การปรับ pitch และ type เสียง ที่เชื่อมโยงกับความเป็น bass หรือ treble ของตัวเสียง

กระทู้คำถาม
สำหรับใครที่เคยใช้โปรแกรมตัดต่อเสียง น่าจะเคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องการปรับ pitch และอาจจะรู้ว่าผลลัพธ์มันเป็นยังไง
สำหรับคนที่ไม่มีประสบการณ์ ให้ลองฟังคลิปพวกนี้เทียบกันครับ
ผมจะให้ฟัง 3 คลิป ซึ่งเป็นเพลงเดียวกันทั้งหมด
https://youtu.be/-SUR7KC3kxw เวอร์ชั่นต่ำกว่าต้นฉบับ 3 semitones (pitch = -3) ไม่ต้องใส่ใจที่มันช้ากว่าปกติ เพราะเขาปรับ speed ด้วย
https://youtu.be/8k6C_3Q4S1o เวอร์ชั่นต้นฉบับ (pitch = 0 หรือไม่มีการปรับนั่นเอง)
https://youtu.be/ZK5XSziKw4s เวอร์ชั่นสูงกว่าต้นฉบับ 3 semitones (pitch = +3) เช่นเดียวกัน อันนี้ก็ปรับ speed ให้เร็วกว่าปกติ

ซึ่งกรณีนี้ผมจะไม่พูดถึงการปรับ speed
แต่ผมจะบอกเป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ คนที่เสียงทุ้มต่ำ ความถี่จะสั่นสะเทือนช้ากว่าปกติ เคยได้ยินมาว่าลูกคอก็จะช้ากว่าปกติด้วย ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ (แต่ไม่แน่ใจว่าทุกกรณีหรือเปล่า) ในขณะที่คนที่เสียงแหลมสูง ก็จะตรงกันข้ามกับประโยคก่อนหน้า (ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทุกกรณีหรือเปล่า)

ซึ่งจากที่คุณฟังทั้ง 3 คลิป คุณก็รู้ใช่ไหมว่า pitch -3 เสียงจะทุ้มใหญ่กว่าปกติ และ pitch +3 เสียงจะแหลมเล็กกว่าปกติ ซึ่งในทางทฤษฎีมันก็ควรจะเป็นแบบนี้ เสียงสูงก็ย่อมแหลม เสียงต่ำก็ย่อมทุ้ม ซึ่งมันก็ถูกครับ ถ้าเราเน้นแค่เรื่องของความถี่ ในเชิง sine wave

แต่อย่าลืมว่าเสียงแหลมก็ต่ำได้ และเสียงสูงก็ทุ้มได้เหมือนกัน เพียงแค่คุณใส่เงื่อนไขของความเป็น bass (ทุ้ม) และ treble (แหลม) โดยที่ไม่ต้องไปสนใจว่ามันจะเสียงสูงหรือต่ำ

แต่ในกรณีที่เสียงแหลมต่ำ หรือเสียงทุ้มสูง อันนี้ผมไม่แน่ใจนะว่าความเร็วสั่นสะเทือนจะเหมือนหรือเปลี่ยนไปจาก เสียงแหลมสูง เสียงทุ้มต่ำ ไหม หรืออย่างไร อันนี้ผมไม่ค่อยมีไอเดียสักเท่าไร

แน่นอนว่าถ้าเป็นคนทั่วไป ร้องเพลง pitch -3, ต้นฉบับ และ pitch +3 ก็จะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างในความทุ้มหรือแหลม (เว้นแต่ว่าคุณพยายามดัดเสียง)

นั่นเป็นเพราะว่า เส้นเสียงคุณไม่ได้เปลี่ยนขนาดแต่อย่างใด ยังคงเท่าเดิม ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคุณร้องสูงหรือต่ำ มันจะมี limit ความสบายครับผม ถ้าเกินไปกว่านั้น จะอึดอัด(เว้นแต่ว่าคุณ develop มันไปเรื่อยๆ)

ให้ลองนึกถึงสายกีตาร์ดูครับผม ทั้ง 6 สาย ย่อมมีความใหญ่เล็กที่แตกต่างกัน
ถ้าให้คุณใช้แค่สาย 6 เล่นตั้งแต่ E2 และสูงขึ้นไปเรื่อยๆ สูงจนอยู่ล่างสุดของสาย ให้ตายยังไงมันก็ทุ้มเหมือนเดิม ทั้งๆที่ สาย 1 แค่โน้ตที่อยู่บนสุด (ต่ำสุด) มันก็แหลมกว่าแบบกินขาดแล้วครับ

ที่จริงถ้าให้เทียบเป็นตัวบุคคล มันก็คือเป็นคนละคนกัน ที่มีเส้นเสียงที่ต่างกัน รวมตัวกันอยู่ในคณะประสานเสียง (ซึ่งเปรียบเป็นตัวกีตาร์)

ซึ่งแน่นอนว่าเส้นเสียงเราคือธรรมชาติสร้างมา ย่อมอยู่กับเราผู้เป็นหนึ่งเดียว เสียงแหลมหรือเสียงทุ้มของเราก็ย่อมเป็นหนึ่งเดียวเช่นกัน (นอกจากว่าคุณไปผ่าตัดเส้นเสียง)

