สามีไปตรวจเจอโควิดวันที่ 9 ธันวาคม ใช้สิทธิ์ประกันสังคมที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในโคราช เวลาผ่านไป 7 วัน โควิดลงปอดโรงพยาบาล เอกชนที่มีสิทธิ์ประกันสังคมได้ย้ายไปที่โรงพยาบาล รัฐแห่งหนึ่ง ในโคราช ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลรัฐเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม อาการเบื้องต้นของสามีคือหายใจเองไม่ได้ ต้องใส่ออกซิเจนมา โควิดลงปอดและเป็นภาวะคนอ้วนด้วย สามีอายุ32 ค่ะ...หมอเลยตัดสินใจให้ใส่ท่อช่วยหายใจ ใส่ท่อช่วยหายใจเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม...ตอนเที่ยงไม่สามารถติดต่อสามีได้ โทรไปก็ปิดเครื่องตอนนั้นเป็นห่วงเขามากๆ จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงบ่าย 15:00 น ทางญาติและดิฉันไม่สามารถติดต่อสามีได้ก็เลยโทรหาโรงพยาบาลรัฐบอก ชื่อ-นามสกุลสามีย้ายมาจากโรงพยาบาลเอกชนเขาไปอยู่ที่ตึกไหน จนกระทั่งรู้ว่าสามีไปอยู่ที่อุรเวชช์ หลังจากนั้น 9:00 เช้า เราก็โทรถามอาการทุกวันเลยไม่มีวันไหนที่จะดีขึ้นล่าสุดหมอโทรมาบอกให้ทำใจ หมอโทรมา บอกอาการหลังจากที่เขาใส่ท่อช่วยหายใจว่าปอดสามีเป็นฝ้ามีผังผืดหอบเหนื่อยไม่สามารถหายใจเองได้... และไม่สามารถปรับลดค่าออกซิเจนที่เครื่องได้ จนกระทั่งวันนี้วันที่ 10 มกราคม 2565 อาการก็ยังไม่ดีขึ้นแถมยังทรุดหนักลงไปอีก ลืมบอกไปค่ะสามีเขามีโรคความดันเป็นคนอ้วนเวลานอนเขานอนกรนเสียงดังหายใจลำบากอยู่ก่อนแล้ว วันนี้หมอโทรมาบอกโอกาสที่จะรอด 100% ให้แค่ 1% ถามว่าญาติทำใจได้ไหมก็ทำใจไม่ได้ล่ะค่ะแต่ต้องยอมรับให้ได้ รู้สึก เสียใจและทรมานเข้าใจความรู้สึกของสามีที่เจอเลยค่ะ ลูกก็ยังเล็ก 3 ขวบย่างเข้า 4 ขวบ แค่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า...การใส่ท่อช่วยหายใจอาการทรุดลงแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าโอกาสที่จะรอดน้อยมากเลยค่ะบางครั้งบางวันหมอโทรมาค่าออกซิเจนในเลือดต่ำ 70-80 ต่ำกว่าคนปกติ คนปกติ 95-100 ...แต่สามีของดิฉัน ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นยังไงเพราะอาการก็มีแต่ทรุดลงทุกวัน ไม่มีแรงแม้จะเดินต่อแต่ก็ต้องสู้ไปข้างหน้าเพื่อลูกค่ะ😢 ภาวนาขอให้มีปาฏิหาริย์