เสาร์อาทิตย์ฮ่องกงมีอะไรให้ชิมบ้าง อิ่มทิพย์กันไปก่อนจ้ะ

#1 Yat Lok 
ครั้งแรกที่ทานห่านย่างแบบนี้ อารมณ์คล้ายเป็ดปักกิ่งที่หนังบางกรอบ แต่ไม่ได้กรุ๊บแบบหมูหันนะ จะเหมือนเป็ดที่ทานที่ปักกิ่งจริงๆ เนื้อจะหนากว่าเป็ดมาก ส่วนตัวคิดว่ามันได้ความรู้สึกกึ่งไก่งวงและเป็ด น้ำซุปชนะเลิศมาก เคี่ยวได้หอมละมุนเหมือนร้านราเม็งที่ติดโผทีวีแชมเปี้ยนในญี่ปุ่น คำแรกจะรู้สึกได้ถึงความทุ่มเทใจให้กับอาหารของคนทำและไม่แสบลิ้นผงชูรส ไม่แปลกใจที่ร้านนี้ได้มิชชินหนึ่งดาวหลายปีติด ไว้โควิดหมดอาจต้องกลับไปโดนอีกนะ


#2 Joy Hing
จดเก็บไว้แหละว่าให้ที่ 1 หมูแดงเจ้านี้ ละมุนที่สุดละ ไม่มันเลี่ยน เนื้อไม่แห้ง ทุกอย่างกลมกล่อมมาก 
ขออภัยหากเราแนบรูปไม่ตรง เพราะแอบทานหมูแดงไปหลายเจ้า แต่เรายกให้ร้านนี้ที่สุดค่ะ อีกสองร้านไว้ถ้าขุดเจอชื่อเดี๋ยวกลับมาเติมให้ค่ะ ชอบตรงหมูแดงสีไม่แดงน่ากลัว หอมสุด 

ของเราชามนี้คือหมูแดง+เป็ดย่าง


#3-4 สูสีจนขอไม่เลือกแล้วกัน ระหว่าง Tim Ho Wan กับ 美心皇宫 หรือ Maxim's Palace ชื่อจีนเพราะ meixin จิตใจงาม
เริ่มด้วยรูปจากร้านทิมก่อน ร้านนี้แอบเป็นร้านประจำมื้อเที่ยงของเราตอนทำงานสิงคโปร์ มีสาขาอยู่ตึกข้างๆ ตึกที่ทำงานพอดีแถมไวปานเข้าร้านฟาสฟู้ด เรายังไม่วายมาโดนที่ฮ่องกง ทำให้เราไม่แน่ใจว่าอาหารที่สาขาฮ่องกงมันสดและเด็ดกว่า หรือเพราะบรรยากาศ สบายๆ รวมๆ จึงได้ประสบการณ์ที่ดีกว่า
#
อีกอย่างที่ชอบแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาคือซาลาเปาไส้หมูแดงทอด ไม่อบน้ำมัน ซึ่งทั้งรูปและน้องเปาทอดมีขายในไทยค่ะ

ขอคั่น นอกเรื่องด้วยการเดินย่อยชมของจุ๊กจิ๊กราคาน่ารักๆ  แถมเขารวมเป็นธีมสีให้ด้วย ถูกใจสาวๆ แน่นวล

4 คู่ สองร้อยกว่าบาท ผ้าไม่บาง สีสันสดใส ยอมเป็นเด็กให้หลอก เอาเงินไปเลย

หิวน้ำแหละ เดินไปต่อแถวด้วยจิตอคติ นึกในใจอร่อยสู้ที่ไต้หวันไม่ได้แน่ จึงไม่ได้จดชื่อร้านกลับมา แต่คิดผิดมากค่ะ แก้วนี้คือบลูเบอร์รี่โยเกิร์ตโซดานิ๊ดๆ หวานน้อย ลูกกลมๆ ไม่ใช่ไข่มุกนะคะ มันคือบลูเบอร์รี่แช่แข็ง รวมๆ ออกมาสดชื่น อร่อยอย่างเหลือเชื่อ