ถ้าเกิดเปรียบเป็นการปรับ pitch ในโปรแกรมต่างๆ
ถ้าปรับ + คุณจะตัวเล็กลง และเส้นเสียงก็ย่อมเล็กลงตามไปด้วย และถ้าปรับ - คุณก็จะตัวใหญ่ขึ้น และเส้นเสียงก็ย่อมใหญ่ขึ้น ซึ่งก็มีให้เห็นเป็นตัวอย่าง คุณลองฟังเสียงคนที่ตัวเตี้ยที่สุดในโลก (ตัวเล็กด้วย) แล้วลองเทียบกับคนที่ตัวสูงที่สุดในโลก (ตัวใหญ่ด้วย) แล้วลองเทียบกับคนทั่วไป นั่นแหละ คือคำตอบ

ในเชิงคลาสสิก เราจะรู้ได้ยังไงว่าคนนั้นคนโน้นคนนี้เป็น type ต่างๆ จริงหรือเปล่า(กรณีนี้จะไม่พูดถึงการ develop เพราะบางคนก็เคยมีการเปลี่ยน type) ให้ลองดู 2 คลิปนี้ครับ
https://youtu.be/gRL7shs23Wc
https://youtu.be/AIPFAww8X-U
แล้วลองเอาไปปรับ pitch + - สัก 2 semitones
ถ้าคุณปรับของ baritone ขึ้นไป คุณจะเห็นว่ามันไม่ติดความเป็น chipmunk เลย แต่จะไปละม้ายคล้ายกับ tenor แทน
bass ก็เช่นกัน เห็นทำปากแบบนั้นอะ ที่จริงคือเสียงธรรมชาติเขาครับผม ถ้าเป็น tenor แล้วมาพยายามทำเสียงแบบเขาอะ ฟังเผินๆเหมือนจะง่าย แต่ลองมาเทียบโดยการปรับ pitch +2 ดูสิครับ
คุณจะเห็นว่า bass อะ ไม่มี chipmunk ติดเลย ซึ่งละม้ายคล้ายกับ baritone แทน และเสียงต่ำก็ไม่ได้จมแต่อย่างใด

ส่วนผมผู้เคยเป็น undeveloped tenor ลองทำเสียงใหญ่ๆแบบนี้ พอลอง +2 นี่คือเหมือนchipmunk พยายามห่อเสียงอะครับ ไม่เป็นธรรมชาติเลย เหอะๆๆ แต่ปัจจุบันผมดีขึ้นมาหน่อยละ
ลองเทียบกันครับ ของผมเอง
https://youtu.be/bAzd_RqzHfE ต้นฉบับ
https://youtu.be/Jeb-w_pwucA pitch +2

ส่วนในเชิงป๊อปทั่วไป ใช้วิธีแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งจะไม่มีกฎเกณฑ์แบบคลาสสิก แบบว่า bass ต้องทุ้ม tenor ต้องแหลม อย่างโน้นอย่างนี้
ซึ่งตอนผมร้องปกติ เสียงผมก็จะแหลมกว่าที่ผมอัดเสียงเป็นคลิปด้านบน

นี่ก็เป็นเรื่อง type เสียง ที่เชื่อมโยงกับความเป็น bass หรือ treble ของตัวเสียง ซึ่งในเชิงคลาสสิก จะต้องเรียงจากทุ้มไปแหลมเลย
แต่กับป๊อป มันจะยังไงก็ได้ ขอแค่รู้ passaggio ก็พอ แต่ก็จะวัดยากกว่าคลาสสิกอะนะเพราะป๊อปมันใช้เทคนิคที่แพรวพราวกว่า มันมีโอกาสบิดเบือนได้

อ่อ แล้วคนที่ตัวใหญ่มากกับตัวเล็กมากต่างจากคนทั่วไป ก็มักจะเป็น basso profondo และก็ tenorino (ของผู้หญิงก็ contralto profondo กับ sopranino)
ซึ่งกรณีแบบนี้มันจะมีความเป็น bass หรือ treble สูงตามไปด้วย เพราะขนาดตัวมีผลกับขนาดของเส้นเสียง

แต่ถ้าเป็นคนทั่วไป ตัวปานกลาง ถ้าเป็น type ต่ำสุดหรือสูงสุด มันก็อาจจะมีผลต่อความเป็น bass หรือ treble แค่เล็กน้อยเท่านั้น หรืออาจจะไม่มีผลเลยก็ได้

หรือถ้าให้เทียบเป็นการปรับ pitch ก็คือ ปรับคีย์แต่ไม่ปรับความทุ้มหรือแหลมตามไป(ก็เหมือนกับที่เราร้องเสียงสูงขึ้นแต่ไม่แหลมขึ้นนั่นแหละ)

นี่คือตัวอย่างของนักร้อง baritone ที่ผ่านการปรับ pitch ขึ้น 1 octave แต่ไม่ได้ปรับความเป็น treble (ผมจำไม่ได้ละว่าฟังก์ชั่นเรียกว่าอะไร) https://youtu.be/b6yhymSdXOU ซึ่งเสียงก็ไม่ได้เป็น chipmunk แต่อย่างใด
นั่นแหละ ถ้าเป็น tenorino ที่ไม่ได้ตัวเล็กมาก ก็อาจจะมีเสียงแบบคลิปนี้แหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่