแบบนี้ โรเซ่ก็มีพื้นเพแบบศิลปินจ๋ามันก็ติดตัวเขามาแบบนั้นตั้งแต่แรก ลิซ่าไนซ์ๆแต่พอถึงเวลาแสดงก็เป็นอีกคน นี่ก็คือเขา มันเลยรู้สึกเรียล และแตกต่าง ทำให้วงนี้ขายเดี่ยวก็ไม่ตาย อยู่รวมยิ่งปัง
- เวย์ด้านแฟชั่น สี่คนนี้ยอมรับเลยว่าเทสท์ดีจริงๆ ไม่ใช่เห็นใครแต่งตัวสวยแล้วไปแต่งตามเขา แต่คือ trendsetter จริงๆ โดยเฉพาะเจนนี่ เห็นตั้งแต่เดบิวต์
- เพลง เรารู้สึกว่าเพลง blackpink ก็ยูนีค ฟังแต่บีทก็รู้เลยว่าของ blackpink ใครจะบอกว่า bp ทำเพลงแนวตลาดนี่เถียงนะ เพลงมันแปลกจริงๆ trap arab hiphop edm pop/dance อยู่ในเพลงเดียวกัน แค่มันสามารถ blend กันได้อย่างดีไงคนเลยไม่ขัดหู เพลงแปลก≠เพลงไม่เพราะนะ อันนี้ต้องแยก เพลงแปลกสามารถทำให้เพราะได้
เราเคยเห็นคอมเม้นท์นึงของแฟนคลับศิลปินคนนึงว่านักแต่งเพลงวงของศิลปินวงนั้นมักจะทำเพลงแนวไวรัล เราเถียงในใจว่าเพลงแนวไวรัลไม่มีจริงนะคะ แล้วก็ไม่เคยมีด้วย มันต้องเกิดจากสาธารณะชนทำ แต่สำหรับเรา blackpink แอบทำให้เราคิดว่า เอ๊ะ หรือเพลงแนวไวรัลจะมีจริง เพราะตั้งแต่เดบิวต์มาไม่มีเพลงไหนไม่ไวรัลเลย stay ที่โดนบุลลี่ก็ 300M+ นะ
-3 ใน 4 สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
-ไม่ได้เดินตามแนวทางใคร ช่วงแรกของวงเรายังมีติดภาพของ 2ne1 บ้าง อาจจะเพราะความเป็น yg และมี 4 คนแต่หลังจาก bp ติดตลาดอินเตอร์เราก็ไม่เห็นภาพนั้นอีกแล้ว เขาดังได้ด้วยแนวทางของตัวเอง ตอบคำถามที่คุณถามว่าถ้ามีคนทำตามแล้วจะประสบความสำเร็จไหม เราไม่แน่ใจ แต่ถ้ามันตามง่ายขนาดนั้น ไมเคิล ตั๋ง ก็คงดังเท่าไมเคิล แจ็คสันแล้ว
- ดวง อันนี้ก็มีส่วน
เสริมนะคะ
เราชอบดูคลิปรีแอคชั่นของ non kpop คลิปที่ทำให้คนว้าวของ blackpink คือ how you like that แต่คลิปที่ตกคนได้และแทบทุกรีแอคจะพูดคำว่า “they’re so talented” คือคลิปนี้ นั่งร้องชิลๆ ไม่ได้พ่นไฟตลอด แร๊พก็ไม่ต้อง 20 คำต่อ 1 วิ เราว่าอะไรที่มันเรียลและกลมกล่อมมันน่าจะทัชคนได้มากกว่า
uniqueness
- ด้านรูปลักษณ์ภายนอก ทุกคนสวยแบบมีเวย์ของตัวเอง โดยไม่ต้องให้กรอบความสวยตามแบบเกาหลีมากำหนด แต่สามารถสร้างมาตรฐานความสวยได้เอง