มาแล้วค่ะกับร้านแม็กซิม เห็นชื่อร้านแล้วน่าจะมีสาวๆ ขาวๆ ใส่ชุดเหมดเข็นรถเข็นมาเสิร์ฟเข่งติ่มซำ
เปล่าเลยค่ะ เป็นป้าๆ สูงวัย ที่หัวโบราณและไม่ค่อยต้อนรับขับสู้คนที่พูดจีนไม่ได้ ตอนที่ไปเรายังไม่ได้จีนกลางค่ะ จึงรอนานมาก คุณเพื่อนที่ไปด้วยแอบหิวและเซ็งนิดๆ จริงๆ นางไม่ได้มีแพลนพาเรามาลองร้านนี้เลยแต่เราอยากมาดู gallery แถวนี้พอดี และอยู่ไม่ไกลย่านสวยๆ กลางคืนค่ะ กดมั่วๆ ไปเจอคนแนะนำเยอะ อาหารอร่อยค่ะ สถานที่โออ่า สะอาด บรรยากาศโรงแรม ถ้ามองข้ามบริการได้หรือพูดจีนได้ น่าจะเลื่อนอันดับขึ้นไปได้อีก 

สำหรับเรา หากกลับไปฮ่องกงอีก น่าจะไปร้านนี้มากกว่าทิมค่ะ เพราะมีเมนูหลากหลายกว่า ชอบบรรยากาศที่เขาเข็นรถเข็นเข่งมาให้เลือกมาก อ่อ ร้านนี้ไม่เปิดมื้อค่ำนะคะ เปิดเป็นมื้อกลางวันหรือทานเป็น afternoon tea ก็ได้ค่ะ



อาหารหวาน เราได้มี 3 ร้านในใจค่ะ
flowerflowerflowerflowerflowerflowerflowerflowerflowerflower
#1 Honeymoon Dessert 满记甜品 แปลประมาณ เปี่ยมด้วยความทรงจำ
ทานครั้งแรกที่ปักกิ่งกับเพื่อนคนจีนค่ะ จำได้เลยว่าร้านไม่ใหญ่มาก น่าจะอยู่แถวๆ Sanlitun 三里屯  แต่ที่ฮ่องกงเราทานแถวๆ Wanchai ค่ะ ร้านสว่างสดใส เชิญชวนให้เขาได้ไม่ว่าจะบ่าย เย็น ดึก 😆😆😆  ตอนนั้นหุ่นดีมากค่ะ ทานขนมสี่ทุ่มพุงก็ยังไม่มี ตอนนี้ไม่ แน่นอน

ขนมที่แนะนำ หนีไม่พ้น มะม่วงน้ำดอกไม้ไทย (ตอนไปทาน 4-5 ปีก่อน จำได้ว่าเขาเขียนว่า Thai mango เลยค่ะ ตอนหลังไม่แน่ใจเมนูใหม่) หอมหวานพอดีมาก ส่วนที่อร่อยสูสีกันได้แก่ ซุปสาลี่+ลำไยสดหวานอ่อนๆ ออกแนวบำรุง และขนมเมล่อนต่างๆ อร่อยเหมือนเมล่อนญี่ปุ่นเลยค่ะ




#2 Hui Lau Shan 许留山 (ถ้าอ่านแบบจีนกลางจะเป็น Xǔ liúshān)
เป็นร้านที่ mango mania อย่างแท้ทรู จากที่ชิมดู เดาว่าเป็นมะม่วงไทยเช่นกัน 
ถูกใจเรามาก โดยเฉพาะเจ้าโมจิหรือบัวลอยถังหยวน ทานแล้วคิดถึง 九份 เลย
ร้านนี้อายุ 60 กว่าปีแล้วจ้า ยังคงความสดอร่อยแบบดั้งเดิม ในโฉมร้านที่ทันสมัยได้อย่างดี


สั่งเซ็ทนี้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอน


#3 iBelPaese ขายขนม และของสด อิตาเลี่ยน
หลังจากโดนเจ้า Sacher ไป 1 ชิ้น เราได้หลงร้านนี้หัวปักหัวปำ ขนมชิ้นนึงทานแล้วเหมือนหลุดไปยุโรปได้ 
ร้านแต่งแบบฝรั่งจ๋ามาก อยู่บน Caine Road Central ไม่ไกลจากย่านพิพิธภัณฑ์ เขต Mid-Level

ส่วนไอติมนี่แถมละกัน เผื่ออากาศร้อน ขอแนะนำร้านนี้ค่ะ ถ้าเดินผ่าน อร่อยมาก เดี๋ยวนี้หา gelato อร่อยๆ ยาก อันนี้จึงกลายเป็นของอร่อยที่หายาก

ขอจบรีวิวคาวหวาน ฮ่องกง ฉบับสั้น ณ เท่านี้ 
ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่