ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา ครอบครัวเราตัดสินใจอยากมีกิจกรรมร่วมกัน ไปพักผ่อนกายและใจ และอยู่ในที่พักเดียวกัน ถึงแม้จะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด แต่ในที่สุดเราก็สามารถคัดกรอง เลือกเฟ้น จนได้ที่พักที่มีการบริการจัดการการรับมือกับโควิดได้เป็นอย่างดี สถานที่ภายในที่พักกว้างขวาง มีอากาศถ่ายเทสะดวก และที่สำคัญที่พักค่อนข้างอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง หลังจากทำการจองและมัดจำกับทางที่พักเป็นที่เรียบร้อย พวกเราก็วางแผนการเดินทางกันครับ โดยเพื่อความเป็นสิริมงคล เราจึงมุ่งหน้าไปที่วัดโบสถ์(สามโคก) ที่มีหลวงปู่โตองค์ใหญ่ และมีหลวงพ่อโสธรองค์ใหญ่ครับ วัดโบสถ์พิกัดจะอยู่ที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ต.บางกระบือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ซึ่งอยู่ในเส้นทางการเดินทางไปยังที่พัก
หลังจากเราเดินสักการะหลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ และพระสิวลี จากนั้นจะเป็นศาลาสำหรับถวายสังฆทาน ซึ่งตรงนี้มีประดิษฐานหลวงพ่อเหลือ ให้สาธุชนสามารถมาสักการะขอพรครับ หลังจากถวายสังฆทานกันเป็นที่เรียบร้อย หลวงปู่ก็จะทำการพรมน้ำมนต์ให้เพื่อเป็นสิริมงคลกับทุกท่าน
เมื่อเราทำบุญกันเสร็จ ที่มีชื่อเสียงของทางวัดโบสถ์อีกอย่างก็คือ การให้อาหารปลาครับ ที่นี่มีจำหน่ายอาหารปลาทั้งแบบเม็ด แบบขนมปัง โดยแบบเม็ด มีจำหน่ายตั้งแต่ถังเล็ก ถังใหญ่ จนไปถึงยกกระสอบก็มีครับ (ราคากระสอบละ 400 บาท) ซึ่งตอนแรกพวกเราไม่ทราบว่าทางวัดมีที่จำหน่ายด้วย ขนกันมาจากกรุงเทพ เรียกว่าค่อนข้างลำบากในการยกกระสอบไปถึงท่าน้ำครับ สำหรับคนที่นำกระสอบมาเอง ทางวัดมีให้ยืมขัน ถังได้นะครับ เพื่อใช้ในการตักให้อาหารปลา
ปลาที่ท่าน้ำวัดโบสถ์มีปริมาณเรียกว่า มากถึงมากที่สุดครับ น่าจะเป็นล้านตัวได้เลยกระมัง ถึงจะมีผู้ใจบุญโยนอาหารลงไปจำนวนเท่าไร ก็หายแวบ พร้อมๆกับการกระเซ็นของน้ำ ที่ปลาจำนวนมาก แย่งกันกินอาหาร ท่าน้ำน่าจะยาวประมาณ 100 เมตร ก็มีปลาทั้งหมดในบริเวณเลยครับ ไม่มีอาหารปลาลอยให้เห็น ทางวัดจะมีอ่างล้างมือ พร้อมน้ำยา วางบริการให้ตามจุด หลังจากให้อาหารปลาเสร็จสามารถทำความสะอาดได้เลย เมื่อเสร็จภารกิจทำบุญทำทานแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยังที่พักของเรากันครับ ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงหน้าทางเข้าของ Thann Wellness Destination ครับ
หลายท่านน่าจะคุ้นกับชื่อ Thann Wellness กันบ้าง ด้วยเป็นสถานที่ให้บริการทำสปาและนวด ที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายที่ แต่สำหรับเราเอง ต้องขอบอกว่า ไม่เคยรู้จักครับ ตั้งแต่ผ่านเข้ามายังประตูที่พัก ก็สัมผัสได้ถึงความเรียบหรู อลังการของที่พัก โดยทางที่พัก สามารถรองรับแขกได้ประมาณ 100 ท่าน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ทางที่พักจึงลดการให้บริการของลูกค้าลง 50% เพื่อไม่ให้มีการรวมตัวกันมากเกินไป นับเป็นความใส่ใจอย่างดีของทางที่พักครับ
เมื่อมาถึง ขั้นตอนแรก เราจะทำการจอดรถที่ Lobby ด้านหน้า เพื่อผู้ร่วมทริปลงพร้อมๆกับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นจึงนำรถไปจอดยังด้านข้างของตึก Lobby ซึ่งจะมีลานจอดรถให้บริการ ถึงแม้ที่จอดรถจะมีหลังคา แต่เจ้าหน้าที่ลานจอดรถ ก็จะนำผ้ามาคลุมด้านหน้าและด้านหลังกระจกรถ เพื่อไม่ให้โดนแสงแดดสาดส่องระหว่างวันครับ จากนั้นเราก็จะไปทำการเช็คอินห้องพัก ตามมาชมความสวยงามของ Lobby กันครับ