- ด้านคาแร็คเตอร์ แต่ละคนยิ่งโตจะเห็นเวย์ของตัวเองมากขึ้นจากไลฟ์สไตล์ สิ่งของที่เขาใช้ แฟชั่น กลุ่มเพื่อนที่ hang out กิจกรรมต่างๆ ไม่ต้องสร้างความหยิ่งแพงหรู น่ารักพูดน้อยขี้อาย อย่าง จีซูก็อบอุ่น ตลก ไม่ห่วงสวย ซัพพอร์ทน้องๆ ผ่านมากี่ปีเป็นยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น เจนนี่คาแร็คเตอร์คุณหนูชองดัม ดงยังไงก็เพราะเขาเกิดมาแบบนี้ โรเซ่ก็มีพื้นเพแบบศิลปินจ๋ามันก็ติดตัวเขามาแบบนั้นตั้งแต่แรก ลิซ่าไนซ์ๆแต่พอถึงเวลาแสดงก็เป็นอีกคน นี่ก็คือเขา มันเลยรู้สึกเรียล และแตกต่าง ทำให้วงนี้ขายเดี่ยวก็ไม่ตาย อยู่รวมยิ่งปัง
- เวย์ด้านแฟชั่น สี่คนนี้ยอมรับเลยว่าเทสท์ดีจริงๆ ไม่ใช่เห็นใครแต่งตัวสวยแล้วไปแต่งตามเขา แต่คือ trendsetter จริงๆ โดยเฉพาะเจนนี่ เห็นตั้งแต่เดบิวต์
- เพลง เรารู้สึกว่าเพลง blackpink ก็ยูนีค ฟังแต่บีทก็รู้เลยว่าของ blackpink ใครจะบอกว่า bp ทำเพลงแนวตลาดนี่เถียงนะ เพลงมันแปลกจริงๆ trap arab hiphop edm pop/dance อยู่ในเพลงเดียวกัน แค่มันสามารถ blend กันได้อย่างดีไงคนเลยไม่ขัดหู เพลงแปลก≠เพลงไม่เพราะนะ อันนี้ต้องแยก เพลงแปลกสามารถทำให้เพราะได้
เราเคยเห็นคอมเม้นท์นึงของแฟนคลับศิลปินคนนึงว่านักแต่งเพลงวงของศิลปินวงนั้นมักจะทำเพลงแนวไวรัล เราเถียงในใจว่าเพลงแนวไวรัลไม่มีจริงนะคะ แล้วก็ไม่เคยมีด้วย มันต้องเกิดจากสาธารณะชนทำ แต่สำหรับเรา blackpink แอบทำให้เราคิดว่า เอ๊ะ หรือเพลงแนวไวรัลจะมีจริง เพราะตั้งแต่เดบิวต์มาไม่มีเพลงไหนไม่ไวรัลเลย stay ที่โดนบุลลี่ก็ 300M+ นะ
-3 ใน 4 สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้
-ไม่ได้เดินตามแนวทางใคร ช่วงแรกของวงเรายังมีติดภาพของ 2ne1 บ้าง อาจจะเพราะความเป็น yg และมี 4 คนแต่หลังจาก bp ติดตลาดอินเตอร์เราก็ไม่เห็นภาพนั้นอีกแล้ว เขาดังได้ด้วยแนวทางของตัวเอง ตอบคำถามที่คุณถามว่าถ้ามีคนทำตามแล้วจะประสบความสำเร็จไหม เราไม่แน่ใจ แต่ถ้ามันตามง่ายขนาดนั้น ไมเคิล ตั๋ง ก็คงดังเท่าไมเคิล แจ็คสันแล้ว
- ดวง อันนี้ก็มีส่วน
เสริมนะคะ
เราชอบดูคลิปรีแอคชั่นของ non kpop คลิปที่ทำให้คนว้าวของ blackpink คือ how you like that แต่คลิปที่ตกคนได้และแทบทุกรีแอคจะพูดคำว่า “they’re so talented” คือคลิปนี้ นั่งร้องชิลๆ ไม่ได้พ่นไฟตลอด แร๊พก็ไม่ต้อง 20 คำต่อ 1 วิ เราว่าอะไรที่มันเรียลและกลมกล่อมมันน่าจะทัชคนได้มากกว่า
ความคิดเห็นที่ 10
กระทู้แบบนี้มีเยอะมากนะ 55 แต่ก็อยากตอบ ส่วนตัวผมตอบไม่เหมือนกันซักรอบหรอก เพราะมันมีหลายอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้มาเป็นตัวอักษรได้หมด
สิ่งที่ผมจะตอบคือสิ่งที่ผมคิดว่า BTS แตกต่าง..
