สวัสดีเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ ผมจะมาเล่าประสบการณ์การเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน แล้วทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ  เรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่13 ก.ย.64 ผมได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปซื้อของ ระหว่างกำลังจะเลี้ยวขวาข้ามทางหลักไปอีกฝั่งนึง ผมไม่ได้มองรถทางขวามือ มัวแต่มองรถทางซ้าย จึงทำให้เกิดการเฉี่ยวชน รถที่วิ่งมาทางหลักทางขวา การชนไม่รุนแรงมาก แต่ผลที่ออกมาคือ ข้อเท้าขวาผมหักผิดรูป หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่มูลนิธิก็นำผมส่งโรงพยาบาล หมอได้ทำการตรวจร่างกายผมอย่างละเอียด สรุปอาการได้คือกระดูก fibula ช่วงเหนือข้อเท้าด้านนอกหัก และตาตุ่มด้านในแตกหักแยกออกมาจากtibia(กระดูกหน้าแข้ง) ประมาณ3ชิ้น  เบื้องต้นการรักษาหมอได้ลองดัดข้อเท้าผมให้เข้ารูปแล้วใส่เฝือกอ่อนให้ แล้วให้กลับบ้าน แล้วนัดมาใหม่วันที่14ก.ย.64(วันต่อมาหลังวันเกิดเหตุ)  แล้วผมก็มาตามที่หมอนัด หมอได้ทำการ x-ray ดูที่ข้อเท้าให้อีกรอบ ปรากฏว่าข้อเท้าเคลื่อนอีก เพราะดัดเข้าที่แล้วไม่อยู่ หมอจึงให้ทำการผ่าตัดเร่งด่วนทันทีในวันนี้ เพื่อทำการ เจาะกระดูกหน้าแข้ง และกระดูกส้นเท้า และดามเหล็กจากด้านนอก เพื่อล็อกไม่ให้ข้อเท้าเคลื่อนอีก  และหมอก็ให้ผมแอดมิดที่โรงพยาบาลภายในวันนี้เลย เพื่อรักษาตัวดูอาการ เพื่อให้ข้อเท้าหายบวม และรอผ่าตัดเพื่อดามกระดูก ในวันที่ 30 ก.ย.64 ผมต้องนอนโรงพยาบาลกว่า17วันเพื่อรอผ่าตัด (ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ทันทีหลังเกิดเหตุใหม่ๆ เพราะข้อเท้าบวมมาก จึงไม่สามารถทำการผ่าตัดได้) วันที่30 ก.ย.64 ผมได้เข้ารับการผ่าตัด หลังผ่าคัดหมอได้ทำการใส่เฝือกอ่อนให้ คืนแรกหลังผ่าตัดไปได้6ชม. เป็นอะไรที่ทรมานมาก เพราะทั้งเจ็บและปวดแบบสุดๆ จนไม่สามารฝืนให้ตัวเองหลับ ต้องขอมอฟีนเพื่อระงับอาการปวดบ่อยมาก จนหมอไม่สามารถจ่ายมอฟีนให้ได้อีก และให้เป็นยาแก้ปวดตัวอื่นแทน คืนผ่าตัดนั้น เมื่อหมอเบิกจ่ายมอฟีนให้ ผมต้องนอนร้องไห้ เพื่อทนฝืนอาการเจ็บแผลผ่าตัดไปจนเช้า จนถึงช่วงสายในวันต่อมา ทำให้ผมเพลียมากจนเผลอหลับไปทั้งๆที่จังเจ็บแผลผ่าอยู่มาก ช่วงบ่าย หมอมาปลุก และพาผมไปเอ็กซเรย์ และให้หัดเดินด้วยไม้ยันรักแร้ หลังเอ็กซเรย์ได้2ชม. หมอได้มาแจ้งอีกทีว่าการผ่าตัดดามกระดูกดูเข้าที่ปกติดี  ให้พักรักษาตัวที่ รพ.จนถึงวันที่3 ต.ค.64 แล้วให้กลับบ้าน 19ต.ค.64 หมอนัดครั้งแรก เพื่อดูอาการ และเอ็กซเรย์ดูแผล หมอก็แนะนำเรื่องการปฏิบัติตัวต่างๆ  และตัดไหมแผลผ่าให้บางส่วน(บางส่วนแผลยังไม่แห้งดีจึงยังไม่ตัดให้) หมอยังไม่ให้ลงน้ำหนัก และนัดมาอีกที วันที่26ต.