ในส่วนของห้องรับรองด้านใน ทางพนักงานจะทำการวัดอุณหภูมิลูกค้าทุกท่านอีกครั้ง และขอบัตรประชาชนทุกท่าน เพื่อนำไปลงทะเบียนการเข้าพัก พร้อมๆกับนำ Welcome Drink เครื่องดื่มต้อนรับมาให้บริการ จะเป็นน้ำนมข้าวโพด แบบ Organic ไม่ผสมน้ำตาล เป็นความหวานธรรมชาติของน้ำนมข้าวโพดแบบ 100% และมีให้บริการผ้าเช็ดมือ แบบอัดเม็ด วิธีการใช้งาน ให้นำผ้าอัดเม็ด แช่ลงในแก้วน้ำใบเล็ก จากนั้นก็จะพองขึ้นมาพร้อมใช้งานครับ
เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อย น้องพนักงานก็จะนำกลิ่นอโรม่ามาให้เราเลือกครับ มีกลิ่นส้ม ตะไคร้ กุหลาบมะลิ ซึ่งกลิ่นที่เราเลือก ทางน้องพนักงานจะไปทำการเตรียมห้องพักให้มีกลิ่นตามที่เราเลือก พร้อมๆกับอุปกรณ์ในการบำรุงผิว ครีมอาบน้ำ แชมพู ก็จะเป็นกลิ่นในแนวทางเดียวกันครับ เรียกว่าเป็นความใส่ใจในการให้บริการบำบัดผ่อนคลายกับทางลูกค้าอย่างดีครับ โดยทุกห้องพัก จะได้ Wrist Band สายรัดข้อมือที่มี Chip สำหรับเปิดเข้าห้องพัก ห้องละ 2 อัน
หลังจากเราได้รับสายรัดข้อมือกันเรียบร้อยแล้ว ก็จะเดินทางไปทานอาหารกลางวันกันที่ห้องอาหาร ซึ่งจะเป็นส่วนกลางสำหรับลูกค้าทุกท่าน แต่ด้วยเรามากันเป็นหมู่คณะ ประมาณ 15 ท่าน เราจึงได้ใช้บริการห้องอาหารด้านในแบบส่วนตัวครับ การเดินทางจาก Lobby ไปยังห้องอาหาร จะมีรถกอลฟ์บริการนำพวกเราไป ส่วนกระเป๋า สัมภาระต่างๆ เราสามารถแจ้งน้องพนักงานได้เลยว่า ใบไหน ของห้องไหน แล้วน้องพนักงานจะทำการนำไปวางไว้ให้ในห้องพักเรียบร้อยครับ
ด้านหน้าของห้องทางอาหาร จะเป็นริมน้ำ ซึ่งตรงนี้จะเป็นลานกิจกรรมทางน้ำ และจะเห็นว่ามีสกูตเตอร์ จอดวางเรียงรายอยู่ ซึ่งทางที่พักมีวางไว้ให้ลูกค้าใช้บริการ สำหรับเดินทางไปที่ต่างๆภายในโรงแรมได้อย่างอิสระ และเป็นการออกกำลังกายไปในตัว ด้วยส่วนตัวเล่นไม่เป็นครับ แอบเสียดาย น่าจะมีทางเลือกแบบให้บริการจักรยานด้วยสักหน่อย
บนโต๊ะอาหาร จะมีการจัดวางอุปกรณ์ในการทานอาหารไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และตรงกลางโต๊ะจะมีอุปกรณ์จุดกลิ่นอโรม่า เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของทั้งร่างกายและจิตใจ จะได้สัมผัสความอร่อยของอาหารกันได้อย่างเต็มที่ครับ สำหรับเมนูในแต่ละมื้อของทางที่พัก จะมีการให้บริการตั้งแต่ Appetizer (ตรงนี้ในแต่ละมื้อทางที่พักจะจัดเตรียมไว้แล้ว) Main Course (ตรงนี้ลูกค้าสามารถเลือกสั่งทานได้ตามอัธยาศัยครับ ว่าต้องการเลือกเมนูอะไร) ส่วนเครื่องดื่มก็จะมีให้บริการทั้งร้อนและเย็น มีในส่วนของชา กาแฟ และน้ำอัดลมครับ และปิดมื้อด้วย Dessert (ซึ่งส่วนนี้ทางที่พักจะทำการจัดเตรียมไว้แล้วเช่นกันครับ)
สำหรับมื้อแรกที่ห้องอาหารแห่งนี้ ด้วยเกรงว่าผู้ร่วมทริปทุกท่าน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงวัย ซึ่งไม่คุ้นเคยกับอาหารต่างชาติสักเท่าไร จะไม่สามารถทานอาหารที่ทางที่พักจัดเตรียมไว้ในแต่ละมื้อ เราจึงทำการ Request ขออาหารพิเศษไว้ 1 รายการ นั่นก็คือ กระเพรากุ้งครับ ส่วนเมนูอื่นๆ ทางเราทำการเลือกกันล่วงหน้าก่อนเข้าพัก เพื่อให้ทางที่พักได้จัดเตรียมไว้ก่อนเลย
สำหรับมื้อแรก กับการทานอาหารต่างชาติที่ไม่เคยทานมาก่อน (Risotto) และอาหารฟิวชั่น ก็ต้องบอกว่า รสชาติอร่อยดีนะครับ ไม่ได้เลวร้ายแบบที่เราเกรงกันไว้ ว่าจะทานกันไม่เป็น ข้าวผัดต้มยำทานคู่กับปูนิ่มทอด ตัวปูนิ่มก็มากันแบบทั้งตัวใหญ่ๆ ผัดไทกุ้งแม่น้ำ ก็มาแบบกุ้งแม่น้ำทั้งตัว ทางโรงแรมเลือกคัดสรร ใช้วัตถุดิบอย่างดี ส่วนเครื่องดื่ม กาแฟอยู่ในเกณฑ์มาตราฐานเลยครับ โดยจะมีไซรัป (น้ำเชื่อม) แยกมาให้ลูกค้าเทใส่เอง ได้ตามสะดวก ของหวานก็รสชาติละมุนอร่อยครับ อาหารส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบแบบ Organic บางอย่างปลูกเองในที่พัก
[CR] Thann wellness destination 3 วัน 2 คืน Tripผ่อนคลายกายใจ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้