สำหรับ BTS คือ "เพลง" ถ้าใครฟังเพลง BTS จะรู้ว่าแตกต่างจริง ๆ ไม่รู้ว่าอวยเกินไปไหมนะ แต่เพลงของ BTS ฟังแบบไม่รู้ว่าความหมาย แต่รับรู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อได้ พอรู้ความหมายก็ยิ่งทำให้มันอินกับเพลงยิ่งขึ้นไปอีก ต่อให้แปลออกมาเป็นภาษาไหน มันก็สวยงามทุกภาษาอ่ะ
อีกอย่างเพลงของ BTS หลากหลายมาก ไม่ใช่แค่แนวดนตรี แต่เนื้อเพลงก็หลากหลายเช่นกัน ทำให้แฟนคลับ BTS หลากหลายตามไปด้วย ตั้งแต่วัยเด็ก ไปจนถึงวัยคุณปู่คุณย่าเลยแหละ
ขออนุญาตยกตัวอย่างมาซัก 5 เพลงที่ผมคิดว่าเพลงของ BTS นั้นแตกต่างจากวงอื่น
1. เพลง 'Move' เป็นเพลงที่ BTS แต่งให้หอเก่าอ่ะ แต่งเพลงบอกลาหอเก่าได้แบบเศร้าสุด ๆ เนื้อเพลงเล่าตั้งแต่มาเจอกันครั้งแรก จนถึงวันสุดท้ายที่ต้องเก็บของออกจากหอ
2. Ma City เพลงอวยบ้านเกิดของแต่ละคน ชวนมาเที่ยวบ้านเกิด แถมท่อนเจโฮป ใส่รหัส 062-518 ไว้ในเพลงด้วย (062 คือรหัสพื้นที่ของกวางจู ส่วน 518 คือ 18 พ.ค. ซึ่งเป็นวันลุกฮือเรียกร้องประชาธิปไตยและนักศึกษาในเมืองกวาวจู เมืองเกิดของเจโฮป)
3. Whalien 52 นี่ก็เปรียบเทียบตัวเองเหมือน Whale 52hz ที่มีคลื่นเสียงความถี่ต่างจากวาฬตัวอื่น ทำให้ไม่มีวาฬตัวไหนได้ยินมัน ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบกับตัวเองในยุคที่ยังไม่มีชื่อเสียงมาก พูดหรือร้องอะไรไปมักไม่มีใครสนใจ (แล้วเพลงนี้ใช้ดนตรีคล้ายกับเสียงวาฬทั้งเพลงด้วย)
4. Friends เป็นเพลงเล่าเรื่องของเพื่อน 95 ไลน์ของแทฮยองและจีมิน ที่เล่าออกมาเป็นเพลงได้ดีมาก เนื้อเพลงเล่าตั้งแต่การเจอกันครั้งแรกตั้งสมัยเป็นเด็กฝึกและนักเรียนด้วยกัน ทั้งคู่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาจนสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
5. Black Swan เพลงนี้เหมือนเจาะเข้าไปถึงจิตใจด้านลึกของตัวเอง คือเป็นเพลงที่เล่าถึงการกลัวหมดแพชชั่นในสิ่งที่ตัวเองรัก Black Swan คือคำพูดของนักเต้น Martha Graham "นักเต้นตาย 2 ครั้ง" การตายครั้งแรกคือการหยุดเต้น และการตายครั้งแรกมันเจ็บปวดยิ่งกว่า ซึ่ง BTS คงเปรียบตัวเองว่าวันใดต้องหยุดร้องเพลง หยุดทำเพลง หยุดทำการแสดง มันคือการตายครั้งแรก ที่เจ็บปวดที่สุด
เพลงดี ๆ ของ BTS ยังมีอีกเป็น 100 200 เพลงนะ ความหมายดี ๆ เมโลดี้สวย ๆ ดนตรีเพราะ ๆ ยังมีอีกเยอะ พิมพ์ขนาดนี้ใครยังไม่เคยฟังเพลงของ BTS ลองเปิดใจฟังหลาย ๆ เพลงของ BTS ดูครับ แล้วจะรู้ว่า BTS แตกต่างยังไง ทำไมขึ้นมาเป็นศิลปินระดับโลกแห่งยุคได้ ผมมาเป็น ARMY ได้ก็เพราะเพลงของ BTS นี่แหละ 👍
>> ค่ายอื่นถ้าเดินตามแพทเทิร์นของ BTS นี้จะสามารถประสบผลสำเร็จได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ 100% — เพราะเพลงของ BTS หลาย ๆ เพลงแต่งมาจากประสบการณ์จริงของเมมเบอร์ ความรู้สึกและอารมณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ มันกลายมาเป็นเพลงของ BTS มากมาย.. หลาย ๆ เพลงได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ จากคนดัง จากสิ่งรอบตัวที่พบเห็น หรือแม้กระทั้งจากโรคระบาดอย่าง Covid-19
สิ่งที่ผมจะตอบคือสิ่งที่ผมคิดว่า BTS แตกต่าง..