ค.64 เพื่อตัดไหมส่วนที่เหลือ จากนั้นก็ใส่เฝือกอ่อนต่อ วันที่ 12 พ.ย.64 หมอให้มาทำการ CT-Scan บริเวณข้อเท้าที่ทำการผ่าตัด วันที่ 23พ.ย.64 หมอนัดครั้งที่2 (ประมาณ 7 สัปดาห์หลังผ่าตัด)เพื่อมาตรวจแผล สอบถามอาการ และ ดูผลCT Scan ของวันที่12 หมอแจ้งว่า ตอนนี้ผลการรักษาหายประมาณ70%แล้ว กระดูกเริ่มติด ไม่มีการเคลื่อน หมอให้ถอดเฝือกอ่อนออก และให้ใส่เฝือกรองเท้าบูทแทน(ลักษณะคล้ายๆเฝือกลม) และหมอก็ยังไม่ให้ลงน้ำหนักที่เท้าเช่นเดิม อนุญาตให้แค่แกะเฝือก และวางเท้าเพื่อให้ทำความสะอาดตอนอาบน้ำเท่านั้น 4 ม.ค.65 หมอนัดครั้ง3 (ประมาณ12สัปดาห์ หลังผ่าตัด) หมอทำการเอ็กซเรย์ และตรวจเลือดเพื่อดูอาการ ผลการการตรวจหมอแจ้งว่า กระดูกเริ่มติดเรียบร้อยดี หมออนุญาตให้ลงน้ำหนักได้เต็มที่ และให้เริ่มหัดเดิน โดยหมอแจ้งว่า ให้เริ่มหัดเดินได้ หมอเน้นมาว่าในช่วง2สัปดาห์แรกของการหัดเดิน ให้ใช้รองเท้าผ้าใบ และเฝือกรองเท้าบูท สลับกันวันเว้นวันในการหัดเดิน เพื่อให้ข้อเท้าค่อยๆทำการปรับสภาพ และผมก็ได้ทำการหัดเดินตามที่หมอสั่ง โดยที่ยังใช้ไม้ยันรักแร้ช่วยประครองอยู่ด้านนึง ปกติจะใช้สองด้าน แต่สิ่งที่ผมไม่ได้ทำตามหมอสั่งมีอย่างนึงคือ ตอนหัดเดินผมไม่ได้ใส่เฝือกรองเท้าบูทเลย เพราะส้นมันสูง เวลาเดินแล้ว พอเท้าข้างที่หักลงพื้น รู้สึกเหมือนเท้ามันรับน้ำหนักมาก ทำให้เจ็บข้อเท้ามาก เพราะพื้นเฝือกมันสูง ผมเลยไม่ได้ใช้เฝือกหัดเดินอีกเลยใช้แต่ผ้าใบในการหัดเดิน4-7ม.ค.65 ผมหัดเดินโดยใช้ไม้ยันรักแร้ข้างนึง ก็มีอาการเจ็บพอสมควร เดินไม่ตรง ขากระเพก พยายามฝืนให้เดินปกติ ไม่สามารถทำได้ เจ็บพอตัว วันที่8ม.ค.65 ลองหัดเดินโดยไม่ใช้ไม้ยันรักแร้ช่วยเลย ผมคือเจ็บข้อเท้ามาก และบริเวณกระดูกfibula ตรงที่หัก ที่ได้ทำการดามเหล็กไว้ ก็มีจุดนึงเกิดการปูดขึ้นมาเกือบเท่าตาตุ่ม ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะอะไร กดไปก็ดูแข็ง ที่ผมสงสัยตอนนี้คือ ไม่แนใจว่าเหล็กที่ดามจะหักหรืองอรึเปล่า เพราะก่อนหน้านี้ ผมยังใช้ไม้ยันรักแร้เพื่อช่วยประครองน้ำหนัก แต่ตอนนี้ไม่ใช้เลย  แต่ตรงที่ดามเหล็กไม่ได้รู้สึกเจ็บนะครับ มีแค่เจ็บแปล๊บๆเพียงเล็กน้อย จะมีก็แต่บริเวณรอบๆข้อเท้าเท่านั้นที่เจ็บมากๆ  สมาชิกท่านใดมีประสบการณ์ หรือรู้ว่า ตรงบริเวณที่ดามเหล็กจุดนึงมีการปูดขึ้นเป็นเพราะอะไรก็ช่วยชี้แนะผมทีนะครับ ตอนนี้คือเป็นกังวลมากครับ เพราะกลัวว่าเหล็กที่ดามอาจจะหักหรืองอ และทำให้กระดูกหักซ้ำหรือเคลื่อนไม่ติด เพราะกว่าหมอจะนัดอีกทีก็ปลายเดือน มี.ค.65 ผมกลัวว่าจะมีปัญหาแล้วทำให้แก้ไขช้าเกินไปครับ