สังคมไทยก็เป็นอย่างที่มันเคยเป็น..กำลังเป็นอยู่..และที่กำลังจะเป็นต่อไปในอนาคต
ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ไม่เฉพาะแต่ในวงการเมือง แต่มันมีอยู่ในวัฒนธรรม และนิสัยของคนในสังคม
ในแทบทุกวงการก็ว่าได้
และไม่เฉพาะสังคมไทยเท่านั้น แต่เป็นกันทุกประเทศทั่วโลก..
กรณีกระแสวีไอพีวัคซีนเนอร์นี้..
จะว่าไปมันก็เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า ต้องมีการใข้เส้นสาย ใช้อภิสิทธิ์
เพื่อให้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน
ขนาดใช้เส้นสาย ใช้อภิสิทธิ์เพื่อให้ได้มาซึ่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ฯลฯ ยังเป็นเรื่องปกติทั่วไป
แล้วจะไปเอาอะไรกับเรื่องวัคซีนที่อาจมีผลกระทบถึงชีวิตเล่า
หากตรวจสอบกันจริงๆแล้ว.อาจจะพบบุคคลระดับครีมของสังคมที่เป็น..วีไอพีวัคซีนเนอร์
ในจำนวนที่ทุกคนต้องอ้าปากค้างกันก็ได้
ในเมื่อความจริงมันเป็นอย่างนี้..
ถ้าเราเป็นคนๆนั้น ก็คงตั้งคำถามว่า
" เพราะอะไรจึงมาจ้องฉันอยู่คนเดียว ? "
" ทำไมไม่ไปจ้องคนอื่นบ้าง ? "
นั่นสิ..น่าคิดนะ
แต่เป็นธรรมดาของบุคคลสาธารณะ
บุคคลที่เป็นผู้นำในองค์กร
บุคคลที่เสนอตัวมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ
บุคคลที่มีพฤติกรรมในอดีตเป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ
ย่อมเป็นที่จับตามองมากกว่าชาวบ้านชาวช่องเป็นธรรมดา
ทั้งจากฝ่ายการเมืองพวกเดียวกัน และฝ่ายการเมืองตรงข้ามกัน
สำหรับฝ่ายการเมืองพวกเดียวกัน..
ก็ต้องเคลียร์ตัวเองให้ใส ชัดเจน ในอุดมการณ์ รวมทั้งการทำตามที่พูดจริงหรือไม่
เพื่อให้สมกับภาวะผู้นำของตน
สำหรับฝ่ายการเมืองตรงข้ามกัน..
ก็ต้องแก้ต่างข้อกล่าวหา การตั้งข้อสังเกต คำถามต่างๆไปตามเกมการเมือง
ดังนั้น..ก็คงต้องหวังว่าจะมีข้อเท็จจริง และคำอธิบายที่ตอบสนองได้กับทั้งสองฝ่ายโดยเร็ววัน
ป.ล. ถ้าคนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายวัคซีนอย่างนายคนนี้ ยอมเอาประวัติการฉีดวัคซีน
ของตนเองมาแสดงต่อสาธารณะ ก็น่าจะดีไม่น้อยนะ .. สังคมจะได้รู้ว่ายังมีอีกหลายคน
แต่ต้องอาศัยความกล้าพอสมควรจึงจะทำได้
ถ้าเราเป็นคนๆนั้น แล้วโดนตั้งคำถามเรื่องวีไอพีวัคซีนเนอร์นะ?
ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ไม่เฉพาะแต่ในวงการเมือง แต่มันมีอยู่ในวัฒนธรรม และนิสัยของคนในสังคม
ในแทบทุกวงการก็ว่าได้
และไม่เฉพาะสังคมไทยเท่านั้น แต่เป็นกันทุกประเทศทั่วโลก..
กรณีกระแสวีไอพีวัคซีนเนอร์นี้..
จะว่าไปมันก็เป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่า ต้องมีการใข้เส้นสาย ใช้อภิสิทธิ์
เพื่อให้ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน
ขนาดใช้เส้นสาย ใช้อภิสิทธิ์เพื่อให้ได้มาซึ่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ฯลฯ ยังเป็นเรื่องปกติทั่วไป
แล้วจะไปเอาอะไรกับเรื่องวัคซีนที่อาจมีผลกระทบถึงชีวิตเล่า
หากตรวจสอบกันจริงๆแล้ว.อาจจะพบบุคคลระดับครีมของสังคมที่เป็น..วีไอพีวัคซีนเนอร์
ในจำนวนที่ทุกคนต้องอ้าปากค้างกันก็ได้
ในเมื่อความจริงมันเป็นอย่างนี้..
ถ้าเราเป็นคนๆนั้น ก็คงตั้งคำถามว่า
" เพราะอะไรจึงมาจ้องฉันอยู่คนเดียว ? "
" ทำไมไม่ไปจ้องคนอื่นบ้าง ? "
นั่นสิ..น่าคิดนะ
แต่เป็นธรรมดาของบุคคลสาธารณะ
บุคคลที่เป็นผู้นำในองค์กร
บุคคลที่เสนอตัวมาเป็นผู้บริหารสูงสุดของประเทศ
บุคคลที่มีพฤติกรรมในอดีตเป็นที่น่าเคลือบแคลงสงสัยหลายประการ
ย่อมเป็นที่จับตามองมากกว่าชาวบ้านชาวช่องเป็นธรรมดา
ทั้งจากฝ่ายการเมืองพวกเดียวกัน และฝ่ายการเมืองตรงข้ามกัน
สำหรับฝ่ายการเมืองพวกเดียวกัน..
ก็ต้องเคลียร์ตัวเองให้ใส ชัดเจน ในอุดมการณ์ รวมทั้งการทำตามที่พูดจริงหรือไม่
เพื่อให้สมกับภาวะผู้นำของตน
สำหรับฝ่ายการเมืองตรงข้ามกัน..
ก็ต้องแก้ต่างข้อกล่าวหา การตั้งข้อสังเกต คำถามต่างๆไปตามเกมการเมือง
ดังนั้น..ก็คงต้องหวังว่าจะมีข้อเท็จจริง และคำอธิบายที่ตอบสนองได้กับทั้งสองฝ่ายโดยเร็ววัน
ป.ล. ถ้าคนที่ไม่เห็นด้วยกับนโยบายวัคซีนอย่างนายคนนี้ ยอมเอาประวัติการฉีดวัคซีน
ของตนเองมาแสดงต่อสาธารณะ ก็น่าจะดีไม่น้อยนะ .. สังคมจะได้รู้ว่ายังมีอีกหลายคน
แต่ต้องอาศัยความกล้าพอสมควรจึงจะทำได้