สำหรับ BTS คือ "เพลง" ถ้าใครฟังเพลง BTS จะรู้ว่าแตกต่างจริง ๆ ไม่รู้ว่าอวยเกินไปไหมนะ แต่เพลงของ BTS ฟังแบบไม่รู้ว่าความหมาย แต่รับรู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อได้ พอรู้ความหมายก็ยิ่งทำให้มันอินกับเพลงยิ่งขึ้นไปอีก ต่อให้แปลออกมาเป็นภาษาไหน มันก็สวยงามทุกภาษาอ่ะ
อีกอย่างเพลงของ BTS หลากหลายมาก ไม่ใช่แค่แนวดนตรี แต่เนื้อเพลงก็หลากหลายเช่นกัน ทำให้แฟนคลับ BTS หลากหลายตามไปด้วย ตั้งแต่วัยเด็ก ไปจนถึงวัยคุณปู่คุณย่าเลยแหละ
ขออนุญาตยกตัวอย่างมาซัก 5 เพลงที่ผมคิดว่าเพลงของ BTS นั้นแตกต่างจากวงอื่น
1. เพลง 'Move' เป็นเพลงที่ BTS แต่งให้หอเก่าอ่ะ แต่งเพลงบอกลาหอเก่าได้แบบเศร้าสุด ๆ เนื้อเพลงเล่าตั้งแต่มาเจอกันครั้งแรก จนถึงวันสุดท้ายที่ต้องเก็บของออกจากหอ
2. Ma City เพลงอวยบ้านเกิดของแต่ละคน ชวนมาเที่ยวบ้านเกิด แถมท่อนเจโฮป ใส่รหัส 062-518 ไว้ในเพลงด้วย (062 คือรหัสพื้นที่ของกวางจู ส่วน 518 คือ 18 พ.ค. ซึ่งเป็นวันลุกฮือเรียกร้องประชาธิปไตยและนักศึกษาในเมืองกวาวจู เมืองเกิดของเจโฮป)
3. Whalien 52 นี่ก็เปรียบเทียบตัวเองเหมือน Whale 52hz ที่มีคลื่นเสียงความถี่ต่างจากวาฬตัวอื่น ทำให้ไม่มีวาฬตัวไหนได้ยินมัน ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบกับตัวเองในยุคที่ยังไม่มีชื่อเสียงมาก พูดหรือร้องอะไรไปมักไม่มีใครสนใจ (แล้วเพลงนี้ใช้ดนตรีคล้ายกับเสียงวาฬทั้งเพลงด้วย)
4. Friends เป็นเพลงเล่าเรื่องของเพื่อน 95 ไลน์ของแทฮยองและจีมิน ที่เล่าออกมาเป็นเพลงได้ดีมาก เนื้อเพลงเล่าตั้งแต่การเจอกันครั้งแรกตั้งสมัยเป็นเด็กฝึกและนักเรียนด้วยกัน ทั้งคู่ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มาจนสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
5. Black Swan เพลงนี้เหมือนเจาะเข้าไปถึงจิตใจด้านลึกของตัวเอง คือเป็นเพลงที่เล่าถึงการกลัวหมดแพชชั่นในสิ่งที่ตัวเองรัก Black Swan คือคำพูดของนักเต้น Martha Graham "นักเต้นตาย 2 ครั้ง" การตายครั้งแรกคือการหยุดเต้น และการตายครั้งแรกมันเจ็บปวดยิ่งกว่า ซึ่ง BTS คงเปรียบตัวเองว่าวันใดต้องหยุดร้องเพลง หยุดทำเพลง หยุดทำการแสดง มันคือการตายครั้งแรก ที่เจ็บปวดที่สุด
เพลงดี ๆ ของ BTS ยังมีอีกเป็น 100 200 เพลงนะ ความหมายดี ๆ เมโลดี้สวย ๆ ดนตรีเพราะ ๆ ยังมีอีกเยอะ พิมพ์ขนาดนี้ใครยังไม่เคยฟังเพลงของ BTS ลองเปิดใจฟังหลาย ๆ เพลงของ BTS ดูครับ แล้วจะรู้ว่า BTS แตกต่างยังไง ทำไมขึ้นมาเป็นศิลปินระดับโลกแห่งยุคได้ ผมมาเป็น ARMY ได้ก็เพราะเพลงของ BTS นี่แหละ 👍
>> ค่ายอื่นถ้าเดินตามแพทเทิร์นของ BTS นี้จะสามารถประสบผลสำเร็จได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ 100% — เพราะเพลงของ BTS หลาย ๆ เพลงแต่งมาจากประสบการณ์จริงของเมมเบอร์ ความรู้สึกและอารมณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ มันกลายมาเป็นเพลงของ BTS มากมาย.. หลาย ๆ เพลงได้รับแรงบันดาลใจจากหนังสือ จากคนดัง จากสิ่งรอบตัวที่พบเห็น หรือแม้กระทั้งจากโรคระบาดอย่าง Covid-19
ความคิดเห็นที่ 11
ขอยกบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับวง BTSของคุณ คิมยองแด นักวิจารณ์เพลงที่มีชื่อเสียง เป็นสมาชิกของ KMA, นักเขียนของ RollingStone KR เค้าวิเคราะห์ได้ดีมากเลย แต่อาจจะยาวหน่อย
MC: ความจริงแล้วศิลปินเกาหลีหลายคนก็เคยเดบิวต์ในอเมริกา แต่มีเพียง BTS วงเดียวเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คุณพอจะพูดอย่างตรงไปตรงมาและบอกเราได้ไหมครับว่าเป็นเพราะอะไร?
