เส้นทางที่เต็มไปด้วยความลำบาก กว่าจะผ่านในแต่ละช่วงเวลา ...บาดเจ็บ พิการ ตาย มันคือกฎแห่งการอยู่รอดตามธรรมชาติ ...🤕
... ปลากัด...นักสู้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ทุกท่านรู้จักกันดี ที่นิยมเลี้ยงกันมาก...
สมัยก่อน เด็กๆมักชอบไปตามแหล่งน้ำตื้นๆ ตามกอต้นกก หรือต้นธูป ไม่ก็ตามแหล่งน้ำที่มีหญ้าขึ้นสูงๆ ...พร้อมบุ้งกี๋ ( อุปกรณ์สำหรับตักหินของงานก่อสร้าง) พร้อมขวดน้ำ ขันน้ำ กระชอน แล้วแต่ใครจะเตรียมอะไรไป😊
ไม่รอช้า เมื่อเจอแหล่งน้ำนิ่งๆ ก็จะค่อยๆ ย่ำเท้าลงไป แต่ก็ต้องระมัดระวังเศษของมีคม เช่น กระเบื้อง ขวดแก้วที่แตกหัก เศษไม้แหลมคม เพราะหากเผลอเหยียบไปเข้า มีบาดเจ็บแน่นอน
...เมื่อเห็นหวอด ก็จะเอาบุ้งกี๋จ้วงไปใต้หวอด พอยกขึ้นมา มักจะได้ ปลากริม ซึ่งคล้ายปลากัด ไม่เป็นนิยมนำมาเลี้ยง จึงปล่อยทิ้งตามธรรมชาติต่อไป ...
¥¥¥ ส่วนคนที่ได้ปลากัดก็ดีใจ นำมาใส่ขวดรวมกันก่อน พอเลิกกลับบ้านก็นำมาแยกขวด แล้วหมักด้วยใบหูกวาง หรือ ใบกล้วยที่แห้งๆ เพื่อให้ตัวปลากัดมีสีสวยงาม ¥¥¥
จุดไคลแมก อยู่ตรงการนำปลามากัดกัน หลังจากหมักได้ที่ประมาณ 10 -15 วัน ก็นำมาเลี้ยงน้ำสะอาด ใส่ใบหูกวาง หรือ ใบกล้วยแห้ง นิดหน่อย ให้น้ำเลี้ยงออกสีน้ำชาสวยงาม ...
จากนั้นหาปลาตัวเมียมาให้เป็นลูกไล่ คือให้ปลาตัวผู้ว่ายไล่เพื่อออกกำลังกาย ประมาณ 7 วัน ก็จะนำปลาเข้าสู่สนามการประลองกำลัง ...
ตามธรรมชาติ ปลากัดก็ต่อสู้กันเองอยู่แล้ว ตัวที่แพ้ก็ว่ายน้ำหนี ....
จะมีเพียงบางตัวที่ยอมสู้จนตัวตายคาสนาม ขึ้นกับสายพันธุ์ของปลากัดชนิดนั้น
ปัจจุบันปลากัด ได้พัฒนาไปไกลมาก ที่นิยมเลี้ยงกัดคือ สายมาเลย์ เวียดนาม และไทย
ส่วนสายปลากัดสวยงาม คงไม่พ้นปลากัดจีน ที่มีหางและครีบยาวสวยงาม
และปลากัดสีแปลกต่างๆ ตามการผสมข้ามสีกันในหมู่นักเล่นปลากัด 😊
ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องปลากัดให้อีกนะ 😊🤗
นักสู้แห่งแหล่งน้ำธรรมชาติ 😊✌✌🐋
... ปลากัด...นักสู้จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ทุกท่านรู้จักกันดี ที่นิยมเลี้ยงกันมาก...
สมัยก่อน เด็กๆมักชอบไปตามแหล่งน้ำตื้นๆ ตามกอต้นกก หรือต้นธูป ไม่ก็ตามแหล่งน้ำที่มีหญ้าขึ้นสูงๆ ...พร้อมบุ้งกี๋ ( อุปกรณ์สำหรับตักหินของงานก่อสร้าง) พร้อมขวดน้ำ ขันน้ำ กระชอน แล้วแต่ใครจะเตรียมอะไรไป😊
ไม่รอช้า เมื่อเจอแหล่งน้ำนิ่งๆ ก็จะค่อยๆ ย่ำเท้าลงไป แต่ก็ต้องระมัดระวังเศษของมีคม เช่น กระเบื้อง ขวดแก้วที่แตกหัก เศษไม้แหลมคม เพราะหากเผลอเหยียบไปเข้า มีบาดเจ็บแน่นอน
...เมื่อเห็นหวอด ก็จะเอาบุ้งกี๋จ้วงไปใต้หวอด พอยกขึ้นมา มักจะได้ ปลากริม ซึ่งคล้ายปลากัด ไม่เป็นนิยมนำมาเลี้ยง จึงปล่อยทิ้งตามธรรมชาติต่อไป ...
¥¥¥ ส่วนคนที่ได้ปลากัดก็ดีใจ นำมาใส่ขวดรวมกันก่อน พอเลิกกลับบ้านก็นำมาแยกขวด แล้วหมักด้วยใบหูกวาง หรือ ใบกล้วยที่แห้งๆ เพื่อให้ตัวปลากัดมีสีสวยงาม ¥¥¥
จุดไคลแมก อยู่ตรงการนำปลามากัดกัน หลังจากหมักได้ที่ประมาณ 10 -15 วัน ก็นำมาเลี้ยงน้ำสะอาด ใส่ใบหูกวาง หรือ ใบกล้วยแห้ง นิดหน่อย ให้น้ำเลี้ยงออกสีน้ำชาสวยงาม ...
จากนั้นหาปลาตัวเมียมาให้เป็นลูกไล่ คือให้ปลาตัวผู้ว่ายไล่เพื่อออกกำลังกาย ประมาณ 7 วัน ก็จะนำปลาเข้าสู่สนามการประลองกำลัง ...
ตามธรรมชาติ ปลากัดก็ต่อสู้กันเองอยู่แล้ว ตัวที่แพ้ก็ว่ายน้ำหนี ....
จะมีเพียงบางตัวที่ยอมสู้จนตัวตายคาสนาม ขึ้นกับสายพันธุ์ของปลากัดชนิดนั้น
ปัจจุบันปลากัด ได้พัฒนาไปไกลมาก ที่นิยมเลี้ยงกัดคือ สายมาเลย์ เวียดนาม และไทย
ส่วนสายปลากัดสวยงาม คงไม่พ้นปลากัดจีน ที่มีหางและครีบยาวสวยงาม
และปลากัดสีแปลกต่างๆ ตามการผสมข้ามสีกันในหมู่นักเล่นปลากัด 😊
ไว้ครั้งหน้ามีโอกาสจะมาเล่าเรื่องปลากัดให้อีกนะ 😊🤗