YD: ผมให้ให้คำนิยาม BTS อย่างนี้คับ BTS เป็นต้นแบบ KPOP ที่มีการพัฒนา (วิวัฒนาการ) มากที่สุด อย่างที่คุณบอกว่า KPOP เคยไปบุกตลาดโลกมาแล้ว ซึ่งก็ได้รับความรักจากแฟนๆทั่วโลก สมาชิกที่หน้าตาสวยหล่อพร้อมด้วยทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยม รวมถึงเพลงที่ดี สิ่งเหล่านี้รวมตัวกันออกมาเป็นผลลัพท์ที่เห็น และ BTS ก็มีทั้งหมดนั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด BTS ถ่ายทอดถ้อยความที่จริงใจ ทัศนคติซื่อตรงและไม่เสแสร้งผนวกกับถ้อยความที่มีความเฉพาะตัวที่พวกเขาสื่อออกมามันทัชใจผู้คน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามในอุตสาหกรรม kpop และมันก็โดนใจคนจำนวนมาก
MC: พวกเขาต่างก็มีความสามารถ แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆก็คือข้อความที่พวกเขาถ่ายทอดออกมาสินะคับ
YD:ใช่ครับ ในอดีตสื่อดังๆสร้างภาพให้วง kpop เป็นเหมือน “ไอดอลอุตสาหกรรม” หมายความว่าไอดอลถูกผลิตขึ้นในบริษัทบันเทิง ซึ่งจริงๆวิธีผลิตศิลปินด้วยการเทรนด์ตามระบบนั้นถูกสบประมาทอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม BTS ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบ พวกเขามอง BTS ค่อนข้างจะแตกต่างออกไป ซึ่งBTS มีส่วนร่วมในการผลิตผลงานเพลงจริงๆ และเขียนความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาลงไปในเนื้อเพลง BTS จึงถูกมองว่าเป็นศิลปินมากกว่าไอดอลในรูปแบบที่พวกเราคุ้นชินกัน อันที่จริงในฐานะศิลปิน วงก็ได้แสดงอัตลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้วครับ
มีอีก 1 ประเด็นตัวอย่างก็คือเรื่องการวิจารณ์เพลงของ BTS ปกติแล้วเราจะมีภาพไอดอล kpop ในอุดมคติที่คิดไว้ คือสวยหล่อและดูดี ข้อความที่ภาพลักษณ์แบบนั้นจะถ่ายทอดออกมาก็จะเป็นคนที่อยากจะโชว์ด้านที่สมบูรณ์แบบและด้านที่ดีที่สุดของตัวเองเพื่อจะได้เป็นที่รัก แต่ในทางกลับกัน เพลงและเนื้อเพลงของ BTS จะสื่อออกมาอย่างเปิดอกตรงไปตรงมาเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญ รวมทั้งความสิ้นหวังและเจ็บปวดของพวกเขาด้วย
MC: ดังนั้นในบางครั้ง เพลงของพวกเขาจึงอธิบายให้เห็นถึงความคิดของวัยรุ่นที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายใช่ไหมครับ
YD: ใช่ครับ อัลบั้ม SKOOL TRILOGY ในช่วงแรกของ BTS จะพูดถึงความสุขและความฝันของวัยรุ่นตอนเป็นนักเรียน และหลังจากนั้นก็จะเกี่ยวกับเรื่องปรัชญาและวรรณกรรมมากขึ้นเช่น การรักตัวเอง การค้นหาตัวตนของตัวเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ BTS แตกต่างจากคนอื่นๆ ครับ
Cr: https://twitter.com/FreshGboyD/status/1303297134129606657?t=dkQik1CU67mXxpNDEE3JTA&s=19
MC: ความจริงแล้วศิลปินเกาหลีหลายคนก็เคยเดบิวต์ในอเมริกา แต่มีเพียง BTS วงเดียวเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คุณพอจะพูดอย่างตรงไปตรงมาและบอกเราได้ไหมครับว่าเป็นเพราะอะไร?
YD: ผมให้ให้คำนิยาม BTS อย่างนี้คับ BTS เป็นต้นแบบ KPOP ที่มีการพัฒนา (วิวัฒนาการ) มากที่สุด อย่างที่คุณบอกว่า KPOP เคยไปบุกตลาดโลกมาแล้ว ซึ่งก็ได้รับความรักจากแฟนๆทั่วโลก สมาชิกที่หน้าตาสวยหล่อพร้อมด้วยทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยม รวมถึงเพลงที่ดี สิ่งเหล่านี้รวมตัวกันออกมาเป็นผลลัพท์ที่เห็น และ BTS ก็มีทั้งหมดนั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใด BTS ถ่ายทอดถ้อยความที่จริงใจ ทัศนคติซื่อตรงและไม่เสแสร้งผนวกกับถ้อยความที่มีความเฉพาะตัวที่พวกเขาสื่อออกมามันทัชใจผู้คน ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกมองข้ามในอุตสาหกรรม kpop และมันก็โดนใจคนจำนวนมาก
MC: พวกเขาต่างก็มีความสามารถ แต่สิ่งที่สำคัญจริงๆก็คือข้อความที่พวกเขาถ่ายทอดออกมาสินะคับ
YD:ใช่ครับ ในอดีตสื่อดังๆสร้างภาพให้วง kpop เป็นเหมือน “ไอดอลอุตสาหกรรม” หมายความว่าไอดอลถูกผลิตขึ้นในบริษัทบันเทิง ซึ่งจริงๆวิธีผลิตศิลปินด้วยการเทรนด์ตามระบบนั้นถูกสบประมาทอยู่บ่อยครั้ง อย่างไรก็ตาม BTS ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบ พวกเขามอง BTS ค่อนข้างจะแตกต่างออกไป ซึ่งBTS มีส่วนร่วมในการผลิตผลงานเพลงจริงๆ และเขียนความรู้สึกนึกคิดของพวกเขาลงไปในเนื้อเพลง BTS จึงถูกมองว่าเป็นศิลปินมากกว่าไอดอลในรูปแบบที่พวกเราคุ้นชินกัน อันที่จริงในฐานะศิลปิน วงก็ได้แสดงอัตลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้วครับ
มีอีก 1 ประเด็นตัวอย่างก็คือเรื่องการวิจารณ์เพลงของ BTS ปกติแล้วเราจะมีภาพไอดอล kpop ในอุดมคติที่คิดไว้ คือสวยหล่อและดูดี ข้อความที่ภาพลักษณ์แบบนั้นจะถ่ายทอดออกมาก็จะเป็นคนที่อยากจะโชว์ด้านที่สมบูรณ์แบบและด้านที่ดีที่สุดของตัวเองเพื่อจะได้เป็นที่รัก แต่ในทางกลับกัน เพลงและเนื้อเพลงของ BTS จะสื่อออกมาอย่างเปิดอกตรงไปตรงมาเกี่ยวกับปัญหาที่พวกเขากำลังเผชิญ รวมทั้งความสิ้นหวังและเจ็บปวดของพวกเขาด้วย
MC: ดังนั้นในบางครั้ง เพลงของพวกเขาจึงอธิบายให้เห็นถึงความคิดของวัยรุ่นที่กำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายใช่ไหมครับ
YD: ใช่ครับ อัลบั้ม SKOOL TRILOGY ในช่วงแรกของ BTS จะพูดถึงความสุขและความฝันของวัยรุ่นตอนเป็นนักเรียน และหลังจากนั้นก็จะเกี่ยวกับเรื่องปรัชญาและวรรณกรรมมากขึ้นเช่น การรักตัวเอง การค้นหาตัวตนของตัวเอง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ BTS แตกต่างจากคนอื่นๆ ครับ
Cr: https://twitter.com/FreshGboyD/status/1303297134129606657?t=dkQik1CU67mXxpNDEE3JTA&s=19
ความคิดเห็นที่ 32
ขอตอบในส่วนของ BTS นะคะ
เพลงหลากหลายมากและเนื้อหาน่าสนใจ - BTS เป็นศิลปินที่ขึ้นชื่อเรื่อง diversity และ lyricism แนวเพลงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ยังคงเนื้อหาที่ละเอียดลึกซึ้งและมีเรื่องราวที่หลากหลายทั้งประสบการณ์ส่วนตัวของตัววงและของเมมเบอร์แต่ละคน บวกกับการที่เมมเบอร์ทุกคนสามารถเขียนเพลงเองได้ดีทุกคน เมมเบอร์ 3 ใน 7 คนถือลิขสิทธิ์เพลงเกิน 100+ เพลง
เอกลักษณ์ - แร็ปไลน์ 3 คนมีสไตล์การแร็ปที่แตกต่างกันชัดเจน รวมถึงแนวเพลงและเนื้อหาเพลงจากมิกซ์เทปของแต่ละคนก็ไวบ์ต่างกันมาก โวคอลไลน์ 4 คนไม่ใช่สายเทคนิคแต่เป็นสาย stylistic เนื้อเสียงมีความยูนีคสูง และเพลงเดี่ยวของแต่ละคนก็ฉีกแนวไปคนละทางเช่นกัน
การผสมผสานแบบยูนิต - BTS มีทั้งเพลงวง เพลงเดี่ยว เพลงที่แบ่งยูนิตแบบ 3-4 หรือ 2-2-3 โดยที่ไม่ต้องทำอัลบั้มแยกหรือซิงเกิ้ลแยก ไม่จำกัดอยู่แค่เพลงที่ร้องครบทุกคนแล้วมีแค่ยูนิตแร็ปไลน์หรือโวคอลไลน์เหมือนวงอื่น
Performance - แร็ปไลน์ 3 คน มี 2 คนเป็นแร็ปเปอร์ใต้ดินมาก่อน อีกคนนึงเป็นนักเต้นอาชีพสาย street dance และมีโวคอลเป็นนักเต้นสาย contemporary แถมเมนเต้นเป็นตัวท็อปด้านการเต้นของวงการทั้งคู่ ทำให้มีสเตจที่หลายรูปแบบ เต้นเป๊ะทุกองศาแบบหุ่นยนต์ เต้นจังหวะพร้อมแต่มีไลน์เต้นของตัวเอง หรือแบบฟรีสไตล์เน้นเอ็นเตอร์เทนคนดู สำคัญที่สุดคือเน้นการร้องสด มีแอดลิปและอิมโพรไวซ์ที่เป็นธรรรมชาติ เพลงเดียวกันแต่สามารถเพิร์ฟออกมาได้แตกต่างกันทุกสเตจ
การวางตัวและทัศนคติ - อันนี้สำคัญมากสำหรับวงการบันเทิงระดับโลก หัวหน้าวงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีและพูดในที่สาธารณะได้ในระดับ inspirer อย่างที่คหบนๆ บอก มีความเป็นผู้นำสูงมาก ฉลาดและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี อีกอย่างที่ชื่นชมมากๆ คือเมมเบอร์ทุกคนรับมือกับคำถามจากสื่อได้ดีมาก ทั้งสื่อเกาหลีและสื่อตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นคำถามเชิงโจมตีหรือนำไปสู่ดราม่า รวมถึงการสร้างบรรยากาศสนุกๆ ระหว่างการสัมภาษณ์รายการต่างๆ แม้ว่าจะมีเมมเบอร์ที่พูดภาษาอังกฤษคล่องแค่คนเดียว ส่วนเรื่องทัศนคติ ส่วนใหญ่น่าจะเห็นผ่านสื่อกันอยู่แล้ว
ปัจจัยพื้นฐานที่เรานึกออกมีเท่านี้ จริงๆ แล้วก็ยังไม่เคยเจอวงไหนในเคป็อปที่มีคุณสมบัติครบตามนี้เลย บางวงเด่นเรื่องแร็ป บางวงเด่นเรื่องร้อง บางวงทำได้ดีพอๆ กันแต่ไม่ถึงกับโดดเด่น เนื้อเสียงไม่มีเอกลักษณ์ เมมเบอร์บางคนไม่มีจุดเด่น เนื้อหาเพลงไม่ดึงดูด แนวเพลงไม่หลากหลาย เพลงอยู่ในกรอบของโปรดิวเซอร์มากเกินไป หรือมีเมมเบอร์เต้นเก่งแต่พอ performance ออกมาแล้วดูจำเจ ฯลฯ ตลาดเพลงระดับโลกไม่ใช่หวยที่จะพลิกชีวิตได้ในชั่วข้ามคืน อย่าลืมว่า BTS เป็นแนวหน้าของเคป็อปในอเมริกาตั้งแต่ 2015 และแซงหน้าทุกวงแบบทิ้งห่างได้ในปี 2016 ทั้งที่ไม่ได้โปรโมต ไม่มีต้นทุนและพื้นที่สื่อมากเท่าวงอื่นๆ เพราะองค์ประกอบในเชิงลึกมันมีมากกว่าแค่เพลงดี แร็ปเก่ง ร้องเพลงเพราะ เต้นเก่ง หรือทำเพลงเอง
เพลงหลากหลายมากและเนื้อหาน่าสนใจ - BTS เป็นศิลปินที่ขึ้นชื่อเรื่อง diversity และ lyricism แนวเพลงเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ยังคงเนื้อหาที่ละเอียดลึกซึ้งและมีเรื่องราวที่หลากหลายทั้งประสบการณ์ส่วนตัวของตัววงและของเมมเบอร์แต่ละคน บวกกับการที่เมมเบอร์ทุกคนสามารถเขียนเพลงเองได้ดีทุกคน เมมเบอร์ 3 ใน 7 คนถือลิขสิทธิ์เพลงเกิน 100+ เพลง
เอกลักษณ์ - แร็ปไลน์ 3 คนมีสไตล์การแร็ปที่แตกต่างกันชัดเจน รวมถึงแนวเพลงและเนื้อหาเพลงจากมิกซ์เทปของแต่ละคนก็ไวบ์ต่างกันมาก โวคอลไลน์ 4 คนไม่ใช่สายเทคนิคแต่เป็นสาย stylistic เนื้อเสียงมีความยูนีคสูง และเพลงเดี่ยวของแต่ละคนก็ฉีกแนวไปคนละทางเช่นกัน
การผสมผสานแบบยูนิต - BTS มีทั้งเพลงวง เพลงเดี่ยว เพลงที่แบ่งยูนิตแบบ 3-4 หรือ 2-2-3 โดยที่ไม่ต้องทำอัลบั้มแยกหรือซิงเกิ้ลแยก ไม่จำกัดอยู่แค่เพลงที่ร้องครบทุกคนแล้วมีแค่ยูนิตแร็ปไลน์หรือโวคอลไลน์เหมือนวงอื่น
Performance - แร็ปไลน์ 3 คน มี 2 คนเป็นแร็ปเปอร์ใต้ดินมาก่อน อีกคนนึงเป็นนักเต้นอาชีพสาย street dance และมีโวคอลเป็นนักเต้นสาย contemporary แถมเมนเต้นเป็นตัวท็อปด้านการเต้นของวงการทั้งคู่ ทำให้มีสเตจที่หลายรูปแบบ เต้นเป๊ะทุกองศาแบบหุ่นยนต์ เต้นจังหวะพร้อมแต่มีไลน์เต้นของตัวเอง หรือแบบฟรีสไตล์เน้นเอ็นเตอร์เทนคนดู สำคัญที่สุดคือเน้นการร้องสด มีแอดลิปและอิมโพรไวซ์ที่เป็นธรรรมชาติ เพลงเดียวกันแต่สามารถเพิร์ฟออกมาได้แตกต่างกันทุกสเตจ
การวางตัวและทัศนคติ - อันนี้สำคัญมากสำหรับวงการบันเทิงระดับโลก หัวหน้าวงสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีและพูดในที่สาธารณะได้ในระดับ inspirer อย่างที่คหบนๆ บอก มีความเป็นผู้นำสูงมาก ฉลาดและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี อีกอย่างที่ชื่นชมมากๆ คือเมมเบอร์ทุกคนรับมือกับคำถามจากสื่อได้ดีมาก ทั้งสื่อเกาหลีและสื่อตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นคำถามเชิงโจมตีหรือนำไปสู่ดราม่า รวมถึงการสร้างบรรยากาศสนุกๆ ระหว่างการสัมภาษณ์รายการต่างๆ แม้ว่าจะมีเมมเบอร์ที่พูดภาษาอังกฤษคล่องแค่คนเดียว ส่วนเรื่องทัศนคติ ส่วนใหญ่น่าจะเห็นผ่านสื่อกันอยู่แล้ว
ปัจจัยพื้นฐานที่เรานึกออกมีเท่านี้ จริงๆ แล้วก็ยังไม่เคยเจอวงไหนในเคป็อปที่มีคุณสมบัติครบตามนี้เลย บางวงเด่นเรื่องแร็ป บางวงเด่นเรื่องร้อง บางวงทำได้ดีพอๆ กันแต่ไม่ถึงกับโดดเด่น เนื้อเสียงไม่มีเอกลักษณ์ เมมเบอร์บางคนไม่มีจุดเด่น เนื้อหาเพลงไม่ดึงดูด แนวเพลงไม่หลากหลาย เพลงอยู่ในกรอบของโปรดิวเซอร์มากเกินไป หรือมีเมมเบอร์เต้นเก่งแต่พอ performance ออกมาแล้วดูจำเจ ฯลฯ ตลาดเพลงระดับโลกไม่ใช่หวยที่จะพลิกชีวิตได้ในชั่วข้ามคืน อย่าลืมว่า BTS เป็นแนวหน้าของเคป็อปในอเมริกาตั้งแต่ 2015 และแซงหน้าทุกวงแบบทิ้งห่างได้ในปี 2016 ทั้งที่ไม่ได้โปรโมต ไม่มีต้นทุนและพื้นที่สื่อมากเท่าวงอื่นๆ เพราะองค์ประกอบในเชิงลึกมันมีมากกว่าแค่เพลงดี แร็ปเก่ง ร้องเพลงเพราะ เต้นเก่ง หรือทำเพลงเอง
ความคิดเห็นที่ 19
เราว่า BTS ใช้เพลงทำลายกำแพงภาษาได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมทั่วโลกถึงยอมรับได้อย่างรวดเร็วอ่ะ เพลงภาษาเกาหลี ฝรั่งไม่รู้เรื่องหรอก แต่ฟังแล้วแบบ เห้ย ชอบ มันดี มันสนุก เพลงช้าก็เพราะมาก เพลงแรปก็ดุเดือด ยิ่งถ้าได้อ่านคำแปลรู้ความหมายเพลงก็จะยิ่งดีคูณ100 That’s why บังทันถึงไปได้ไกลมากๆ
แสดงความคิดเห็น
ปัจจัยอะไรที่ทำให้วง bts และ blackpink ก้าวกระโดดขึ้นมาเป็น bbgg เบอร์หนึ่งของโลกได้
- การร้อง การเต้น การแร๊พ วิชวล ก็ยังมีหลายๆวงที่ยังทำได้เทียบเท่าหรือดีกว่า
- กลยุทธ์การตลาดโอเคในส่วนนี้ไฮบึอาจจะทำได้ดี แต่ yg ทำได้ไม่ดี และยังมีค่ายที่เด่นเรื่องการตลาดและบารมีมากกว่าสองค่ายนี้
- เรื่องเพลง ทุกค่ายมีประสิทธิภาพในการทำเพลงดี โดยเฉพาะค่ายใหญ่หลายๆค่ายก็มีทุนในการจ้างโปรดิวเซอร์ หรือ เอ้าท์ซอส
- ศิลปินทำเพลงเอง หลายๆวงศิลปินก็ทำเพลงเองได้ บางวันศิลปินทำเพลงเอง 100% จนได้เพลงแห่งปีก็มี
เลยอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้สองวงนี้โดดขึ้นมา แล้วค่ายอื่นถ้าเดินตามแพทเทิร์นของ 2 วงนี้จะสามารถประสบผลสำเร็จ >= ได้ไหม